กรุงเทพฯ 10 ต.ค. – รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เตรียมเสนอคณะรัฐมนตรี ขอใช้ระเบียบกระทรวงการคลัง ที่เป็นข้อยกเว้น ตาม พระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 เร่งรัดขอจัดสรรงบประมาณในการซ่อมบำรุงถนนและสะพานที่ได้รับความเสียหายจากปัญหาอุทกภัยเพื่อฟื้นฟูให้ประชาชนกลับมามีเส้นทางใช้ประโยชน์ได้โดยเร็ว
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ กล่าวภายหลังร่วมงานเป็นประธานในพิธีวันคล้ายวันสถาปนากรมทางหลวงชนบท (ทช.) ครบรอบ 20 ปี ระบุว่า ได้รับรายงานจากกรมทางหลวงชนบทว่าปัจจุบันมีถนนในกำกับดูแลของกรมทางหลวงชนบท ประสบอุทกภัยรวมเป็นเส้นทางถนนใน 32 จังหวัด 172 สายทาง โดยในจำนวนนี้ สัญจรผ่านไม่ได้ 99 สายทาง
โดยในการฟื้นฟูเส้นทางถนนหลังจากสถานการณ์น้ำท่วมในครั้งนี้ ต้องจัดสรรงบประมาณเข้าซ่อมบำรุง ใช้งบประมาณเท่าใด จะต้องเข้าดำเนินการสำรวจหลังน้ำลด เพื่อทราบความเสียหายที่แท้จริง อย่างไรก็ตามยอมรับว่ามีแนวคิด ที่จะปรับเปลี่ยนการขอรับจัดสรรงบประมาณในการซ่อมบำรุง จากเดิมที่ต้องดำเนินการตามระเบียบพัสดุฯ ตาม พ.ร.บ. การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 มาใช้ข้อยกเว้นโดยขอใช้ระเบียบกระทรวงการคลังที่มีอยู่ใน พ.ร.บ .ฯ ฉบับดังกล่าว เพื่อให้การซ่อมบำรุงเกิดความคล่องตัวและรวดเร็วมากขึ้น โดยกระทรวงคมนาคมจะเสนอขอใช้ระเบียบกระทรวงการคลัง แทนระเบียบพัสดุฯ ต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เพื่อดำเนินการ
“ ที่ผ่านมาการใช้ระเบียบพัสดุทั่วไป มีระเบียบเยอะมากทั้งเรื่องการกำหนดคุณสมบัติ ของผู้รับเหมา ขนาดของงาน และผลงานในอดีต ของผู้รับเหมา ทำให้เกิดความล่าช้า ทั้งๆ ที่บางจุด บางพื้นที่มูลค่าความเสียหายของถนนไม่ได้มาก โดยความล่าช้าที่เกิดขึ้น บางครั้ง ดำเนินการในปีก่อนหน้า งานก่อสร้างยังไม่ทันเสร็จ ปีต่อมาน้ำก็ท่วมซ้ำอีก แต่ที่สำคัญคือการเร่งซ่อมแซมผิวถนนและสะพานที่เสียหายให้ประชาชนกลับมาใช้งานได้อย่างสมบูรณ์โดยเร็ว ซึ่งกระทรวงคมนาคมเห็นว่าเป็นเรื่องจำเป็นที่จะทำให้ประชาชนได้รับประโยชน์สูงสุดในการเดินทางระบบคมนาคม หลังอุทกภัยผ่านพ้นไป “ นายศักดิ์สยามกล่าว
นอกจากนี้นายศักดิ์สยามระบุว่าได้ให้นโยบายกับกรมทางหลวงชนบท ให้การดำเนินการก่อสร้างเส้นทางถนนใหม่ในอนาคตพิจารณาตามแนวทางที่จะใช้เทคโนโลยีมาประกอบการสร้างถนนที่จะช่วยให้การเดินทางสามารถลดระยะเวลาในการเดินทางและเกิดความปลอดภัยแก่ผู้ใช้เส้นทาง เนื่องจากในอดีตนั้นการก่อสร้างเส้นทางถนนในประเทศไทย มักจะก่อสร้างเส้นทางไปตามลักษณะกายภาพของธรรมชาติบางครั้งหลายเส้นทางไปผ่านพื้นที่เขา ก็ตัดถนนลัดเลาะตามไหล่เขา ซึ่งเป็นแนวทางที่นอกจากจะใช้งบประมาณเยอะ ยังทำให้เกิดความเสี่ยงอุบัติเหตุในการเดินทาง เป็นที่มาของสถิติอุบัติเหตุที่สูงขึ้นในหลายจุด ของถนนหลายสาย โดยอันนี้สามารถนำเทคโนโลยีการก่อสร้างอุโมงค์มาปรับปรุงเพื่อให้การก่อสร้างทางสามารถตัดเส้นทางได้ตรง นอกจากช่วยลดระยะเวลาในการเดินทางแล้วยังลดปัญหาอุบัติเหตุลงได้ด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากอุทกภัย ที่ท่วมถนนในกำกับดูแลของ ทช. เมื่อคืนที่ผ่านมา (21.00 น.) กรมทางหลวง (ทล.) ได้รายงานสถาณการณ์อุทกภัย ในเขตถนนของ ทล.พบว่า มีสภาพน้ำท่วมและดินสไลด์ 21จังหวัด รวม 78 แห่ง การจราจรผ่านได้ 50 แห่ง,ผ่านไม่ได้ 28 แห่ง คือ จ.ขอนแก่น ,ศรีสะเกษ, สุรินทร์ ,บุรีรัมย์ ,จ.นครราชสีมา,หนองบัวลำภู ,อุบลราชธานี ,ร้อยเอ็ด,มหาสารคาม ,จ.ยโสธร ,จ.สระบุรี ,ลพบุรี ,สุพรรณบุรี ,อ่างทอง ,พระนครศรีอยุธยา ,สิงห์บุรี,นครสวรรค์, อุทัยธานี, ปราจีนบุรี ,เพชรบุรี และ กาญจนบุรี .-สำนักข่าวไทย