สถาบันการเงินต้องส่งเสริมธุรกิจสีเขียวให้เติบโต

กรุงเทพฯ 25 ก.ค.-เหล่าสถาบันการเงินต้องร่วมมือส่งเสริมธุรกิจสีเขียวในกลุ่มเอสเอ็มทีไทยที่มีศักยภาพให้สามารถขับเดินหน้าต่อไปได้ โดยอยากให้สถาบันการเงินทำโปรดักต์ออกมากันมาก ๆ เพื่อช่วยเอสเอ็มอี 3.2 ล้านรายและที่มีการจ้างงานกว่า 70% ให้เติบโตอย่างยั่งยืน


ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM Bank) กล่าวในงานสัมมนา “ESG Game Changer” ว่าอยู่ในโลกที่เป็นมายาคติ เมื่อก่อนเราชอบอวดรวย ไม่ว่าจะเป็นอันดับความสามารถในการแข่งขัน อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจ (GDP growth) ซึ่งการแข่งเรื่อง GDP growth นำมาซึ่งภาพลวงตา และนำมาซึ่งหายนะของทุก ๆ คนบนโลกใบนี้ อวดรวยกันมาก เมื่อก่อนถ้าอยากรู้ว่าขุนคลังเก่งแค่ไหน จะต้องดีดเศรษฐกิจขึ้นไปให้เกิน 5% ให้ได้ แต่ตอนนี้ทั้งโลกโตกันแค่ 2% และจะโตประมาณ 2% กว่า ๆ ไปอีกเป็น 10 ปี ดังนั้นเราไม่ต้องไปวัดความเก่งของขุนคลังด้วยการเติบโตทางเศรษฐกิจหรอก รวมถึงบริษัทต่าง ๆ ที่แข่งกัน ซึ่งท้ายที่สุดแล้วเป็น Zero sum game ไม่มีใครได้อะไร และนำมาซึ่งภาวะโลกร้อน

ทั้งนี้ ตนอยากชวนทุกคน เปลี่ยนจากอวดรวยมาเป็นอวดดี โดยเริ่มจากสแกนองค์กรของตัวเอง แล้วปรับโมเดลธุรกิจรวมถึงเชื่อมโยงกับคู่ค้าที่เป็นธุรกิจสีเขียว


ดร.รักษ์ กล่าวว่า หน้าที่ของแบงก์ในวันนี้ ไม่ใช่แค่ปล่อยกู้ หรือรับเงินฝากอีกต่อไป แต่คือ การเป็นเพลย์เมกเกอร์ช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้แก่ผู้ประกอบการ โดยวันนี้ทุก ๆ สถาบันการเงินเฉพาะกิจมีโปรดักท์สีเขียวออกมากันหมดแล้ว ซึ่งจะช่วยหนุนให้ธุรกิจปรับตัวไปเป็น ESG player

“คนตัวเล็กกว่า 3 ล้านราย เขารู้ว่าโลกกำลังเปลี่ยนไป เขารู้ว่าจะต้องพัฒนาตัวเองอีกมากมาย แล้วใครหล่ะที่จะหยิบยื่นความช่วยเหลือให้เขา ถ้าไม่ใช่เรกูเลเตอร์ ไม่ใช่สถาบันการเงิน หรือ ไม่ใช่ SFI อย่างพวกเรา สิ่งเหล่านี้มันเกิดขึ้นได้ในช่วงชีวิตของเรา” ดร รักษ์กล่าว

ที่ผ่านมา EXIM Bank มีโปรดักท์สีเขียวออกมามากมาย แต่ยังไม่พอ ซึ่งอยากให้ทุกสถาบันการเงินมีโปรดักท์สีเขียวออกมาอีกมาก ๆ เพื่อช่วยเอสเอ็มอี 3.2 ล้านรายสามารถปรับตัวได้ การสนับสนุนและส่งเสริมธุรกิจสีเขียว อยากให้สถาบันการเงินทำโปรดักต์ออกมากันมาก ๆ เพื่อช่วยเอสเอ็มอี 3.2 ล้านราย ที่มีการจ้างงานกว่า 70%” กรรมการผู้จัดการ EXIM Bankกล่าว


นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจากคอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาชน) หรือ BCP เปิดเผยในงานสัมมนา  E S G : Game Changer  ESG ภายใต้หัวข้อ The Great Remake สู่โอกาสใหม่ โดยระบุว่า โลก บริโภคน้ำมันวันละ 100 ล้านบาร์เรล ขณะที่ประเทศไทย มีการบริโภคน้ำมัน อยู่ที่วันละ 1 ล้านบาร์เรล หรือ 1% ของโลก โดยปีนี้ คาดว่า โลกจะมีการบริโภคน้ำมันอยู่ที่วันละ 102 ล้านบาร์เรล เป็นการฟื้นตัวหลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 คลี่คลายลง ซึ่งปัจจุบัน หลายสำนักพยากรณ์ ได้คาดการณ์การใช้น้ำมันของโลก จะถึงสูงสุดราว 20 ปีข้างหน้า รวมถึงการขนส่งทางบก และการขนส่งทางน้ำ ก็จะถึงจุดสูงสุดด้วยเช่นกัน ขณะที่การขนส่งทางอากาศ และธุรกิจปิโตรเคมีคอล ยังมีโอกาสเติบโต 

ทั้งนี้ มี 2 ธุรกิจที่ยังมีโอกาสในการเข้าไปลงทุนเพื่อสร้างการเติบโตในอนาคต และคำตอบสำหรับผู้ดำเนินธุรกิจโรงกลั่นน้ำมันฯ คือ การขยายการลงทุนในธุรกิจปิโตรเคมีคอล ที่มุ่งไปสู่การผลิตพลาสติกชีวภาพ ขณะเดียวกัน บางจากฯ มองยังมีอีกหนึ่งทางเลือก คือ เครื่องบิน ซึ่งจากการพยากรณ์พบว่า ในปี ค.ศ.2070 การปล่อยมลพิษจากธุรกิจการบินจะเติบโต 5 เท่า ดังนั้น โลกพยายามคิดค้นและพัฒนาเครื่องบินให้มีน้ำหนักเบามากขึ้นเพื่อลดการปล่อยมลพิษ และการใช้ AI มาวางแผนการบินเพื่อลดการบริโภคน้ำมัน แต่สุดท้ายแล้วคำตอบที่ชัดเจน คือการหาเชื้อเพลิงอื่นที่จะนำมาใช้แทนน้ำมัน ซึ่งจากปัจจุบันนี้ไปจนถึงปี ค.ศ.2050 โลก คิดว่า ไฮโดรเจน จะเป็นคำตอบ แต่ปัจจุบันเทคโนโลยียังไม่เสถียรและต้นทุนการผลิตไฮโดรเจนยังแพงกว่าน้ำมั้น 5-10 เท่า ดังนั้น ยังมีทางเลือกที่จะใช้เชื้อเพลิงไบโอแมส ซึ่งเมื่อ 15 ปีก่อน บางจากฯ มีการนำน้ำมันพืชใช้แล้วมาขายคืน เพื่อทำผลิตเป็น ไบโอดีเซล (บี100) นำไปผสมในน้ำมันเป็น ดีเซล บี5,บี7 และบี10 เป็นต้น 

โดยการผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานยั่งยืน(Sustainable Aviation Fuel) หรือ SAF ก็มีเทคโนโลยีที่ใกล้เคียงกับการผลิตไบโอดีเซล คือ การนำน้ำมันพืชใช้แล้วมาผลิต ซึ่งบางจากฯ จะเปิดรับซื้อน้ำมันพืชใช้แล้วจากประชาชนทั่วไปผ่านโครงการทอดไม่ทิ้ง ในราคาลิตรละไม่ต่ำกว่า 20 บาท ปัจจุบันอยู่ระหว่างการก่อสร้างโรงงานฯ กำลังการผลิต 1 ล้านลิตรต่อวัน ภายใต้งบลงทุน 10,000 ล้านบาท ใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 2 ปี ซึ่งปัจจุบันเที่ยวบินในประเทศไทยใช้น้ำมันเครื่องบิน ราววันละ 50 ล้านลิตร ขณะที่ประเทศในทวีปยุโรปมีการใช้มาตรการบังคับให้ผสม SAF ลงไปในน้ำมันอากาศยานทั่วไปในสัดส่วนอย่างน้อย 2% ในปี 2568 ก็จะต้องการใช้ SAF อยู่ที่วันละ 1 ล้านลิตร ซึ่งบางจากฯจะเป็นรายแรกของประเทศที่ผลิต อีกทั้งยังช่วยลดปล่อยมลพิษได้ราวปีละกว่า 80,000 ตัน 

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่บางจากฯ จะต้องพัฒนาต่อ คือการนำเทคโนโลยีบล็อกเชน หรือ ที่เรียกว่า Book and Claim คือสามารถเข้าไปใน Carbon Markets Club จะมีแอพพลิเคชั่นเพื่อแจ้งความต้องการใช้ SAF ในการทำการบิน ก็จะสามารถนำมาเคลมคาร์บอนเครดิตได้ ซึ่งบางจากฯ อยู่ระหว่างการพัฒนา คาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน 1-2 ปีข้างหน้า

นายชัยวัฒน์ กล่าวอีกว่า บางจากฯ พยายามจะสร้าง ecosystem เพื่อมุ่งสู่ป้าหมาย “Net Zero” ของประเทศไทยที่กำหนดเป้าหมายปี ค.ศ. 2065 เป็นปีที่จะปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ กลุ่มบางจากฯ ซึ่งได้ประกาศเป้าหมายเป็นกลางทางคาร์บอนในปี ค.ศ. 2030 และ Net Zero ในปี ค.ศ. 2050 มุ่งมั่นร่วมขับเคลื่อนประเทศสู่สังคมคาร์บอนต่ำด้วย แผน BCP NET ครอบคลุม 4 แนวทาง ดังนี้

B: Breakthrough Performance

เน้นกระบวนการผลิตที่มีประสิทธิภาพสูงด้วยเทคโนโลยีที่มีอยู่ในปัจจุบัน ปล่อยคาร์บอนต่ำและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เช่น การใช้เทคโนโลยีและเชื้อเพลิงที่ช่วยลดการปล่อยคาร์บอนจากกระบวนการผลิตในโรงกลั่นน้ำมันบางจาก การเปิดสถานีบริการ Net Zero การใช้ไฟฟ้าจากระบบกักเก็บพลังงาน (แบตเตอรี่) ในธุรกิจผลิตไฟฟ้าของบีซีพีจี เป็นต้น

C: Conserving Nature and Society

สนับสนุนการสร้างสมดุลทางระบบนิเวศและเชื่อมโยงสู่สังคม คาร์บอนต่ำ ผ่านการดูดซับคาร์บอนด้วยวิถีธรรมชาติมุ่งเน้นพัฒนากิจกรรมเพิ่มพื้นที่ในการดูดซับคาร์บอนจาก 2 ระบบนิเวศ ได้แก่ 1) ระบบนิเวศจากป่า (Green Carbon) เช่นโครงการปลูกป่ากับกรมป่าไม้ โครงการอนุรักษ์ป่าชุมชนร่วมกับมูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ และปลูกต้นไม้ในพื้นที่ปฏิบัติการทั่วประเทศ และ 2) ระบบนิเวศทางทะเล (Blue Carbon) จากแหล่งป่าชายเลนและหญ้าทะเล เช่น โครงการปลูกป้าชายเลนร่วมกับกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง โครงการศึกษาความเป็นไปได้ในการใช้แหล่งหญ้าทะเลเพื่อช่วยในการกักเก็บก๊าซเรือนกระจกที่เกาะหมากและเกาะกระดาด จังหวัดตราด เป็นต้น

P: Proactive Business Growth and Transition

เปลี่ยนผ่านธุรกิจสู่พลังงานสะอาด มุ่งสู่เป้าหมาย Net Zero ด้วยเทคโนโลยีเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน เพิ่มสัดส่วนรายได้จากธุรกิจสีเขียว เน้นขยายการลงทุน ใหม่ ๆ ที่ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการดำเนินธุรกิจ ศึกษาเทคโนโลยีตอบโจทย์ธุรกิจคาร์บอนต่ำ เช่น Blue/Green Hydrogen เชื้อเพลิงทางเลือกคาร์บอนต่ำ เช่น เชื้อเพลิงอากาศยานยั่งยืนหรือ Sustainable Aviation Fuel (SAF) เทคโนโลยีการดักจับ การใช้ประโยชน์และการกักเก็บคาร์บอน (CCUS) และธุรกิจซื้อขายคาร์บอนเครดิต เพื่อส่งเสริมสร้างวัฒนธรรมคาร์บอนต่ำ

N: Net Zero Ecosystem

สร้างระบบนิเวศเพื่อรองรับการไปสู่เป้าหมาย Net Zero อาทิ การดำเนินธุรกิจขนส่งเชื้อเพลิงโดยบริษัท BFPL การให้บริการและจำหน่ายเชื้อเพลิงทางเลือกคาร์บอนต่ำ การจัดทำแพลตฟอร์มให้เช่ามอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า Winnonie การก่อตั้ง Carbon Markets Club เพื่อส่งเสริมการซื้อขายคาร์บอนเครดิต การร่วมก่อตั้ง Syn Bio Consortium การสร้างวัฒนธรรมคาร์บอนต่ำในองค์กรผ่านโครงการรณรงค์ต่าง ๆ เช่น ‘Bangchak 100x Climate Action ทุกคนช่วยได้” ไปจนถึงโครงการรณรงค์ลดขยะกับลูกค้าและผู้บริโภค เช่น ‘แก้วเพาะกล้า’รักษ์ ปัน สุข’ แล: ‘ขยะกำพร้าสัญจร’ ฯลฯรวมถึงการให้ความสำคัญกับการให้ความรู้และสื่อสารกับผู้ที่มีส่วนได้เสียทางธุรกิจ นำไปสู่การปฏิบัติ เพื่อให้เกิดห่วงโซ่อุปทานที่ยั่งยืน

สุดท้ายในวงการพลังงาน และกลุ่มบริษัทบางจาก ควรให้ความสำคัญกับการสร้างสมดุลระหว่างความท้าทายด้านพลังงาน 3 ประการ (Balancing the Energy Trilemma) ได้แก่ ความมั่นคงด้านพลังงาน (Energy Security) การเข้าถึงพลังงาน (Energy Affordability) และความยั่งยืนของทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม (Environmental Sustainability) ก็ต้องรอดูว่า รัฐบาลชุดใหม่ของไทย จะให้ความสำคัญในเรื่องใดมากที่สุดระหว่าง 3 เรื่องนี้ 

“ปัจจุบัน พอร์ตธุรกิจของบางจากฯ 30% เป็น Carbon Neutral แล้ว และอีก 70% เป็นเรื่องที่กำลังจะปรับปรุงอยู่ ซึ่งก็มีความตั้งใจว่า อย่างน้อยสิ้นปี ค.ศ.2030 จะมี Carbon Neutral และพอร์ตของบางจากฯจะเป็นสีเขียว 50% และอีก 50%เป็นสีเทา”

นายชัยวัฒน์ เปิดเผยถึงความคืบหน้าการดีลซื้อหุ้น บมจ.เอสโซ่ (ประเทศไทย) (ESSO) ด้วยว่า ขณะนี้คณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า (กขค.) ได้แจ้งมติกลับมาแล้ว กำลังปรึกษากับผู้เกี่ยวข้องอยู่ ความคืบหน้าจะแจ้งให้ทราบในโอกาสต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ

กทม. 23 ส.ค.- กรมอุตุฯ เผยทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ เฝ้าระวัง “พายุดีเปรสชัน” มีแนวโน้มทวีกำลังแรงเป็นพายุโซนร้อน กระทบไทย 24-27 ส.ค.นี้ กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่บริเวณภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดตาก จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนตกสะสมที่อาจเกิดขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศลาวตอนบน และเวียดนามตอนบน สำหรับบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบนมีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน และจะขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามและประเทศลาวตอนบน ในช่วงวันที่ 25–26 ส.ค. 68 ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มมากขึ้น กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ กับมีลมแรงบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 24–27 ส.ค. 68 -สำนักข่าวไทย

โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊ก ขรก.มหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน

ทำเนียบ 23 ส.ค.- โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊กข้าราชการมหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน ด้าน “เชษฐา” เป็นอธิบดี ปภ. ราชกิจจานุเบกษา ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงมหาดไทย พ้นจากตำแหน่ง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน 6 ราย ดังนี้ ตั้งแต่วันที่ 21 ส.ค.2568 เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 22 ส.ค.2568 ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี -สำนักข่าวไทย

จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมืองโกงเงินอุดหนุน ก่อนหนีกบดานลาว

22 ส.ค. – ตำรวจภูธรภาค 1 จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมือง โกงเงินอุดหนุน 17.6 ล้านบาท หนีกบดานลาว ก่อนจนมุมถูกจับกุมได้ พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (ผบช.ภ.1), พล.ต.ต.นราเดช ทิพย์รักษ์ รอง ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.วรชาติ แสนคำ ผบก.สส.ภ.1, พล.ต.ต.ธรรมนูญ เชาวะวนิชย์ ผบก.ภ.จว.สระบุรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระพุทธบาท, ตม.จว.หนองคาย, กกต.จว.หนองคาย ร่วมกันจับกุม นายพีระวิทย์ อายุ 47 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ สืบเนื่องจากเมื่อปี 2562 นายพีระวิทย์ เป็นหัวหน้าพรรคการเมือง รับเงินอุดหนุนพรรคการเมือง เพื่อพัฒนาพรรคการเมือง จำนวนประมาณ 17.6 ล้านบาท โดยไม่มีการทำหลักฐานการเบิกจ่าย ทำให้ กกต. เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายพีระวิทย์ และเหรัญญิกพรรค ต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน สภ.พระพุทธบาท โดยเลื่อนการเข้าให้ปากคำและแสดงหลักฐานการเบิกจ่ายเงิน และต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองได้หลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงออกหมายจับในข้อหา […]

“ธีรรัตน์” สั่งผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บาย 24 ชม. รับพายุคาจิกิ

กทม. 22 ส.ค.- “ธีรรัตน์” สั่งการผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บายรับมือผลกระทบ “พายุคาจิกิ” ตลอด 24 ชั่วโมง ย้ำ ประชาสัมพันธ์ข้อมูลให้ประชาชนรับรู้และเตรียมพร้อมอย่างต่อเนื่อง นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า กระทรวงมหาดไทยโดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ติดตามสภาวะอากาศร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับผลกระทบพายุโซนร้อน “คาจิกิ” ซึ่งพบว่าพื้นที่บางส่วนมีความเสี่ยงต้องเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขังในเขตชุมชนเมืองที่เกิดน้ำท่วมขังซ้ำซาก ระหว่างวันที่ 24 – 28 สิงหาคม 2568 ในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ 45 จังหวัด และกรุงเทพมหานคร นางสาวธีรรัตน์ ได้สั่งการผู้ว่าราชการจังหวัด 45 จังหวัด และศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต รวมถึงกรุงเทพมหานคร กำชับให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน และสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด พร้อมกำชับให้จัดทีมปฏิบัติการพร้อมเครื่องจักรกลสาธารณภัยเข้าประจำพื้นที่เสี่ยง เพื่อเข้าเผชิญเหตุและให้การช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงทีตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมประกาศแจ้งเตือนและปิดกั้นพื้นที่ไม่ให้บุคคลใดเข้าพื้นที่หากพบว่ามีความเสี่ยง ในส่วนพื้นที่ชายฝั่ง ให้สั่งห้ามนักท่องเที่ยวเล่นน้ำและห้ามเดินเรือทุกชนิดหากสถานการณ์มีแนวโน้มรุนแรง “ให้ผู้ว่าฯ […]

ข่าวแนะนำ

5 ครอบครัวผู้เสียชีวิตจากระเบิดกัมพูชา ทำพิธีลอยอังคาร

ชลบุรี 24 ส.ค. – 5 ครอบครัวผู้เสียชีวิตจากเหตุกัมพูชายิงจรวดตกใส่ ทำพิธีลอยอังคาร ส่งดวงวิญญาณกลางอ่าวสัตหีบ โดยกองเรือยุทธการอำนวยความสะดวก 5 ครอบครัวผู้เสียชีวิตจากเหตุระเบิดของกัมพูชา เมื่อวันที่ 25 กรกฏาคม ประกอบด้วย ครอบครัวประชัน ซึ่งสูญเสียนางสาวรุ่งรัศ เด็กหญิงทักษพร และเด็กชายพงศภัค ครอบครัวเด็กชายกิตติศักดิ์ คำวัง ครอบครัวนางสาวอรุณรัตน์ วันศรี ครอบครัวนายสมศรี ลาภบุญ และครอบครัวนางสาวสาวิตรี อ่อนทรวง นำอัฐิผู้เสียชีวิต เดินทางจากจังหวัดศรีสะเกษ มายังกองเรือยุทธการ ตำบลสัตหีบ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี เพื่อทำพิธีลอยอังคาร ส่งดวงวิญญาณ โดยกองเรือยุทธการอำนวยความสะดวก สนับสนุนที่พัก รวมทั้ง จัดเรือกร.702 นำครอบครัวผู้เสียชีวิตไปประกอบพิธีกลางอ่าวสัตหีบ พิธีเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและสมเกียรติ ทุกคนต่างบอกว่า แม้จะผ่านมา 1 เดือน แต่ก็ยังทำใจไม่ได้ โดยเฉพาะครอบครัวประชัน ที่ต้องภรรยาและลูกอีก 2 คนไปพร้อมกัน.-สำนักข่าวไทย

ทบ. ตรวจสอบสาเหตุพลทหารเสียชีวิตที่ปราสาทตาเมือนธม

24 ส.ค. – กองทัพบกได้รับรายงานการเสียชีวิตของกำลังพลบริเวณปราสาทตาเมือนธม ปัจจุบันอยู่ระหว่างการตรวจสอบสาเหตุ พร้อมให้การช่วยเหลือเยียวยาตามสิทธิอย่างครบถ้วน กองทัพบกขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวของ พลทหาร พิทยุตท์ โสดา กำลังพลสังกัด กองพันทหารราบที่ 21 หน่วยเฉพาะกิจที่ 2 ซึ่งเสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ชายแดนไทย – กัมพูชา เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2568 เวลา 18.15 น. โดยพบร่างผู้เสียชีวิตภายในห้องสุขา บริเวณหน้าปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ พลทหารพิทยุตท์ โสดา อายุ 20 ปี เป็นทหารกองประจำการ รุ่นปี 1/67 จากการสมัครใจเข้ามารับราชการในโครงการพลทหารออนไลน์ ปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่ง พลปืนเล็ก หมู่ปืนเล็กที่ 2 หมวดปืนเล็กที่ 1 สังกัด กองร้อยทหารราบที่ 211 กองพันทหารราบที่ 21 หน่วยเฉพาะกิจที่ 2 จากการตรวจสอบเบื้องต้น ผู้เสียชีวิตไม่มีโรคประจำตัว ไม่มีประวัติเสพยาเสพติด ไม่มีภาวะความเครียด […]

แจงปมเลขบัตรประชาชน “หลวงพ่ออลงกต” ซ้ำคนตาย

กทม. 24 ส.ค.-กรมการปกครอง แจงปม “เลขประจำตัวประชาชน” หลวงพ่ออลงกต ซ้ำกับคนตาย ส่วนการเปิดพร้อมเพย์ เลขบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ตาย ซึ่งตรงกับบัญชีกองทุนอาทรประชานาถ เป็นการดำเนินการโดยธนาคารพาณิชย์ กรณีมีรายงานว่า หลวงพ่ออลงกต วัดพระบาทน้ำพุ ซึ่งมีชื่อเดิมว่า นายอลงกต พูลมุข มีชื่อซ้ำกับ นายอลงกต พลมุข ที่มีภูมิลำเนาที่ อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา และได้เสียชีวิตไปแล้วนั้น รวมทั้งวันเดือนเกิดยังตรงกัน ต่างกันเพียงปีเกิด ล่าสุดเฟซบุ๊ก กรมการปกครอง fanpage ได้โพสต์ข้อความถึงประเด็นดังกล่าว โดยระบุว่า “กรมการปกครอง ชี้แจงกรณีเลขบัตรประจำตัวประชาชนของหลวงพ่ออลงกต ตามที่ปรากฏข้อมูลจากสื่อมวลชนว่า ‘หลวงพ่ออลงกต มีเลขประจำตัวประชาชนตรงกับนายอลงกต พลมุข ซึ่งเป็นบุคคลที่เสียชีวิตแล้ว’ นั้น สำนักบริหารการทะเบียน กรมการปกครอง ได้ตรวจสอบฐานข้อมูลทะเบียนราษฎรของกรมการปกครอง พบว่า พระราชวิสุทธิประชานาถ หรือ หลวงพ่ออลงกต เลขประจำตัวประชาชน x-xxxx-xxx036-50-7 ชื่อจริง อลงกต พูลมุข นามสกุล พูลมุข มีสระอู เกิดปี […]

“คาจิกิ” ทวีกำลังเป็นพายุไต้ฝุ่น ส่งผลให้ไทยฝนตกเพิ่มทุกภาค

กรุงเทพฯ 24 ส.ค.- กรมอุตุฯ ออกประกาศระบุ ช่วงเช้าที่ผ่านมา พายุโซนร้อน “คาจิกิ” ในทะเลจีนใต้ ได้ทวีกำลังแรงเป็นพายุไต้ฝุ่น เตือน 57 จังหวัด เฝ้าระวังฝนตกหนักถึงหนักมาก ตั้งแต่วันที่ 24-27 ส.ค.68 นายสมควร ต้นจาน ผู้อำนวยการกองพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า พายุโซนร้อน “คาจิกิ” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง ทวีกำลังแรงเป็นพายุไต้ฝุ่น “กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตก ค่อนไปทางเหนือเล็กน้อย และมีแนวโน้มที่จะเคลื่อนเข้าสู่อ่าวตังเกี๋ย ก่อนจะขึ้นฝั่งตอนบนของ ประเทศเวียดนาม และ สปป.ลาว ในช่วงวันที่ 25–26 สิงหาคมนี้ ขอบด้านหน้าของพายุ เริ่มส่งผลกระทบต่อไทยตั้งแต่วันนี้ โดยเฉพาะพื้นที่ด้านตะวันออกของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะมีเมฆฝนเพิ่มขึ้น จากนั้นจะมีฝนตก ก่อนขยายไปยังภาคกลาง รวมทั้ง กรุงเทพฯ และปริมณฑล ภาคตะวันออก และ ภาคใต้ ในช่วงวันถัดไป กรมอุตุนิยมวิทยาเตือนว่า อิทธิพลของพายุ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ที่มีกำลังแรง จะทำให้มีฝนตกเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะ […]