โคเปนเฮเกน 1 ก.พ.- เดนมาร์กประกาศยกเลิกมาตรการทั้งหมดที่ใช้จำกัดการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 นับเป็นประเทศแรกในสหภาพยุโรปหรืออียู (EU) แม้ยังคงมีผู้ติดเชื้อรายวันจำนวนมาก
เดนมาร์กเคยยกเลิกมาตรการที่เป็นข้อจำกัดทั้งหมดครั้งแรกช่วงเดือนกันยายน-พฤศจิกายนปีก่อน ล่าสุดกลับมายกเลิกอีกครั้งตั้งแต่วันนี้ ทั้งการสวมหน้ากากอนามัย การใช้บัตรผ่านโควิด การจำกัดเวลาเปิดบาร์และร้านอาหาร และการจำกัดจำนวนคนรวมกลุ่มในที่ปิด แต่ยังคงมาตรการจำกัดกับผู้ยังไม่ฉีดวัคซีนที่เดินทางมาจากประเทศนอกเขตเชงเกน เดนมาร์กยกเลิกมาตรการจำกัดทั้งหมด แม้ว่ายอดติดเชื้อรายใหม่สูงถึงวันละ 40,000-50,000 คน คิดเป็นเกือบร้อยละ 1 ของประชากร 5 ล้าน 8 แสนคน มียอดติดเชื้อสะสมมากกว่า 1 ล้าน 6 แสน 6 หมื่นคน และมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 3,700 คน
นักระบาดวิทยา มหาวิทยาลัยรอสกิลด์ในเดนมาร์กเผยว่า เดนมาร์กมีผู้ใหญ่ฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นภูมิคุ้มกันในอัตราสูงมาก โดยฉีดไปแล้วไม่ต่ำกว่าร้อยละ 60 เร็วกว่าเป้าหมายที่ทางการกำหนดไว้ถึง 1 เดือน และมากกว่าอัตราเฉลี่ยของอียูที่มีไม่ถึงร้อยละ 45 ประกอบกับสาธารณสุขคาดว่า หากรวมกับผู้ที่เพิ่งติดเชื้อแล้ว เดนมาร์กจะมีผู้มีภูมิคุ้มกันโรคโควิดที่มีอาการรุนแรงรวมกันราวร้อยละ 80 ดังนั้นในเมื่อเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอไมครอนไม่ทำให้ผู้ฉีดวัคซีนแล้วมีอาการรุนแรง จึงมองว่าเป็นเรื่องสมเหตุผลที่จะยกเลิกมาตรการจำกัดทั้งหมด นอกจากนี้การที่เชื้อโอไมครอนแพร่ไปในวงกว้างน่าจะทำให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ที่อยู่ได้นาน ช่วยให้เดนมาร์กสกัดการระบาดระลอกใหม่ได้
ที่ผ่านมาชาวเดนมาร์กใช้การตรวจหาเชื้อที่บ้าน แต่ขณะนี้เริ่มทยอยยกเลิกแล้ว ทางการแนะนำให้ผู้มีอาการอยู่บ้านแทน และหากมีผลตรวจเป็นบวกให้กักตัวที่บ้าน 4 วัน ส่วนผู้มีประวัติสัมผัสใกล้ชิดไม่จำเป็นต้องกักตัวอีกต่อไป และขอให้สวมหน้ากากอนามัยรวมทั้งใช้บัตรผ่านโควิดเมื่อต้องไปโรงพยาบาล นายกรัฐมนตรีเมตเต เฟรเดอริกเซนซึ่งประกาศเมื่อสัปดาห์ก่อนเรื่องให้ประชาชนกลับไปใช้ชีวิตตามปกติก่อนเกิดโควิดว่า เธอไม่สามารถรับรองได้ว่าจะกลับไปใช้มาตรการจำกัดอีกหรือไม่.-สำนักข่าวไทย