ขนสินค้าและบริการร่วมงาน Thailand Mega Fair 2023

กรุงเทพฯ 28 พ.ย. – ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยเตรียมขนสินค้าและบริการชั้นนำจากประเทศไทยเข้าร่วมงาน Thailand Mega Fair 2023 กรุงริยาด ซาอุดีอาระเบีย ระหว่างวันที่ 13-16 ธันวาคม 2566 นี้ เชื่อจะส่งเสริมให้นักธุรกิจซาอุฯ รู้จักสินค้าและบริการไทยมากขึ้น


นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยกล่าวว่าราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย เตรียมร่วมเป็นสักขีพยานในงานแสดงสินค้าสุดยิ่งใหญ่จากประเทศไทย ภายใต้ชื่อ “Thailand Mega Fair” ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งแรก โดยบริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ จำกัด (มหาชน) ร่วมกับหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย งานแสดงสินค้าและบริการของไทยในครั้งนี้มีกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 13 – 16 ธันวาคม 2566 ณ ดิ อารีน่า ริยาด (The Arena Riyadh) กรุงริยาด ซาอุดีอาระเบีย โดยมีจุดมุ่งหมาย เพื่อสร้างนิยามบทใหม่ให้กับการแสดงศักยภาพของประเทศไทยในตลาดตะวันออกกลาง ผ่านการจัดแสดงสินค้าและบริการนวัตกรรมระดับพรีเมี่ยมที่ครอบคลุมธุรกิจหลากหลายภาคส่วน

งาน Thailand Mega Fair 2023 เป็นความร่วมมือครั้งประวัติศาสตร์ระหว่างไทยและซาอุดีอาระเบียเพื่อส่งเสริมการค้า การลงทุน และการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระหว่างกัน นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวถึงความสำเร็จครั้งสำคัญนี้ว่า “ในนามของหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะมีงานแสดงสินค้าจากประเทศไทยครั้งใหญ่ที่สุดเป็น ครั้งแรกในราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบียในงานมหกรรมชื่อว่า ‘Thailand Mega Fair’ ซึ่งเป็นความร่วมมือกับบริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ จำกัด (มหาชน) สถานเอกอัครราชทูตไทยประจำราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย และผู้ให้การสนับสนุน อาทิ สยามพิวรรธน์, เอสซีจี อินเตอร์เนชั่นแนล (SCG INTL), บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) (BDMS), การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.), สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (สสปน. หรือ TCEB) และ บริษัท ยักษ์เขียว จำกัด (YAK Green)


อย่างไรก็ตาม งาน Thailand Mega Fair 2023 จะจัดแสดงอย่างครอบคลุมให้เห็นถึงอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพของประเทศไทย โดยงานจะประกอบไปด้วย 9 ภาคส่วนหลัก ได้แก่ อาหารและเครื่องดื่ม, การท่องเที่ยวและการบริการ, อุตสาหกรรมไมซ์, การเกษตรอัจฉริยะและนวัตกรรม, อุตสาหกรรมเครื่องหอม, สุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี, ชิ้นส่วนยานยนต์, สิ่งปลูกสร้างและการตกแต่งระดับหรู, และสินค้าไลฟ์สไตล์เพื่อตอบโจทย์ในการใช้ชีวิต โดยภายในงานจะมีแบรนด์สินค้ากว่า 200 แบรนด์มานำเสนอสินค้ากว่า 1,000 รายการ จากทั้งบริษัทชั้นนำและบริษัท SMEs ของไทย ซึ่งผู้ประกอบการ SMEs กว่า 30 ราย ได้รับการสนับสนุนด้านส่งออกและการขยายตลาดจากสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เพื่อส่งเสริมการขับเคลื่อน SME ไทยให้เติบโตอย่างเข้มแข็งและยั่งยืน โดยงานครั้งนี้จะช่วยเน้นย้ำและเสริมสร้างการตระหนักรู้ถึงคุณภาพสินค้าไทยผ่านผลิตภัณฑ์และบริการที่มีความโดดเด่น

งาน Thailand Mega Fair 2023 ไม่เพียงแต่เป็นงานแสดงสินค้า แต่ยังเป็นงานมหกรรมทางวัฒนธรรมที่มีการแสดงอันสะท้อนถึงความเป็นไทยและมรดกทางวัฒนธรรมที่มีมาอย่างยาวนาน โดยจะมีการแสดงทุกวันตลอดงาน ผู้เข้าชมงานสามารถสัมผัสประสบการณ์แปลกใหม่กับกิจกรรมต่าง ๆ รวมถึงการเปิดตัวผลิตภัณฑ์สุดพิเศษ โอกาสในการสร้างเครือข่าย และการสาธิตผลิตภัณฑ์ในรูปแบบของการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้เข้าชม การจัดงานในครั้งนี้อยู่ในช่วงเวลาสำคัญของความสัมพันธ์ทางการฑูตระหว่างไทยและซาอุดิอาระเบีย ส่งเสริมให้มีความร่วมมือเพิ่มมากขึ้นในด้านการค้า การลงทุน การท่องเที่ยว และภาคส่วนอื่น ๆ โดยนายสนั่น อังอุบลกุล เน้นย้ำว่า “สำหรับปีนี้ เป็นสัญญาณที่ดีของความสัมพันธ์ทางการทูตและเป็นการเริ่มต้นใหม่ที่สำคัญที่จะยกระดับการค้า การลงทุน การท่องเที่ยว และความสัมพันธ์ด้านอื่น ๆ ระหว่างไทยและซาอุดีอาระเบีย

นางชฎาทิพ จูตระกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท สยามพิวรรธน์ กล่าว สยามพิวรรธน์เป็นหนึ่งในภาคเอกชนที่ได้มีโอกาสเข้าร่วมงาน Thailand Mega Fair 2023 – The Kingdom of Saudi Arabia เพื่อนำเสนอภาพลักษณ์ที่ดีงามของประเทศไทยและจุดหมายปลายทางระดับโลก (Global Destinations) อาทิ สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ ไอคอนสยาม และสยาม พรีเมี่ยม เอาท์เล็ต กรุงเทพ ที่เป็นแม่เหล็กดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก เราเห็นถึงความสำคัญของนักท่องเที่ยวกลุ่มตะวันออกกลาง โดยเฉพาะจากประเทศซาอุดีอาระเบียซึ่งถือเป็นตลาดที่มีศักยภาพและเป็นนักท่องเที่ยวที่มีคุณภาพสูง มีจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นจาก 96,000 คน ในปี 2565 มาอยู่ที่ 131,336 คน ในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ มากสุดเป็นอันดับ 1 ของภูมิภาคตะวันออกกลาง และมีคาดการณ์ว่าจำนวนนักท่องเที่ยวซาอุจะเพิ่มถึง 149,000 คน ในปี 2566 และ 156,000 คนในปี 2567 โดยสยามพิวรรธน์พร้อมที่จะผสานพลังทุกภาคส่วนร่วมผลักดันอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและบริการ ยกระดับการสร้างประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมให้กับนักท่องเที่ยวที่มาเยือน


นายภูริพันธ์ บุนนาค รองผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ กล่าวว่า “TCEB มีความยินดีที่ได้เป็นหนึ่งในตัวแทนของประเทศไทยในงาน Thailand Mega Fair 2023 ที่ซาอุดีอาระเบีย นี่เป็นโอกาสครั้งสำคัญครั้งแรกในรอบสามทศวรรษสำหรับประเทศไทยและซาอุดีอาระเบียในการสานความสัมพันธ์ด้านธุรกิจที่ก่อให้เกิดประโยชน์กับทั้งสองฝ่าย TCEB จะแสดงให้เห็นว่าประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายชั้นนำสำหรับอุตสาหกรรมไมซ์ (การจัดประชุม การจัดการท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัลแก่พนักงาน การจัดงานแสดงสินค้าและนิทรรศการ) ที่สามารถให้การสนับสนุนและนำเสนอโซลูชั่นที่สร้างสรรค์เพื่อความสำเร็จทางธุรกิจของผู้ประกอบการชาวซาอุดีอาระเบียที่ต้องการจัดงานหรือเข้าร่วมกิจกรรมทางธุรกิจในประเทศไทย ด้วยความเชี่ยวชาญและเครือข่ายที่กว้างขวาง TCEB จึงมีความพร้อมเป็นอย่างยิ่งที่จะทำให้ไมซ์เป็นแพลตฟอร์มสำหรับการเติบโตและการพัฒนาธุรกิจระหว่างทั้งสองประเทศ

นายเกรียงไกร กาญจนโภคิน ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “สำหรับผู้ที่ต้องการเจาะตลาดที่เปี่ยมไปด้วยพลังของซาอุดีอาระเบียและตะวันออกกลาง ต้องห้ามพลาดงาน Thailand Mega Fair 2023 ครั้งนี้ คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมงานถึง 8,000 คน งานนี้จึงเป็นโอกาสสำคัญสำหรับผู้นำเข้า ผู้จัดจำหน่าย ผู้ค้าส่ง นักพัฒนา และหน่วยงานของรัฐ ในการเชื่อมโยงตลาดตะวันออกกลางเข้ากับระบบนิเวศทางธุรกิจของไทยที่กำลังก้าวหน้า งานครั้งนี้เป็นแพลตฟอร์มรวบรวมสินค้าและบริการที่หลากหลายกว่า 1,000 รายการ โดยผู้แสดงสินค้ากว่า 200 รายจากประเทศไทยใน 9 อุตสาหกรรมเด่น ทั้งหมดนี้ถูกจัดแสดงภายในพื้นที่กว้างขวางขนาด 6,000 ตารางเมตร”

งาน Thailand Mega Fair 2023 เป็นมากยิ่งกว่าช่องทางในการซื้อขายสินค้า นี่คือศูนย์กลางที่เต็มไปด้วยพลังและความคิดสร้างสรรค์สำหรับการมีส่วนร่วมทางธุรกิจและการแบ่งปันความรู้ ผู้เข้าร่วมงานสามารถเข้าร่วมกิจกรรมที่น่าสนใจต่าง ๆ มากมาย รวมถึงการสัมมนาจากผู้นำในอุตสาหกรรม เช่น BDMS เผยความก้าวหน้าล่าสุดด้านการดูแลสุขภาพ, SCG จะเป็นเจ้าภาพการเสวนาหัวข้อ ‘Unleashing KSA’s Growth Potential: The Resilience of Supply Chains in Action’ (ปลดปล่อยศักยภาพการเติบโตของ KSA: ความสามารถในการปรับตัวและฟื้นตัวกลับสู่ภาวะปกติของห่วงโซ่อุปทาน) โดยให้ข้อมูลเชิงลึกที่มีประโยชน์เกี่ยวกับภูมิทัศน์ทางเศรษฐกิจของภูมิภาค.-514-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชูความสำเร็จทีมไทยแลนด์ ปิดดีลภาษีสหรัฐที่ 19%

ทำเนียบ 1 ส.ค.-โฆษกรัฐบาล เผย ปิดดีลภาษีนำเข้าสหรัฐสำเร็จที่ 19% เกาะกลุ่มระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค ชู เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยสามารถเจรจาและบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับอัตราภาษีนำเข้าต่างตอบแทน (Reciprocal Tariffs) กับสหรัฐอเมริกาได้สำเร็จ โดยขณะนี้ รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศแล้วว่าจะเรียกเก็บอัตราภาษีนำเข้าฯ จากสินค้าของไทยในอัตรา 19 % ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้วันที่ 1 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป นายจิรายุ กล่าวว่า อัตราภาษีดังกล่าวที่ ต่ำกว่า อัตราเดิม 36 % และเกาะอยู่อยู่ในระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค อาทิ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น สามารถรักษาการแข่งขันได้ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งได้เจรจากับสหรัฐสำเร็จแล้วก่อนหน้านี้ “การปิดดีลครั้งนี้ของรัฐบาลไทย ในระดับภาษีนำเข้าฯ ไว้ที่ 19% ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win เพื่อรักษาฐานการส่งออกและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว ย้ำถึงศักยภาพของประเทศไทยในเวทีการค้าโลก ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าระหว่างประเทศ” นายจิรายุกล่าว […]

รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราว

อุบลราชธานี 31 ก.ค. – โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี ออกหนังสือขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ เมื่อวานนี้ (30 ก.ค.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมทั้งให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ งานด้านการแพทย์และพยาบาล ณ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี นายแพทย์ มนต์ชัย วิวัฒนาสิทธิพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับและรายงานความคืบหน้าการดูแลรักษาผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงการเตรียมความพร้อมด้านการรักษาพยาบาลรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ชายแดน รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราวขณะที่ในวันเดียวกัน โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ได้ออกเอกสารขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา ใจความในหนังสือว่า “โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ได้ให้การตรวจรักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่เดินทางเข้ามารักษาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ และจากมติที่ประชุมคณะกรรมการคลินิกพิเศษนอกเวลาราชการ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ มีมติดังนี้ 1.ยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา และจิตอาสาภาษาต่างประเทศ2.ปิดการให้บริการ SMC Premium ชั่วคราว3.ยกเลิกการรับยาแทน และงดรับเคสใหม่ผู้ป่วยชาวกัมพูชา4.ผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่ยังนอนอยู่ในโรงพยาบาลให้จำกัดพื้นที่ชัดเจน ในการนี้ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 ถึงวันที่ 10 […]

รมช.มท. โฟนอินผู้ว่าฯ อุบลฯ ตอบกลางสภา ยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ

รัฐสภา 31 ก.ค.-สส.ศรีสะเกษ ภูมิใจไทย ทวงถามเงินช่วยเหลือเยียวยาจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ชี้ตั้งแต่วันแรกยังไม่ได้เงินรัฐบาลสักบาท ซัด “ผู้ว่าฯ อุบล” อ้างกลัวติดคุกไม่กล้าเบิกงบ ด้าน รมช.มหาดไทย ต่อสายโฟนอิน ผู้ว่าฯ ตอบกลางสภา ยืนยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา โดยนายธนา กิจไพบูลย์ชัย สส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย สอบถามกรณีเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งนายกรัฐมนตรี มอบหมาย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นผู้ตอบกระทู้ แต่เนื่องจากนายภูมิธรรม ติดภารกิจจึงมอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ชี้แจงแทน นายธนา กล่าวว่า จากเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดน ทั้งศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี ตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีงบประมาณจากส่วนกลางลงพื้นที่แม้แต่บาทเดียว ทุกวันนี้เราอาศัยเงินบริจาคเป็นหลัก และนำงบขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) […]

ทูตไทยตอบโต้กัมพูชา หลังยกกรณีปัญหาชายแดนที่ยูเอ็น

นิวยอร์ก 31 ก.ค. – เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การสหประชาชาติ โต้ผู้แทนกัมพูชา ซึ่งหยิบประเด็นชายแดนไทย-กัมพูชา ขึ้นพูดผิดกาลเทศะ ผิดวาระ ในที่ประชุมสหประชาชาติ วาระสำคัญของการประชุมระดับสูงระหว่างประเทศในเวทีสหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐ เมื่อวานนี้ คือการผลักดันเพื่อระงับข้อพิพาทปัญหาปาเลสไตน์โดยสันติวิธี แต่ปรากฏว่านาย เจีย แก้ว เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำสหประชาชาติ กลับพูดในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับวาระการประชุม โดยพาดพิงถึงไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ จึงกล่าวตอบโต้โดยชี้แจงข้อมูลความจริงในประเด็นที่กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง โดยระบุว่า เป็นที่น่าเสียดายที่มีคณะผู้แทนหยิบยกประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องขึ้นมาในที่ประชุม ซึ่งเป็นเวทีที่หลายฝ่ายรอคอย และมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการสนับสนุนจากประชาคมระหว่างประเทศต่อการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์อย่างเป็นธรรม ถาวร และครอบคลุม ผ่านแนวทางสันติวิธีโดยการดำเนินการตามแนวทางสองรัฐ นายเชิดชาย กล่าวในที่ประชุมว่า ประเทศไทยไม่ได้มีเจตนาจะนำเรื่องทวิภาคีเข้าสู่เวทีสำคัญดังกล่าว แต่ต้องขอชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อป้องกันความเข้าใจผิด โดยย้ำว่าเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ไทยและกัมพูชา ได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน แต่หลังจากที่ข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้ในวันที่ 29 กรกฎาคม อีกฝ่ายกลับใช้อาวุธข้ามพรมแดน และบุกรุกเข้ามาในดินแดนของไทยอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงอย่างร้ายแรง ประเทศไทยจึงขอเรียกร้องให้ประเทศเพื่อนบ้านปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด และยืนยันความมุ่งมั่นของไทยที่จะใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหา หลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จหรือทำให้เข้าใจผิด และให้มีส่วนร่วมด้วยเจตนาดี.-810.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ทบ.แจงไม่มีคำสั่งอพยพชาวสุรินทร์ ปัดข่าวลือเตรียมโจมตีกัมพูชา

กองทัพบก 3 ส.ค. – โฆษกกองทัพบก แจงไม่มีคำสั่งอพยพชาวสุรินทร์ ปัดข่าวลือเตรียมโจมตีกัมพูชา กองทัพบก ออกมาปฏิเสธข่าวลือที่แพร่สะพัดบนโซเชียลมีเดีย หลังมีการอ้างว่า “สมเด็จฮุนเซน” อดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา แชร์โพสต์ของโฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชา ระบุว่า กองทัพบกไทยสั่งอพยพชาวจังหวัดสุรินทร์ภายในคืนนี้ เพื่อเตรียมเปิดฉากโจมตีกัมพูชา ก่อนการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ยืนยันว่า ข่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริง ปัจจุบันในพื้นที่ไม่ได้มีการสั่งอพยพด่วนชาวสุรินทร์อย่างที่ระบุไว้ตามที่เป็นข่าวแต่อย่างใด ที่ผ่านมา การนำเสนอข้อมูลของโฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชา ไม่มีความน่าเชื่อถือเพียงพอ ขอให้ประชาชนติดตามข้อมูลข่าวสารจากแหล่งข่าวทางการ และไม่หลงเชื่อหรือแชร์ข้อมูลเท็จที่อาจสร้างความตื่นตระหนกในสังคม ทั้งนี้ กองทัพบกยังคงเคารพข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด แต่ก็ได้เตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ไม่คาดคิดจากการกระทำของฝ่ายกัมพูชาที่มีแนวโน้มละเมิดข้อตกลงหยุดยิงบ่อยครั้ง รวมถึงพบว่ามีการเพิ่มเติมกำลังพลและยุทโธปกรณ์เข้ามาในพื้นที่. – สำนักข่าวไทย

พระราชทานเพลิงศพ 7 ผู้วายชนม์ เหตุปะทะไทย-กัมพูชา

3 ส.ค. – พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุเคราะห์ ในการพระราชทานเพลิงศพผู้วายชนม์ 7 ราย จากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา วันนี้ ครอบครัวและญาติทำพิธีฌาปนกิจผู้เสียชีวิต 7 ราย จากเหตุกัมพูชายิงใส่พื้นที่พลเรือนของไทยใน อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ท่ามกลางบรรยากาศโศกเศร้า เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานพิธี เชิญกล่องเพลิงพระราชทาน ผ้าไตรพระราชทาน และช่อดอกไม้จันทน์พระราชทาน มายังศาลาพุทธคุณ วัดมหาพุทธาราม พระอารามหลวง ต.เมืองเหนือ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ เพื่อประกอบพิธีพระราชทานเพลิงศพผู้เสียชีวิตจากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา จากนั้นมีการอ่านหมายรับสั่ง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานพระบรมราชานุเคราะห์ ในการพระราชทานเพลิงศพผู้วายชนม์ 7 ราย ได้แก่ นางสาวรุ่งรัศ, เด็กหญิงทักษพร, เด็กชายพงศภัค, เด็กชายกิตติศักดิ์, นางสาวสาวิตรี, นางอรุณรัตน์ และนายสมศรี โดยมี 5 ราย เสียชีวิตจากเหตุกัมพูชายิงจรวด BM-21 ใส่ร้านสะดวกซื้อ ภายในปั๊มน้ำมัน อ.กันทรลักษ์ เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคมที่ผ่านมา ส่วนอีก […]

ตร.แจ้ง 2 ข้อหามือมีดทำร้าย “เป๊ก” คาดปมเข้าใจผิด

3 ส.ค.- ตำรวจ สน.หัวหมาก แจ้ง 2 ข้อหา หนุ่มวัย 21 ใช้มีดทำร้าย “เป๊ก ผลิตโชค” นักร้องชื่อดัง บาดเจ็บที่คางเป็นแผลฉกรรจ์ อ้างถูกหาเรื่องก่อน เบื้องต้นคาดปมเข้าใจผิด จ่อสอบปากคำเพิ่มเติม เมื่อเวลา 01.30 น. วันที่ 3 ส.ค.68 ร.ต.อ.ชัยนรินทร์ กวีพราหมณ์ รอง.สว.(สอบสวน) สน.หัวหมาก รับแจ้งเหตุทำร้ายร่างกายโดยใช้อาวุธมีด มีผู้บาดเจ็บ ภายในปั๊มน้ำมัน ซอยรามคำแหง 76 ถนนรามคำแหง แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กทม. จึงไปตรวจสอบพร้อมกำลังสายตรวจฝ่ายป้องกันและปราบปราม สน.หัวหมาก และอาสามูลนิธิสยามร่วมใจปู่อินทร์ ที่เกิดเหตุอยู่ภายในปั๊มน้ำมัน พบร่างนายผลิตโชค หรือ เป๊ก อายุ 40 ปี ดารานักร้องชื่อดัง มีบาดแผลฉกรรจ์ถูกอาวุธมีดฟันเข้าที่บริเวณใต้คาง 1 แผล ได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่จึงเร่งทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนเร่งนำตัวส่งรักษาต่อที่โรงพยาบาลสมิติเวช ส่วนผู้ก่อเหตุไม่หนีไปไหน ยืนรอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ […]

เฝ้าระวังตลอดคืน พบโดรนปริศนาบินล้ำเขตแดนอรัญฯ

สระแก้ว 3 ส.ค.- พบโดรนปริศนาไม่ทราบฝ่ายบินล้ำแดนจากกัมพูชาเข้ามาในไทย ชาวบ้าน-ชรบ.ในพื้นที่อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เฝ้าระวังตลอดทั้งคืน คืนที่ผ่านมา เวลา 21.00 น. ทีมข่าวลงพื้นที่สำรวจบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านอำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว โดยจุดที่ทีมข่าวเฝ้าสังเกตการณ์อยู่ห่างจากแนวชายแดนเพียง 2 กิโลเมตร บรรยากาศในพื้นที่ขณะนั้นมีชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ออกมาคอยเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง หลังได้รับแจ้งว่าอาจมีโดรนปริศนาเข้ามาในพื้นที่ ระหว่างที่ทีมข่าวกำลังสัมภาษณ์พูดคุยกับชาวบ้านในพื้นที่ พบโดรนลำหนึ่งบินเข้ามาจากเขตชายแดนฝั่งกัมพูชา ล้ำเข้ามาในอาณาเขตประเทศไทยลึกประมาณ 2 กิโลเมตร ขณะที่โดรนลำนั้นลอยอยู่เหนือพื้นที่ เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงได้ใช้ไฟสปอร์ตไลต์กำลังแรงสูงร่วมกับแสงเลเซอร์จากอุปกรณ์ของทหาร ส่องไปยังโดรนปริศนาอย่างชัดเจน ทำให้เห็นลำตัวของโดรนแม้อยู่ในความมืด สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าวยังไม่มีการเปิดเผยว่าโดรนลำนั้นมีเป้าหมายใดหรือเป็นของฝ่ายใด ขณะที่เจ้าหน้าที่หน่วยงานความมั่นคงยังคงเพิ่มมาตรการตรวจตราและเฝ้าระวังตลอดแนวชายแดนอย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุไม่คาดคิดหรือภัยคุกคามความมั่นคงในพื้นที่ -สำนักข่าวไทย