สรท.คงเป้าส่งออกปีนี้โตร้อยละ 3.5

กรุงเทพฯ 29 พ.ค. – สรท.คงเป้าส่งออกปีนี้โตร้อยละ 3.5 ขณะที่เงินบาทที่แข็งค่าเริ่มส่งผลกระทบผู้ส่งออกกลุ่มเอสเอ็มอี และมีปัญหาขาดแคลนตู้ส่งออกสินค้า


นางสาวกัณญภัค ตันติพิพัฒน์พงศ์ ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย(สรท.) แถลงสถานการณ์ส่งออกประจำเดือนพฤษภาคม 2560 ว่า การส่งออกเดือนเม.ย.ปีนี้ มีมูลค่า 16,864 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 8.49 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมา มูลค่าในรูปเงินบาทเท่ากับ 581,717 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 7.75 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีัที่ผ่านมา ส่งผลให้การส่งออกในช่วง 4 เดือนแรกปีนี้ มีมูลค่า 73,320.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เติบโตร้อยละ 5.69 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมา 

อย่างไรก็ตาม สรท.ยังคงคาดการณ์การส่งออกของไทยปีนี้ จะเติบโตได้ประมาณร้อยละ 3.5 โดยสรท.มองการเติบโตในช่วงร้อยละ 2.5-3.5 มีนั้ำหนักขยายตัวร้อยละ 3.5 มากขึ้น ปัจจัยบวกจากราคาน้ำมันตลาดโลกที่ปรับเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมาคิดเป็นร้อยละ 25  ทำให้สินค้ากลุ่มที่เกี่ยวข้องกับน้ำมันมีมูลค่าการส่งออกเพิ่มขึ้น และส่งผลให้สินค้่าโภคภัณฑ์ในตลาดโลกหลายรายการราคาปรับเพิ่มขึ้นในทิศทางเดียวกัน บวกกับปีนี้ฝนตกมากกว่าช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมา ทำให้คาว่า ปริมาณผลผลิตทางการเกษตรจะมีปริมาณเพิ่มขึ้นและเป็นปัจจััยสำคัญในการเพิ่มมูลค่ารวมของการส่งออกสินค้ากลุ่มเกษตรและกลุ่มเกษตรอุตสาหกรรม ตลอดจนมูลค่าส่งออกในภาพรวมของไทยในปีนี้ 


สำหรับปัจจัยลบที่จะต้องจับตามองใกล้ชิด ได้แก่ การแข็งค่าของเงินบาทเมื่อเทียบกับคู่แข่งสำคัญ ส่งผลต่อต้นทุนและขีดความสามารถในการแข่งขันของผู้ส่งออกไทย ความเสี่ยงสถานการณ์ทางการเมืองระหว่างประเทศและการก่อการร้าย โดยเฉพาะสถานการณ์ความรุนแรงที่เมืองมาราวี ประเทศฟิลิปปินส์ และกรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย  ความเสี่ยงจากข้อกีดกันทางการค้าจากประเทศคู่ค้าสำคัญและประเทศตลาดใหม่ โดยเฉพาะการตอบโต้รัฐบาลสหรัฐอเมริกา

ผู้ส่งออกยังประสบปัญหา ขาดแคลนตู้บรรจุสินค้าสำหรับการส่งออก เนื่องจากการปรับตัวของสายการเดินเรือที่ลดการจัดสรรตู้สินค้าให้กับต้นทางการขนส่งที่ไม่สามารถแบกรับต้นทุนในการขนส่งตู้เปล่ามาให้กับผู้ส่งออกไทย ซึ่งส่งผลให้ผู้ส่งออกจำนวนมากไม่สามารถส่งมอบสินค้าให้กับลูกค้าในต่างประเทศทันตามกำหนด  ปริมาณสินค้าคงคลังประเทศคู่ค้าเพิ่มสูงขึ้นจากการสั่งซื้อในช่วงปลายปีที่ผ่านมาต่อช่วงต้นปีนี้ อาจจะทำให้มีการสั่งซื้อในช่วงไตรมาส 3เป็นต้นไป ปัจจัยกระทบจากเศรษฐกิจคู่ค้าหลัก ที่ได้รับผลกระทบจาก อีคอมเมิร์ซ ต่อธุรกิจค้าปลีกในสหรัฐอเมริกา ผลกระทบจากการบอยคอตของจีนต่อเกาหลีใต้ ขณะที่ญี่ปุ่นเผชิญกับสถานการณ์ตลาดภายในประเทศ เนื่องจากความสามารถในการบริโภคของประชาชนลดลง สวนทางกับอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้นร้อยละ 3 เอสเอ็มอีไทยโอกาสในการทำตลาดลำมากมากขึ้นภายใต้การแข่งขันกับกลุ่ทุนขนาดใหญ่และช่องทางการค้าที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ขณะที่การพัฒนาการค้าระหว่างประเทศผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ของไทย 

นายวิศิษฐ์ ลิ้มลือชา รองประธาน สรท. กล่าวว่า ตู้ส่งออกสินค้ามีแนวโน้มขาดแคลน สรท.หารือกับสายการเดินเรือแล้ว และยังอยู่ระหว่างจัดทำการแชร์โคทเหมือนสายการบินที่ซื้อบริการจากสายการเดินเรือหนึ่งแต่สินค้าได้รับการส่งไปอีกสายการเดินเรือหนึ่ง แต่ยัีงอยู่ในช่วงเริ่มต้นเท่านั้น -สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“หมอพรทิพย์” เผย แผลศพบอกได้ ฆาตกรรม หรือ ฆ่าตัวตาย

“หมอพรทิพย์” อดีต ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เผยบาดแผลที่ศพ “ผกก.โจ้” จะบ่งชี้ได้ว่า ถูกฆาตกรรม หรือฆ่าตัวตาย

รู้ตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุคาร์บอมบ์-ยิงถล่มที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก

รู้ตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุคาร์บอมบ์-ยิงถล่มที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก คาดฝีมือ นายอับดุลเลาะ บูละ แกนนำระดับสั่งการ ฝึกรบจากต่างประเทศ พบบางส่วนหนีขึ้นเขาตะเว บางส่วนข้ามชายแดนแล้ว

ชายแดนตึงเครียด ทหารเมียนมา-KNLA ยังปะทะเดือด

สถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา ยังตึงเครียด ทหารเมียนมากับกะเหรี่ยงเคเอ็นแอลเอ ยิงปะทะดุเดือด ขณะที่ชาวเมียนมา อพยพเข้าไทยอีกครั้งแล้วหลายร้อยคน

เจอกระบะต้องสงสัยก่อเหตุหน้าที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก

พบแล้ว รถกระบะต้องสงสัยใช้ก่อเหตุยิงปืนและลอบวางระเบิด หน้าที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เมื่อคืนนี้

ข่าวแนะนำ

เร่งล่าคนร้ายไม่ต่ำกว่า 5 คน ซุ่มยิง อส.กรงปินัง เสียชีวิต

เจ้าหน้าที่เร่งล่าตัวคนร้ายไม่ต่ำกว่า 5 คน ซุ่มยิง อส.กรงปินัง เสียชีวิต ก่อนเผารถ ฉกปืนพกสั้น 9 มม. หลบหนี ทั้งยังพบวัตถุต้องสงสัยคล้ายระเบิดในพื้นที่ยะลาอีกหลายจุด

ลวงมาฆ่า จัดฉากเป็นอุบัติเหตุ หวังเงินประกัน 14 ล้าน

สุดโหด หนุ่มสกลนครถูกญาติตัวเองร่วมมือกับอดีตตัวแทนจำหน่ายประกัน ลวงมาฆ่า ก่อนจัดฉากเป็นอุบัติเหตุ หวังเงินประกัน พ.ร.บ.รถยนต์ 3 คัน รวม 14 ล้านบาท แต่บริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถพบพิรุธ แจ้งตำรวจตรวจสอบ ก่อนออกหมายจับเบื้องต้น 4 คน