กรุงเทพฯ 18 ส.ค. – นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรภาคอีสาน ระบุภาครัฐจะต้องเร่งแก้ไขปัญหาหมูเถื่อนเข้ามาตีตลาดด่วนที่สุด โดยทำงานแบบ 3 ประสาน ให้กรมศุลกากรต้องเฝ้าระวังการลักลอบนำเข้าผ่านแดนทุกช่องทาง กรมการค้าภายในต้องตรวจสอบร้านที่ขายหมูถูกผิดปกติ สงสัยเป็นหมูเถื่อน พร้อมกับที่กรมปศุสัตว์ต้องตรวจสอบห้องเย็นที่อาจซุกหมูเถื่อนไว้ เพื่อไม่ให้เป็นการซ้ำเตือนเกษตรกรไทย
นายสิทธิพันธ์ ธนาเกียรติภิญโญ นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรภาคตะวันออกเฉียงเหนือเปิดเผยว่า ผู้เลี้ยงหมูภาคอีสานประสบความเดือดร้อนจากปัญหาหมูเถื่อนซึ่งลักลอบนำเข้ามาขายในราคาถูกกว่าหมูไทย ขณะนี้เกษตรกรรายย่อยและรายเล็กกำลังเริ่มกลับมาเลี้ยงใหม่ หลังจากต้องหยุดไปเพราะโรคระบาดร้ายแรง การกลับมาเลี้ยงใหม่มีต้นทุนสูงขึ้นเพราะต้องยกระดับมาตรฐานฟาร์มเพื่อป้องกันโรค ขณะเดียวกันราคาอาหารสัตว์ ค่าพันธุ์สัตว์ ค่าพลังงานสูงขึ้นส่งให้ราคาหมูหน้าฟาร์มอยู่ที่กิโลกรัมละ 100 บาทแล้วจำหน่ายที่เขียง 200 บาท แต่พบว่า หมูที่จำหน่ายตาม shop ที่ตั้งใหม่แทบทุกจังหวัดขายถูกกว่า รวมถึงมีรถกระบะห้องเย็นนำไปส่งตามพื้นที่ต่างๆ ด้วย จนเขียงต่างๆ ขายได้น้อยลงและจำนวนที่เขียงมาซื้อหมูจากฟาร์มน้อยลงเช่นกัน
ทั้งนี้การแก้ไขของภาครัฐต้องดำเนินการพร้อมกันหลายแนวทาง โดยกรมศุลกากรต้องสกัดกั้นการลักลอบนำเข้าที่อาจสำแดงสำแดงเท็จว่า เป็นสินค้าอื่น กรมการค้าภายในต้องตรวจสอบตาม shop ต่างๆ ที่ขายหมูถูกผิดปกติว่าสินค้าที่นำมาจำหน่ายตรวจสอบย้อนกลับได้หรือไม่ มาจากฟาร์มไหน รวมทั้ง shop บางแห่งอาจไม่ได้ขออนุญาตตั้งอย่างถูกต้อง ขณะที่กรมปศุสัตว์ต้องตรวจสอบตามห้องเย็นต่างๆ ว่า มีการนำหมูจากต่างประเทศมาซุกซ่อนไว้หรือไม่
หากปัญหาหมูเถื่อนตีตลาดยังไม่ได้รับการแก้ไขจะทำให้ผู้เลี้ยงหมูไทยอยู่ไม่ได้ โดยเฉพาะรายย่อยและรายเล็ก อีกทั้งยังอาจเกิดการแพร่ของโรคระบาดสัตว์ ผู้บริโภคเสี่ยงต่อการได้รับสารเร่งเนื้อแดง และสารปนเปื้อนอื่นๆ ในเนื้อหมูที่ไม่รู้แหล่งที่มา ไม่มีการตรวจคัดกรองก่อนนำเข้ามาซึ่งจะเป็นการซ้ำเติมอุตสาหกรรมหมูไทยทั้งวงจรอย่างร้ายแรง.-สำนักข่าวไทย