พิธีมอบรางวัลโนเบลปีนี้พิเศษกว่าทุกครั้ง

ออสโล 10 ธ.ค.- สถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ทำให้พิธีมอบเหรียญรางวัล เงินรางวัลและใบประกาศนียบัตรผู้ได้รับรางวัลโนเบลสาขาต่าง ๆ ประจำปี 2563 ในวันนี้มีความพิเศษอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน นายโอลาฟ โยลสตัด ผู้อำนวยการสถาบันโนเบลเผยวานนี้ว่า ปีนี้เป็นปียากลำบากสำหรับคณะกรรมการโนเบลเช่นเดียวกับทุกคน น่าเสียดายที่ผู้ได้รับรางวัลพลาดมนต์ขลังของพิธีมอบรางวัล การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้ต้องลดขนาดงานเลี้ยงหรูหราที่มีแขกผู้ทรงเกียรติจากทั่วโลกลงเป็นงานที่เรียบง่ายที่สุด ทั้งในกรุงออสโลของนอร์เวย์ สถานที่ประกาศผลและมอบรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพและในกรุงสตอกโฮล์มของสวีเดน สถานที่ประกาศผลและมอบรางวัลโนเบลสาขาการแพทย์ ฟิสิกส์ เคมี วรรณกรรม และเศรษฐศาสตร์ นายเดวิด บีสลีย์ ผู้อำนวยการโครงการอาหารโลกแห่งสหประชาชาติหรือดับเบิลยูเอฟพี (WFP) จะเป็นผู้รับมอบรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพประจำปีนี้ที่สำนักงานใหญ่ในกรุงโรมของอิตาลี โดยมีพิธีถ่ายทอดออนไลน์เวลา 13.00 น.วันนี้ตามเวลาท้องถิ่น ตรงกับเวลา 19.00 น.วันนี้ตามเวลาในไทย คณะกรรมการรางวัลโนเบลประกาศเมื่อวันที่ 9 ตุลาคมให้ ดับเบิลยูเอฟพีคว้ารางวัลโนเบลสันติภาพในปีนี้ เพราะพยายามขัดขวางการนำความหิวโหยมาเป็นอาวุธในการทำสงครามและความขัดแย้ง องค์กรโลกแห่งนี้ก่อตั้งขึ้นในปี 2504 ปีที่แล้วช่วยเหลือผู้หิวโหย 97 ล้านคนทั่วโลก และได้ทวีตเมื่อไม่กี่วันก่อนว่า ผู้หิวโหย 690 ล้านคนทั่วโลกในขณะนี้ ทุกคนมีสิทธิที่จะมีชีวิตอยู่อย่างสันติและปราศจากความหิวโหย.-สำนักข่าวไทย

สหรัฐมียอดตายโควิดรายวันทะลุ 3,000 คนครั้งแรก

วอชิงตัน 10 ธ.ค. – สหรัฐมียอดผู้เสียชีวิตจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ทะลุ 3,000 คนต่อวันเป็นครั้งแรก ขณะที่ทางการสาธารณสุขเร่งเตรียมแผนฉีดวัคซีนให้ประชาชนหากวัคซีนได้รับการอนุมัติ สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานวันนี้ว่า สหรัฐมียอดผู้เสียชีวิตรายวันอย่างน้อย 3,112 คนเมื่อวันพุธตามเวลาท้องถิ่น ทำลายสถิติตัวเลขผู้เสียชีวิตรายวันสูงสุดของวันที่ 3 ธันวาคมที่มี 2,861 คน และเป็นครั้งแรกที่สหรัฐมียอดผู้เสียชีวิตรายวันสูงกว่า 3,000 คน เพราะช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา สหรัฐมีผู้เสียชีวิตเฉลี่ย 2,259 คนต่อวัน และมีผู้ป่วยติดเชื้อเฉลี่ย 205,661 คนต่อวัน เป็นตัวเลขที่ทางการสาธารณสุขสหรัฐคาดว่า มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ก่อนที่จะมีการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 อย่างแพร่หลายในประชาชนทั่วไป คณะกรรมการอิสระที่เป็นผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์จะประชุมร่วมกันในวันนี้ตามเวลาท้องถิ่นเพื่อตัดสินใจว่า จะเสนอแนะให้องค์การอาหารและยาของสหรัฐหรือเอฟดีเออนุมัติให้นำวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของไฟเซอร์/ไบโอเอ็นเทคมาใช้เป็นกรณีฉุกเฉินได้หรือไม่ ขณะที่ นพ. มงเซฟ สลาวี หัวหน้าที่ปรึกษาทางวิทยาศาสตร์ของโครงการโอเปอเรชั่น วาร์ป สปีด (Operation Warp Speed) ซึ่งเป็นโครงการฉีดวัคซีนของรัฐบาลสหรัฐกล่าวกับสถานีโทรทัศน์ฟ็อกซ์นิวส์ว่า เอฟดีเออาจอนุมัติการใช้วัคซีนได้เร็วสุดในวันศุกร์หรือเสาร์นี้ และอาจเริ่มฉีดวัคซีนให้ชาวอเมริกันคนแรกได้ในวันอาทิตย์หรือวันจันทร์ ขณะนี้สหรัฐมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมราว 15.5 ล้านคน และผู้เสียชีวิตกว่า 289,000 […]

เกาหลีใต้เร่งสร้างรพ. จากตู้คอนเทนเนอร์

โซล 10 ธ.ค. – ทางการเกาหลีใต้เร่งนำตู้คอนเทนเนอร์มาสร้างเป็นโรงพยาบาลฉุกเฉินขนาดเล็กเพื่อบรรเทาปัญหาโรงพยาบาลตึงตัวจากการที่ผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว สถานการณ์ระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกล่าสุดในเกาหลีใต้ทำให้เกิดความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาขาดแคลนเตียงผู้ป่วย ทางการกรุงโซลจึงนำตู้คอนเทนเนอร์มาสร้างเป็นโรงพยาบาลฉุกเฉินที่มีเตียงรองรับผู้ป่วยติดเชื้อเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เกิดการระบาดในประเทศ ขณะที่ทางการสาธารณสุขเกาหลีใต้เตรียมเพิ่มจุดบริการตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนาชั่วคราวอีก 150 แห่งทั่วกรุงโซลและพื้นที่โดยรอบ นายพัค นึงฮู รัฐมนตรีสาธารณสุขเกาหลีใต้กล่าวว่า ทางการกำลังพยายามอย่างเต็มที่เพื่อยับยั้งการระบาดของโรคโควิด-19 ในกรุงโซลและพื้นที่โดยรอบด้วยการระดมทรัพยากรทั้งหมดที่มี โดยเฉพาะการจัดเตรียมศูนย์รักษาและเตียงผู้ป่วยให้เพียงพอกับผู้ป่วยภาวะวิกฤต ซึ่งจะช่วยให้พวกเขาได้รับการรักษาที่เหมาะสมอย่างทันท่วงที สำนักงานควบคุมและป้องกันโรคของเกาหลีใต้หรือเคดีซีเอรายงานวันนี้ว่า เกาหลีใต้มียอดผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้น 682 คน ลดลงจากวันก่อนหน้าที่มี 686 คน ซึ่งถือเป็นตัวเลขผู้ป่วยสูงเป็นอันดับที่ 2 นับตั้งแต่เกาหลีใต้พบผู้ป่วยติดเชื้อรายแรกในเดือนมกราคมปีนี้ แม้ว่าทางการเกาหลีใต้ได้ประกาศใช้มาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมที่เข้มงวดขึ้นในสัปดาห์นี้แล้วก็ตาม. -สำนักข่าวไทย

ปีนี้ประเทศกำลังพัฒนาในเอเชียหดตัวน้อยกว่าคาด

มะนิลา 10 ธ.ค.- ธนาคารเพื่อการพัฒนาหรือเอดีบี (ADB) ปรับประมาณการตัวเลขเศรษฐกิจประเทศกำลังพัฒนาในเอเชียว่าหดตัวลดลงจากที่ประมาณการไว้ก่อนหน้านี้ รวมถึงเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และคาดว่าไทยจะขยายตัวในปีหน้าลดลงจากประมาณการครั้งก่อน เอดีบีออกรายงานวันนี้ เสริมรายงานแนวโน้มการพัฒนาเอเชีย 2563 ฉบับปรับปรุงว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจในเอเชียคาดว่าจะหดตัวร้อยละ 0.4 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศหรือจีดีพี (GDP) ในปีนี้ ดีขึ้นจากที่ประมาณการในเดือนกันยายนว่าจะหดตัวร้อยละ 0.7 ก่อนจะขยายตัวสูงสุดร้อยละ 6.8 ในปีหน้า เท่ากับที่ประมาณการไว้ในเดือนกันยายน แต่หากแยกย่อยลงไป เอเชียตะวันออกมีแนวโน้มเติบโตในปีนี้ ขณะที่เอเชียอื่น ๆ หดตัว นักเศรษฐศาสตร์ของเอดีบีอธิบายว่า แนวโน้มของประเทศกำลังพัฒนาในเอเชียดีขึ้น โดยมาจากเศรษฐกิจจีนและอินเดีย สองเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในภูมิภาคที่คาดว่าจะเติบโตขึ้น การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ที่ยืดเยื้อยังคงเป็นความเสี่ยงหลัก แต่ความคืบหน้าเรื่องวัคซีนจะช่วยชดเชยได้ การส่งมอบวัคซีนที่ปลอดภัย มีประสิทธิภาพและทันเวลาคือปัจจัยสำคัญที่จะสนับสนุนการเปิดเศรษฐกิจและการฟื้นตัวของภูมิภาค อย่างไรก็ตาม การท่องเที่ยวจะยังคงฟื้นตัวล่าช้าอยู่ เอดีบีประมาณการว่า เอเชียตะวันออกจะขยายตัวร้อยละ 1.6 ในปีนี้ ดีขึ้นจากร้อยละ 1.3 ในการประมาณการเดือนกันยายนเพราะจีนและไต้หวันฟื้นตัวเร็วกว่าที่คาด ส่วนปีหน้าจะขยายตัวร้อยละ 7.0 เท่ากับที่ประมาณการในเดือนกันยายน เอเชียใต้จะหดตัวร้อยละ 6.1 ในปีนี้ ลดลงจากหดตัวร้อยละ […]

อินโดนีเซียเผยวัคซีนโควิดจีนมีประสิทธิภาพ 97%

จาการ์ตา 8 ธ.ค. – ไบโอ ฟาร์มา บริษัทเวชภัณฑ์ของอินโดนีเซียเผยข้อมูลเบื้องต้นจากการทดลองวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ที่พัฒนาโดยบริษัทซิโนแวกของจีนว่า มีประสิทธิภาพสูงถึงร้อยละ 97 โฆษกของไบโอ ฟาร์มากล่าวในงานแถลงข่าวว่า ทีมงานทดลองทางคลินิกของบริษัทแจ้งข้อมูลเบื้องต้นว่า วัคซีนของซิโนแวกมีประสิทธิภาพสูงถึงร้อยละ 97 และว่า บริษัทจะรอผลการทดลองที่เสร็จสมบูรณ์ และคาดว่า สำนักงานอาหารและยาของอินโดนีเซียจะอนุมัติให้ใช้วัคซีนเป็นกรณีฉุกเฉินในช่วงปลายเดือนมกราคมปีหน้า ก่อนที่จะเริ่มการฉีดวัคซีนในประชาชนจำนวนมากเป็นลำดับต่อไป อย่างไรก็ดี เขาไม่ได้เผยรายละเอียดว่า ผลเบื้องต้นดังกล่าวมาจากการทดลองทางคลินิกระยะสุดท้ายหรือไม่ และไม่ได้ให้ข้อมูลว่า มีอาสาสมัครกี่คนที่ติดเชื้อไวรัสโคโรนาในระหว่างการทดลองทางคลินิกที่มีผู้เข้าร่วม 1,600 คน โฆษกอีกคนของไบโอ ฟาร์มาเผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์ในเวลาต่อมาว่า บริษัทกำลังรวบรวมข้อมูลประสิทธิภาพวัคซีนในการทดลองทางคลินิกในระยะที่ 3 ที่กำลังดำเนินอยู่ในขณะนี้ แต่โฆษกของซิโนแวกเผยว่า บริษัทยังไม่ได้รับรายงานประสิทธิภาพวัคซีนในการทดลองทางคลินิกระยะที่ 3. -สำนักข่าวไทย

ไข้หวัดนกระบาดในฮิโรชิมา

ฮิโรชิมา 8 ธ.ค. – เจ้าหน้าที่ทางการจังหวัดฮิโรชิมา ทางตะวันตกของญี่ปุ่น ต้องกำจัดไก่ 134,000 ตัว หลังตรวจพบเชื้อไวรัสไข้หวัดนกสายพันธุ์ H5 ในฟาร์มแห่งหนึ่ง เจ้าหน้าที่เผยว่า เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาพบไก่ในฟาร์มแห่งหนึ่งของเมืองมิฮาระ ตายเป็นจำนวนมาก จากการตรวจสอบซากพบเชื้อไวรัสไข้หวัดนกสายพันธุ์ H5 เจ้าหน้าที่ในจังหวัดและกองกำลังป้องกันตนเอง รวม 860 คน ต้องระดมกำลังช่วยกันกำจัดไก่ทั้งหมดในวันจันทร์ และจะพิจารณาหาวิธีดำเนินการกับซากไก่ต่อไป โดยอาจใช้วิธีฝังกลบ ขณะเดียวกันทางการท้องถิ่นยังสั่งห้ามขนส่งไก่และไข่ภายในรัศมี 3 กิโลเมตรรอบฟาร์มที่เกิดเหตุ ส่วนเกษตรกรที่อยู่ในรัศมี 10 กิโลเมตรถูกสั่งห้ามขนส่งไก่และไข่ออกนอกพื้นที่ด้วยเช่นกัน พื้นที่ดังกล่าวมีฟาร์มสัตว์ปีกทั้งหมด 13 แห่ง เจ้าหน้าที่กำลังฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อยานพาหนะทุกคันที่เดินทางเข้าออกฟาร์ม 7 แห่ง พร้อมทั้งเฝ้าระวังว่ามีไก่ตายอีกหรือไม่.-สำนักข่าวไทย

พยาบาลเมียนมาเผยโควิดทำล้าทั้งกายและใจ

ย่างกุ้ง 8 ธ.ค.- พยาบาลชาวเมียนมาเผยว่า สภาพการทำงานหนักและเคร่งเครียดช่วงโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 แพร่ระบาด ทำให้บุคลากรทางการแพทย์ในระบบสาธารณสุขที่อ่อนแอเกิดความเหนื่อยล้าทั้งร่างกายและจิตใจ พยาบาลวัย 52 ปี เผยว่า เตรียมเกษียณก่อนกำหนดในปีหน้าไม่ว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดจะเป็นอย่างไรก็ตาม เธอมีสิทธิเพราะทำงานมาแล้ว 25 ปี แพทย์และพยาบาลพากันติดเชื้อและเสียชีวิตโดยไม่ได้รับการสนับสนุน ร่างกายทุกคนอ่อนล้า สภาพจิตใจหดหู่ เธอต้องถามไถ่สารทุกข์สุกดิบมารดาวัย 82 ปีผ่านวิดีโอคอลทางโทรศัพท์ ไม่สามารถกลับไปเยี่ยมที่บ้านตามที่มารดาร้องขอ เพราะทำงานที่ศูนย์กักโรคมานาน 5 เดือนแล้ว มารดาเสียใจที่เธอไม่กลับไปเยี่ยมเพราะไม่รู้ว่าสถานการณ์การระบาดเป็นอย่างไร บุคลากรทางการแพทย์หลายคนถูกกดดันหนักจนใกล้ถึงจุดระเบิดแล้ว ด้านอธิบดีกระทรวงสาธารณสุขและกีฬายอมรับว่า เป็นการทำงานที่มีแรงกดดันมาก ทางการกำลังทำแผนปฏิบัติการช่วยเยียวยาสภาพจิตใจบุคลากรทางการแพทย์ เมียนมามีบุคลากรทางการแพทย์ของรัฐประจำตามศูนย์กักโรคเฉลี่ยแห่งละ 2 คนเท่านั้น ทำหน้าที่ชี้แนะอาสาสมัครที่มาช่วยงานราวแห่งละ 100 คน ยอดผู้ป่วยสะสมจนถึงวานนี้อยู่ที่ 100,431 คน เสียชีวิต 2,132 คน.-สำนักข่าวไทย

เยอรมนีอาจเข้มงวดโควิดยิ่งขึ้นก่อนคริสต์มาส

เบอร์ลิน 8 ธ.ค. – ทางการเยอรมนีอาจใช้มาตรการเข้มงวดยิ่งขึ้นในการควบคุมการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 เนื่องจากมาตรการล็อกดาวน์บางพื้นที่และมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมไม่อาจยับยั้งการระบาดได้ นายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคิล ของเยอรมนีกล่าวในที่ประชุมพรรครัฐบาลว่า มาตรการล็อกดาวน์ที่ใช้อยู่ในขณะนี้ยังไม่เพียงพอที่จะทำให้เยอรมนีผ่านพ้นวิกฤตการระบาดของโรคโควิด-19 ในช่วงฤดูหนาวได้ ขณะที่นายเยนส์ ชปาห์น รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขเยอรมนีให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์ฟีนิกซ์ของเยอรมนีเกี่ยวกับความเห็นของผู้นำเยอรมนีว่า แนวทางรับมือกับการระบาดที่ครอบคลุมเป็นระยะเวลาสั้น ๆ และแตกต่างไปจากเดิมอาจประสบความสำเร็จในการยับยั้งการระบาดได้มากกว่า หากยังไม่สำเร็จภายใน 1 – 2 สัปดาห์ข้างหน้าก่อนถึงเทศกาลคริสต์มาส ก็จำเป็นต้องหารืออีกครั้ง สถานีโทรทัศน์อาร์บีบีของเยอรมนีรายงานอ้างคำพูดของมุขมนตรีรัฐบรันเดินบูร์กว่า รัฐบาลกลางและมุขมนตรีรัฐต่าง ๆ จะหารือร่วมกันเกี่ยวกับการตัดสินใจใช้มาตรการเข้มงวดขึ้นภายในสัปดาห์นี้ เพื่อควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 ขณะที่ผู้นำทางการเมืองหลายรายเชื่อว่า มาตรการที่ใช้อยู่สามารถป้องกันไม่ให้ยอดผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ก็ไม่ได้ทำให้ตัวเลขผู้ป่วยลดลง อีกทั้งเยอรมนียังทำสถิติผู้เสียชีวิตรายวันสูงสุด 487 คนในสัปดาห์ที่ผ่านมา เยอรมนีพบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ราว 12,300 คน และผู้เสียชีวิต 147 คน ทำให้มียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสม 1.2 ล้านคน และผู้เสียชีวิตทั้งสิ้นราว 19,400 คน. -สำนักข่าวไทย

ตุรกีอาจเริ่มฉีดวัคซีนโควิดจีนในเดือนนี้

อิสตันบูล 8 ธ.ค.- รัฐมนตรีสาธารณสุขตุรกีเผยว่า ตุรกีอาจเริ่มฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ของบริษัทจีนให้ประชาชนได้ภายในสิ้นเดือนนี้เมื่อเสร็จสิ้นการวิเคราะห์เพื่อให้ใบอนุญาตใช้ในประเทศ หนังสือพิมพ์ตุรกีอ้างนายฟาห์เรตติน โคจา รัฐมนตรีสาธารณสุขว่า วัคซีนโคโรแวก (Coronavac) ของซิโนแวกไบโอเทคจะส่งมาถึงตุรกีหลังวันที่ 11 ธันวาคม วัคซีนนี้อยู่ระหว่างการทดลองระยะสามซึ่งเป็นระยะสุดท้ายในตุรกีและหลายประเทศ จึงต้องรอการตรวจสอบและวิเคราะห์อีกสองสัปดาห์ เดือนที่แล้วตุรกีได้ลงนามสัญญาสั่งซื้อโคโรนาแวก 50 ล้านโดส กำหนดทยอยส่งระหว่างเดือนธันวาคมถึงกุมภาพันธ์ นายโคจากล่าวว่า ตุรกีมีประชากร 83 ล้านคน จึงต้องการสั่งซื้อมากกว่านี้แต่ไม่สามารถทำได้ ขณะนี้กำลังมองหาวัคซีนจากรัสเซียและบริษัทอื่น ๆ เพื่อนำมาใช้ระหว่างรอจนกว่าจะสามารถผลิตได้เองในประเทศ นอกจากนี้ยังอยู่ระหว่างเจรจาขอเพิ่มคำสั่งซื้อวัคซีนจากไฟเซอร์และไบโอเอ็นเทคจากที่สั่งเบื้องต้น 1 ล้านโดส สองบริษัทนี้เผยว่า จะส่งให้ได้ 25 ล้านโดสในปีหน้า แต่ตุรกีต้องการให้ส่งมาก่อนที่จะผลิตได้เองในเดือนเมษายน อนึ่ง ตุรกีมีผู้ป่วยโควิด-19 สะสมกว่า 860,000 คน เสียชีวิตกว่า 15,100 คน.-สำนักข่าวไทย

คุณยายชาวอังกฤษฉีดวัคซีนโควิดคนแรกของโลก

นางมาร์กาเรต คีแนน คุณยายชาวอังกฤษวัย 90 ปีกลายเป็นผู้ที่ได้รับวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ของบริษัทไฟเซอร์ที่ได้รับอนุมัติแล้วคนแรกของโลก

รัฐเวสเทิร์นออสเตรเลียยกเลิกกักตัวคนจากสองรัฐ

เพิร์ธ 8 ธ.ค. – รัฐเวสเทิร์นออสเตรเลียประกาศยกเลิกมาตรการกักตัวในผู้ที่เดินทางมาจากรัฐวิกตอเรียและรัฐนิวเซาท์เวลส์เป็นครั้งแรกในรอบ 8 เดือน นายมาร์ค แมคโกแวน มุขมนตรีรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลียกล่าวว่า ผู้ที่เดินทางเข้ามายังรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลียจากรัฐวิกตอเรียและรัฐนิวเซาท์เวลส์ไม่จำเป็นต้องเข้าสู่มาตรการกักตัวในโรงแรมเป็นเวลา 2 สัปดาห์อีกต่อไป การประกาศยกเลิกมาตรการดังกล่าวมีขึ้นในขณะที่รัฐวิกตอเรียและรัฐนิวเซาท์เวลส์ ซึ่งเป็น 2 รัฐที่มีประชากรมากที่สุดของออสเตรเลียไม่พบผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 รายใหม่ หรือพบผู้ป่วยติดเชื้อเพียงเล็กน้อยในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นการตอกย้ำความสำเร็จในการควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 ในออสเตรเลีย รัฐวิกตอเรียไม่พบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ติดต่อกันมานานกว่า 1 เดือนแล้ว ขณะที่รัฐนิวเซาท์เวลส์พบผู้ป่วยติดเชื้อในชุมชนเพียง 1 คนในช่วง 4 สัปดาห์ที่ผ่านมา อย่างไรก็ดี ทางการรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลียยังคงใช้มาตรการกักตัวในผู้ที่เดินทางมาจากรัฐเซาท์ออสเตรเลียที่พบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ 30 คนในช่วงปลายเดือนก่อน. -สำนักข่าวไทย

เผย “ไบเดน” เลือก รมว.กลาโหมผิวดำคนแรก

วอชิงตัน 8 ธ.ค. – สื่อสหรัฐเผยว่า นายโจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ จะเลือกนายพลลอยด์ ออสติน ให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมสหรัฐ ซึ่งถือเป็นรัฐมนตรีกลาโหมผิวดำคนแรกในประวัติศาสตร์สหรัฐ ซีเอ็นเอ็น โพลิติโค และเดอะนิวยอร์กไทม์รายงานอ้างแหล่งข่าวว่า นายไบเดนตัดสินใจเลือกนายพลลอยด์ ออสติน อดีตนายพล 4 ดาวเชื้อสายแอฟริกันอเมริกันวัย 67 ปีที่เคยนำกองทัพอเมริกันบุกอิรักในปี 2546 ให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกลาโหม พลิกโผจากก่อนหน้านี้ที่มีชื่อของนางมิเชล ฟลัวร์นอย อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม ท่ามกลางกระแสกดดันให้นายไบเดนเสนอชื่อบุคคลที่มาจากคนกลุ่มน้อยให้ดำรงตำแหน่งในคณะรัฐมนตรีมากขึ้น โดยนายไบเดนจะประกาศชื่อรัฐมนตรีกลาโหมในวันศุกร์นี้ อย่างไรก็ดี นายพลออสตินต้องผ่านการอนุมัติจากวุฒิสภาก่อนเข้ารับตำแหน่ง และต้องได้รับข้อยกเว้นเป็นกรณีพิเศษจากวุฒิสภา เนื่องจากกฎหมายสหรัฐกำหนดให้เจ้าหน้าที่ทหารต้องเกษียณราชการครบ 7 ปีก่อนจึงจะสามารถดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกลาโหมได้ เป็นไปตามทัศนะที่ว่าตำแหน่งรัฐมนตรีกลาโหมควรเป็นพลเรือน หากนายพลออสตินเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีกลาโหม เขาจะต้องรับหน้าที่บริหารกองทหารประจำการราว 1.2 ล้านคน ซึ่งมีเพียงร้อยละ 16 ที่เป็นทหารผิวดำ อย่างไรก็ดี ทหารผิวดำส่วนใหญ่มักมียศในระดับชั้นผู้น้อย และมีส่วนน้อยที่ได้รับการเลื่อนยศในระดับสูง ประเด็นดังกล่าวมีความชัดเจนมากขึ้นในปีที่ผ่านมา เมื่อเหล่าพลทหารชายหญิงเชื้อสายแอฟริกันอเมริกันประกาศตัวสนับสนุนการประท้วงแบล็ก ไลฟ์ส แมทเทอร์ (Black Lives Matter) เพื่อต่อต้านตำรวจที่เหยียดผิวและใช้กำลังเกินกว่าเหตุ นายพลออสตินอาจต้องเผชิญกับความท้าทายต่าง […]

1 550 551 552 553 554 587