กรุงเทพฯ 8 พ.ย. -สมาคมประกันวินาศภัยไทย ย้ำชัดธุรกิจประกันวินาศภัย คุมเข้มข้นป้องกันข้อมูลส่วนบุคคล ย้ำตัวแทนประกันภัย นำข้อมูลนับล้านราย ขายให้มิจฉาชีพ ทำได้ยาก
ดร.สมพร สืบถวิลกุล นายกสมาคมประกันวินาศภัยไทย เปิดเผยว่า ตามที่ปรากฏข่าวกรณี ตำรวจไซเบอร์ จับกุมโบรกเกอร์ของบริษัทประกันภัย หลังลักลอบนำข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าทำประกันภัย และข้อมูลส่วนบุคคลอื่น ๆนับล้านรายชื่อ ขายให้กับกลุ่มมิจฉาชีพนำไปใช้หลอกลวงนั้น
สมาคมประกันวินาศภัยไทย ขอชี้แจงว่า ภาคธุรกิจประกันวินาศภัย และบริษัทประกันวินาศภัยแต่ละแห่ง มีมาตรการเข้มข้น มีระบบในการป้องกันและรักษาข้อมูลส่วนบุคคลไม่ให้เกิดการรั่วไหล มีการประกาศนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท (Privacy Notice) ที่เป็นไปตามนโยบายการกำกับดูแลและบริหารจัดการการประมวลผลข้อมูลให้ถูกต้องตามมาตรฐานที่ระบุไว้โดยหน่วยงานกำกับดูแล เพื่อให้พนักงานและบุคคลที่เกี่ยวข้องของบริษัทยึดถือและปฏิบัติตามให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562
“กระทำของนายหน้าหรือโบรกเกอร์ตัวแทนประกัน เป็นไปไม่ได้ ในการนำเอาข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าที่ทำประกันภัยหลายล้านรายออกไปได้โดยง่าย เพราะบริษัทประกันภัยนั้นให้ความสำคัญอย่างสูงสุด ในเรื่องระบบความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูล และบริษัทประกันภัยยังมีหน้าที่ในการปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งมีความเข้มงวดและมีอัตราโทษที่รุนแรง และผู้กระทำความผิดรายนี้ เป็นเพียงนายหน้าประเภทบุคคลธรรมดา ทำหน้าที่ขายประกันให้กับลูกค้าไปเพียง 10 กว่ารายเท่านั้น สำนักงาน คปภ. จึงได้มีการเพิกถอนใบอนุญาตฯ” ดร.สมพร กล่าว
ทั้งนี้ สมาคมฯ ได้จัดทำแนวทางปฏิบัติของภาคธุรกิจประกันวินาศภัยให้ครอบคลุมทุกด้าน (PDPA Guideline for Non-life Insurance Industry) เพื่อสื่อสารสร้างความเข้าใจให้บริษัทสมาชิกทุกบริษัท แนวปฏิบัติฉบับนี้เป็นประโยชน์ต่อภาคธุรกิจประกันวินาศภัยไทยรวมถึงทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง และช่วยให้ธุรกิจประกันวินาศภัยสามารถปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลได้อย่างสมบูรณ์
สมาคมฯ ยังเตรียมความพร้อมให้กับบริษัทสมาชิก เพื่อให้ปฏิบัติตามกฎหมายดังกล่าว อย่างถูกต้องเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าและประชาชน เพราะธุรกิจประกันวินาศภัยถือเป็นธุรกิจที่ให้บริการทางการเงิน เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลตลอดห่วงโซ่อุปทาน ตั้งแต่การพิจารณารับประกันภัย การบริหารจัดการค่าสินไหมทดแทนไปจนถึงการประกันภัยต่อ การดำเนินการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล จึงต้องกระทำด้วยความระมัดระวังและรอบคอบ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการละเมิดสิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล .-สำนักข่าวไทย