ฉลองเคาท์ดาวน์ 2568 มีผู้ใช้บริการระบบราง 1,515,396 คน-เที่ยว

กรุงเทพ 1 ม.ค.-กรมการขนส่งทางรางเผยวันสิ้นปี (31 ธันวาคม 2567) ฉลองเคาท์ดาวน์ปีใหม่ 2568 มีผู้ใช้บริการระบบราง รวม 1,515,396 คน-เที่ยว เพิ่มขึ้นจากเทศกาลปีใหม่ 2567 ถึงร้อยละ 11.95 โดยมีเหตุอันตรายต่อการเดินรถไฟรวม 3 ครั้ง


นายพิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง เปิดเผยว่า เมื่อวาน (วันที่ 31 ธ.ค. 67) ซึ่งเป็นวันที่ 5 ของวันหยุดต่อเนื่องของเทศกาลปีใหม่ พ.ศ. 2568 ระหว่างวันที่ 27 ธันวาคม 2567 – 2 มกราคม 2568 มีประชาชนใช้บริการระบบราง รวมทั้งสิ้นจำนวน 1,515,396 คน-เที่ยว มากกว่าเทศกาลปีใหม่ พ.ศ. 2567 ที่ผ่านมา จำนวน 161,813 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 11.95 แต่ต่ำกว่าที่ประมาณการ 100,165 คน-เที่ยว หรือต่ำกว่าที่ประมาณการร้อยละ 6.20 (ประมาณการไว้ 1,615,561 คน-เที่ยว) แบ่งเป็น รถไฟระหว่างเมืองของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) จำนวน 89,334 คน-เที่ยว และรถไฟฟ้าในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลและรถไฟชานเมือง จำนวน 1,426,062 คน-เที่ยว โดยมีรายละเอียด ดังนี้

  1. รถไฟระหว่างเมืองของ รฟท. ให้บริการรวม 204 ขบวน มีผู้ใช้บริการจำนวน 89,334 คน-เที่ยว มากกว่าวันเดียวกันของเทศกาลปีใหม่ พ.ศ. 2567 จำนวน 12,921 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 16.91 และสูงกว่าประมาณการ 11,075 คน-เที่ยว หรือสูงกว่าประมาณการร้อยละ 14.15 (ที่ประมาณการ 78,259 คน-เที่ยว) แบ่งเป็นผู้โดยสารเชิงพาณิชย์ 34,244 คน-เที่ยว (มากกว่าวันที่ 31 ธันวาคม 2567 จำนวน 4,618 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 15.59) และเชิงสังคม 55,090 คน-เที่ยว (มากกว่าวันที่ 31 ธันวาคม 2567 จำนวน 8,303 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 17.75) โดยมีผู้โดยสารขาออกจำนวน 44,405 คน-เที่ยว และผู้โดยสารขาเข้า 44,929 คน-เที่ยว โดยพบว่า สายใต้มีผู้ใช้บริการมากสุดถึง 29,797 คน-เที่ยว (ผู้โดยสารขาออก 14,496 คน-เที่ยว ผู้โดยสารขาเข้า 15,301 คน-เที่ยว) รองลงมาคือสายตะวันออกเฉียงเหนือมีผู้ใช้บริการ 21,472 คน-เที่ยว (ผู้โดยสารขาออก 10,844 คน-เที่ยว ผู้โดยสารขาเข้า 10,628 คน-เที่ยว) สายเหนือ 15,413 คน-เที่ยว (ผู้โดยสารขาออก 7,509 คน-เที่ยว ผู้โดยสารขาเข้า 7,904 คน-เที่ยว) สายตะวันออก 11,379 คน-เที่ยว (ผู้โดยสารขาออก 6,015 คน-เที่ยว ผู้โดยสารขาเข้า 5,364 คน-เที่ยว) และสายแม่กลองและมหาชัย 11,273 คน-เที่ยว (ผู้โดยสารขาออก 5,541 คน-เที่ยว ผู้โดยสารขาเข้า 5,732 คน-เที่ยว)
  2. ระบบรถไฟฟ้า ให้บริการเดินรถไฟฟ้ารวม 3,131 เที่ยว (รวมเสริม 90 เที่ยว) มีผู้ใช้บริการรวมจำนวน 1,426,062 คน-เที่ยว มากกว่าเทศกาลปีใหม่ พ.ศ. 2567 ที่ผ่านมา 148,892 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 11.66 ประกอบด้วย
  • 2.1 รถไฟฟ้า Airport Rail Link ให้บริการ 192 เที่ยว (รวมเสริม 4 เที่ยว) จำนวน 64,383 คน-เที่ยว (มากกว่าวันที่ 31 ธันวาคม 2567 จำนวน 5,865 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 10.02)
  • 2.2 รถไฟฟ้าชานเมือง (สายสีแดง) ให้บริการ 322 เที่ยว จำนวน 26,042 คน-เที่ยว (มากกว่าวันที่ 31 ธันวาคม 2567 จำนวน 6,339 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 32.17)
  • 2.3 รถไฟฟ้าสายฉลองรัชธรรม (สีม่วง) 252 เที่ยว (รวมเสริม 4 เที่ยว) จำนวน 44,268 คน-เที่ยว (มากกว่าวันที่ 31 ธันวาคม 2567 จำนวน 2,180 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.18)
  • 2.4 รถไฟฟ้าสายเฉลิมรัชมงคล (สีน้ำเงิน) 442 เที่ยว (รวมรถเสริม 82 เที่ยว) จำนวน 373,298 คน-เที่ยว (มากกว่าวันที่ 31 ธันวาคม 2567 จำนวน 50,898 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 15.79)
  • 2.5 รถไฟฟ้า BTS สายสีเขียว (สายสุขุมวิทและสายสีลม) ให้บริการ 1,085 เที่ยว มีผู้ใช้บริการจำนวน 789,430 คน-เที่ยว (มากกว่าวันที่ 31 ธันวาคม 2567 จำนวน 91,103 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 13.05)
  • 2.6 รถไฟฟ้า สายสีทอง ให้บริการ 217 เที่ยว มีผู้ใช้บริการจำนวน 46,691 คน-เที่ยว (ต่ำกว่าวันที่ 31 ธันวาคม 2567 จำนวน 1,416 คน-เที่ยว หรือลดลงร้อยละ 2.94)
  • 2.7 รถไฟฟ้าสายนัคราพิพัฒน์ (สีเหลือง) ให้บริการ 234 เที่ยว มีผู้ใช้บริการจำนวน 40,515 คน-เที่ยว (มากกว่าวันที่ 31 ธันวาคม 2567 จำนวน 1,672 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.30)
  • 2.8 รถไฟฟ้าสายสีชมพูให้บริการ 234 เที่ยว มีผู้ใช้บริการจำนวน 41,435 คน-เที่ยว (ต่ำกว่าวันที่ 31 ธันวาคม 2567 จำนวน 7,749 คน-เที่ยว หรือลดลงร้อยละ 15.76)

นายพิเชฐ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับด้านความปลอดภัย ในวันที่ 31 ธันวาคม 2567 มีเหตุอันตรายต่อการเดินรถไฟจำนวน 3 ครั้ง โดย (1) เมื่อเวลา 14.12 น. รถจักรดีเซลเปล่าที่ 4515 (อรัญประเทศ – ด่านพรมแดนบ้านคลองลึก) ได้เกิดเหตุเฉี่ยวชนรถยนต์ บริเวณทางลักผ่าน หลักกิโลเมตรที่ 255/2-3 ระหว่างสถานีอรัญประเทศ – สถานีด่านพรมแดนบ้านคลองลึก ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ (2) เมื่อเวลา 15.10 น. ขบวนรถท้องถิ่นที่ 418 (หนองคาย – นครราชสีมา) เกิดเหตุชนโคบริเวณหลักกิโลเมตรที่ 493/10-11 ระหว่างสถานีห้วยเสียว – สถานีเขาสวนกวาง รถจักรดีเซล 4137 ได้รับความเสียหาย ท่อลมด้านซ้ายหลุดเสียหาย นายสถานีได้นำเรื่องเข้าแจ้งความกับสถานีตำรวจเขาสวนกวาง ขบวนรถช้าเพิ่มจากเหตุการณ์นี้ 10 นาที และ (3) เมื่อเวลา 16.15 น. ขบวนรถเร็วที่ 102 (เชียงใหม่ – กรุงเทพอภิวัฒน์) เกิดเหตุชนโคบริเวณหลักกิโลเมตรที่ 236/8 ระหว่างสถานีนครสวรรค์ – สถานีเขาทอง ขบวนรถได้รับความเสียหาย บชท. 72 คันที่ 3 บันไดทางขึ้น – ลง คดงอ และขบวนรถช้าเพิ่มจากเหตุการณ์นี้ 46 นาที ส่วนการให้บริการระบบรถไฟฟ้าไม่มีเหตุขัดข้องแต่อย่างใด


นายพิเชฐ กล่าวปิดท้ายว่า สำหรับในวันนี้ รฟท. ได้พ่วงตู้โดยสารไปกับขบวนรถโดยสารที่มีผู้โดยสารหนาแน่น และจัดขบวนรถพิเศษช่วยการโดยสารเที่ยวกลับ 5 ขบวน คือ ขบวน 984 ชุมทางหาดใหญ่ – กรุงเทพอภิวัฒน์ ขบวน 934 อุบลราชธานี – กรุงเทพอภิวัฒน์ ขบวน 6 เชียงใหม่ – กรุงเทพอภิวัฒน์ ขบวน 962 ศิลาอาสน์ – กรุงเทพอภิวัฒน์ และขบวน 936 อุดรธานี – กรุงเทพอภิวัฒน์ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนผู้ใช้ระบบราง โดยคาดว่าไม่มีผู้โดยสารตกค้าง กรมการขนส่งทางรางห่วงใยผู้ใช้บริการระบบราง ปีใหม่เดินทางสะดวก ปลอดภัย แบบไร้รอยต่อ .513. -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เก๋งซิ่งแหกโค้งชนเสาเหล็ก ไฟลุกไหม้คลอกคนขับดับสลด

ลพบุรี 6 มิ.ย. – เก๋งหรูซิ่งเสียงดังลั่น หมุนโชว์กลางสี่แยก ก่อนแหกโค้งชนเสาเหล็กป้ายข้างทางไฟลุกไหม้เสียหายทั้งคัน คลอกคนขับดับสลด เมื่อเวลา 03.30 น.ที่ผ่านมา ร.ต.ท.ชาตรี ทรัพย์นิยมพงศ์ ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองลพบุรี รับแจ้งรถเก๋งชนเสาข้างถนน ไฟลุกไหม้ทั้งคัน บนถนนทางเข้าบ้านหนองน้ำทิพย์ หมู่ 7 ต.เขาพระงาม อ.เมืองลพบุรี พร้อมแจ้งรถน้ำดับเพลิงป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลตำบลเขาพระงาม รุดไปดับไฟ และเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบ จุดเกิดเหตุพบไฟกำลังลุกไหม้โหมทั่วไปทั้งคันรถ สังเกตดูเบื้องต้นคนขับติดอยู่ที่เบาะนั่งสภาพหมดสติ เจ้าหน้าที่เร่งระดมฉีดน้ำใช้เวลาประมาณ 15 นาที เพลิงสงบ จากการตรวจสอบด้านซ้ายรถชนอัดอยู่กับเสาเหล็กป้ายบอกทาง สภาพเหลือแต่ซาก เบื้องต้นพบเป็นรถเก๋งยี่ห้อยี่ห้อบีเอ็มดับเบิลยู ไม่ทราบสี-ทะเบียน ถูกไฟไหม้ เหลืออยู่ครึ่งป้าย ภายในรถพบร่างชายถูกไฟไหม้เกรียม ยังไม่ทราบชื่อว่าเป็นใครมาจากไหน สอบถามนางเล็ก ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองนั่งเฝ้าเครื่องสูบน้ำใกล้จุดเกิดเหตุ ได้ยินเสียงรถเก๋งคันดังกล่าวขับซิ่งมาจากแยกเขาพระงาม มุ่งหน้าไปทางโคกสำโรง เสียงท่ออย่างดังลั่น พอมาถึงสามแยกบ้านหนองน้ำทิพย์ ได้หมุนโชว์กลางแยก 1 รอบ จากนั้นขับไปยูเทิร์นกลับมาอีกรอบ เลี้ยวเข้าทางแยกหนองน้ำทิพย์ได้ประมาณ 300 เมตร […]

ตำรวจเร่งตามหาเจ้าของเงิน 12 ล้าน วางทิ้งข้างถังขยะ

นนทบุรี 6 มิ.ย. – ตำรวจเร่งตามหาเจ้าของเงินสด 12 ล้าน ในกล่องพลาสติก วางทิ้งข้างถังขยะคอนโดฯ ย่านเมืองทองธานี จากกรณีพลเมืองดีพบธนบัตรไทยจำนวนมาก ถูกซุกซ่อนอยู่ภายในกล่องพลาสติก บริเวณคอนโดฯ ย่านเมืองทองธานี จ.นนทบุรี เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบเอกสารเกี่ยวกับหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่ายและซองจดหมาย ปรากฏชื่อบุคคลและหน่วยงานรัฐในเอกสาร จึงได้ยึดธนบัตรดังกล่าวมาที่ สภ.ปากเกร็ด เพื่อพิสูจน์ว่าเป็นเงินอะไร ได้มาถูกต้องหรือไม่ และใครเป็นเจ้าของที่แท้จริง เบื้องต้นพบเป็นเงินสดจำนวน 12 ล้านบาท และเมื่อเจ้าหน้าที่นำสายรัดของธนบัตรดังกล่าวไปตรวจสอบ พบว่ามีการจ่ายเงินออกมาจำนวนดังกล่าวตั้งแต่ปี 2563    พลเมืองดีเล่าว่า เวลาประมาณ 20.00 น. ของเมื่อวานนี้ (5 มิ.ย.) ตนและเพื่อนเดินไปลิฟต์ที่ชั้น 4 ซึ่งข้างลิฟต์เป็นที่ทิ้งขยะ เห็นกล่องสภาพดีวางอยู่ ก็จะเก็บไปใช้ ซึ่งกล่องถูกเปิดแง้มเอาไว้และมีเสื้อผ้าวางทับด้านบน จึงเปิดดูพบเงินสดฉบับละ 1,000 บาท เป็นมัดๆ จำนวนมาก จึงโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจสอบ ความคืบหน้าในการติดตามหาตัวคนที่นำกล่องเงินมาทิ้ง ตำรวจสืบสวน สภ.ปากเกร็ด ได้ลงพื้นที่ไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณจุดที่พบเพื่อหาเบาะแสคนที่นำกล่องพลาสติกมาทิ้ง เบื้องต้นยังไม่พบผู้ต้องสงสัย นอกจากนี้ยังได้พยายามติดต่อกับ นายทวีวัฒน์ […]

น้ำมันรั่วลงทะเล

สั่งเจ้าท่าระงับเหตุน้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar

ชลบุรี 6 มิ.ย.- “มนพร” สั่งการกรมเจ้าท่าตั้งศูนย์ประสานงานแก้ไขปัญหาและควบคุมสถานการณ์น้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar บริเวณท่าเรือบริษัทไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ศรีราชา จังหวัดชลบุรี นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม สั่งการให้ นายกริชเพชร ชัยช่วย อธิบดีกรมเจ้าท่า ดำเนินการจัดตั้งศูนย์ประสานงานป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมัน เพื่อ ระงับเหตุน้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar ซึ่งเป็นเรือบรรทุกน้ำมันดิบสัญชาติสิงคโปร์ หมายเลข IMO 9828962 โดยเหตุเกิดบริเวณทุ่นรับน้ำมันกลางทะเล (SBM2) ของบริษัทไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ในเขตพื้นที่ศรีราชา จังหวัดชลบุรี เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเวลา 00.54 น. โดยมีสาเหตุมาจากท่อส่งน้ำมันที่ชำรุด ส่งผลให้น้ำมันดิบรั่วไหลลงสู่ทะเลในปริมาณประมาณ 20 คิว หรือราว 20 ตัน กรมเจ้าท่าได้ดำเนินการประเมินสถานการณ์โดยเร่งดำเนินการจัดตั้งศูนย์ประสานงานฯ ณ โรงกลั่นน้ำมันของบริษัทไทยออยล์ จังหวัดชลบุรี เพื่อเป็นศูนย์กลางในการควบคุมเหตุการณ์ ทั้งนี้กรมเจ้าท่าในฐานะเลขานุการศูนย์ประสานงาน ได้ประสานกองทัพเรือจัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ในการขจัดคราบน้ำมัน จากการสำรวจพื้นที่ พบว่าลักษณะของคราบน้ำมันเป็นคราบสีดำหรือน้ำตาลบาง ๆ […]

นักศึกษาเจอคอลเซ็นเตอร์ปั่นหัวถือมีดบุกโรงพัก

เชียงใหม่ 5 มิ.ย. – แก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกนักศึกษาเชียงใหม่ สูญกว่า 2 ล้านบาท พ่อแม่เครียดหมดเนื้อหมดตัว บางรายถูกปั่นหัวให้ถือมีดบุกโรงพักเย้ยตำรวจ พบเฉพาะ สภ.ภูพิงค์ฯ มีเหยื่อโดนหลอกลักษณะนี้แล้วกว่า 300 ราย กล้องวงจรปิดบันทึกภาพนักศึกษาสาว ชั้นปีที่ 4 ขี่รถจักรยานยนต์มาจอดภายใน สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ จากนั้นเดินไปเข็นวีลแชร์ที่อยู่ตรงหัวมุมอาคาร แล้วก็เข็นไปเข็นมาอยู่อย่างนั้น ก่อนจะถือมีดไปที่บริเวณห้องรับแจ้งความ และอ้างว่า จะมาขอพบตำรวจนายหนึ่ง แต่ไม่มีชื่อนี้อยู่ที่โรงพัก จึงขอพบ พันตำรวจเอก มนัสชัย อินทร์เถื่อน ผู้กำกับ สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ เพราะไปฆ่าคนตายมา ขณะนั้น ตำรวจสืบสวนสังเกตเห็นว่า นักศึกษาสาวมีท่าทางหวาดระแวงใส่หูฟังเหมือนกับทำตามคำสั่งใครสักคนที่สั่งการจากปลายสาย ด้านตำรวจจึงชวนพูดคุยสอบถามสักพัก จนยอมวางมีดลง จากนั้น ตำรวจจึงขอให้ดึงหูฟังออก ปรากฏว่า นักศึกษาสาวกลับได้สติขึ้นมาว่า ชายที่สั่งการทางโทรศัพท์ไม่ใช่ตำรวจจริง เป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ สั่งให้มาป่วนตำรวจ เนื่องจากไม่มีเงินโอนให้ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 3 มิ.ย. ที่ผ่านมา ตำรวจจึงตรวจสอบพบว่า ในวันเดียวกัน […]

ข่าวแนะนำ

ทบ. แจง 4 ขั้นตอนแนวทางปฏิบัติควบคุมจุดผ่านแดนไทย–กัมพูชา

กองทัพบก 7 มิ.ย.-ทบ. แจงแนวทางปฏิบัติตามคำสั่งควบคุมจุดผ่านแดนไทย–กัมพูชา ดำเนินการเป็นขั้นตอนตามสถานการณ์ในแต่ละพื้นที่ พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่าจาก กรณีที่กองทัพบกได้ออกคำสั่งให้มีการควบคุมจุดผ่านแดนทุกประเภทตลอดแนวชายแดนไทย–กัมพูชา เพื่อรักษาอธิปไตย บูรณภาพแห่งดินแดน และความมั่นคงของชาติ การดำเนินการตามคำสั่งดังกล่าวมิได้เป็นการใช้มาตรการสูงสุดในทันที แต่เป็นแนวทางปฏิบัติแบบขั้นตอน โดยพิจารณาจากระดับความรุนแรงของสถานการณ์ในแต่ละพื้นที่ โดยแบ่งออกเป็น 4 ขั้นตอนหลัก ดังนี้ ขั้นที่ 1 จำกัดการผ่านแดนเฉพาะบุคคลที่มีเหตุจำเป็น เช่น การค้าขาย การขนส่งสินค้า แรงงาน และงานจำเป็นอื่น ๆ โดยเพิ่มระดับความเข้มงวดในการตรวจสอบบุคคลที่มีพฤติกรรมเสี่ยง เช่น นักพนัน หรือกลุ่มที่อาจเกี่ยวข้องกับกิจกรรมผิดกฎหมาย ขั้นที่ 2 ปรับลดช่วงเวลาในการเปิด–ปิดจุดผ่านแดน พร้อมทั้งกำหนดวัน–เวลาการเข้า–ออกอย่างชัดเจน เพื่อควบคุมความเคลื่อนไหวของบุคคลและกิจกรรมในพื้นที่ชายแดน ขั้นที่ 3 ปิดจุดผ่านแดนบางจุด (Selective Closure) โดยพิจารณาจากจุดที่มีความเสี่ยงสูง หรือมีข้อมูลด้านความมั่นคงที่อาจนำไปสู่การรุกล้ำ หรือการก่อเหตุจากฝ่ายตรงข้าม ขั้นที่ 4 ปิดจุดผ่านแดนตลอดแนวชายแดนในกรณีที่เกิดสถานการณ์วิกฤต หรือมีการรุกรานอย่างชัดเจน เพื่อควบคุมสถานการณ์ในระดับสูงสุด โฆษกกองทัพบกย้ำว่า มาตรการดังกล่าวได้มอบอำนาจให้ กองกำลังบูรพา และ […]

กองทัพอิสราเอลพบร่างตัวประกันชาวไทยในฉนวนกาซา

เยรูซาเล็ม 7 มิ.ย. – นายอิสราเอล คัตซ์ รัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอล กล่าววันเสาร์ว่า กองทัพอิสราเอลได้พบร่างของตัวประกันชาวไทยชื่อ นายณัฐพงษ์ ปินตา ที่ถูกควบคุมตัวในฉนวนกาซาตั้งแต่การโจมตีอิสราเอลของกลุ่มฮามาสเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2023 นายคัตซ์กล่าวว่า ร่างของณัฐพงษ์ อยู่กับกลุ่มติดอาวุธปาเลสไตน์ที่ชื่อว่า กองพลน้อยมูจาฮีดีน และถูกนำกลับมาจากพื้นที่ราฟาห์ทางตอนใต้ของฉนวนกาซา ในขณะที่ครอบครัวของเขาในประเทศไทยได้รับแจ้งแล้ว นายณัฐพงษ์ ซึ่งเป็นคนงานภาคเกษตรกรรม ถูกลักพาตัวไปจาก คิบบุตซ์ นีร์ ออซ ซึ่งเป็นชุมชนเล็กๆ ใกล้ชายแดน ซึ่งเป็นจุดดที่หนึ่งในสี่ของประชากรถูกสังหารหรือถูกจับเป็นตัวประกันระหว่างการโจมตีที่นำโดยกลุ่มฮามาสในปี 2023 ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของสงครามในฉนวนกาซา กองทัพอิสราเอลกล่าวว่า นายณัฐพงษ์ ถูกลักพาตัวไปในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่ และถูกสังหารโดยผู้ที่จับตัวเขาไป ซึ่งได้ลงมือสังหารและนำร่างของตัวประกันชาวอิสราเอล-อเมริกันอีกสองคนกลับไปยังฉนวนกาซาด้วย โดยร่างของทั้งสองคนนั้นก็เพิ่งได้กลับคืนมาได้ในสัปดาห์นี้.-813.-สำนักข่าวไทย

ระงับเดินทางเข้า-ออก จุดผ่านแดนถาวรบ้านแหลม-บ้านผักกาด ชั่วคราว

จันทบุรี 7 มิ.ย. – หน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินจันทบุรี ออกหนังสือราชการ ระงับนักท่องเที่ยวไทย-กัมพูชา เดินทางผ่านเข้า-ออก จุดผ่านแดนถาวรบ้านแหลม – บ้านผักกาด ชั่วคราว ยกเว้นแรงงานกัมพูชาที่เข้ามาทำงานในไทย ผู้สื่อข่าว รายงานว่า นาวาเอกนพโรจน์ สิริปริยพงศ์ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินจันทบุรี ลงนามในหนังสือราชการด่วนที่สุด แจ้งไปยังผู้กำกับการตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดจันทบุรี เรื่อง ขอระงับนักท่องเที่ยวชาวไทย และชาวกัมพูชา เดินทางผ่านเข้า – ออก ณ จุดผ่านแดนถาวรฯ โดยอ้างอิงตามประกาศให้ใช้กฎอัยการศึก ในเขตพื้นที่จังหวัดจันทบุรี เฉพาะอำเภอขลุง อำเภอโป่งน้ำร้อน และอำเภอสอยดาว และตามมาตรา 5 แห่ง พระราชบัญญัติกฎอัยการศึก 2547 กำหนดให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายทหาร มีอำนาจ เหนือเจ้าหน้าที่ฝ่ายพลเรือน เกี่ยวกับการยุทธ์ การระงับปราบปราม หรือการรักษาความสงบเรียบร้อย และ เจ้าหน้าที่ฝ่ายพลเรือนต้องปฏิบัติตามความต้องการของเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหาร เนื่องจากปัจจุบันมีสถานการณ์อันเป็นภัยคุกคามจากประเทศกัมพูชา และอาจก่อให้เกิดความไม่ปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนชาวไทย และประชาชนชาวกัมพูชา อาศัยอำนาจตามมาตรา 5 แห่งพระราชบัญญัติกฎอัยการศึก 2547 ขอให้ข้าราชการทุกกระทรวง ทบวง […]

มอบอำนาจ ผบ.กองกำลังบูรพา – สุรนารี คุมจุดผ่านแดนไทย–กัมพูชา

กองทัพบก 7 มิ.ย. – ทบ.ออกคำสั่งมอบอำนาจ ผบ.กองกำลังบูรพา และ ผบ.กองกำลังสุรนารี ควบคุมจุดผ่านแดนแนวชายแดนไทย–กัมพูชา ตามมติ สมช. พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก ได้ลงนามในคำสั่งกำหนดอำนาจให้ผู้บัญชาการกองกำลังบูรพา และผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี มีอำนาจในการควบคุมการเปิด–ปิดจุดผ่านแดนทุกประเภทตลอดแนวชายแดนไทย–กัมพูชา โดยสามารถพิจารณากำหนดมาตรการ หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่จำเป็น ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ตามลำดับขั้นความเข้มงวดในแต่ละพื้นที่ การดำเนินการดังกล่าวเป็นผลสืบเนื่องจากมติที่ประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2568 ซึ่งมอบหมายให้กองทัพบกเป็นหน่วยหลักในการควบคุมการเปิด–ปิด จุดผ่านแดนทุกประเภท เพื่อรักษาความมั่นคงของชาติให้เหมาะสมกับสถานการณ์ และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องถือปฏิบัติตามข้อกำหนดของกองทัพบกอย่างเคร่งครัด การออกมาตรการดังกล่าวสอดคล้องกับสถานการณ์ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา ซึ่งฝ่ายกัมพูชารุกล้ำชายแดนไทยหลายครั้ง พร้อมแสดงท่าทียั่วยุอย่างเปิดเผย แม้ไทยจะใช้สันติวิธีและพยายามเจรจา แต่กัมพูชายังเสริมกำลังและจัดตั้งฐานทหารใกล้ชายแดน แสดงถึงความไม่ร่วมมือและเป็นภัยต่ออธิปไตยและความมั่นคงของไทย ทำให้ไทยจำเป็นต้องดำเนินมาตรการที่เหมาะสมเพื่อรักษาผลประโยชน์และความสงบเรียบร้อยของประชาชนตามแนวชายแดน สำหรับรายละเอียดทั้งหมดในคำสั่งดังกล่าวสามารถติดตามได้ผ่านช่องทางการสื่อสารทางการของกองทัพบกที่เว็บไซต์ www.rta.mi.th เพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลที่ถูกต้องจากทางราชการ -313-สำนักข่าวไทย