สนค.เผยเงินเฟ้อเฉลี่ย 6 เดือนแรกปี66 ไทยอยู่ที่ร้อยละ 2.49

นนทบุรี 22 ส.ค.-สนค. เผยอัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยครึ่งปีแรกของปี 2566 อยู่ที่ร้อยละ 2.49 ต่ำเป็นอันดับ 9 ของโลกจาก130 เขตเศรษฐกิจ เหตุสำคัญมาจากฐานการคำนวณที่สูง ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่ปรับตัวลดลงเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาและมาตรการต่างๆของภาครัฐเข้ามาเสริม


นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า เปิดเผยถึงสถานการณ์เงินเฟ้อของโลกในปี 2566 ที่ปรับตัวดีขึ้น โดยอัตราเงินเฟ้อเฉลี่ย 6 เดือนแรก ปี 2566 ของไทยอยู่ที่ร้อยละ 2.49 ต่ำเป็นอันดับ9 ของโลกจาก 130 เขตเศรษฐกิจที่มีการประกาศตัวเลข ขณะที่ช่วงครึ่งปีหลังอัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มอยู่ในระดับต่ำสาเหตุสำคัญมาจากฐานการคำนวณที่สูง ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่ปรับตัวลดลงเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ผลจากการดำเนินมาตรการของภาครัฐทั้งมาตรการทางด้านการเงิน การคลัง และมาตรการลดค่าครองชีพอื่น ๆ รวมไปถึงการชะลอตัวทางเศรษฐกิจของหลายเขตเศรษฐกิจทั่วโลก

ทั้งนี้ ตลอดช่วง 5 ปีที่ผ่านมา (ปี 2562 – 2566) โลกเผชิญกับสถานการณ์ที่ส่งผลกระทบต่อราคาสินค้าและบริการในวงกว้างอยู่หลายครั้ง ไม่ว่าจะเป็นสงครามทางการค้า โรคอุบัติใหม่ โดยเฉพาะโควิด-19 ที่ส่งผลให้หลายเขตเศรษฐกิจประกาศใช้มาตรการล็อคดาวน์ประเทศเพื่อป้องกันการระบาดของโควิด – 19 การดำเนินธุรกิจต้องหยุดชะงัก อุปสงค์ลดลง ทำให้ราคาสินค้าและบริการลดลงอย่างมาก จนอัตราเงินเฟ้อของหลายเศรษฐกิจอยู่ในระดับต่ำอย่างไรก็ตาม เมื่อการแพร่ระบาดของโควิด – 19 คลี่คลาย เศรษฐกิจเริ่มกลับมาฟื้นตัว และมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐออกมาอย่างต่อเนื่อง 


ขณะที่ภาคการผลิตและภาคการขนส่งบางส่วนฟื้นตัวแบบค่อยเป็นค่อยไป ประกอบกับเกิดโรคระบาดในปศุสัตว์ และสภาพอากาศที่แปรปรวน ทำให้ราคาสินค้าและบริการบางประเภท อาทิ น้ำมัน ค่าบริการขนส่งทางเรือ เนื้อสุกร และผักสด ปรับตัวสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ประกอบกับต้นปี 2565 เกิดเหตุการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน ส่งผลให้ราคาก๊าซธรรมชาติ น้ำมันดิบ ธัญพืช และแร่ธาตุสำคัญ ที่รัสเซียและยูเครนเป็นผู้ผลิตและส่งออกหลัก ปรับตัวสูงขึ้นในอัตราเร่ง อัตราเงินเฟ้อทั่วโลกจึงพุ่งสูงขึ้นส่งผลกระทบไปยังต้นทุนของภาคธุรกิจและค่าครองชีพของประชาชน

อย่างไรก็ตาม จาก World Economic Outlook ประจำเดือนกรกฎาคม 2566 ของ International Monetary Fund (IMF) ระบุว่า อัตราเงินเฟ้อโลกเฉลี่ยปี 2564 และ 2565 อยู่ที่ร้อยละ 4.7 และ 8.7 ตามลำดับ ขณะที่ประเทศไทยอัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยปี 2564 และ 2565 อยู่ที่ร้อยละ 1.23 และ 6.08 ตามลำดับ ส่วนปี 2566 อัตราเงินเฟ้อในหลายเศรษฐกิจมีแนวโน้มชะลอตัวลง โดย IMF คาดการณ์ว่าปี 2566 อัตราเงินเฟ้อโลกเฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 6.8 ลดลงอย่างชัดเจนจากปี 2565 สาเหตุสำคัญมาจากราคาพลังงานที่ปรับตัวลดลงเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ฐานการคำนวณในปี 2565 ที่อยู่ในระดับสูงและการใช้มาตรการช่วยเหลือของภาครัฐ 

เมื่อพิจารณาเปรียบเทียบอัตราเงินเฟ้อระหว่างเขตเศรษฐกิจทั่วโลก อัตราเงินเฟ้อของไทยเฉลี่ย 6 เดือน (ม.ค. – มิ.ย.) ปี 2566 สูงขึ้นร้อยละ 2.49 อยู่ในระดับต่ำเป็นอันดับที่ 9 จาก 130 เขตเศรษฐกิจที่มีการประกาศตัวเลข และต่ำสุดในกลุ่มประเทศอาเซียนจาก 7 ประเทศที่มีการประกาศตัวเลข โดยเขตเศรษฐกิจที่มีอัตราเงินเฟ้อเฉลี่ย 6 เดือนแรกของปี2566 สูงกว่าไทย อาทิ สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส สเปน แคนาดา บราซิล เกาหลีใต้ อินเดีย และประเทศกลุ่มอาเซียน (เวียดนาม มาเลเซีย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ ลาว) 


ขณะที่เขตเศรษฐกิจที่มีอัตราเงินเฟ้อเฉลี่ย 6 เดือน ปี 2566 ต่ำกว่าไทย อาทิ บาห์เรน จีน มาเก๋า ปานามา โอมาน ฟิจิฮ่องกง และไต้หวัน อย่างไรก็ตาม การเปรียบเทียบอัตราเงินเฟ้อระหว่างเขตเศรษฐกิจเป็นการศึกษาแนวโน้มสถานการณ์ราคาสินค้าและบริการของแต่ละเขตเศรษฐกิจในภาพรวม ไม่สามารถเป็นเครื่องบ่งชี้ได้ว่าเขตเศรษฐกิจใดมีเสถียรภาพทางด้านราคามากหรือน้อยกว่ากัน เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อที่เหมาะสมจะขึ้นอยู่กับบริบททางเศรษฐกิจของเขตเศรษฐกิจนั้น ๆ และจะต้องพิจารณาร่วมกับกรอบเป้าหมายเงินเฟ้อ และเครื่องชี้วัดทางเศรษฐกิจอื่น ๆ  

นอกจากนี้ ตลอดช่วงระยะเวลาที่เงินเฟ้อทั่วโลกอยู่ในระดับสูง (ปี 2565) หลายเขตเศรษฐกิจทั่วโลกได้ดำเนินนโยบายเพื่อป้องกันและบรรเทาผลกระทบในหลากหลายรูปแบบ ทั้งมาตรการทางด้านการเงิน การคลัง มาตรการดูแลค่าครองชีพ และอื่น ๆ ดังนี้ 

มาตรการด้านการเงิน ได้แก่ การปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งมีการดำเนินการในหลายเขตเศรษฐกิจ อาทิสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร สหภาพยุโรป อินเดีย เกาหลีใต้ อินโดนีเซีย และไทย โดยมีจุดประสงค์เพื่อชะลอการใช้จ่ายของภาคธุรกิจและประชาชน รวมถึงเพื่อลดการไหลออกของเงินทุนในประเทศ ไปยังประเทศที่มีการปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ย อันจะส่งผลให้เงินอ่อนค่าลง และกระทบต่อต้นทุนการนำเข้าสินค้า การแทรกแซงค่าเงินเพื่อให้แข็งค่าขึ้น 

เนื่องจากมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยและนักลงทุนบางกลุ่มย้ายการลงทุนไปยังสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ (ทองคำเงินดอลลาร์สหรัฐฯ) จึงทำให้ค่าเงินในบางเขตเศรษฐกิจอ่อนค่าลงอย่างมาก นอกจากนี้ ยังมีหลายประเทศที่ใช้มาตรการทางการเงินอื่น ๆ ที่เข้ากับบริบททางเศรษฐกิจของประเทศ อาทิ การปรับเพิ่มอัตราส่วนสำรองขั้นต่ำของธนาคารพาณิชย์ (Required Reserve Ratio) ในประเทศอินเดีย และการขยายกรอบอัตราผลตอบแทนพันธบัตรในประเทศญี่ปุ่น มาตรการทางด้านการคลัง ได้แก่ การลดหย่อนภาษีสำหรับสินค้าบางประเภทที่ราคาปรับตัวสูงขึ้นจนกระทบต่อภาคการผลิต อาทิ การลดภาษีสินค้าเซมิคอนดักเตอร์ในประเทศเกาหลีใต้ การลดภาษีสรรพสามิตสินค้าน้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมัน โดยเฉพาะประเภทน้ำมันที่นิยมใช้ในประเทศ อาทิ การลดภาษีน้ำมันดีเซลในประเทศไทย และการให้เงินช่วยเหลือเป็นรายเดือน เพื่อช่วยบรรเทาภาระของประชาชน 

มาตรการลดค่าครองชีพให้กับประชาชน และอื่น ๆ อาทิ การให้เงินอุดหนุนค่าสาธารณูปโภค ทั้งค่าไฟฟ้า และค่าแก๊สการควบคุมเพดานราคาหรือตรึงราคาสินค้า โดยเฉพาะสินค้าอุปโภคบริโภคสำคัญ อาทิ ก๊าซหุงต้ม และอาหารสดนอกจากนี้ยังมีมาตรการอื่น ๆ อาทิ การจำกัดการส่งออกหรือเพิ่มการนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ เพื่อให้สินค้าเพียงพอสำหรับบริโภคในประเทศ บางเขตเศรษฐกิจมีการลงทุนในระยะยาวเพื่อลดการพึ่งพาสินค้าจากเขตเศรษฐกิจอื่นอาทิ การหาพลังงานทดแทนจากแหล่งอื่น ไม่ว่าจะเป็นพลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม และสนับสนุนการใช้สินค้าที่ประหยัดพลังงาน เพื่อลดผลกระทบจากความผันผวนของราคาน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติ สำหรับประเทศที่มีทรัพยากรด้านพลังงาน นอกเหนือจากกลุ่ม OPEC และประเทศพันธมิตร มีแนวโน้มจะเพิ่มกำลังการผลิตมากขึ้น เพื่อลดอุปทานที่ตึงตัว 

ทั้งนี้ จะเห็นว่ามาตรการต่าง ๆ ที่กล่าวมาข้างต้น ทำให้หลายเขตเศรษฐกิจสามารถควบคุมอัตราเงินเฟ้อได้เป็นอย่างดีซึ่งทำให้อัตราเงินเฟ้อทั่วโลกชะลอตัวลงต่อเนื่อง สำหรับประเทศไทย อัตราเงินเฟ้อชะลอตัวลงในอัตราที่ค่อนข้างรวดเร็ว ตามราคาสินค้าในกลุ่มพลังงาน และอาหาร ซึ่งมีสัดส่วนการใช้จ่ายของคนไทยค่อนข้างมาก เมื่อราคาพลังงานลดลง และราคาสินค้ากลุ่มอาหารทรงตัว อัตราเงินเฟ้อของไทยจึงชะลอตัวลงและอยู่ในระดับต่ำ 

ทั้งนี้ การเกิดเงินเฟ้อของไทย มาจากปัญหาด้านอุปทานในต่างประเทศ ที่ทำให้ต้นทุนการผลิตในประเทศสูงขึ้นเป็นสำคัญ ซึ่งเป็นปัจจัยภายนอกที่ไม่สามารถควบคุมได้ ประกอบกับการบริโภคภาคเอกชนและประชาชนที่ฟื้นตัวเร็วกว่าภาคการผลิต ทำให้ปัญหาอุปทานตึงตัวทวีความรุนแรงขึ้น ภาครัฐจึงออกมาตรการเพื่อรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ และช่วยเหลือภาคธุรกิจและประชาชนให้ได้รับผลกระทบน้อยที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการขอความร่วมมือผู้ประกอบการตรึงและลดราคาสินค้าและบริการ การสนับสนุนช่องทางการทำธุรกิจใหม่ ๆ การให้เงินกู้ช่วยเหลือ การอุดหนุนราคาพลังงาน และมาตรการอื่น ๆ ของภาครัฐที่ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทำให้ประเทศไทยสามารถผ่านพ้นวิกฤตการณ์นี้ไปได้ 

นอกจากนี้ เงินเฟ้อในช่วงที่เหลือของปีคาดว่าจะอยู่ในระดับต่ำต่อไป และอาจเคลื่อนไหวในกรอบแคบ ๆ โดยมีปัจจัยสำคัญ ได้แก่ ฐานการคำนวณที่สูงในช่วงปลายปี 2565 ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่ปรับตัวลดลงเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาผลจากการดำเนินมาตรการของภาครัฐในมิติต่าง ๆ และการชะลอตัวทางเศรษฐกิจของหลายเขตเศรษฐกิจที่ส่งผลให้อุปสงค์โดยรวมของต่างประเทศลดลง และส่งผลมายังรายได้และกำลังซื้อของภาคธุรกิจและประชาชนในประเทศไทยอย่างไรก็ตาม ความผันผวนของราคาพลังงาน สถานการณ์ภัยแล้ง รวมไปถึงมาตรการของรัฐบาลชุดใหม่ ยังเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ทำให้อัตราเงินเฟ้ออาจไม่เป็นไปตามคาด ซึ่งกระทรวงพาณิชย์จะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดต่อไป และขอให้ภาคธุรกิจและประชาชนวางแผนการเงินอย่างรัดกุมและติดตามข่าวสารทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องเพื่อจะได้ปรับตัวได้อย่างทันสถานการณ์ .-สำนักข่าวไทย    

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Cambodia PM Hun Manet in military uniform

กัมพูชาเสนอศาลโลกตัดสินดินแดนพิพาทกับไทย

พนมเปญ 2 มิ.ย.- ผู้นำกัมพูชาเสนอให้นำข้อพิพาททางดินแดนกับไทยให้ศาลโลกตัดสิน และได้สั่งการให้เจบีซีเร่งจัดการหารือกับไทยเรื่องปักปันเขตแดน ด้านกระทรวงต่างประเทศกัมพูชาได้ยื่นหนังสือประท้วงไทยเรื่องเหตุปะทะที่มีทหารกัมพูชาเสียชีวิต เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ขแมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานวันนี้ว่า นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนตได้โพสต์ถ้อยแถลงในสื่อสังคมออนไลน์เมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า เขาได้ตัดสินใจตามที่รับฟังรายงานสรุปจากนายทหารที่ประจำการตามแนวชายแดนไทย หลังจากที่เขากลับจากการปฏิบัติภารกิจในต่างประเทศ โดยได้สั่งการให้คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมกัมพูชา-ไทยหรือเจบีซี (JBC) เร่งจัดการประชุมกับฝ่ายไทยเพื่อเดินหน้าการสำรวจและปักปันเขตแดนระหว่าง 2 ประเทศ ถ้อยแถลงระบุด้วยว่า กัมพูชากำลังเตรียมบรรจุประเด็นใหม่ไว้ในวาระการประชุมเจบีซี คือ การเสนอให้นำข้อพิพาทยาวนานเรื่องปราสาทตาเมือนธม ตาเมือนโต๊ด ตาเมือนควาย และพื้นที่มอมเบ เข้าสู่การตัดสินชี้ขาดของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศหรือศาลโลกที่กรุงเฮกในเนเธอร์แลนด์ นายกรัฐมนตรีกัมพูชาเตือนว่า การยั่วยุเมื่อไม่นานมานี้ของกลุ่มสุดโต่งเล็ก ๆ ได้จุดชนวนความตึงเครียดและโหมกระพือกระแสรักชาติขึ้นใน 2 ประเทศ เขาหวังว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะสามารถทำงานร่วมกันเพื่อบรรลุทางออกสุดท้ายให้แก่พื้นที่พิพาทอ่อนไหวเหล่านี้ กัมพูชายังคงมุ่งมั่นที่จะแก้ปัญหาชายแดนด้วยกลไกทางเทคนิคและหลักการทางกฎหมาย แต่ก็สงวนสิทธิที่จะปกป้องบูรณภาพทางดินแดนด้วยทุกวิถีทาง รวมถึงการใช้อาวุธ หากมีความพยายามใช้กำลังทหารรุกรานดินแดนของกัมพูชา ด้านกระทรวงกิจการต่างประเทศและความร่วมมือสากลของกัมพูชาได้ยื่นหนังสือทางการทูตประท้วงไทย ซึ่งมีการเปิดเผยเนื้อหาเมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า กองทัพไทยเปิดฉากยิงทั้งที่ไม่มีการยั่วยุจากที่ตั้งทางทหารของกัมพูชาในหมู่บ้านเตโชมรกต อำเภอจอมกระสานต์ จังหวัดพระวิหารเมื่อราวเวลา 05.30 น.วันที่ 28 มีนาคม ส่งผลให้ทหารกัมพูชาถูกสังหารอย่างไม่เป็นธรรม 1 นาย และเป็นการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพทางดินแดนของกัมพูชา กระทรวงต่างประเทศของกัมพูชาขอประณามอย่างรุนแรงต่อการกระทำดังกล่าวว่า ผิดกฎหมาย รัฐบาลกัมพูชาเรียกร้องให้สอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยทันทีและถี่ถ้วน และต้องนำตัวผู้กระทำผิดมารับโทษ.-814.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ กัมพูชา สั่งระดมทหารประชิดชายแดนไทย

1 มิ.ย. – ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา สั่งระดมกำลังทหารประชิดชายแเดนไทย ขณะเดินทางเยือนญี่ปุ่น พร้อมติดตามสถานการณ์บริเวณชายแดนติดกับไทยอย่างใกล้ชิด หนังสือพิมพ์ขะแมร์ ไทมส์ รายงานว่า ฌอง-ฟรองซัว ตัน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา ให้สัมภาษณ์สื่อในประเทศ ระบุว่านับตั้งแต่เกิดเหตุความขัดแย้งตามมแนวชายแดนระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ของกัมพูชา ซึ่งอยู่ระหว่างปฏิบัติภารกิจเยือนญี่ปุ่น ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด จนกระทั่งเดินทางกลับมายังกัมพูชา เมื่อคืนที่ผ่านมา และได้สั่งการด้วยตัวเองให้ระดมกำลังทหารเพิ่มเติมเข้าประชิดชายแดนด้านที่ติดกับไทย เพื่อปกป้องอธิปไตยและพรมแดนกัมพูชา พร้อมกับยืนยันว่าสถานการณ์บริเวณชายแดนด้านที่ติดกับไทย กลับมาสงบเรียบร้อยตามปกติแล้ว นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ยังได้ติดต่อและสั่งการตามสายงานลงไปยังรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีกลาโหม ผู้บัญชาการเหล่าทัพ และเสนาธิการกองทัพบก ให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และแจ้งความคืบหน้าให้ทราบอย่างต่อเนื่อง หลังเกิดการปะทะกันครั้งล่าสุดระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย พร้อมกับเรียกร้องประชาชนชาวกัมพูชาเชื่อมั่นการปฏิบัติหน้าที่ของกองทัพและรัฐบาลกัมพูชา ในการปกป้องดินแดน และหาหนทางแก้ไขความขัดแย้งบริเวณชายแดนติดกับไทย โดยยึดผลประโยชน์ของชาติเป็นสำคัญ และหลังจากนี้ คณะกรรมการพรมแดนของกัมพูชา มีกำหนดพบหารือในช่วงปลายเดือนมิถุนายนนี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับรายละเอียดข้อขัดแย้ง และนำเสนอเพื่อเข้าสู่การเจรจาต่อไป.-สำนักข่าวไทย

“โอปอล สุชาตา” คว้ามงกุฎ Miss World 2025

อินเดีย 1 มิ.ย.-“โอปอล สุชาตา” สาวงามตัวแทนจากไทย สร้างประวัติศาสตร์สามารถคว้ามงกุฎ Miss World 2025 มาครองได้สำเร็จ เวทีการประกวด Miss World 2025 ครั้งที่ 72 ณ HITEX Convention Center เมืองไฮเดอราบัด รัฐเตลังคานา ประเทศอินเดีย โดย “โอปอล สุชาตา ช่วงศรี” สาวงามตัวแทนจากประเทศไทย สร้างประวัติศาสตร์สามารถคว้ามงกุฎมิสเวิลด์มาครองได้สำเร็จ โดยการประกวดในปีนี้มีนางงามจาก 108 ประเทศทั่วโลก เข้าร่วม ทั้งนี้ในรอบ 8 คนสุดท้าย มีนางงามที่ผ่านเข้ารอบได้แก่ บราซิล มาร์ตินีก เอธิโอเปีย นามิเบีย โปแลนด์ ยูเครน ฟิลิปปินส์ และประเทศไทย ซึ่งจนกระทั่ง รอบ 4 คนสุดสุดท้าย มาร์ตีนิก เอธิโอเปีย และ โปแลนด์ ทั้ง 4 […]

ข่าวแนะนำ

จุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล

นายกฯ เป็นประธานถวายเครื่องราชสักการะ-จุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี

สนามหลวง 3 มิ.ย.-นายกรัฐมนตรี และคู่สมรส เป็นประธานพิธีถวายเครื่องราชสักการะและพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี 3 มิถุนายน 2568 เวลา 19. 49 น. ณ เวทีใหญ่ ท้องสนามหลวง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และนายปิฎก สุขสวัสดิ์ คู่สมรส เป็นประธานในพิธีถวายเครื่องราชสักการะและพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี 3 มิถุนายน 2568 โดยมีผู้แทนประธานรัฐสภา ประธานศาลฎีกา ประธานองค์กรตามรัฐธรรมนูญพร้อมคู่สมรส คณะรัฐมนตรีพร้อมคู่สมรส ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ทหาร ตำรวจ พลเรือน ภาคเอกชน และภาคประชาชน เข้าร่วมพิธีอย่างพร้อมเพรียง นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เมื่อนายกรัฐมนตรีและคู่สมรสเดินทางถึงพิธีท้องสนามหลวง ขึ้นสู่เวที นายกรัฐมนตรี ผู้แทนประธานรัฐสภา ประธานศาลฎีกา ทำวันทยหัตถ์หน้าพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี แล้ววางพุ่มทอง พุ่มเงิน จากนั้นนายกรัฐมนตรีถวายธูปเทียนแพ จุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล […]

ตรวจความพร้อมรบ

แม่ทัพภาค 1 ตรวจความพร้อมรบ พล.ร.9 พร้อมเสริมกำลังทัพภาค 2

กาญจนบุรี 3 มิ.ย.- แม่ทัพภาคที่ 1 ตรวจความพร้อมรบ พล.ร.9 กองกำลังสุรสีห์ ตามแผนเผชิญเหตุ ทบ. พร้อมเสริมกำลังทัพภาค 2 ชายแดนไทย-กัมพูชา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเย็นที่ผ่านมา ที่สนามฝึกทางยุทธวิธี พล.ร.9 จ.กาญจนบุรี พล.ท.อมฤต บุญสุยา แม่ทัพภาค 1 เดินทางไปตรวจความพร้อมหน่วย ตามแผนเผชิญเหตุของกองทัพบก ทั้งหน่วย กรมทหารราบเฉพาะกิจ กองทัพภาคที่ 1 และกองพันพร้อมรบเคลื่อนที่เร็ว RDF กองทัพภาคที่ 1 โดยมี พล.ต.อัษฎาวุธ ปันยารชุน ผบ.พล.ร.9 ให้ต้อนรับ พล.ร.9 ได้รับมอบหมายจากกองทัพบก ให้จัดกำลังเพื่อสนับสนุนการปฏิบัติของกองทัพบก ในการใช้กำลังตามแผนเผชิญเหตุของกองทัพบก เข้าในพื้นที่ที่รับผิดชอบ และให้การสนับสนุนเสริมกำลังรบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ในพื้นที่รับผิดชอบกองทัพภาคที่ 1 โดยหน่วยเตรียมกำลังได้ตรวจสภาพความพร้อมรบตามขั้นตอน เพื่อตรวจสอบความพร้อมของกำลังพลและยุทโธปกรณ์ในการปฏิบัติภารกิจในทุกพื้นที่ที่ได้รับมอบภารกิจจากกองทัพบก ทั้งนี้ แม่ทัพภาคที่ 1 ได้ให้โอวาสกำลังพล ในการเตรียมความพร้อมในทุกภารกิจที่ได้รับมอบหมายจากกองทัพบก โดยขอให้มีความพร้อมอยู่ตลอดเวลา ในการปฏิบัติหน้าที่เพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติ และพร้อมดูแลพี่น้องประชาชน […]

หลวงปู่ศิลา

“หลวงปู่ศิลา” มอบเงินบริจาคให้ มทภ.2 สนับสนุนภารกิจกองกำลังชายแดน

นครราชสีมา 3 มิ.ย.-“หลวงปู่ศิลา” มอบเงินบริจาคให้ มทภ.2 สร้างที่พักในฐานตามแนวชายแดน พร้อมอุปกรณ์เครื่องมือต่างๆ ในการดูแลประเทศชาติ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พระราชวัชรธรรมโสภณ (หลวงปู่ศิลา สิริจันโท) เจ้าอาวาสวัดพระธาตุหมื่นหิน จ.กาฬสินธุ์ และคณะศิษย์และมูลนิธิธรรมะอุทยาน พร้อมทั้งคณะศิษยานุศิษย์ มอบเงินบริจาค จำนวน 2,017,860 บาท และข้าวสารจำนวน 1,500 กิโลกรัม ให้กับกองทัพภาคที่ 2 เพื่อสนับสนุนช่วยเหลือกองกำลังทหารชายแดน โดย พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เป็นผู้รับมอบ ที่กองบัญชาการ ค่ายสุรนารี จ.นครราชสีมา สำหรับเงินทั้งหมดนี้ จะได้นำไปจัดสร้างที่พักในฐานที่มั่นของกองกำลังสุรนารี ที่ปฏิบัติภารกิจอยู่ตามแนวชายแดน รวมถึงจัดซื้ออุปกรณ์และยุทโธปกรณ์ต่างๆ ที่ยังขาดอยู่ ในการปกป้องอธิปไตยของประเทศ รวมถึงการจัดหาเครื่องมือต่างๆที่สามารถใช้ได้ภายในฐานปฏิบัติการเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับทหาร ที่ปฏิบัติภารกิจอยู่แถวชายแดน. -313 สำนักข่าวไทย

Thai drone illegally enters Cambodian airspace, intercepted by Cambodian troops

กัมพูชาอ้างสกัดโดรนที่ส่งจากฝั่งไทย

พนมเปญ 3 มิ.ย.- สื่อกัมพูชารายงานว่า ทหารกัมพูชาสกัดอากาศยานไร้คนขับหรือโดรนที่อ้างว่าส่งจากฝั่งไทยเข้าไปสอดแนมที่ตั้งทางทหารของกัมพูชา เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์รายงานวันนี้ว่า กองทัพไทยยังคงละเมิดดินแดนของกัมพูชา โดยล่าสุดได้ส่งโดรนไปบินเหนือพื้นที่แนวหน้าโดยไม่ได้รับอนุญาต เพื่อสอดแนมที่ตั้งทางทหารของกัมพูชา และถูกกำลังพลกัมพูชาสกัดไว้ได้ แขมร์ไทมส์อ้างรายงานจากชายแดนว่า เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 2 มิถุนายน ทหารกัมพูชาที่ประจำการอยู่บริเวณแนวหน้าในจังหวัดพระวิหารสามารถสกัดโดรนลำหนึ่งที่เข้ามาในน่านฟ้ากัมพูชาเพื่อวัตถุประสงค์ในการสอดแนม ผลการประเมินเบื้องต้นชี้ว่า โดรนลำนี้ถูกส่งโดยกองทัพไทย เพื่อเก็บข้อมูลข่าวกรองเรื่องการประจำการและการเคลื่อนย้ายกำลังพลของกองทัพกัมพูชา.-814.-สำนักข่าวไทย