นำทัพบุกตลาดฮ่องกง-ปักกิ่งเร่งขยายตลาดข้าวและมันสำปะหลัง

นนทบุรี 23 มิ.ย.-อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศเดินหน้าลุยตลาดฮ่องกงและปักกิ่ง เร่งสร้างความเชื่อมั่นและขยายตลาดข้าวหอมมะลิไทยและมันสำปะหลัง พร้อมหารือหน่วยงานสำคัญของจีนสร้างความร่วมมือและแก้ไขปัญหาอุปสรรคทางการค้า มั่นใจข้าวไทยปีนี้ส่งออกเกิน 8 ล้านตัน แม้จะเกิดภัยแล้งแต่ทั่วโลกประสบปัญหานี้ด้วยทำให้ความต้องการข้าวไทยยังสูง


นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมฯ ได้เร่งเดินหน้ากระชับความสัมพันธ์ทางการค้า เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและขยายตลาดข้าวหอมมะลิไทยและมันสำปะหลังในตลาดต่างประเทศ ซึ่งกรมฯ ได้จัดคณะผู้แทนภาครัฐและเอกชนเดินทางเยือนเขตเศรษฐกิจพิเศษฮ่องกง เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม – 2 มิถุนายน 2566 และกรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน เมื่อวันที่ 11 – 15 มิถุนายน 2566 ที่ผ่านมา โดยในการเยือนเขตเศรษฐกิจพิเศษฮ่องกง กรมฯ ได้พบปะหารือกับกรมการค้าและอุตสาหกรรมของฮ่องกง (Trade and Industry Department: TID) ในประเด็นต่างๆ อาทิ การควบคุมคลังสินค้า ถิ่นกำเนิดสินค้า กฎระเบียบทางการค้า ใบอนุญาตส่งออก เป็นต้น ตลอดจนการทำและการบังคับใช้ความตกลงการค้าเสรี (Free Trade Agreement) ในกรอบทวิภาคีและพหุภาคี ซึ่งอธิบดีกรมการค้าและอุตสาหกรรมของฮ่องกง (Ms. Maggie Wong) ได้ขอบคุณรัฐบาลไทยที่ช่วยสนับสนุนฮ่องกงในกระบวนการสมัครเข้าร่วมเป็นสมาชิกความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (Regional Comprehensive Economic Partnership: RCEP) ซึ่งความตกลงดังกล่าวจะช่วยส่งเสริมและขยายมูลค่าการค้าระหว่างฮ่องกงและประเทศสมาชิก เนื่องจากฮ่องกงเป็นเมืองปลอดภาษี และเปรียบเสมือนเป็นประตูในการกระจายสินค้าเข้าสู่ทั่วประเทศจีน

นอกจากนี้ กรมฯ ยังนำกลุ่มสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย ประกอบด้วย ร.ต.ท.เจริญ เหล่าธรรมทัศน์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย และ นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกกิตติมศักดิ์ของสมาคมฯรวม 16 ราย เข้าพบหารือกับสมาคมผู้นำเข้าข้าวฮ่องกงและบริษัทผู้นำเข้าข้าวฮ่องกงรายสำคัญ ซึ่งบรรยากาศในการหารือเป็นไปด้วยความเชื่อมั่นและสะท้อนให้เห็นถึงความสัมพันธ์อันดี เนื่องจากทั้งสองฝ่ายเป็นคู่ค้ากันมาอย่างยาวนาน โดยที่ประชุมได้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลการค้าข้าวระหว่างกัน


ปัจจุบันฮ่องกงเป็นตลาดส่งออกข้าวที่สำคัญของไทย ในแต่ละปีไทยส่งออกข้าวไปฮ่องกง ประมาณ 170,000 – 188,000 ตัน โดยประมาณ 70 – 80 % เป็นการส่งออกข้าวหอมมะลิไทย โดยฮ่องกงอยู่อันดับ 1 ใน 3 ของตลาดข้าวหอมมะลิไทยมาโดยตลอด และข้าวไทยยังคงครองส่วนแบ่งตลาดข้าวฮ่องกงเป็นอันดับ 1 คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 60 % ของตลาดข้าวฮ่องกง และในส่วนการนำคณะผู้แทนภาครัฐและภาคเอกชนพบปะหารือและกระชับความสัมพันธ์ทางการค้ากับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนของจีน ณ กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยกรมฯ ได้เข้าพบหารือกับองค์การบริหารจัดการกฎระเบียบตลาดแห่งรัฐของจีน (State Administration for Market Regulation: SAMR) ซึ่งกรมฯ ได้ขอบคุณ SAMR ที่สั่งปิดโรงงานและดำเนินคดีอย่างรวดเร็วกับโรงงานที่นำข้าวที่ปลูกในจีนแอบอ้างเป็นข้าวหอมมะลิไทยและวางจำหน่ายในจีน

ทั้งนี้ กรมฯ ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับคุณภาพ/มาตรฐานข้าวหอมมะลิไทย และวิธีการสังเกตหรือเลือกซื้อข้าวหอมมะลิไทยที่ส่งจากประเทศไทย ซึ่งทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องกันว่า กรณีตรวจพบการปลอม/แอบอ้างเป็นข้าวหอมมะลิไทย และการปลอมแปลงตราสินค้าและเครื่องหมายรับรองข้าวหอมมะลิไทยให้ดำเนินการร่วมกันอย่างทันที นอกจากนี้ กรมฯ ยังได้พบหารือกับผู้นำเข้าและผู้ประกอบการสินค้าข้าวในจีน เพื่อประชาสัมพันธ์ข้าวไทยและข้าวหอมมะลิไทยควบคู่กับเครื่องหมายรับรองข้าวหอมมะลิไทยให้รับทราบถึงคุณภาพและมาตรฐานข้าวไทยด้วย และยังได้หารือกับหน่วยงาน COFCO Corporation ซึ่งเป็นหน่วยงานที่อยู่ภายใต้รัฐบาลจีนและเป็นบริษัทชั้นนำด้านการผลิตและการนำเข้าธัญพืชของจีน

อย่างไรก็ตาม ในแต่ละปีไทยส่งออกข้าวไปจีนประมาณ 0.6 – 0.7 ล้านตัน/ปี ส่วนใหญ่เป็นการส่งออกข้าวขาวและข้าวหอมมะลิไทย นอกจากนี้ กรมฯ ยังมีกำหนดจะจัดคณะผู้แทนภาครัฐและเอกชนเดินทางไปพบปะหารือและกระชับความสัมพันธ์ทางการค้าข้าวกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนของคู่ค้าที่สำคัญอื่นๆ ได้แก่ ฟิลิปปินส์ในเดือนกรกฎาคม และมาเลเซีย อินโดนีเซีย สิงคโปร์ และญี่ปุ่น ในเดือนสิงหาคมนี้อีกด้วย


“ยอมรับว่าตลาดจีนแม้จะมีการนำเข้าข้าวไทยที่น้อยลงไปเล็กน้อย แต่ด้วยจากความร่วมมือใกล้ชิดกับภาคเอกชนยังมั่นใจว่าจะทำตลาดข้าวทุกช่องทางในตลาดจีนให้มากขึ้น เพราะเท่าที่สำรวจผู้บริโภคชาวจีนยังต้องการข้าวไทยเพิ่มขึ้น และไม่เพียงตลาดจีนและฮ่องกงเท่านั้น โดยหลายประเทศยังสนใจข้าวไทย ดังนั้น ยอดส่งออกข้าวไทยในปี 66 จะเกิน 8 ล้านตัน โดยตัวเลขส่งออกข้าวไทยตั้งแต่มกราคม-พฤษภาคม 66 ส่งออกไปแล้วกว่า 3.47 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมา 15% คิดเป็นมูลค่ากว่า 64,322 ล้านบาท แม้ว่าปีนี้จะเกิดปัญหาภัยแล้งในหลายพื้นที่ แต่ปัญหานี้เกิดขึ้นทั่วโลกและกระทบต่อการเพาะปลูกพืชผลการเกษตรหลายประเทศด้วยเช่นกัน จึงมองว่ายังเป็นโอกาสที่หลายประเทศสนใจสั่งซื้อข้าวไทยเข้ามาต่อเนื่อง” นายรณรงค์กล่าว

นอกจากนี้ ยังได้นำไปเยือนกรุงปักกิ่งและได้หารือกับผู้นำเข้ามันสำปะหลังในจีน เพื่อกระชับความสัมพันธ์และแลกเปลี่ยนข้อมูลความต้องการสินค้ามันสำปะหลัง โดยเชื่อมั่นว่าผู้นำเข้าจีนยังมีความต้องการมันสำปะหลังไทยอีกมากซึ่งจีนเป็นตลาดส่งออกสินค้ามันสำปะหลังอันดับ 1 ของไทย คิดเป็น 65 % ของมูลค่าการส่งออกสินค้ามันสำปะหลังไทย โดยไทยส่งออกสินค้ามันสำปะหลังไปจีนประมาณ 8 ล้านตัน/ปี ได้แก่ มันเส้น/มันอัดเม็ด 69 %แป้งมันสำปะหลัง 30 % และ สาคู/กากมัน 1%

ทั้งนี้ กรมฯ ให้ความสำคัญและเร่งแก้ไขปัญหาอุปสรรคทางการค้าต่างๆ ในการส่งออกสินค้าไปจีนและได้หารือกับสำนักงานศุลกากรจีน (General Administration of Customs China: GAC) เพื่อประสานความร่วมมือในการเชื่อมโยงข้อมูลหนังสือรับรองถิ่นกำเนิด Form E ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อยกระดับการอำนวยความสะดวกแก่ผู้ประกอบการไทยในการขอใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษี จากปัจจุบันที่ต้องยื่นเอกสารหนังสือรับรองถิ่นกำเนิด Form E ต่อศุลกากรจีนในรูปแบบกระดาษ เป็นสามารถยื่นผ่านระบบในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ มีชื่อเรียกว่า Electronic Origin Data Exchange System: EODES และจะช่วยป้องกันปัญหาการปลอมแปลงเอกสารหนังสือรับรองฯ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับกฎระเบียบในการออกหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า กฎถิ่นกำเนิด อีกด้วย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ทูน” แจ้งความถูกวัยรุ่นทำร้าย ขณะซื้อของย่านคลองถม

สน.พลับพลาไชย1 11 มิ.ย.- “ทูน หิรัญทรัพย์” อดีตนักแสดงรุ่นใหญ่ แจ้งความ สน.พลับพลาไชย 1 ถูกวัยรุ่นทำร้าย ขณะเดินซื้อของย่านคลองถม อีกฝ่ายอ้างป้องกันตัว นายทูน หิรัญทรัพย์ หรือ นายสพัชญ์นนทน์ อายุ 69 ปี อดีตดารานักแสดงรุ่นใหญ่ เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.พลับพลาไชย 1 กรณีถูกวัยรุ่น 2 คน รุมทำร้ายร่างกาย ได้รับบาดเจ็บ ขณะไปเดินซื้อของในซอยข้างคลองถมพลาซ่า เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. ที่ผ่านมา นายทูน เล่าเหตุการณ์ว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองและครอบครัวได้ไปเดินหาซื้อไฟในย่านคลองถม ระหว่างนั้นก็มีผู้คนมาทักทายเพราะเห็นว่าตัวเองเป็นดารา แต่มีวัยรุ่นคนหนึ่งพูดจาไม่น่าฟังบอกว่าดาราอะไรเคยไม่รู้จัก จึงตักเตือนในฐานะที่เป็นผู้ใหญ่ ว่า จะพูดจาอะไรก็ต้องให้เกียรติคนอื่นโดยเฉพาะคนที่อาวุโสกว่า จนเกิดมีปากเสียงกัน จากนั้นวัยรุ่นดังกล่าวก็ชกเข้าที่เบ้าตาขวา ซึ่งเป็นตาข้างที่บอดอยู่ จึงไม่เห็นหมัด ก่อนจะมีตำรวจเข้ามาระงับเหตุ แต่วัยรุ่นคู่กรณีก็ยังทำท่าไม่พอใจฮึดฮัดใส่อยู่ ก่อนจะถูกควบคุมตัวไปที่ สน.พลับพลาไชย ซึ่งตัวเองก็ได้เดินทางมาแจ้งความดำเนินคดีด้วยเช่นกัน นายทูน กล่าวว่า ตลอดชีวิตที่เป็นนักแสดงนั้นเคยแต่เจอผู้คนเข้ามาทักทาย ขอถ่ายรูป ด้วยความมีมิตรไมตรี […]

พายุ “หวู่ติบ” ไม่เข้าไทย แต่เสริมมรสุม ฝนเพิ่ม คลื่นแรง เตือนระวังน้ำหลาก

กรุงเทพฯ 12 มิ.ย.-ไทยมีฝนตกเพิ่ม โดยพายุ​ “หวู่ติบ” จะส่งอิทธิพลให้ร่องมรสุมพาดผ่านและลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้มีกำลังแรงขึ้น กรมอุตุฯ เตือนประชาชนเฝ้าระวังภัยน้ำหลากและคลื่นลมแรงอย่างใกล้ชิด นายสมควร ต้นจาน ผู้อำนวยการกองพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า ช่วงวันที่ 12–13 มิถุนายน 2568 ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งอันดามัน ได้แก่ ระนอง พังงา จันทบุรี และตราด ซึ่งได้รับอิทธิพลจากร่องมรสุมที่พาดผ่านตอนบนของประเทศ และลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมประเทศไทยมีกำลังแรง กรมอุตุนิยมวิทยาได้ออกประกาศแจ้ง​เตือน​ว่า พายุโซนร้อน “หวู่ติบ” บริเวณทะเลอันดามันตอนบน มีศูนย์กลางอยู่ห่างจากเกาะไหหลำของจีนไปทางตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 160 กิโลเมตร มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เคลื่อนตัวทางตะวันตกเฉียงเหนือ คาดว่า​ จะขึ้นฝั่งประเทศจีนตอนใต้ในช่วงวันที่ 13-14 มิ.ย.68 และจะอ่อนกำลังลงตามลำดับ แม้ศูนย์กลางพายุจะไม่เข้าสู่ประเทศไทยโดยตรง แต่พายุนี้เป็นอีกปัจจัยที่เสริมให้ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้มีกำลังแรงขึ้น ส่งผลให้หลายพื้นที่มีฝนตกหนัก คลื่นลมในทะเลอันดามันตอนบนสูง 2–3 เมตร และในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองอาจสูงมากกว่า 3 […]

ผลแล็บพบข้าวมันไก่ติดเชื้อ ทำครู-นร.ท้องเสีย 23 คน

ปราจีนบุรี 12 มิ.ย. – แม่ค้ามือเป็นแผล! ครู-นักเรียน กินข้าวมันไก่ ท้องเสียยกชั้น หามส่ง รพ. แพทย์ชี้ชัดผลแล็บ พบเชื้อสตาฟิโลคอคคัส ออเรียส ต้นเหตุทำอาหารเป็นพิษ จากกรณีที่โรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมือง จ.ปราจีนบุรี ต้องระดมทั้งรถตู้โรงเรียน และรถฉุกเฉิน เร่งนำตัวนักเรียนและคุณครู ส่งโรงพยาบาล จำนวน 23 คน หลังทุกคนกินข้าวมันไก่ในช่วงพักกลางวัน พอตกบ่ายก็มีอาการปวดท้อง คลื่นไส้ และอาเจียน บางรายเป็นไข้หนาวสั่น คาดสาเหตุมาจากอาหารเป็นพิษ ผู้ป่วยถูกนำตัวส่งรักษาอาการที่ห้องผู้ป่วยฉุกเฉิน รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร รวม 16 คน (นักเรียน 15 คน ครู 1 คน) เบื้องต้น แพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้แล้วบางส่วนเหลือคุณครูที่ต้องดูอาการเนื่องจากมีอาการช็อก ส่วนนักเรียน ยังคงต้องดูอาการอีก 9 คน ซึ่งคาดว่าแพทย์น่าจะอนุญาตให้กลับบ้านได้ภายในวันนี้ ส่วนที่ รพ.ค่ายจักรพงษ์ มีจำนวน 7 คน (เป็นนักเรียนทั้งหมด) เบื้องต้น […]

หลุดภาพ​ “ชาดา-สันติ-​นายกด๊อยซ์” สะพัดขน 6 สส. ​ซบ ​“ภท.”

กทม. 11​ มิ.ย. – “ชาดา-สันติ-นายกด๊อยซ์” ร่วมวงกินข้าว หลังสะพัดขน “6 สส.มะขามหวาน” เด็กลุงป้อม ย้ายซบ “ภูมิใจไทย” ผู้สื่อข่าวรายงานว่า​ ภายหลัง นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) มีคำสั่งเมื่อวันที่ 9 มิ.ย.68 แต่งตั้ง นางจิตรา หมีทอง ซึ่งเป็นทีมงานนายสันติ พร้อมพัฒน์ แกนนำ 6 สส. เพชรบูรณ์ พรรคพลังประชารัฐ เป็นคณะที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี (นายอนุทิน ชาญวีรกูล) และ รมว.มหาดไทย ล่าสุดช่วงเย็น วันที่ 11 มิ.ย. ได้ปรากฏภาพนายชาดา ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี แกนนำพรรคภูมิใจไทย ได้รับประทานอาหารเย็น ร่วมกับ นายสันติ และ นายอัครเดช ทองใจสด นายก อบจ.เพชรบูรณ์ ที่โรงแรมแห่งหนึ่ง […]

ข่าวแนะนำ

เครื่องบิน แอร์ อินเดีย ตกใส่อาคารที่พักแพทย์ ตาย 241 รอดคนเดียว

นิวเดลี 13 มิ.ย. – เครื่องบินโดยสารของสายการบินแอร์ อินเดีย พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประสบอุบัติเหตุตกใส่อาคารในย่านชุมชนทางตะวันตกของประเทศ มีผู้เสียชีวิต 241 ราย รอดชีวิตปาฏิหาริย์เพียงคนเดียว ยังไม่มียืนยันว่ามีคนในอาคารบ้านเรือนเสียชีวิตเท่าใด เครื่องบินลำที่ประสบอุบัติเหตุเป็นเครื่องบินโบอิ้ง 787-8 ดรีมไลน์เนอร์ ของสายการบิน แอร์ อินเดีย เที่ยวบิน เอไอ171 (AI171) พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประกอบด้วยผู้โดยสาร 230 คน และลูกเรือ 12 คน เพิ่งจะออกเดินทางจากท่าอากาศยานระหว่างประเทศเมืองอาห์เมดาบัด รัฐคุชราต ทางตะวันตกของอินเดียเมื่อเวลา 13.34 น. วานนี้ มุ่งหน้าไปยังท่าอากาศยานแกตวิค กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ คนบนเครื่องบินเป็นชาวอินเดีย 169 คน และมีพลเมืองอังกฤษ 53 คน โปรตุเกส 7 คน และแคนาดา 1 คน คลิปที่ผู้ใช้งานสื่อออนไลน์ในอินเดียส่งต่อกันแพร่หลาย […]

สยบรอยร้าว “พีระพันธุ์” โพสต์ภาพคู่ “เอกนัฏ” ยัน รทสช.ไปต่อ

กรุงเทพฯ 12 มิ.ย. – “พีระพันธุ์” โพสต์ภาพโชว์ปึก “เอกนัฏ” สยบรอยร้าว ขอบคุณร่วมอดทนต่อสู้ทุนใหญ่ ยัน รทสช.ไปต่อแน่ ป้อง “ทีมสุดซอย” ถูกใส่ร้าย เมื่อเวลา 21.00 น. วันนี้ (12 มิ.ย.68) นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ โพสต์ภาพถ่ายคู่กับนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะเลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ พร้อมข้อความระบุว่า “ผูกพันและเชื่อใจ การที่มีคนกล่าวหาขิงว่าจะไปขอให้มาโค่นทำลายผมจากหัวหน้าพรรค ผมได้แต่ขำ ขิงกับผม เราผ่านร้อนผ่านหนาวด้วยกันมามาก คำพูดแบบนี้จึงเป็นเรื่องขำๆ ของคนที่คิดคำแก้ตัวไม่ออก ผมกับท่านเลขาฯ ขิง เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เรารู้จักกันมานาน ตั้งแต่ขิงยังไม่เข้ามาวงการเมือง จนมาทำงานการเมืองร่วมกัน ขิงเป็นคนหนุ่มที่มุ่งมั่นทำงานการเมืองเพื่อประชาชน ไม่ใช่มาเล่นการเมือง เป็นคนซื่อสัตย์ ตรงไปตรงมา เมื่อผมจะทำพรรคการเมือง คนแรกที่ผมคิดถึงจึงเป็นใครไปไม่ได้ นอกจาก ‘ขิง’ ผมหารือกับขิงว่าอยากชวนเขามาทำพรรคการเมืองตามแนวทางที่เราอยากทำอยากให้เป็น คือเป็นพรรคการเมืองที่ทำงานเพื่อชาติบ้านเมืองและประชาชน เข้ามาแก้ไขปัญหาทุกอย่างเพื่อประชาชน ไม่ใช่เพื่อจะมีสถานะหรือมีตำแหน่งทางการเมือง […]

จับตานายกฯ ถกหัวหน้าพรรคร่วมบางพรรค ปรับ ครม.

กรุงเทพฯ 12 มิ.ย. – จับตา “นายกฯ แพทองธาร” ถกหัวหน้าพรรคร่วมบางพรรค ปรับ ครม. หลังเลื่อนประชุม ครม.สัญจร จ.พิษณุโลก 23-24 มิ.ย.นี้ คาดรอ ครม.ใหม่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันพรุ่งนี้ (13 มิ.ย.) ที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้แจ้งลาราชการในเวลา 11.30-13.00 น. หลังจบภารกิจเป็นประธานในพิธีปิดการประชุมเอกอัครราชทูตและกงสุลใหญ่ทั่วโลก ประจำปี 2568 และมีรายงานว่านายกฯ มีภารกิจร่วมประชุมผู้ปกครอง จากนั้นจะกลับมาปฏิบัติงานที่ทำเนียบรัฐบาลในช่วงบ่าย ทั้งนี้ มีรายงานว่า นายกฯ จะเชิญหัวหน้าพรรคร่วมบางพรรค หารือถึงการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ท่ามกลางกระแสข่าวการต่อรองเก้าอี้รัฐมนตรีระหว่างพรรคเพื่อไทยและภูมิใจไทย และปัญหาภายในของพรรครวมไทยสร้างชาติ ให้เกิดความชัดเจน นอกจากนั้นยังมีรายงานว่า สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) ได้แจ้งเลื่อนการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร ) ระหว่างวันที่ 23-24 มิ.ย.นี้ ที่ จ.พิษณุโลก ออกไปก่อน […]

เสียงจากช่องบก รอวันสันติภาพ

อุบลราชธานี 12 มิ.ย. – ผ่านมาแล้ว 15 วัน นับตั้งแต่เหตุการณ์ปะทะที่ช่องบก อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี พื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ยังคงตึงเครียด แต่ชาวบ้านในพื้นที่ต่างตั้งความหวังว่าการประชุม JBC วันที่ 14 มิ.ย.นี้ จะหาทางออกได้โดยสันติ เพื่อให้ประชาชนทั้งสองประเทศได้กลับมาใช้ชีวิตตามปกติ.-สำนักข่าวไทย