ส่งออกไทยติดลบต่อเนื่อง 7 เดือนติดลบแล้ว 5.5%

นนทบุรี 25 ส.ค.-ปลัดพาณิชย์ เผยส่งออกของไทย เดือน ก.ค.66 ยังหดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 10 ติดลบที่ 6.2% ตามภาวะเศรษฐกิจโลกที่ยังซบเซา แต่ถือว่าดีกว่าหลายประเทศ รับเวลาที่เหลืออีก 5 เดือนถือว่าหนัก แต่จะพยายามทำให้เต็มที เพื่อเป้าหมายส่งออกโต 1-2%


นายกีรติ  รัชโน ปลัดกระทรวงพาณิชย์กล่าวถึงการค้าระหว่างประเทศของไทยในเดือนกรกฎาคม 2566 มีมูลค่าการส่งออกกว่า 22,143.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หดตัวที่ 6.2% ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 10  เป็นการหดตัวในทุกกลุ่มสินค้า ทั้งสินค้าเกษตร และอุตสาหกรรมเกษตร รวมถึงสินค้าอุตสาหกรรม เนื่องจากเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้ายังไม่ฟื้นตัวเพราะถูกแรงกดดันด้านอัตราเงินเฟ้อ และดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับสูง  ทำให้การผลิตและการบริโภคตึงตัว โดยเฉพาะเศรษฐกิจจีนฟื้นตัวช้ากว่าที่คาด ประกอบกับฐานการส่งออกในช่วงเดียวกันของปีที่แล้วอยู่ในระดับสูง 

ทั้งนี้ ขณะที่ การนำเข้าช่วงเดือนกรกฎาคม ติดลบร้อยละ 11.1 คิดเป็นมูลค่า 24,121 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และการนำเข้าในช่วง 7 เดือนแรกของปี ติดลบร้อยละ 4.7 คิดเป็นมูลค่า 171,598.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลทำให้ดุลการค้าในช่วงเดือนกรกฎาคมขาดดุล 1,977.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่ในช่วง 7 เดือนแรกของปีการค้ายังคงขาดดุลอยู่ที่ 8,28.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยมีปัจจัยบวกจากค่าเงินบาทอ่อนค่า ช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน และ ความต้องการอาหารทั่วโลก ส่งผลให้การส่งออกสินค้าเกษตรหลายรายการขยายตัวได้ดี เช่น ไก่สดแช่เย็นแช่แข็ง ผักแปรรูป ผลไม้สดแช่เย็น แช่แข็ง และแห้ง ไข่ไก่ และน้ำตาลทราย


อย่างไรก็ตาม ส่งผลให้ภาพรวมในช่วง 7 เดือนแรก 2566 ( ม.ค.-ก.ค.66 ) การส่งออกไทยมีมูลค่า 163,313.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ยังคงติดลบที่ 5.5%  แต่ยังถือว่าดีกว่าหลายประเทศ เช่น ไต้หวัน สิงคโปร์ อินเดีย และอินโดนีเซียยังคงติดลบมากกว่าไทยทั้งสิ้น

นอกจากนี้ แม้ว่าช่วงเวลาที่เหลือของปี 66 จะทำงานร่วมกันใกล้ชิดของภาครัฐและเอกชน ถือว่าเป็นที่น่าพอใจ และสถานการณ์ยังดีกว่าหลายประเทศ แต่ด้วยปัจจัยในด้านลบของตลาดโลกที่กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศและภาคเอกชนจะทำงานอย่างเต็มที แม้ว่าจะมีความลำบากอยู่พอสมควร โดยดาดว่าหากจะให้ตัวเลขส่งออกทั้งปีเป็นไปตามเป้าหมาย จะต้องส่งออกเฉลี่ยต่อเดือนจะอยู่ที่ 24,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทำให้อัตราการส่งออกขยายตัวได้ 0 % แต่หากจะให้ขายยตามได้ตามเป้าหมายที่คาดการณ์ไว้การส่งออกเฉลี่ยแต่ละเดือนจะอยู่ที่ 25,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐเป็นต้น

ทั้งนี้ โดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศและสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า(สนค.) ได้ประเมินภาพรวมการส่งออกไปยังตลาดสำคัญยังมีความไม่แน่นอน โดยยังคงได้รับแรงกดดันจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจและการค้าโลก อย่างไรก็ดี แม้ว่าการส่งออกไปตลาดหลัก อาทิ จีน ญี่ปุ่น อาเซียน และยุโรปจะหดตัว แต่การส่งออกไปตลาดรองส่วนใหญ่ขยายตัวได้ดี ทั้งนี้ ภาพรวมการส่งออกไปยังกลุ่มตลาดต่าง ๆ สรุปได้ดังนี้ (1) ตลาดหลัก หดตัว9.6 %โดยกลับมาหดตัวในตลาดจีนและญี่ปุ่น  3.2 %และ 1.7 %ตามลำดับ 


หดตัวต่อเนื่องในตลาดอาเซียน (5) CLMV 18.3 % และสหภาพยุโรป (27)  26.5 % ตามลำดับ ขณะที่ตลาด สหรัฐฯกลับมาขยายตัว 0.9 %(2) ตลาดรอง ขยายตัว 0.8 %โดยขยายตัวเกือบทุกตลาด ได้แก่ ทวีปออสเตรเลีย2.4% ตะวันออกกลาง  8.2 %แอฟริกา 3.1 %ลาตินอเมริกา 14.8 %รัสเซียและกลุ่ม CIS 39.2 %และสหราชอาณาจักร 5.8 %ขณะที่ตลาดเอเชียใต้ ยังคงหดตัวต่อเนื่อง 5.6 %(3) ตลาดอื่น ๆ ขยายตัว 66.8 %อาทิ สวิตเซอร์แลนด์ ขยายตัว64.9%

ตลาดสหรัฐฯ กลับมาขยายตัว 0.9 %สินค้าสำคัญที่ขยายตัว ได้แก่ อุปกรณ์กึ่งตัวนำ ทรานซิสเตอร์ และไดโอด เครื่องโทรสาร โทรศัพท์ และส่วนประกอบ และหม้อแปลงไฟฟ้าและส่วนประกอบ เป็นต้น สินค้าสำคัญที่หดตัว ได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ อัญมณีและเครื่องประดับ และเหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ เป็นต้น ทั้งนี้ 7 เดือนแรกของปี 2566 หดตัว 3.0 %

ตลาดจีน กลับมาหดตัว 3.2 %สินค้าสำคัญที่หดตัว ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ยาง เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบและเม็ดพลาสติก เป็นต้น สินค้าสำคัญที่ขยายตัว ได้แก่ ผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็งและแห้งไม้และผลิตภัณฑ์ไม้ และผลิตภัณฑ์อลูมิเนียม เป็นต้น ทั้งนี้ 7 เดือนแรกของปี 2566 หดตัว 3.7 %

ตลาดญี่ปุ่น กลับมาหดตัว 1.7 %สินค้าสำคัญที่หดตัว ได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เม็ดพลาสติก และรถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เป็นต้น สินค้าสำคัญที่ขยายตัว ได้แก่ น้ำมันสำเร็จรูป รถจักรยานยนต์และส่วนประกอบ และเครื่องใช้ไฟฟ้าและส่วนประกอบ เป็นต้น ทั้งนี้ 7 เดือนแรกของปี 2566 หดตัว 1.3%

ตลาดอาเซียน (5) หดตัว 18.3 %(หดตัวต่อเนื่อง 2 เดือน) สินค้าสำคัญที่หดตัว ได้แก่ น้ำมันสำเร็จรูป อากาศยานและส่วนประกอบ และเคมีภัณฑ์ เป็นต้น สินค้าสำคัญที่ขยายตัว ได้แก่ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ข้าว และเหล็กเหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ เป็นต้น ทั้งนี้ 7 เดือนแรกของปี 2566 หดตัว 9.1%

ตลาด CLMV หดตัว 26.5 %(หดตัวต่อเนื่อง 9 เดือน) สินค้าสำคัญที่หดตัว ได้แก่ น้ำมันสำเร็จรูป เคมีภัณฑ์ และรถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เป็นต้น สินค้าสำคัญที่ขยายตัว ได้แก่ ทองแดงและของทำด้วยทองแดง น้ำตาลทราย และอุปกรณ์กึ่งตัวนำ ทรานซิสเตอร์ และไดโอด เป็นต้น ทั้งนี้ 7 เดือนแรกของปี 2566 หดตัว 15.2 %

ตลาดสหภาพยุโรป (27) หดตัว 6.6 %(หดตัวต่อเนื่อง 2 เดือน) สินค้าสำคัญที่หดตัว ได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ และยางพารา เป็นต้น สินค้าสำคัญที่ขยายตัว ได้แก่หม้อแปลงไฟฟ้าและส่วนประกอบ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ และแผงวงจรไฟฟ้า เป็นต้น ทั้งนี้ 7 เดือนแรกของปี2566 หดตัว 3.0 %

ตลาดเอเชียใต้ หดตัว 5.6 %(หดตัวต่อเนื่อง 12 เดือน) สินค้าสำคัญที่หดตัว ได้แก่ เคมีภัณฑ์ ยางพารา และผลิตภัณฑ์อลูมิเนียม เป็นต้น สินค้าสำคัญที่ขยายตัว ได้แก่ อัญมณีและเครื่องประดับ ทองแดงและของทำด้วยทองแดง และเม็ดพลาสติก เป็นต้น ทั้งนี้ 7 เดือนแรกของปี 2566 หดตัว 14.1 %

ตลาดทวีปออสเตรเลีย ขยายตัว 2.4 %(ขยายตัวต่อเนื่อง 4 เดือน) สินค้าสำคัญที่ขยายตัว ได้แก่ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ และผลิตภัณฑ์ยาง เป็นต้น สินค้าสำคัญที่หดตัว ได้แก่อัญมณีและเครื่องประดับ อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป และผลิตภัณฑ์พลาสติก เป็นต้น ทั้งนี้ 7 เดือนแรกของปี2566 หดตัว 2.4 %

ตลาดตะวันออกกลาง กลับมาขยายตัว 8.2 %สินค้าสำคัญที่ขยายตัว ได้แก่ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบเครื่องจักรกลและส่วนประกอบ และไม้และผลิตภัณฑ์ไม้ เป็นต้น สินค้าสำคัญที่หดตัว ได้แก่ ข้าว เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ และอาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป เป็นต้น ทั้งนี้ 7 เดือนแรกของปี 2566 ขยายตัว 5.4 %

ตลาดแอฟริกา กลับมาขยายตัว 3.1 %สินค้าสำคัญที่ขยายตัว ได้แก่ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องยนต์สันดาปภายใน และข้าว เป็นต้น สินค้าสำคัญที่หดตัว ได้แก่ เคมีภัณฑ์ เม็ดพลาสติก และอาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป เป็นต้น ทั้งนี้ 7 เดือนแรกของปี 2566 หดตัว 0.1 %

ตลาดลาตินอเมริกา กลับมาขยายตัวในรอบ 4 เดือน  14.8 % สินค้าสำคัญที่ขยายตัว ได้แก่ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องโทรสาร โทรศัพท์ และส่วนประกอบ และผลิตภัณฑ์ยาง เป็นต้น สินค้าสำคัญที่หดตัว ได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องยนต์สันดาปภายใน และยางพารา เป็นต้น ทั้งนี้ 7 เดือนแรกของปี2566 หดตัว 1.5 %

ตลาดรัสเซียและกลุ่มประเทศ CIS ขยายตัว 39.2 %(ขยายตัวต่อเนื่อง 5 เดือน) สินค้าสำคัญที่ขยายตัว ได้แก่ผลิตภัณฑ์ยาง อัญมณีและเครื่องประดับ และรองเท้าและชิ้นส่วน เป็นต้น สินค้าสำคัญที่หดตัว ได้แก่ เม็ดพลาสติก ผลไม้กระป๋องและแปรรูป และยางพารา เป็นต้น ทั้งนี้ 7 เดือนแรกของปี 2566 ขยายตัว41.3%

ตลาดสหราชอาณาจักร ขยายตัว 5.8 %(ขยายตัวต่อเนื่อง 5 เดือน) สินค้าสำคัญที่ขยายตัว ได้แก่ อากาศยานและส่วนประกอบ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ และอัญมณีและเครื่องประดับ เป็นต้น สินค้าสำคัญที่หดตัว ได้แก่ รถจักรยานยนต์และส่วนประกอบ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ และไก่แปรรูป เป็นต้น ทั้งนี้ 7 เดือนแรกของปี 2566 ขยายตัว 10.4 %

การส่งเสริมการส่งออกของกระทรวงพาณิชย์ และแนวโน้มการส่งออกระยะถัดไปการส่งเสริมการส่งออก กระทรวงพาณิชย์ดำเนินการเชิงรุกเพื่อผลักดันและอำนวยความสะดวกการส่งออก โดยการดำเนินงานที่สำคัญในรอบเดือนที่ผ่านมา อาทิ (1) กิจกรรมการนำคณะผู้แทนการค้าเยือนภูมิภาคลาตินอเมริกา โดยมีผู้แทนภาคเอกชนในอุตสาหกรรมกลุ่มสินค้าชิ้นส่วนยานยนต์ อุปกรณ์และวัสดุก่อสร้าง และอาหารแปรรูป เดินทางไปเยือนประเทศอาร์เจนตินา ชิลี และบราซิล เพื่อขยายตลาดส่งออกตามกลยุทธ์ในการบุกเจาะตลาดเป็นรายภูมิภาค และรายคลัสเตอร์ (2) การเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์ภัยแล้ง โดยมีการตั้งวอร์รูมติดตามสถานการณ์ของเอลนิโญ และประเมินผลกระทบทั่วโลกที่จะกระทบต่อผลผลิตทางการเกษตรของไทย โดยเฉพาะกรณีที่อินเดียประกาศมาตรการห้ามส่งออกข้าวขาว เพื่อประเมินสถานการณ์และสร้างความมั่นใจว่า อาหารไทยเพียงพอบริโภคในประเทศและเหลือเพียงพอสำหรับการส่งออก (3) คณะผู้แทนของกระทรวงพาณิชย์เดือนทางเยือนลาว โดยได้เข้าพบผู้บริหารโครงการท่าบก ท่านาแล้ง หารือการเชื่อมโยงใช้ประโยชน์เส้นทางรถไฟ พร้อมทั้งผลักดันการใช้สิทธิ FTA เพื่อการส่งออก รวมทั้งหารือกับภาคเอกชนไทยถึงโอกาสการขยายการค้า โดยเฉพาะผลไม้ไทยและธุรกิจกาแฟที่ลาว ซึ่งเป็นแหล่งเพาะปลูกใหญ่เป็นอันดับ 3 ในภูมิภาคอาเซียน 

แนวโน้มการส่งออกในระยะถัดไป กระทรวงพาณิชย์ ประเมินว่า การส่งออกในช่วงครึ่งปีหลังมีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป แม้ว่าการส่งออกจะได้รับผลกระทบจากอุปสงค์ของประเทศคู่ค้าที่ชะลอตัว การผลิตและการบริโภคชะลอลง ปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ที่ส่งผลกระทบต่อต้นทุนการผลิตสินค้า และความผันผวนของค่าเงิน แต่คาดว่าฐานที่ต่ำในช่วงปลายปี ภาคบริการของประเทศคู่ค้าที่ฟื้นตัว และอานิสงส์ความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ – จีน ทำให้คู่ค้าหันมานำเข้าสินค้าอิเล็กทรอนิกส์บางตัวจากไทยทดแทนตลาดจีนมากขึ้น ขณะเดียวกัน การส่งออกสินค้าในหมวดอาหารที่เป็นสินค้าจำเป็น มีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง โดยหลายประเทศเพิ่มการนำเข้าเพื่อรักษาความมั่นคงทางด้านอาหาร และการขนส่งที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นในเส้นทางใหม่ผ่าน รถไฟไทย-ลาว-จีน จะช่วยเพิ่มโอกาสการส่งออกในช่วงครึ่งหลังของปี 2566 ได้อีกทางหนึ่งด้วย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 4 แสน

18 ก.ค. – เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 400,000 บาท อ้างป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัด และแลกหลักฐานกรณีอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร มีความสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จ.พิจิตร หลงกลเล่ห์เหลี่ยมของสีกากอล์ฟ โดยเมื่อปี 2559 อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร ส่งข้อความไปหาสีกากอล์ฟ ว่ามีเรื่องสำคัญของบ้านเมืองจะปรึกษา และหว่านล้อมว่าสีกากอล์ฟเป็นบุคคลสำคัญยิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครองส่วนหนึ่งใน จ.พิจิตร ไปในทิศทางที่ดีขึ้น หากให้ความร่วมมือจะมีผู้ใหญ่ใจดีที่พร้อมจะดูแลสีกากอล์ฟและลูก แล้วทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้ติดต่อกลับ จากนั้นสีกากอล์ฟตอบกลับข้อความ ทำให้อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร เปิดเผยเป้าหมายทันทีว่าต้องการดำเนินการกับพระราชสิทธิเวที ในขณะนั้น (อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร และอดีตเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง จ.พิจิตร ที่เพิ่งสึกไป) ซึ่งมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริต เสพเมถุน และประพฤติตนไม่เหมาะสม อาจเชื่อมโยงมาถึงสีกากอล์ฟ พร้อมเสนอเงิน 1 ล้านบาท แต่สีกากอล์ฟชวนอดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร คุยเรื่องทั่วไป โดยเฉพาะอ้างว่ามีอาการป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัดประมาณ 400,000 บาท […]

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด

อุบลราชธานี 17 ก.ค.-แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารได้รับบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด ซึ่งอาการโดยรวมดีขึ้น ที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ มณฑลทหารบกที่ 22 อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เข้าเยี่ยมให้กำลังใจกับทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ที่ได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบกับระเบิดทั้ง 3 นาย ซึ่งมีอาการโดยรวมดีขึ้น สำหรับทหารที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 นายประกอบด้วย ส.อ.ปฏิพัทธ์ ศรีลาศักดิ์ มีบาดแผลฟกซ้ำบริเวณหน้าอกจากการถูกแรงอัดระเบิด ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้า แต่ปัจจุบันดีขึ้น พลทหารณัฐวุฒิ ศรีเข้ม มีบาดแผลฟกซ้ำที่หน้าอกจากการอัดของระเบิด แน่นหน้าอก แต่ช่วยเหลือตัวเองได้ พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน ต้องตัดขาซ้ายใต้เข่าจากแรงระเบิด มีอาการปวดแผล แต่กินอาหารได้ตามปกติ หลังเยี่ยมพูดคุยให้กำลังใจ แม่ทัพก็เดินทางกลับไป เพื่อไปติดตามสถานการณ์ชายแดนด้านจังหวัดสุรินทร์ต่อไป.-711.-สำนักข่าวไทย

จนท. เข้าพบพระพรหมบัณฑิต ขอตรวจสอบบัญชีเงินวัดประยูรฯ

กทม. 17 ก.ค. – ตำรวจ ปปป. ป.ป.ท. และเจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ บุกวัดประยุรวงศาวาส เข้าตรวจสอบบัญชีเงินวัด เบื้องต้น  ยืนยันไม่ใช่การบุกค้นกุฏิ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาส พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.), พ.ต.อ.สถาปนา จุณณวัตต์ ผู้กำกับการกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธแห่งชาติแห่งชาติ เดินทางเข้าพบพระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เพื่อพูดคุยและขอข้อมูลเกี่ยวกับเอกสารการเงินภายในวัด หลังอดีตเจ้าคุณประสิทธิ์ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาส เข้าไปพัวพันกับสีกากอล์ฟ และตรวจสอบข้อเท็จจริงจากคำให้การของพยาน ที่พบเงินถูกพับในลักษณะถูกนำออกมาจากตู้บริจาคในบ้านของสีกากอล์ฟ ซึ่งการตรวจสอบในวันนี้จะเน้นเรื่องเส้นทางการเงินของวัดทั้งหมด ที่ต้องสงสัยว่าอาจมีบางส่วนถูกยักยอก หลังการตรวจสอบ ผู้กำกับการ 6 บก.ปปป. กล่าวว่า ไม่สามารถที่จะเปิดเผยข้อมูลได้ ผู้บังคับบัญชาจะเป็นผู้ชี้แจง หลังจากนี้จะนำข้อมูลต่างๆ กลับไปเรียนให้ผู้บังคับบัญชาได้ทราบ แต่ยืนยันว่า วันนี้เป็นเพียงแค่การเข้ามาขอข้อมูลเท่านั้น ด้านเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติระบุว่า เป็นเพียงการบูรณาการของหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง และในการตรวจสอบเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหารแต่อย่างใด มีรายงานเพิ่มเติมว่าเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 หน่วยงาน ได้นำกำลังส่วนหนึ่งเข้าไปตรวจสอบที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย หรือ […]

ข่าวแนะนำ

เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 4 แสน

18 ก.ค. – เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 400,000 บาท อ้างป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัด และแลกหลักฐานกรณีอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร มีความสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จ.พิจิตร หลงกลเล่ห์เหลี่ยมของสีกากอล์ฟ โดยเมื่อปี 2559 อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร ส่งข้อความไปหาสีกากอล์ฟ ว่ามีเรื่องสำคัญของบ้านเมืองจะปรึกษา และหว่านล้อมว่าสีกากอล์ฟเป็นบุคคลสำคัญยิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครองส่วนหนึ่งใน จ.พิจิตร ไปในทิศทางที่ดีขึ้น หากให้ความร่วมมือจะมีผู้ใหญ่ใจดีที่พร้อมจะดูแลสีกากอล์ฟและลูก แล้วทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้ติดต่อกลับ จากนั้นสีกากอล์ฟตอบกลับข้อความ ทำให้อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร เปิดเผยเป้าหมายทันทีว่าต้องการดำเนินการกับพระราชสิทธิเวที ในขณะนั้น (อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร และอดีตเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง จ.พิจิตร ที่เพิ่งสึกไป) ซึ่งมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริต เสพเมถุน และประพฤติตนไม่เหมาะสม อาจเชื่อมโยงมาถึงสีกากอล์ฟ พร้อมเสนอเงิน 1 ล้านบาท แต่สีกากอล์ฟชวนอดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร คุยเรื่องทั่วไป โดยเฉพาะอ้างว่ามีอาการป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัดประมาณ 400,000 บาท […]

เปิดใจทหารกล้า ภูมิใจได้รับใช้ชาติ

18 ก.ค. – เปิดใจ 3 ทหารกล้าเหยียบระเบิดชายแดนช่องบก ด้าน “พลทหารธนพัฒน์” เล่านาทีเหยียบกับระเบิด ลั่นภูมิใจที่สมัครมารับใช้ชาติแม้ต้องตัดขา 1 ข้าง เผยพร้อมสละแล้วเพื่อแผ่นดิน ผู้สื่อข่าวมีโอกาสเข้าเยี่ยมและพุดคุยกับ พลทหาร ธนพัฒน์ หุยวัน ที่ได้รับบาดเจ็บบริเวณขาด้านซ้ายจนต้องตัดขา เพื่อรักษาเนื้อเยื่อส่วนที่ไม่ได้รับความเสียหายเอาไว้ พลทหาร ธนพัฒน์ เปิดเผยช่วงที่เกิดเหตุเป็นการลาดตระเวนกลับฐานใกล้กับต้นพญาสัตบรรณ ตนได้เหยียบกับระเบิด เนื่องจากชุดทหารช่างตรวจไม่เจอ เพราะน่าจะเป็นระเบิดพลาสติก ตอนที่เกิดเหตุตนเองมีสติครบ พอเหยียบระเบิดปุ๊บตนเองรู้สึกร้อนเป็นไฟอยู่ที่ขา จากนั้นดูตนเองพบว่าขาขาด เพื่อนทหารก็สลบจากแรงระเบิด ตนจึงเข้าไปปลุกเพื่อนให้ช่วยลากตนออกจากจุดเกิดเหตุ พลทหาร ธนพัฒน์ บอกอีกว่า หลังจากที่เหยียบระเบิดตนเองเห็นขาแล้ว บอกกับตัวเองว่าหมดแล้วอนาคต แต่ก็ไม่เป็นไร ในการมาเป็นทหารครั้งนี้ตนเองสมัครใจมา พร้อมสละแล้วเพื่อแผ่นดิน.-สำนักข่าวไทย

“เเพทองธาร-บิ๊กเล็ก” บินอุบลฯ เยี่ยมทหารเหยียบกับระเบิด

ขส.ทบ.ดอนเมือง 18 ก.ค.- “พล.อ.ณัฐพล” รมช.กลาโหม​ พร้อมด้วย “แพทองธาร”​ ลงพื้นที่ จ.อุบลราชธานี เยี่ยมให้กำลังใจทหารพราน​เหยียบกับระเบิด​ บาดเจ็บ​ 3 นาย ระบุขอรอผลสอบ 3 วัน​ ยัน​จะไม่หยุดนิ่ง ​หากพบผิดอนุสัญญาออตตาวา​ นางสาวแพทองธาร​ ชินวัตร​ นายกรัฐมนตรี ในฐานะ​รัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวง​วัฒนธรรม​ พร้อมด้วยพลเอกณัฐพล​ นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม เดินทางลงพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี เพื่อเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทหารพรานที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุเหยียบกับระเบิดในพื้นที่ช่องบกอำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ โดยก่อนเดินทางพลเอกณัฐพล​ กล่าวว่า​ วันนี้(18 ก.ค.) กองทัพบกจะมีการมอบเงินช่วยเหลือให้กับทหารพรานที่ได้รับบาดเจ็บ ทั้ง 3 นาย เมื่อนางสาวแพทองธาร ทราบเรื่อ จึงขอร่วมคณะไปด้วย และจะมีการมอบเงินช่วยเหลือในส่วนของนางสาวแพทองธาร​ พลเอกณัฐพล​ ยังกล่าวว่า สำหรับในส่วนของนายทหารที่ขาขาด​ จะได้รับ เงินบำรุงขวัญพระราชทาน​ประมาณ​ 50,000 บาท และเงินช่วยเหลือ​ประมาณ​ 900,000 บาท​ ต่อจากนี้ยังจะพิจารณาบรรจุญาติเข้ารับราชการทหารซึ่งในเบื้องต้นพี่สาวของนายทหารนายดังกล่าว แสดงความประสงค์จะเข้ารับราชการ ส่วนตัวของผู้ที่ได้รับบาดเจ็บขาขาดจะได้รับเงินดูแลประมาณเดือนละ 15,600 […]

อุตุฯ เตือนเหนือ-กลาง-ตะวันออก ฝนตกหนักบางแห่ง กทม.ฟ้าคะนอง 70%

กรุงเทพฯ 18 ก.ค. – กรมอุตุฯ เตือนภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก มีฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ และเชียงราย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 70% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก มีฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ และเชียงราย ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้ เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเมียนมาตอนบน และประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่าง มีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง คลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทย เดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง […]