กรุงเทพฯ 20 ธ.ค. – ประธาน สรท.เฝ้าติดตามสงครามอิสราเอลและฮามาสใกล้ชิด โดยมีประกาศจากกลุ่มขนส่งสินค้าทางเรือระหว่างประเทศหากสงครามรุนแรงอาจต้องปรับเปลี่ยนเส้นทางการเดินเรือใหม่และคิดค่าระวางเรือเพิ่มขึ้นเท่าตัว ชี้แค่ประกาศแต่ยังเดินเรือเป็นปกติ ยังไม่มีการเปลี่ยนเส้นทาง ด้านปลัดพาณิชย์นัดประชุมทางออนไลน์กลุ่มผู้ส่งออกพรุ่งนี้เพื่อประเมินสถานการณ์
นายชัยชาญ เจริญสุข ประธานสภาขนส่งทางเรือแห่งประเทศไทย หรือ สรท.กล่าวถึงมีคำประกาศจากกลุ่มขนส่งสินค้าทางเรือระหว่างประเทศว่า หากสถานการณ์สงครามอิสราเอลและกลุ่มฮามาสเกิดความรุนแรงและขยายออกไปในกลุ่มตะวันออกกลางจะมีการปรับเปลี่ยนเส้นทางขนส่งทางเรือโดยเฉพาะขณะนี้การส่งออกสินค้าทางเรือในกลุ่มสินค้าประเภทอาหารสดจะผ่านคลอง Suez โดยให้เปลี่ยนเส้นทางเดินเรือผ่านแอฟริกาใต้แทน ทำให้จะต้องเสียค่าใช้จ่ายค่าระวางเรือเพิ่มขึ้นจากปกติ 1,500 เหรียญต่อตู้คอนเทนเนอร์ เป็น 3,000 เหรียญต่อตู้คอนเทนเนอร์
อย่างไรก็ตาม แม้จะมีประกาศดังกล่าวออกมาแต่เท่าที่ได้ติดตามการเดินเรือส่งออกสินค้าผ่านคลอง Suez ตอนนี้ยังถือเป็นปกติมีการเดินเรือผ่านเส้นทางนี้ต่อวัน 100 ลำ แต่คงต้องติดตามหากสถานการณ์ความรุนแรงของสงครามขยายวงกว้าง ทางภาคผู้ส่งออกสินค้าทางเรือคงต้องปรับวิธีการส่งออกสินค้าบ้าง โดยตอนนี้ถือว่าภาพรวมไม่ส่งผลกระทบต่อภาคการส่งออกไทยมากนัก เนื่องจากเป็นช่วงปลายปีและเข้าสู่การท่องเที่ยวในช่วงปีใหม่ที่จะมาถึง ทำให้คำสั่งซื้อสินค้าจากประเทศคู่ค้าน้อยลง ดังนั้น หากสงครามไม่ขยายวงก็คิดว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อการส่งออกสินค้าไทยแต่อย่างใด
นายกีรติ รัชโน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงจากเหตุการณ์สงครามอิสราเอลกับกลุ่มฮามาสที่ผ่านมา แม้ขณะนี้จะยังไม่เกิดความรุ่นแรงขยายวงกว้างของสงครามดังกล่าว แต่กระทรวงพาณิชย์มีการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และได้รับรายงานจาก สรท.ว่ามีการประกาศของสมาคมการเดินเรือ หากสถานการณ์สงครามรุนแรงขึ้นคงต้องมีการปรับเปลี่ยนเส้นทางการเดินเรือบ้างเพื่อไม่ให้สินค้าไทยได้รับผลกระทบมาก แต่อาจทำให้มีต้นทุนค่าใช้จ่ายค่าระหว่างเรือสูงขึ้น โดยในช่วงบ่ายพรุ่งนี้ (21 ธ.ค.) จะมีการประชุมออนไลน์กับทาง สรท.และที่เกี่ยวข้องเพื่อร่วมกันประเมินสถานการณ์สงครามอิสราเอลและกลุ่มฮามาสเพื่อเตรียมแผนรองรับ หากสถานการณ์เกิดความรุนแรงเกิดขึ้นตามมา แต่โดยภาพรวมมั่นใจว่าการส่งออกของไทยในปี 66 ไม่น่าจะกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าวมากนัก แต่หากรุนแรงเกิดขึ้นคงต้องมีทบทวนกันอีกครั้ง.-514-สำนักข่าวไทย