กรุงเทพฯ 4 ก.ย. – “กรมทะเลชายฝั่ง” เร่งจัดการ “น้ำมันดิบรั่ว” บริเวณทุ่นผูกเรือกลางทะเล ของโรงกลั่นน้ำมันไทยออยล์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล่าสุดหน่วยงานต่างๆ ร่วมกันจัดเก็บคราบน้ำมันหมดแล้ว โดย ทช. จะสำรวจผลกระทบต่อทรัพยากรทางทะเล
นายอภิชัย เอกวนากุล รองอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง รักษาราชการแทนอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (รรท.อทช.) กล่าวว่า จากกรณีเกิดเหตุน้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือบรรทุกน้ำมัน ขณะขนถ่ายน้ำมันดิบบริเวณทุ่นผูกเรือกลางทะเล หมายเลข 2 (SBM-2) ของโรงกลั่นน้ำมันไทยออยล์ ซึ่งอยู่บริเวณทางตอนใต้ของเกาะสีชังจังหวัดชลบุรี เมื่อวันที่ 3 กันยายน 2566 โดยกรมฯได้เร่งดำเนินการประสานงานกับ ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล กรมเจ้าท่า กรมควบคุมมลพิษ และบริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) เพื่อรีบจัดการคราบน้ำมัน ก่อนที่จะแพร่กระจายไปยังบริเวณใกล้เคียง ซึ่งทางบริษัท ไทยออยล์ จำกัด แจ้งว่า ภายหลังเกิดเหตุได้เข้าควบคุมสถานการณ์บริเวณที่เกิดเหตุทันที โดยได้ปิดวาล์วท่อน้ำมันที่เกิดปัญหาและวางทุ่นล้อมคราบน้ำมันเพิ่มเติมเพื่อป้องกันและจำกัดการแพร่กระจายตามขั้นตอนที่เป็นมาตรฐานสากล ทำให้ขณะนี้ไม่มีน้ำมันรั่วไหลเพิ่มเติมแล้วและไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าว อีกทั้งบริษัทฯ ได้ร่วมกับกรมเจ้าท่าฉีดพ่นสารเคมีเพื่อขจัดคราบน้ำมันให้ย่อยสลายบริเวณจุดเกิดเหตุดังกล่าว
สถานการณ์ปัจจุบัน บริเวณจุดเกิดเหตุ ทางเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน ได้ร่วมกันดำเนินการจัดเก็บคราบน้ำมันได้ทั้งหมดแล้ว อีกทั้งได้มีการบินพารามอเตอร์ เพื่อสำรวจบริเวณใกล้เคียง โดยไม่พบคราบน้ำมันแต่อย่างใด ในการนี้ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่สำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 2 ลงพื้นเพื่อเก็บตัวอย่างน้ำบริเวณที่เกิดเหตุไปตรวจสอบคุณภาพน้ำ พร้อมทั้งให้เจ้าหน้าที่เฝ้าระวังอย่างต่อเนื่องป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายต่อทรัพยากรทางทะเล เนื่องจากหากมีคราบน้ำมันลอยอยู่บนผิวน้ำจะทำปฏิกิริยากับออกซิเจน ทำให้ออกซิเจนในน้ำลดลง และปิดกั้นการสังเคราะห์แสงของแพลงก์ตอนพืช สาหร่าย และพืชน้ำต่างๆ เปลี่ยนแปลงสภาวะการย่อยสลายของแบคทีเรียในน้ำ ซึ่งการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดล้วนส่งผลเสียต่อสิ่งมีชีวิตในน้ำทะเลที่อาศัยอยู่บริเวณนั้น ล่าสุดสั่งการให้เจ้าหน้าที่ สทช.2 เร่งตรวจสอบว่า มีผลกระทบต่อทรัพยากรทางทะเลหรือไม่
นอกจากนี้ขอความร่วมมือประชาชนและนักท่องเที่ยว หากพบน้ำมันรั่วไหลบริเวณทะเลและชายฝั่ง หรือพบการกระทำผิดกฎหมาย สามารถแจ้งมายังสายด่วนพิทักษ์ป่าและรักษาทะเล โทร.1362 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในแต่ละพื้นที่เร่งเข้าตรวจสอบ และช่วยเหลือได้ทันท่วงทีต่อไป.-สำนักข่าวไทย