ธปท.จี้ทุกภาคส่วนเปลี่ยนเกมธุรกิจสู่ ESG รับมือกีดกันทางการค้า

กรุงเทพ 25 ก.ค.-ธปท.จี้ทุกภาคส่วนผนึกกำลังเปลี่ยนเกมธุรกิจสู่ ESG รับมือกีดกันทางการค้า ทางด้านโออาร์ พร้อมเปิดตัวซูเปอร์แอปพลิเคชั่น Xplore เชื่อมโยงชุมชนเข้าสู่ออนไลน์ ส่วน EXIM Bank เรียกร้องสถาบันการเงินผนึกกำลังหนุนเอสเอ็มอีปรับตัวสู่ ESG และบางจากฯ ลุยก่อสร้างโรงงานผลิตเชื้อเพลิงอากาศยานยั่งยืน SAF ปริมาณ 1 ล้านลิตรต่อวัน ใน 2 ปี ตอบโจทย์ลดโลกร้อน พร้อมนำเทคโนโลยีบล็อกเชนพัฒนา “Book and Claim” รองรับซื้อขายSAF เคลมคาร์บอนเครดิต คาดเสร็จภายใน 1-2 ปีนี้ 


นายรณดล นุ่มนนท์ รองผู้ว่าการด้านเสถียรภาพสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวปาฐกถาพิเศษในงานสัมมนา “ESG Game Changer” จัดโดย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า วันนี้เรารอไม่ได้ในเรื่องของโลกที่รวนขึ้นทุกวัน โดยเราอยู่ในจุดที่ต้องตั้งคำถามถึงความสำคัญของการทำธุรกิจที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เนื่องจากเราเห็นภัยพิบัติที่หนักหน่วงมากขึ้น ทั้งอากาศที่ร้อนนานขึ้น แล้งนานขึ้น ฝนตกหนักขึ้น ขณะเดียวกัน ประเทศไทยอยู่อันดับท้าย ๆ ของการจัดอันดับขีดความสามารถในการรับมือภัยพิบัติ โดยอยู่อันดับที่39 จากการจัดอันดับทั้งหมด 48 ประเทศ ซึ่งหากไม่รีบดำเนินการอะไร ภายในปี 2050 เศรษฐกิจไทยจะได้รับผลกระทบถึง 43% ของ GDP

นอกจากนี้ ยังมีแรงกดดันเรื่องมาตรการต่าง ๆ จากต่างประเทศ ตลอดจนวิธีปฏิบัติของบริษัทต่างชาติว่าด้วยการจัดการการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ซึ่งแน่นอนว่าสิ่งเหล่านี้ประเทศไทยจะต้องปรับตัวเพื่อรับมือ โดยสหภาพยุโรปจะเก็บภาษีคาร์บอนสินค้าข้ามแดนเริ่ม 1 ตุลาคมนี้ คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อบริษัทมากกว่า 1,000 บริษัท แล้วจะมีผลกระทบต่อมูลค่าการส่งออกถึง 18,000 ล้านบาท 


ขณะที่ประเทศญี่ปุ่นเองก็เปลี่ยนการผลิตรถจากรถสันดาปเป็นรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งต่อไปจะส่งผลกระทบต่อการผลิตชิ้นส่วนกว่า 30,000 ชิ้น จะเหลือแค่ไม่ถึง 3,000 ชิ้น แน่นอนว่าจะส่งผลกระทบต่อภาคส่งออกของไทย ดังนั้นอุตสาหกรรมรถยนต์ของไทยจะอยู่ในโลกใบเก่าไม่ได้แล้ว นอกจากนี้ ภาคเกษตร ภาคการท่องเที่ยวก็ต้องปรับตัวอย่างจริงจัง

ทั้งนี้ ในส่วนของภาคการเงิน ก็คงเป็นภาคหนึ่งที่ต้องสนับสนุนการปรับตัวของภาคธุรกิจไทย โดย ธปท.ให้ความสำคัญกับเรื่อง ESG มาโดยตลอด อย่างในด้านสังคมก็มีการดำเนินการในเรื่องคลินิกแก้หนี้ ด้านธรรมาภิบาลก็มีการออกเกณฑ์ของสถาบันการเงินให้ดำเนินธุรกิจอย่างเป็นธรรม ล่าสุดก็มีแนวทางการแก้ไขหนี้ครัวเรือนอย่างยั่งยืนออกมา

นายฐาปน สิริวัฒนภักดี กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.ไทยเบฟเวอเรจ กล่าวในงานสัมนา ESG : Game Changer ว่า การทำ ESG ไม่ใช่ทางเลือกอีกต่อไป แต่เป็นสิ่งจำเป็น เพราะผลกระทบจากภาวะโลกร้อนที่เห็นได้ชัดทั่วโลกไม่ว่าจะเป็นความร้อนทะลุ 45 องศาเซลเซียสในฝั่งโลกตะวันตก ฝนตกหนักผิดปกติในฝั่งตะวันออก เป็นต้น อย่างไรก็ตามการทำ ESG นั้นมีความท้าทายหลายด้านทั้งปัจจัยภายในและภายนอก อย่าง การบริหารจัดการทั้งใน-นอกองค์กรการระบาดของโควิด-19 ฯลฯ สะท้อนจากที่ประชาคมโลกพยายามลดเป้าควบคุมการเพิ่มของอุณหภูมิเฉลี่ยลงตั้งแต่2 องศา เป็น 1.5 องศา จนปัจจุบันอยู่ที่ 1 องศา ซึ่งยังไม่ชัดเจนว่าจะสามารถบรรลุเป้าได้หรือไม่แต่แม้จะท้าทายก็เป็นเรื่องจำเป็นที่ต้องทำให้ได้ เพราะอุณหภูมิที่เพิ่มขึ้นนี้เหมือนมนุษย์ที่เป็นไข้ อุณหภูมิเพิ่มจาก 37 องศาเซลเซียสเป็น 39 องศาเซลเซียสก็วิกฤติมากแล้ว 


สำหรับแนวทางของไทยเบฟนั้น ได้ตั้งเป้าหมายด้าน ESG เช่น ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็น 0 และคืนน้ำสู่ธรรมชาติและชุมชนให้ได้ 100% ภายในปี 2583 ขณะที่ 80% ของยอดขายเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ต้องมากจากเครื่องดื่มสุขภาพภายในปี 2573 รวมถึง 100% ของคู่ค้ากลุ่มกลยุทธ์ต้องจัดทำและบังคับใช้จรรญาบรรณสำหรับคู่ค้าของตนเอง ทั้งนี้เชื่อว่า ESG น่าจะสามารถผลักดันการเติบโตที่ยั่งยืนให้กับธุรกิจไปพร้อมกับสร้างโลกที่น่าอยู่ได้แน่นอน

นายดิษทัต ปันยารชุน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก หรือโออาร์ เปิดเผยระหว่างงานสัมมนา ESG Game Changer ในหัวข้อ สร้าง “ความยั่งยืน” ให้เป็นจริง ว่าต้องการอยากให้เห็นว่าโออาร์นั้น ได้ทำอะไรให้กับสังคมและสิ่งแวดล้อม ซึ่งบางคนมองว่าเป็นผู้ค้าน้ำมัน และช่วงนี้ราคาน้ำมันขึ้นอาจจะไม่ค่อยรัก แต่ในมุมของ ESG ความยั่งยืนที่ปฏิบัติ ซึ่งก็ยังดำเนินการและยังไม่ได้หยุดไปนั้น ได้ส่งเสริมและสร้างการเติบโตให้กับสังคมอย่างมากมาย พร้อมกันนี้ OR ยังให้ความสำคัญกับ 4 พันธกิจ ได้แก่ SEAMLMESS MOBILITY การพัฒนาในเรื่องของเทคโนโลยีและเชื่อมโยงที่ให้ไร้รอยต่อโดยต้องการให้เกิดการใกล้ชิด แม้ว่าพลังงานจะไปอยู่ที่ทางไหน ก็จะเชื่อมโยง เชื่อมต่อให้เข้ากับการให้บริการ ALL LIFESTYLES เราไม่ได้ทำธุรกิจขายน้ำมันเพียงอย่างเดียว แต่เรายังมีธุรกิจใหม่ด้วย และอีก 3 เดือนจะเห็นธุรกิจของเรา คือ เรื่องของความสวยความงามด้านสุขภาพ ซึ่งมองว่าเป็นธุรกิจเป้าหมายเพราะสังคมกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุซึ่งมีมากขึ้น เรามองกลุ่มธุรกิจนี้และพร้อมจะให้โอกาสของผู้ค้าของเข้ามาอยู่

ด้าน GLOBAL MARKET เราประสบความสำเร็จในกลุ่มของธุรกิจซึ่งพร้อมที่จะขยายเพื่อหาโอกาสในการทำธุรกิจในต่างประเทศซึ่งมีอยู่มากกว่า 10 ประเทศ เช่น สปป.ลาว กัมพูชา ฟิลิปปินส์ เมียนมาร์ และโอมาน เราเข้าไปอยู่ในทุก ๆแห่งโดยธุรกิจเราไม่หยุดที่จะดำเนินธุรกิจในประเทศไทยเท่านั้น แต่เรามองหาโอกาสในต่างประเทศและพร้อมที่จะไขว่คว้า เพราะในประเทศไทยยังมีข้อจำกัด และผู้กำกับดูแล เราจะแสวงหาโอกาสที่ขยายธุรกิจออกไป

OR INNOVATION เรามีแนวคิดที่แตกต่าง การที่เราจะสร้างความแตกต่าง จากปัจจุบันเรามีสถานีบริการ เราจะพัฒนาไปอยู่ในออนไลน์ และจะเข้าไปในอยู่ออนไลน์ 50% โดยในเดือนสิงหาคมนี้ เราจะเปิด application ชื่อว่าXplore ซึ่งจะเป็นแอปพลิเคชั่นที่เข้าไปใกล้ชิดกับลูกค้ามากขึ้น ไม่ใช่เป็นแค่ application ของ OR แต่เป็นองกลุ่มของปตท. ซึ่งเรามีผลิตภัณฑ์มากมาย ธุรกิจ EV ยาที่เรากำลังพัฒนาอยู่ เราทำงานเป็นกลุ่มจะเป็น application ที่ใหญ่ที่สุดของ ปตท.  และแอปฯนี้จะเป็นซูเปอร์แอปฯ ของ ปตท.ที่มีความเข้มแข็งมากขึ้น แต่อย่างไรก็ตามแอปพลิเคชั่นนี้จะมีประโยชน์กับชุมชนและสังคม ซึ่งจะเป็น marketplace รวบรวมผลิตภัณฑ์ที่อยู่ในเครือข่ายของเรา และเราจะนำขึ้นมาอยู่บนแอปพลิเคชั่น คนก็จะมีโอกาสสามารถขายของบนแอปพลิเคชั่นของเราฟรี

สำหรับชุมชนและสังคมที่ดูแลอยู่สู่ความยั่งยืน SDG เป็นภาพใหญ่ของสหประชาชาติ แต่สิ่งที่เดินหน้า การให้โอกาสคนตัวเล็กเป็นสิ่งที่ทำอยู่ การให้โอกาสทุกรูปแบบเพื่อให้วิสาหกิจชุมชน สังคม เข้ามาอยู่ในเครือข่ายของ เพราะไม่สามารถทำธุรกิจได้คนเดียวและเมื่อเขาทำธุรกิจร่วมกัน ก็ต้องเข้าไปดูแลและไม่หยุดที่จะคิด และสร้างการเติบโตไปด้วยกัน นอกจากนี้ SDG และ ESG สร้างความเชื่อมโยงกันและสอดคล้องกันด้วย ทั้งนี้ ความคิดของโออาร์เองยังไม่ได้มองเรื่องของ green เป็นต้นทุน แต่มองเป็นเรื่องของการสนับสนุน เป็นเรื่องเอาพลังงาน หากนำกลับมาใช้ก็คือการบริหารต้นทุน การใส่เงินเข้าไปให้โอกาสการทำธุรกิจให้ความยั่งยืน ไม่เคยคิดว่าเป็นต้นทุน ซึ่งเป็นแนวคิดของการวางกลยุทธ์และโปรแกรมต่าง ๆ มากมายด้วย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

‘ฮุน เซน’ ไลฟ์สดกล่าวถึงปัญหาไทย-กัมพูชา

พนมเปญ 27 มิ.ย. – วันนี้นายฮุนเซน ไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊กแต่เช้า พูดถึงเรื่องปัญหาความขัดแย้งไทยกับกัมพูชา สรุปประเด็นได้ดังนี้ 7. ประเด็นอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร นายฮุน เซนกล่าวว่า เมื่อตอนที่เดินทางมาเยี่ยมนายทักษิณที่ประเทศไทย เห็นกับตาว่า เวลานายทักษิณจะถ่ายรูปด้วยกัน ต้องหยิบปลอกคอทางการแพทย์มาสวมก่อน พอถ่ายรูปเสร็จก็ถอดออก แล้วไปกินข้าวด้วยกันเป็นปกติ 8.นายฮุน เซนระบุว่า กัมพูชาจะไม่อนุญาตให้ชาวต่างชาติดูหมิ่นกองทัพหรือผู้นำกองทัพ และนายฮุน เซน ถือว่าการกระทำของนางสาวแพทองธาร ต่อแม่ทัพภาคที่ 2 ของไทย ถือเป็นการหมิ่นเบื้องสูง.-810.-สำนักข่าวไทย

เช็กโผ ครม.ล่าสุด นายกฯ นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม

ทำเนียบฯ 27 มิ.ย. – คืบหน้า ครม.ใหม่ นายกฯ นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม โยก “สุดาวรรณ” นั่ง รมว.อว. ขณะที่ หลานชาย สุริยะ “พงศ์กวิน” นั่ง รมว.แรงงาน ความคืบหน้าในการปรับคณะรัฐมนตรี ( ครม.) ชุดใหม่ ล่าสุดมีรายงานว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เตรียมนำรายชื่อคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ขึ้นทูลเกล้าฯ แล้ว โดยโผ ครม.ล่าสุด น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะนั่งควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม โดย น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม จะไปดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ส่วนนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะไปดำรงตำแหน่ง รองนายกรัฐมนตรี ควบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายจักรพงษ์ แสงมณี จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ […]

เร่งหาทอง 38 บาท หลังคนร้ายจบชีวิต หนีความผิด

ชลบุรี 27 มิ.ย. – คนร้ายบุกชิงทอง 38 บาท กลางห้างดังชลบุรี โดดคอนโด หนีความผิด หลังก่อเหตุ 2 ชม. ค้นบ้านเจอเอกสารทวงหนี้จำนวนมาก ตำรวจเร่งหาที่ซ่อนทอง ช่วงสายวานนี้ ประมาณ 09.30 น. เกิดเหตุคนร้าย เป็นชาย สวมเสื้อแขนยาวสวมหมวกใส่แมสก์ปิดบังใบหน้า เข้ามาใช้ปืนจี้พนักงานก่อเหตุชิงทอง ห้างทองภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง สาขาบ้านสวน อำเภอเมืองชลบุรี ได้ทองรูปพรรณไปทั้งหมดรวม 38 บาท ซึ่งขณะหลบหนี ดาบตำรวจสมปอง ฟองดา ผบ.หมู่ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนภูธรภาค 2 เห็นเหตุการณ์พอดี พยายามกระโดดขวางและเข้าชาร์จตัวผู้ก่อเหตุ จังหวะนั้นผู้ก่อเหตุ ได้ยิงเพื่อเปิดทางหนึ่งนัด กระสุนโดนหมวกกันน็อกดาบตำรวจสมปอง จนเป็นรู และสามารถแย่งปืนมาได้ แต่ไม่สามารถจับตัวได้ คนร้ายวิ่งหนีออกจากห้างไปอย่างรวดเร็วตำรวจในพื้นที่เร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิด เพื่อติดตามเส้นทางหลบหนี แต่ผ่านไปเพียง 2 ชั่วโมง ประมาณ 11.30 น. ตำรวจ สภ.ดอนหัวฬ่อ ได้รับแจ้งคนตกจากคอนโดมีเนียม จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมกู้ภัย […]

พบระเบิดอีกที่หาดสุรินทร์

ภูเก็ต 27 มิ.ย.-พบระเบิดอีก 1 ชุดที่หาดสุรินทร์ จ.ภูเก็ต ชุด EOD เข้าทำลายแล้ว เร่งค้นหาว่ามีจุดวางระเบิดอีกหรือไม่ หลังคนร้ายรับสารภาพวางระเบิดไว้ที่หาดสุรินทร์ 2 จุด ภายหลังจากตำรวจจับผู้ต้องหาลอบวางระเบิดสถานที่ท่องเที่ยวทั้งที่จังหวัดภูเก็ตและกระบี่ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ยังได้วางระเบิดไว้ที่หาดสุรินทร์ 2 จุด คือที่บริเวณหาดสุรินทร์ ตำบลเชิงทะเล อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ใกล้กับสถานที่กำลังก่อสร้าง ขณะนี้เจ้าหน้าที่ชุด EOD ตำรวจภูธรภาค 8 ชุดสืบสวนภาค 8 ชุดสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เชิงทะเล เจ้าหน้าที่ อบต.เชิงทะเล และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณหาดสุรินทร์ พร้อมอุปกรณ์และเครื่องมือสแกนหาวัตถุต้องสงสัย และเครื่องตรวจจับโลหะ และตรวจพบวัตถุต้องสงสัย 1 ชุด ถูกฝังไว้ใต้ต้นไม้ ใกล้ห้องน้ำ บริเวณที่กำลังมีการปรับปรุงภูมิทัศน์หาดสุรินทร์ ของกรมโยธาธิการและผังเมือง และเจ้าหน้าที่ EOD ใช้ยุทธวิธีในการทำลาย อย่างไรก็ตามขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังค้นหาว่าจะมีจุดวางระเบิดอีกหรือไม่ เพราะจากคำสารภาพของผู้ต้องหา ระบุว่า มีการนำวัตถุต้องสงสัยมาวางไว้ […]

ข่าวแนะนำ

เพลิงไหม้หอพักพยาบาล รพ.ศิริราช

กทม. 29 มิ.ย. – เพลิงไหม้ภายในหอพักพยาบาล รพ.ศิริราช เจ้าหน้าที่คุมเพลิงได้แล้ว ช่วยผู้ติดค้างออกมาได้อย่างปลอดภัย วันที่ 29 มิถุนายน 2568 เวลา 12.30 น. รับแจ้งจากศูนย์วิทยุร่วมไทร เหตุเพลิงไหม้ภายในหอพักพยาบาล (แปดไร่) โรงพยาบาลศิริราช ถนนรถไฟ แขวงศิริราช เขตบางกอกน้อย เจ้าหน้าที่ดับเพลิงและกู้ภัยบางขุนนนท์ สปภ.กทม. ถึงที่เกิดเหตุ พบกลุ่มควันจำนวนมากบริเวณชั้นใต้ดิน จึงทำการตรวจสอบและอพยพผู้ที่ติดค้างด้านบนลงมา เวลา 12.55 น. พบจุดต้นเพลิงบริเวณชั้นใต้ดิน เจ้าหน้าที่ดำเนินการใช้น้ำทำการดับ มีผู้ติดค้างภายในลิฟต์ชั้นที่ 12 เจ้าหน้าที่และช่างลิฟต์ประจำอาคาร ได้ทำการช่วยเหลือออกมาได้อย่างปลอดภัย เวลา 13.04 น. เพลิงสงบ .-สำนักข่าวไทย

กองกำลังบูรพา ผ่อนผันให้รถขนส่งสินค้าผ่านแดน

29 มิ.ย.- กองกำลังบูรพา ผ่อนผันให้รถขนส่งสินค้า ผ่านเข้า-ออก 3 ด่านชายแดนไทย-กัมพูชา โดยจำกัดเวลา-จำนวนคัน เริ่มวันนี้ (29 มิ.ย.) และให้แล้วเสร็จใน 7 วัน ลดผลกระทบความเดือดร้อนของประชาชนตามหลักมนุษยธรรม กองกำลังบูรพา ออกประกาศ เรื่อง การควบคุมด่านชายแดนไทย-กัมพูชา 1. ตามที่นายกรัฐมนตรีได้เดินทางมาตรวจราชการ และประชุมหารือประเด็นผลกระทบมาตรการการควบคุมด่านชายแดนไทย-กัมพูชา เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2568 โดยให้หน่วยงานความมั่นคง ประชุมหารือกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ในการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการการควบคุมชายแดน และที่ประชุมศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ได้มีมติเมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2568 ให้มีการผ่อนผันให้รถขนส่งสินค้าไทยที่ตกค้าง และรถขนส่งสินค้าตามใบขนสินค้าขาออก หรือใบขนสินค้าผ่านแดน ที่ได้ส่งข้อมูลเข้ามาในระบบคอมพิวเตอร์ของกรมศุลกากร ก่อนวันที่ 25 มิถุนายน 2568 ข้ามไปยังกัมพูชาและกลับเข้ามายังราชอาณาจักรไทย 2. เพื่อเป็นการลดผลกระทบความเดือดร้อนของประชาชนตามหลักมนุษยธรรม และเพื่อให้การปฏิบัติการควบคุมสอดคล้องกับการดำเนินการตามข้อ 1 กองกำลังบูรพา จึงขอประสานให้หน่วยที่เกี่ยวข้องดำเนินการ ดังนี้2.1 ให้ผ่านเข้า-ออก ณ จุดผ่านแดนถาวรสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา บ้านหนองเอี่ยน-สตึงบท ได้วันละไม่เกิน […]

นายกฯ นำรายชื่อ ครม. ขึ้นทูลเกล้าฯ แล้ว

เพื่อไทย 29 มิ.ย. – โฆษกพรรคเพื่อไทย เผยนายกฯ นำชื่อ ครม. ขึ้นทูลเกล้าฯ แล้ว รอหารือที่ประชุมพรรค 3 ก.ค.นี้ หลังมี สส.อีสาน ทวงเก้าอี้รองประธานสภาฯ คนที่ 2 นายดนุพร ปุณณกันต์ สส.บัญชีรายชื่อและโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงความคืบหน้าการปรับคณะรัฐมนตรี ว่า ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนสำคัญ ทราบว่าทางทำเนียบรัฐบาลได้นำขึ้นทูลเกล้าฯ แล้ว ขอให้รอขั้นตอนต่อไปว่าจะมีการโปรดเกล้าฯ ลงมาเมื่อใด ส่วนกรณีมีกระแสข่าวว่า สส.ภาคอีสานพรรคเพื่อไทยทวงโควตาเก้าอี้รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 หลังผิดหวังจากโผ ครม. นายดนุพร กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องมีการพูดคุยกัน ซึ่งในการปรับคณะรัฐมนตรีทุกครั้ง ทุกพรรคมีแรงกระเพื่อมหมด ซึ่งแน่นอนว่ามีคนอยากเข้าไปทำงานเป็นเรื่องปกติ โดยในวันที่ 2 ก.ค.นี้ จะมีการประชุม สส.พรรคเพื่อไทย ก่อนเปิดสมัยประชุมสภาในวันที่ 3 ก.ค. จะมีการพูดคุยถึงขั้นตอนหลายๆ อย่าง ส่วนเรื่องการเลือกรองประธานสภาฯ คนใหม่ ได้รับแจ้งว่าน่าจะก่อนวันที่ 15 ก.ค. ส่วนพรรคเพื่อไทยจะส่งใครเป็นตัวแทน […]

ปชน.ประณามแกนนำม็อบปราศรัยเจตนาปูทางรัฐประหาร

พรรคประชาชน 29 มิ.ย.-พรรคประชาชน ประณามแกนนำผู้ชุมนุมปราศรัยปลุกปั่นชาตินิยม เจตนาปูทางรัฐประหาร ย้ำทางออกจากวิกฤตการเมือง คือ ยุบสภา เปิดทางเลือกตั้งใหม่  พรรคประชาชนแสดงความเห็นถึงการชุมนุมเมื่อวานนี้ (28 มิ.ย.) ว่า ความเห็นของพรรคประชาชนต่อการชุมนุมของ “คณะรวมพลังแผ่นดิน” การชุมนุมที่นำโดย “คณะรวมพลังแผ่นดิน” เมื่อวันที่ 28 มิถุนายนที่ผ่านมานี้ ณ อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ แม้จะมีข้อเรียกร้องอย่างเป็นทางการให้นายกรัฐมนตรี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ลาออก และให้พรรคร่วมรัฐบาลถอนตัวจากการสนับสนุนรัฐบาล ซึ่งเป็นข้อเรียกร้องตามปกติในระบอบประชาธิปไตย แต่ปรากฏว่า การปราศรัยของแกนนำบนเวทีบางคนกลับมีเนื้อหาที่เปิดทางให้กับการรัฐประหาร รวมถึงมีการปลุกปั่นกระแสชาตินิยมที่เกินเลยขอบเขต  พรรคประชาชนขอประณามการสร้างความชอบธรรมให้กับการรัฐประหาร ซึ่งเป็นการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญและระบอบประชาธิปไตยอย่างร้ายแรง  พรรคประชาชนขอเรียกร้องให้พี่น้องประชาชนที่สนับสนุนการชุมนุมด้วยความไม่พอใจต่อนายกรัฐมนตรีและรัฐบาล ถอนตัวจากการสนับสนุนคณะรวมพลังแผ่นดิน ที่มีแกนนำบางคนมีเจตนาสนับสนุนการรัฐประหารและการแทรกแซงการเมืองด้วยวิถีทางนอกประชาธิปไตย เพราะแม้ว่าการแสดงออกทางการเมืองด้วยการชุมนุมประท้วงจะเป็นสิทธิเสรีภาพของประชาชน แต่พวกเราคนไทยต่างได้รับบทเรียนอย่างดีแล้วว่า 20 ปีที่ผ่านมา ประเทศชาติและประชาชนบอบช้ำเสียหายอย่างไม่อาจประเมินได้จากการรัฐประหาร 2 ครั้ง และปัญหาการเมืองของเราไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยวิถีทางนอกประชาธิปไตย ผลพวงจากการรัฐประหารกลับซ้ำเติมปัญหาการใช้อำนาจอย่างฉ้อฉล การคอร์รัปชัน กระบวนการยุติธรรมที่บิดเบี้ยว และการเอื้อประโยชน์ต่อพวกพ้องและกลุ่มทุนผูกขาดเสียด้วยซ้ำ วันนี้เราต้องไม่ยินยอมให้ใครฉวยโอกาสเอาความผิดพลาดล้มเหลวของนายกรัฐมนตรีและรัฐบาล มาเปิดทางให้กับการรัฐประหารหรือการแก้ปัญหาการเมืองด้วยวิถีทางที่ขัดต่อประชาธิปไตยอีก ซึ่งมีแต่จะก่อวิกฤตซ้ำซ้อนทั้งทางการเมืองและเศรษฐกิจมากยิ่งขึ้น พรรคประชาชน ขอยืนยันว่า ทางออกจากวิกฤตการณ์ทางการเมืองในขณะนี้ที่ดีที่สุด คือหนทางปกติตามระบบรัฐสภา […]