นนทบุรี 11 ส.ค.-อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ ระบุประกาศกระทรวงพาณิชย์ควบคุมการนำเข้า-ส่งออกสินค้าไม้และผลิตภัณฑ์ ขอให้ผู้เกี่ยวข้องศึกษาข้อมูล ยืนยันไม่มีความยุ่งยากในการนำเข้า-ส่งออก
นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมฯ ได้ออกประกาศกระทรวงพาณิชย์เกี่ยวกับการนำเข้า-ส่งออก สินค้าไม้และผลิตภัณฑ์ 2 ฉบับ ซึ่งเป็นการปรับเปลี่ยนรายละเอียดเล็กน้อยจากประกาศกระทรวงพาณิชย์ฉบับเก่า เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์การค้าไม้ในปัจจุบัน รวมทั้งเพื่อลดความซับซ้อนและยุ่งยากในการนำเข้า-ส่งออกสินค้า โดยเป็นประกาศกระทรวงพาณิชย์เกี่ยวกับการนำเข้า 1 ฉบับ คือ ประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง กำหนดให้ไม้ท่อน ไม้แปรรูป และสิ่งประดิษฐ์ของไม้ เป็นสินค้าที่ต้องห้ามหรือต้องมีหนังสือรับรองในการนำเข้ามาในราชอาณาจักร พ.ศ. 2566 ซึ่งมีผลบังคับใช้แล้วตั้งแต่วันที่ 17 กรกฎาคม 2566 เป็นต้นไป
ทั้งนี้ สาระสำคัญ คือ ห้ามนำเข้าไม้พะยูงท่อน ไม้พะยูงแปรรูป และสิ่งประดิษฐ์ที่ทำจากไม้พะยูงจากกัมพูชา และ สปป ลาว ห้ามนำเข้าไม้ท่อนทางด่านศุลกากร จ.ตาก จ.กาญจนบุรี และ จ.แม่ฮ่องสอน และห้ามนำเข้าไม้แปรรูปทางด่านศุลกากร จ.แม่ฮ่องสอน ทั้งนี้ ไม้ท่อน ไม้แปรรูป และสิ่งประดิษฐ์ของไม้ นอกเหนือจากที่กล่าวข้างต้น สามารถนำเข้าได้โดยแสดงหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า หรือหลักฐานการอนุญาตให้ส่งออก ประกอบพิธีการนำเข้า
กรมฯ ยังได้ออกประกาศกระทรวงพาณิชย์ที่เกี่ยวกับการส่งออกสินค้าไม้และผลิตภัณฑ์อีก 1 ฉบับ ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 16 สิงหาคม 2566 เป็นต้นไป คือ ประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง กำหนดให้ไม้พะยูงเป็นสินค้าที่ต้องห้ามให้ไม้ท่อน ไม้แปรรูป และไม้ล้อมบางชนิด เป็นสินค้าที่ต้องขออนุญาต และให้สิ่งประดิษฐ์ของไม้และถ่านไม้ เป็นสินค้าที่ต้องมีหนังสือรับรองในการส่งออกไปนอกราชอาณาจักร พ.ศ. 2566
โดยมีสาระสำคัญ คือ ห้ามส่งออกไม้พะยูงและผลิตภัณฑ์ทุกกรณี ในขณะที่ไม้ท่อน ไม้แปรรูป และไม้ล้อมบางชนิด สามารถส่งออกได้ แต่ต้องขออนุญาต รวมทั้งสิ่งประดิษฐ์ของไม้และถ่านไม้ สามารถส่งออกได้โดยแสดงหนังสือรับรองประกอบพิธีการส่งออก ทั้งนี้ ผู้ที่ต้องการส่งออกไม้ต้องปฏิบัติตามระเบียบกระทรวงพาณิชย์ว่าด้วยการอนุญาตให้ส่งไม้ท่อน ไม้แปรรูป และไม้ล้อมบางชนิด ออกไปนอกราชอาณาจักร พ.ศ. 2566 ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ได้ลงนามแล้ว และขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนลงประกาศในราชกิจจานุเบกษา โดยผู้ที่จะส่งออกสามารถติดต่อที่กรมป่าไม้เพียงหน่วยงานเดียวเท่านั้น เพื่อขอรับใบอนุญาตส่งออก พร้อมเอกสารหลักฐานตามที่กรมป่าไม้กำหนด เช่น ใบกำกับสินค้า (Invoice) ภาพถ่ายสินค้า เอกสารหลักฐานแสดงว่าไม้ได้มาโดยชอบด้วยกฎหมาย เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม ในระหว่างที่ประกาศส่งออกสินค้าไม้และผลิตภัณฑ์ข้างต้นยังไม่มีผลใช้บังคับ ขอให้ผู้ประสงค์จะส่งออกสินค้าดังกล่าวศึกษาและทำความเข้าใจข้อกำหนดและเงื่อนไขให้ถูกต้องชัดเจน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในทางปฏิบัติ โดยสามารถศึกษาประกาศฯ เพิ่มเติมได้ที่ QR Code ที่ปรากฏด้านล่างนี้ หรือสอบถามรายละเอียดได้ที่ DFT Call Center โทร. 1385 หรือ กองบริหารการค้าสินค้าทั่วไป โทร. 0 2547 5120.-สำนักข่าวไทย