เกาหลีใต้วอนทำตามประชุมสุดยอดเปียงยาง

โซล 19 ก.ย.- ประธานาธิบดีมุน แจอินของเกาหลีใต้ชี้ว่า การประชุมสุดยอดเปียงยางในวันนี้เมื่อสองปีก่อนควรได้รับการปฏิบัติให้สำเร็จแม้มีแรงกดดันทั้งจากในและนอกประเทศ พร้อมกับย้ำว่าเกาหลีใต้ยังคงยึดมั่นในเสรีภาพอย่างเหนียวแน่น ประธานาธิบดีมุนโพสต์เฟซบุ๊กวันนี้ ย้อนระลึกถึงสุนทรพจน์ที่กล่าวต่อหน้าชาวกรุงเปียงยาง 150,000 คน ที่สนามกีฬาเมย์เดย์ของเกาหลีเหนือในวันนี้เมื่อสองปีก่อนว่า เขาได้ประกาศเรื่องปลดนิวเคลียร์และสันติภาพบนคาบสมุทรเกาหลีพร้อมกับประธานคิม จองอึนของเกาหลีเหนือ มีการบรรลุข้อตกลงที่เป็นรูปธรรมและปฏิบัติได้เรื่องทหาร นำมาซึ่งการทำให้หมู่บ้านปันมุนจอมเป็นเขตปลอดทหาร และการขุดหาศพทหารบนเนินเขาแอร์โรว์เฮด สนามรบสำคัญช่วงสงครามเกาหลีปี 2493-2496 หลังจากนั้นทหารทั้งสองฝ่ายก็ไม่มีการปะทะกันเลยแม้แต่ครั้งเดียว เป็นความก้าวหน้าที่ทรงคุณค่าอย่างยิ่ง ซึ่งไม่มีทางเป็นไปได้หากปราศจากความต้องการของประชาชนผู้ปรารถนาสันติภาพและการสนับสนุนจากประชาคมโลก ผู้นำเกาหลีใต้โพสต์ต่อไปว่า แต่นาฬิกาของการมุ่งสู่สันติภาพได้หยุดเดินมาจนถึงปัจจุบัน ข้อตกลงในการประชุมสุดยอดไม่ได้รับการปฏิบัติตามอย่างรวดเร็วเพราะไม่มีการขับเคลื่อนเพื่อก้าวข้ามข้อจำกัดทั้งภายและภายนอก อย่างไรก็ตาม ขอย้ำว่าเกาหลีใต้ยังคงยึดมั่นต่อสันติภาพอย่างเหนียวแน่น เมล็ดพันธุ์ที่หว่านเพาะลงในประวัติศาสตร์จะออกดอกออกผลอย่างแน่นอนไม่ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อใดหรือด้วยวิธีใด ประธานาธิบดีมุนและนายคิมประชุมสุดยอดกัน 3 ครั้งในปี 2561 เริ่มจากวันที่ 27 เมษายนที่เขตความมั่นคงร่วมหรือหมู่บ้านปันมุนจอมในฝั่งเกาหลีใต้ วันที่ 26 พฤษภาคมที่สถานที่เดิม และวันที่ 18-20 กันยายนในกรุงเปียงยาง ส่วนก่อนหน้านี้สองเกาหลีเคยประชุมสุดยอดมาแล้วเมื่อวันที่ 13-15 มิถุนายน 2543 ที่กรุงเปียงยางระหว่างประธานาธิบดีคิม แดจุงของเกาหลีใต้กับนายคิม จองอิลของเกาหลีเหนือ และเมื่อวันที่ 2-4 ตุลาคม 2550 ที่กรุงเปียงยางระหว่างประธานาธิบดีโนห์ มูเฮียนของเกาหลีใต้กับนายคิม จองอิล.-สำนักข่าวไทย

ไต้หวันสกัดฝูงเครื่องบินจีนวันที่สองติดต่อกัน

ไทเป 19 ก.ย.- กองทัพอากาศไต้หวันสกัดฝูงบินจีนเป็นครั้งที่สองติดต่อกันในวันนี้ ขณะที่ปลัดกระทรวงต่างประเทศสหรัฐกำลังเยือนไต้หวัน กระทรวงกลาโหมไต้หวันแถลงว่า เครื่องบินจีน 19 ลำ ประกอบด้วยเครื่องบินขับไล่ J-16 จำนวน 12 ลำ เครื่องบินขับไล่ J-10 จำนวน 2 ลำ เครื่องบินขับไล่ J-11 จำนวน 2 ลำ เครื่องบินทิ้งระเบิด H-6 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินต่อต้านเรือดำน้ำ Y-8 หนึ่งลำ บางลำบินข้ามเส้นกึ่งกลางในช่องแคบไต้หวันที่แบ่งไต้หวันกับจีน บางลำบินเข้าเขตแสดงตนเพื่อป้องกันภัยทางอากาศของไต้หวัน นอกชายฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ มากกว่าเมื่อวานนี้ที่บินเข้ามา 18 ลำ แต่ไม่มีลำใดบินใกล้หรือบินผ่านเกาะไต้หวัน กองทัพอากาศสาธารณรัฐจึงขึ้นบินสกัดและประจำการระบบขีปนาวุธต่อต้านอากาศยานติดตามการเคลื่อนไหวของฝูงบินจีน กระทรวงกลาโหมไต้หวันยังได้ออกแถลงการณ์อีกฉบับว่า จีนกำลังเคลื่อนไหวยั่วยุ ทำลายสันติภาพและเสถียรภาพอย่างร้ายแรง กระทรวงขอประณามอย่างรุนแรง ขอให้ทางการจีนแผ่นดินใหญ่ควบคุมตนเองและถอยกลับไป จีนประกาศเมื่อวันศุกร์ระหว่างแถลงข่าวเรื่องภารกิจของจีนในการรักษาสันติภาพของสหประชาชาติว่า ได้ซ้อมรบใกล้ช่องแคบไต้หวัน และประณามไต้หวันและสหรัฐว่ากระทำการคบคิดกัน หลังจากนายคีธ คราช ปลัดกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฝ่ายการเติบโตทางเศรษฐกิจ พลังงานและสิ่งแวดล้อมเดินทางถึงกรุงไทเปของไต้หวันเมื่อวันพฤหัสบดีเพื่อเยือนเป็นเวลา 3 วัน นับเป็นเจ้าหน้าที่อาวุโสสูงสุดในกระทรวงต่างประเทศสหรัฐที่มาเยือนไต้หวันในรอบ […]

สื่อต่างประเทศมองชุมนุมไทย

กรุงเทพฯ 19 ก.ย.- สำนักข่าวต่างประเทศเสนอข่าวการเตรียมการชุมนุมครั้งใหญ่ในไทยในวันนี้ ซึ่งคาดว่าจะมีผู้ออกมาร่วมมากกว่าทุกครั้ง สำนักข่าว AFP รายงานว่า การชุมนุมในไทยที่นำโดยกลุ่มนักศึกษาและคนหนุ่มสาวส่วนหนึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากการชุมนุมเรียกร้องประชาธิปไตยในฮ่องกง ประเทศไทยมีการชุมนุมเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีประยุทธ์ จันทร์โอชาลาออกมาตั้งแต่กลางเดือนกรกฎาคมเป็นต้นมา แต่ในวันนี้คาดว่า จะเป็นการชุมนุมครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เกิดการรัฐประหารเมื่อปี 2557 กลุ่มนักศึกษาแกนนำการชุมนุมหวังว่า จะมีผู้ออกมาเข้าร่วมกว่า 5 หมื่นคน ขณะที่ตำรวจได้วางกำลัง 1 หมื่นนายเพื่อดูแลสถานการณ์แล้ว เช่นเดียวกับสำนักข่าว AP ที่คาดว่า วันนี้จะเป็นการชุมนุมครั้งใหญ่ที่สุด โดยกลุ่มผู้ชุมนุมมีแผนจะเคลื่อนขบวนไปที่ทำเนียบรัฐบาลเพื่อยื่นข้อเรียกร้อง ขณะที่หลายฝ่ายมีความกังวลว่า รัฐบาลจะใช้กำลังรุนแรงจัดการกับผู้ชุมนุมเหมือนกับเหตุการณ์นองเลือดที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์พฤษภาทมิฬเมื่อปี 2535 หรือการชุมนุมประท้วงต่อต้านรัฐบาลเมื่อปี 2553.-สำนักข่าวไทย

ผู้นำฟิลิปปินส์สั่งเว้น 1 ม.บนรถสาธารณะต่อไป

มะนิลา 19 ก.ย.- ประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เตของฟิลิปปินส์สั่งให้ประชาชนรักษาระยะห่าง 1 เมตรบนรถโดยสารสาธารณะต่อไปเพื่อลดความเสี่ยงติดหรือแพร่เชื้อโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ระบบรถโดยสารสาธารณะฟิลิปปินส์ขึ้นชื่อเรื่องแออัดยัดเยียด ผู้คนต้องเข้าแถวรอยาวเหยียดและมักมีการเปลี่ยนไปมาอยู่เสมอ โฆษกประธานาธิบดีเผยกับสถานีโทรทัศน์ของรัฐในวันนี้ว่า ประธานาธิบดีได้พิจารณาคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขที่เตือนว่าการลดระยะห่างผู้โดยสารบนรถโดยสาร รถไฟ และรถสองแถวที่เรียกว่าจี๊ปนีย์ ลงเหลือ 30 เซนติเมตร อาจทำให้เกิดการติดเชื้อเพิ่มขึ้น จึงตัดสินใจตามที่ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้คงระยะห่างไว้ที่ 1 เมตรต่อไป รวมทั้งห้ามรับประทานและพูดคุยระหว่างอยู่บนรถสาธารณะ และต้องสวมทั้งเฟซชิลด์และหน้ากากอนามัยตลอดเวลา กระทรวงคมนาคมแถลงวันนี้ว่า จะปฏิบัติตามคำสั่งของประธานาธิบดีอย่างเคร่งครัด หลังจากก่อนหน้านี้ประกาศจะทยอยลดระยะห่างลงเหลือ 75 เซนติเมตรตั้งแต่วันจันทร์ 50 เซนติเมตรตั้งแต่วันที่ 28 กันยายน และ 30 เซนติเมตรตั้งแต่วันที่ 12 ตุลาคม เพื่ออำนวยความสะดวกให้คนเดินทางเนื่องจากธุรกิจทยอยเปิดอีกครั้ง ขณะที่องค์การอนามัยโลกแนะนำให้รักษาระยะห่าง 1 เมตรเพื่อเลี่ยงการติดหรือแพร่เชื้อ ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า การลดระยะห่างเร็วเกินไปจะทำให้การระบาดระลอกแรกในฟิลิปินส์ที่เริ่มมาตั้งแต่เดือนมีนาคมยืดเยื้ออกไปอีก ปัจจุบันฟิลิปปินส์มีผู้ป่วยโรคโควิด-19 มากที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 279,526 คน กว่าหนึ่งในสามเป็นผู้ติดเชื้อในช่วง 30 วันที่ผ่านมา และมีผู้เสียชีวิต 4,830 คน มากเป็นอันดับสองของภูมิภาครองจากอินโดนีเซียที่มีผู้เสียชีวิต […]

จีนประณามหลังสหรัฐห้ามใช้ติ๊กต๊อก-วีแชท

ปักกิ่ง 19 ก.ย.- จีนประณามสหรัฐที่สั่งห้ามดาวน์โหลดติ๊กต๊อก แอปพลิเคชันทำคลิปสั้น และห้ามใช้วีแชท แอปอเนกประสงค์ที่ได้ชื่อว่าซูเปอร์แอปด้วยเหตุผลด้านความมั่นคงแห่งชาติ กระทรวงพาณิชย์จีนแถลงวันนี้ประณามการกระทำของสหรัฐว่า เป็นการข่มเหงรังแกที่ละเมิดบรรทัดฐานการค้าสากล โดยไม่มีหลักฐานสนับสนุนข้อกล่าวหาเรื่องภัยความมั่นคง หากสหรัฐยืนกรานจะทำเช่นนี้ต่อไป จีนจะดำเนินมาตรการที่จำเป็นเพื่อปกป้องสิทธิและผลประโยชน์อันชอบธรรมของธุรกิจจีนอย่างแน่วแน่ แต่ไม่ได้ระบุในรายละเอียด ขณะเดียวกันมีเสียงวิจารณ์ในสหรัฐว่า คำสั่งห้ามแบบครอบคลุมทั้งที่ยังไม่เห็นความเสี่ยงด้านความมั่นคงอย่างชัดเจน เป็นการจำกัดสิทธิในการแสดงออกอย่างเสรีของชาวอเมริกันและผู้พำนักอาศัยในสหรัฐ นายวิลเบอร์ รอสส์ รัฐมนตรีพาณิชย์สหรัฐแถลงเมื่อวานนี้ว่า พรรคคอมมิวนิสต์จีนได้แสดงออกถึงวิธีการและแรงจูงใจที่จะใช้แอปเหล่านี้คุกคามความมั่นคงแห่งชาติ นโยบายต่างประเทศ และเศรษฐกิจของสหรัฐ จึงมีคำสั่งห้ามใช้วีแชทในสหรัฐตั้งแต่วันอาทิตย์นี้ และห้ามดาวน์โหลดการอัปเดตติ๊กต๊อกโดยจะให้ใช้ได้จนถึงวันที่ 12 พฤศจิกายน เพื่อเปิดทางให้ไบแดนซ์ บริษัทแม่ของติ๊กต๊อกทำข้อตกลงกับธุรกิจอเมริกันเรื่องปกป้องข้อมูลส่วนตัวผู้ใช้ในสหรัฐตามที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กังวลว่าจะถูกทางการจีนสอดแนม การห้ามใช้วีแชทจะกระทบชาวจีนในสหรัฐที่ใช้แอปนี้ติดต่อกับคนที่บ้าน แต่ไม่กระทบบริการในจีนที่ครอบคลุมหลากหลายทั้งการสนทนา ซื้อของ ชำระเงิน และอื่น ๆ ขณะที่ติ๊กต๊อกมีผู้ใช้งานในสหรัฐประมาณ 100 ล้านคน.-สำนักข่าวไทย

ฮ่องกงเตรียมซื้อวัคซีนโควิดสกัดระบาดระลอกสี่

ฮ่องกง 19 ก.ย.- ทางการฮ่องกงจัดสรรงบประมาณ 8,400 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง (ราว 33,684 ล้านบาท) จัดซื้อวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ให้เพียงพอต่อการฉีดให้ประชาชนคนละสองโดส เพื่อสกัดการระบาดระลอกสี่ในฤดูหนาวนี้ ทางการฮ่องกงกำหนดยุทธศาสตร์ป้องกันการระบาดระลอกใหม่ ประกอบด้วยการจัดสรรงบประมาณจัดซื้อวัคซีนให้เพียงพอต่อการฉีดให้ประชาชน 7.5 ล้านคน คนละสองโดส เป็นปริมาณที่เชื่อว่าสามารถสร้างภูมิต้านทานโรคโควิด-19 ได้ เริ่มการตรวจหาเชื้อรอบใหม่ตั้งแต่เมื่อวานนี้กับผู้ดูแลบ้านพักคนชราและผู้ป่วย เพิ่มการตรวจหาเชื้อกับกลุ่มเสี่ยงอย่างสม่ำเสมอ จัดเตรียมสถานกักโรคอย่างน้อย 4,000 เตียงให้แล้วเสร็จภายในสิ้นปี สร้างโรงพยาบาลชั่วคราวติดกับเอเชียเวิลด์-เอ็กซ์โปให้เสร็จใน 4 เดือน ให้ตำรวจช่วยเจ้าหน้าที่สาธารณสุขกวดขันร้านอาหารและผับให้ใช้มาตรการรักษาระยะห่างทางสังคมในช่วงสุดสัปดาห์นี้ สร้างแพลตฟอร์มดิจิทัลระหว่างหน่วยงานรัฐบาลเพื่อรวบรวมข้อมูลและเร่งการตามหาผู้ใกล้ชิดผู้ป่วย โซเฟีย เฉิน รัฐมนตรีสาธารณสุขฮ่องกงเตือนว่า หากเกิดการระบาดระลอกสี่จะร้ายแรงกว่าระลอกสามในปัจจุบันที่ถือว่าร้ายแรงที่สุดแล้วในขณะนี้ ตัวเลขการติดเชื้อระลอกสามลดลงอย่างช้า ๆ หากเกิดการระบาดระลอกสี่ในฤดูหนาวนี้ อาจร้ายแรงยิ่งขึ้นไปอีก เมื่อวานนี้ฮ่องกงพบผู้ป่วยใหม่ 3 คน เป็นการติดเชื้อในชุมชน 2 คน และมาจากต่างประเทศ 1 คน ทำให้ยอดผู้ป่วยสะสมที่ 4,996 คน มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 1 คน เป็นชายวัย […]

อาเบะไปศาลเจ้าหลังพ้นตำแหน่งได้ไม่กี่วัน

โตเกียว 19 ก.ย.- นายชินโซ อาเบะ อดีตนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นไปสักการะศาลเจ้ายาสุกูนิในกรุงโตเกียวเช้าวันนี้ หลังจากพ้นตำแหน่งได้ไม่กี่วัน เป็นการไปครั้งแรกนับจากไปครั้งเดียวขณะดำรงตำแหน่งและถูกตำหนิจากหลายประเทศ นายอาเบะวัย 65 ปี ทวีตเรื่องไปศาลเจ้าพร้อมภาพถ่าย หลังจากลาออกอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 16 กันยายน ทั้งนี้ตลอดการดำรงตำแหน่งตั้งแต่เดือนธันวาคม 2555 เขาเคยไปสักการะที่ศาลเจ้าแห่งนี้เพียงครั้งเดียวในปี 2556 ครั้งนั้นทำให้จีนและเกาหลีใต้ไม่พอใจ เพราะมองว่าเป็นสัญลักษณ์การรุกรานของกองทัพญี่ปุ่นในอดีต เนื่องจากเป็นที่ตั้งป้ายวิญญาณผู้นำทหารญี่ปุ่น 14 คนที่ถูกศาลฝ่ายสัมพันธมิตรตัดสินว่าเป็นอาชญากรสงคราม ขณะที่สหรัฐแสดงความผิดหวังกับการไปดังกล่าว ทำให้นายอาเบะต้องเปลี่ยนเป็นส่งเครื่องเซ่นไหว้ไปแทนในทุกเทศกาลฤดูใบไม้ผลิและใบไม้ร่วงของศาลเจ้า นายอาเบะเป็นนายกรัฐมนตรีที่อยู่ในตำแหน่งนานที่สุดของญี่ปุ่น เขาประกาศเมื่อปลายเดือนสิงหาคมว่าจะลาออกเพราะโรคลำไส้ใหญ่อักเสบเป็นแผลกลับมากำเริบ โรคนี้เคยทำให้เขาต้องลาออกจากตำแหน่งสมัยแรกในปี 2550 หลังจากที่อยู่ในตำแหน่งได้เพียงปีเดียว นายโยชิฮิเดะ ซูงะ วัย 71 ปี หัวหน้าเลขาธิการคณะรัฐมนตรีผู้ทำหน้าที่โฆษกรัฐบาล จะสืบทอดตำแหน่งจนครบวาระนายอาเบะถึงสิ้นเดือนกันยายนปีหน้า.-สำนักข่าวไทย

อิหร่านเตือนภัยโควิดสีแดงทั้งประเทศ

เตหะราน 18 ก.ย.- ทางการอิหร่านประกาศเตือนภัยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 เป็นระดับสีแดงทั้งประเทศ เพราะยอดผู้ป่วยและเสียชีวิตเพิ่มขึ้นจนน่าเป็นห่วง นายอิราจ ฮารีร์ชี รัฐมนตรีช่วยสาธารณสุขอิหร่านเผยทางสถานีโทรทัศน์ทางการวันนี้ว่า การแบ่งพื้นที่เตือนภัยตามสีไม่มีความหมายแล้ว เพราะขณะนี้ไม่มีสีเหลืองหรือสีส้มอีกแล้ว มีแต่สีแดงทั้งประเทศ หากสถานการณ์ยังดำเนินต่อไปเช่นนี้ ยอดผู้เสียชีวิตจะสูงถึง 45,000 คน มีเพียงการสวมหน้ากากอนามัยให้ได้ร้อยละ 95 และลดการรวมตัวกันลงให้ได้ครึ่งหนึ่งจึงจะช่วยลดยอดผู้เสียชีวิตได้ พร้อมกับยกตัวอย่างเมืองทาบริซ ทางตะวันออกเฉียงเหนือ และเมืองกอม ทางตอนเหนือว่า ยอดผู้ป่วยเข้าโรงพยาบาลเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดเป็นวันละ 160 คน จากวันละ 40 คนและ 10 คนตามลำดับ อิหร่านแบ่งพื้นที่เตือนภัยโรคโควิด-19 เป็นสีขาว เหลืองหรือส้ม และแดง ขึ้นกับจำนวนการติดเชื้อและเสียชีวิต โฆษกกระทรวงสาธารณสุขแถลงทางโทรทัศน์วันนี้ว่า ยอดผู้ป่วยเพิ่มขึ้น 3,049 คน เป็น 416,198 คน และยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 144 คน เป็น 23,952 คน.-สำนักข่าวไทย

อิสราเอลล็อกดาวน์ทั่วประเทศอีกครั้ง

เยรูซาเล็ม 18 ก.ย.- อิสราเอลล็อกดาวน์ทั่วประเทศเป็นครั้งที่สองในวันนี้ เพื่อสกัดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ที่มีอัตราติดเชื้อสูงที่สุดแห่งหนึ่งในโลก แม้ถูกประชาชนประท้วงผลที่จะเกิดขึ้นกับเศรษฐกิจ การล็อกดาวน์สามสัปดาห์เริ่มตั้งแต่เวลา 14.00 น.วันนี้ตามเวลาอิสราเอล ตรงกับเวลา 18.00 น.วันนี้ตามเวลาในไทย ไม่กี่ชั่วโมงก่อนเข้าสู่วันรอช ฮาชานาห์ ซึ่งเป็นวันขึ้นปีใหม่ของชาวยิว นายกรัฐมนตรีเบนยามิน เนทันยาฮูของอิสราเอลกล่าวทางโทรทัศน์เมื่อวานนี้ว่า รัฐบาลไม่มีทางเลือกนอกจากต้องล็อกดาวน์ เพราะระบบสาธารณสุขใกล้ถึงจุดอันตรายแล้ว จึงต้องทำทุกอย่างเพื่อรักษาสมดุลระหว่างความจำเป็นทางสุขภาพกับความจำเป็นทางเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์เยดิออต อาโรนอตที่มียอดจำหน่ายสูงสุดในอิสราเอลพาดหัวข่าวว่า ไม่สามารถปิดประเทศแบบนี้ได้ พร้อมกับลงบทสัมภาษณ์แพทย์ นักเศรษฐศาสตร์ และครูที่ล้วนคัดค้านการล็อกดาวน์ ขณะที่ผู้อำนวยการโรงพยาบาลแห่งหนึ่งเตือนว่า ความไม่ชัดเจนเรื่องคำสั่งล็อกดาวน์จะทำให้ชาวอิสราเอลต่อต้าน เพราะเมื่อคืนวานนี้ทางการยังไม่สามารถสรุปรายละเอียดคำสั่งที่มีการยกเว้นหลายประการ เช่น การซื้ออาหารและยา การไปร่วมพิธีศพหรือพิธีสุหนัต และเพิ่งขยายคำสั่งห้ามอยู่ไกลบ้านจาก 500 เมตรเป็น 1 กิโลเมตร ขณะที่การล็อกดาวน์ครั้งแรกเมื่อเดือนมีนาคมกำหนดไว้ที่ 100 เมตร อิสราเอลเร่งตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนา โดยพบผู้ป่วยใหม่ 5,238 คนจากการตรวจทั้งหมด 56,986 คนเมื่อวานนี้ ยอดผู้ป่วยสะสมอยู่ที่ 176,933 คน เสียชีวิต 1,169 คน […]

เผยแฮ็กเกอร์จีนแฮ็กแล็บสเปนพัฒนาวัคซีนโควิด

มาดริด 18 ก.ย.- หนังสือพิมพ์ในสเปนอ้างแหล่งข่าวว่า นักเจาะระบบหรือแฮ็กเกอร์ชาวจีนจารกรรมข้อมูลจากห้องทดลองปฏิบัติการหรือแล็บสเปนที่กำลังพัฒนาวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 เอลปาอิสตีพิมพ์คำให้สัมภาษณ์ของหัวหน้าหน่วยข่าวกรองซีเอ็นไอ (CNI) ของสเปนว่า แฮ็กเกอร์ได้เพิ่มการโจมตีอย่างรุนแรงต่อแล็บที่กำลังวิจัยเรื่องวัคซีน ไม่เพียงในสเปนแต่ยังรวมอีกหลายประเทศ โดยได้โจมตีเพิ่มขึ้นทั้งในเชิงปริมาณและความรุนแรงในช่วงที่สเปนล็อกดาวน์สกัดการระบาดของโรคโควิด-19 เป้าหมายคืออุตสาหกรรมอ่อนไหวอย่างการดูแลสุขภาพและเภสัชภัณฑ์ ส่วนการโจมตีเพิ่มขึ้นในประเทศอื่นเป้าหมายคือผู้ที่กำลังพัฒนาวัคซีนโควิด-19 และมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างหน่วยงานจารกรรมด้วยกัน รายงานอ้างแหล่งข่าวด้านความมั่นคงว่า การก่อเหตุส่วนใหญ่เป็นฝีมือแฮ็กเกอร์จากจีนและรัสเซีย ส่วนใหญ่เป็นองค์กรของรัฐ นอกจากนี้ยังมีองค์กรอาชญากรรมและมหาวิทยาลัยที่ค้าข้อมูลจากการแฮ็ก พร้อมกับยืนยันว่าการแฮ็กขโมยข้อมูลในสเปนเป็นฝีมือแฮ็กเกอร์จีน อย่างไรก็ดี รายงานไม่ได้ระบุว่าเป็นข้อมูลประเภทใด มีความสำคัญเพียงใด หรือเกิดขึ้นเมื่อใด.-สำนักข่าวไทย

จีนเตรียมทดลองวัคซีนโควิดสองโดสพร้อมกัน

ปักกิ่ง 18 ก.ย.- คณะนักวิจัยจีนเตรียมทดลองทางคลินิกวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 สองโดสพร้อมกัน หลังจากทดลองโดสเดียวไปแล้ว คณะนักวิจัยวัคซีน Ad5-nCoV เผยเมื่อเดือนกรกฎาคมว่า การเพิ่มวัคซีนอีกโดสแบบยืดหยุ่นอาจช่วยเสริมการตอบสนองของภูมิต้านทาน อ้างอิงจากการที่เคยใช้วิธีนี้พัฒนาวัคซีนป้องกันโรคอีโบลาโดยใช้เชื้อไวรัสไข้หวัดธรรมดาเป็นตัวนำสารพันธุกรรมเชื้อไวรัสอีโบลา คณะนักวิจัยตั้งเป้าจะมีอาสาสมัครวัยผู้ใหญ่สุขภาพแข็งแรง 168 คนเข้าร่วมการทดลองวัคซีนสองโดสพร้อมกันที่จะเริ่มในวันอาทิตย์นี้ที่เมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย์ ทางตอนกลางของประเทศ ต้นตอการระบาดของประเทศเมื่อปลายปีก่อน วัคซีนขนานนี้พัฒนาโดยกังชิโนไบโอโลจิกส์ของจีนร่วมกับหน่วยงานวิจัยที่ได้รับการสนับสนุนจากกองทัพจีน และได้รับอนุมัติให้ใช้ในกองทัพจีนแล้ว อยู่ระหว่างการทดลองระยะสามซึ่งเป็นระยะสุดท้ายในปากีสถานและรัสเซียโดยฉีดเพียงโดสเดียว นักวิจัยภายนอกกังวลว่า วัคซีนนี้จะมีประสิทธิภาพจำกัด เพราะใช้เชื้อไวรัสไข้หวัดธรรมดาเป็นตัวนำสารพันธุกรรมของเชื้อไวรัสโรคโควิด-19 กังชิโนยืนยันเมื่อต้นเดือนว่า ผลการทดลองวัคซีนโดสเดียวระยะสองไม่พบว่า ภูมิต้านทานไข้หวัดธรรมดาที่มีอยู่แล้วจะบั่นทอนความสามารถของวัคซีนในการกระตุ้นให้ภูมิต้านทานต่อต้านเชื้อไวรัสโคโรนา.-สำนักข่าวไทย

ฟิลิปปินส์เล็งให้พยาบาลทำงานเมืองนอกได้

มะนิลา 17 ก.ย.- โฆษกประธานาธิบดีโรดิโก ดูเตอร์เตของฟิลิปปินส์เผยว่า รัฐบาลกำลังพิจารณาเรื่องอนุญาตให้บุคลากรทางการแพทย์เดินทางไปทำงานในต่างประเทศได้อีกครั้ง หลังจากห้ามเดินทางเพื่อให้อยู่ช่วยรับมือกับการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ในประเทศ พยาบาลฟิลิปปินส์จำนวนมากขอร้องรัฐบาลอนุญาตให้เดินทางไปทำงานในต่างประเทศได้อีกครั้ง เพราะรู้สึกว่าทำงานในประเทศแล้วได้ค่าจ้างและการยกย่องต่ำกว่าที่ควร รวมทั้งไม่ได้รับความคุ้มครองด้วย โฆษกประธานาธิบดีเผยระหว่างแถลงข่าววันนี้ว่า ข้อเสนอผ่อนปรนการห้ามบุคลากรทางการแพทย์ไปทำงานในต่างประเทศจะนำเสนอต่อประธานาธิบดีในวันจันทร์หน้า ประธานาธิบดีจะเป็นผู้ตัดสินใจในเรื่องนี้ นายเตียวโดโร ลกซิน รัฐมนตรีต่างประเทศที่สนับสนุนให้ยกเลิกคำสั่งห้ามทวีตว่า ฟิลิปปินส์มีผู้สำเร็จการศึกษาด้านพยาบาลตกงานมากถึง 400,000 คน ขณะที่นายซิลเวสเตอร์ เบลโล รัฐมนตรีแรงงานให้ความมั่นใจกับพยาบาลเมื่อสัปดาห์ก่อนว่า ประธานาธิบดีจะสนับสนุนข้อเสนอของเขาเรื่องผ่อนปรนคำสั่งห้ามเดินทางไปทำงานในต่างประเทศ และกำลังมีการศึกษาข้อเสนอเรื่องยกเลิกคำสั่งห้ามทั้งหมดอย่างเคร่งเครียด แม้ไม่อยากให้พยาบาลไปทำงานในต่างประเทศ แต่พยาบาลก็เสียโอกาสเพราะไม่มีงานทำ แม้มีก็ได้ค่าจ้างต่ำ ขอให้ทุกคนต่อสู้เพื่อสิทธิของตนเอง ฟิลิปปินส์มีผู้ป่วยโรคโควิด-19 สะสม 276,289 คน มากที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และมีผู้เสียชีวิต 4,785 คน มากเป็นอันดับสองของภูมิภาครองจากอินโดนีเซียที่มีผู้เสียชีวิต 9,222 คน และมีผู้ป่วยสะสม 232,628 คน.-สำนักข่าวไทย

1 570 571 572 573 574 586