กรุงเทพฯ 5 เม.ย. – กรมการขนส่งทางราง ร่วมกับ สมอ. ลงพื้นที่เก็บตัวอย่างเหล็กโครงการรถไฟความเร็วสูง ไทย-จีน สัญญา 3-1 ส่งทดสอบที่สถาบันเหล็กฯ สร้างความมั่นใจ
ดร.ทยากร จันทรางศุ ผู้อำนวยการกองมาตรฐานความปลอดภัยและบำรุงทาง กรมการขนส่งทางราง (ขร.) ร่วมกับเจ้าหน้าที่สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) และเจ้าหน้าที่การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ลงพื้นที่โครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง กรุงเทพมหานคร-หนองคาย ระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพมหานคร-นครราชสีมา สัญญา 3-1 ช่วงแก่งคอย-กลางดง และช่วงปางอโศก-บันไดม้า โดยมีผู้แทนที่ปรึกษาควบคุมงานก่อสร้าง (CSC) และผู้แทนกิจการร่วมค้า ITD-CREC No.10 ประกอบด้วย ITALIAN-THAI DEVELOPMENT PCL และ CHINA RAILWAY NO. 10 ENGINEERING GROUP CO., LTD JOINT VENTURE ซึ่งเป็นผู้รับจ้างงานก่อสร้างสัญญาดังกล่าวร่วมลงพื้นที่โรงเก็บเหล็กทับกวาง เพื่อเก็บตัวอย่างเหล็กที่ใช้ในโครงการสัญญา 3-1 ได้แก่ เหล็กข้ออ้อยชั้นคุณภาพ SD 40 ทั้ง 5 ขนาด ได้แก่ DB 10 ใช้ heat 251371, DB12 ใช้ heat 251047, DB16 ใช้ heat 250976, DB20 ใช้ heat 251629 และ DB25 ใช้ heat 13253 จำนวนอย่างละ 3 ตัวอย่าง ไปทดสอบที่สถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทย สำหรับสัญญา 3-1 มีการใช้เหล็กของบริษัท ทาทา สตีล (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) และบริษัท ไทยสตีลโปรไฟล์ จำกัด (มหาชน)
การลงพื้นที่ครั้งนี้ สืบเนื่องจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา ส่งผลให้อาคารระหว่างการก่อสร้างของสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินแห่งใหม่พังถล่มลงมา และในคราวประชุมคณะกรรมการร่วมเพื่อความร่วมมือด้านรถไฟระหว่างไทย-จีน (JC) ครั้งที่ 32 ได้มอบหมายให้ รฟท. ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบคุณสมบัติเหล็กเส้นที่ใช้ในการก่อสร้างของสัญญา 3-1 ในการนี้ ขร. จึงประสานงาน รฟท. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่เก็บตัวอย่างเหล็กเส้นเพิ่มเติม หลังจากเมื่อวันที่ 3 เมษายน รฟท. ได้ร่วมกับท้องถิ่น รวมถึงวิศวกรที่มีความเชี่ยวชาญเก็บตัวอย่างที่โรงเก็บเหล็กมวกเหล็ก ไปตรวจสอบค่ามาตรฐาน โดยจากการสอบถามผลการทดสอบในเบื้องต้นพบว่า เหล็กตัวอย่างมีคุณสมบัติผ่านเกณฑ์ค่ามาตรฐานของงานก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง โดยมีค่าความต้านแรงดึงที่จุดคราก (yield strength) ไม่น้อยกว่า 400 MPa มีค่าความต้านแรงดึง (tensile strength) ไม่น้อยกว่า 540 MPa และมีค่าความยืด (elongation) ไม่น้อยกว่าร้อยละ 16 ด้านส่วนประกอบทางเคมียังต้องรอผล
โครงการรถไฟความเร็วสูง ช่วงกรุงเทพมหานคร-นครราชสีมา มีความคืบหน้าภาพรวมร้อยละ 42.914 ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2568 ที่ผ่านมา โดยในส่วนของสัญญา 3-1 ช่วงแก่งคอย-กลางดง และช่วงปางอโศก-บันไดม้า มีความคืบหน้าร้อยละ 8 ทั้งนี้ จากการตรวจสอบงานโครงสร้าง ไม่พบการแตกร้าวเสียหายจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่ผ่านมาแต่อย่างใด
กรมการขนส่งทางราง ในฐานะหน่วยงานที่กำกับดูแลด้านระบบราง ได้ให้ความสำคัญกับคุณภาพของวัสดุที่ใช้ในการก่อสร้าง รวมถึงวิธีและขั้นตอนในการก่อสร้างให้เป็นไปตามมาตรฐาน เพื่อให้เกิดความปลอดภัยในการปฏิบัติงานก่อสร้างและส่งผลให้โครงสร้างมีความมั่นคงแข็งแรง สร้างความมั่นใจให้กับประชาชนผู้ใช้บริการระบบราง.-517-สำนักข่าวไทย