ชัวร์ก่อนแชร์ : ข้าวร้านสะดวกซื้อหุงใส่น้ำมัน จริงหรือ ?

บนสื่อสังคมออนไลน์มีการแชร์กันว่าข้าวที่ซื้อจากร้านสะดวกซื้อหุงใส่น้ำมัน จริงหรือ ? 🎯 ตรวจสอบข้อเท็จจริงและคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ ผศ.ดร.พิณทิพย์ รัมภกาภรณ์ ภาควิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการอาหาร คณะอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ข้าวจากร้านสะดวกซื้อมีการใส่น้ำมันในกระบวนการผลิตจริง ๆ แต่ไม่ได้เป็นอันตรายหรือมีโทษ ผลจากการทดลองหุงข้าวแบบในคลิปให้ดู ? จากการทดลอง (ข้าวจากร้านสะดวกซื้อ) เติมน้ำลงไปในข้าวกล้องและข้าวขาวแล้วกวนนิดหน่อย จะมองเห็นมีหยดน้ำมันที่บริเวณผิวหน้าของน้ำ ถ้าเป็นตัวอย่างข้าวสวยที่ซื้อมาจากท้องตลาดทั่วไป (ตลาดนัด ตลาดสด) จะเป็นข้าวที่หุงวันต่อวัน เมื่อเติมน้ำลงไปจะไม่เห็นมีเม็ดน้ำมันลอยอยู่เลย ปกติน้ำกับน้ำมันไม่รวมกัน น้ำมันจะมาลอยอยู่ที่ผิวหน้า เมื่อทดลองใช้กระดาษซับมันวางลงไปก็จะเห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่า ถ้าเป็นข้าวสวยที่ซื้อจากตลาดทั่วไปที่ใส่เพียง “น้ำ” กระดาษซับมันไม่เห็นคราบมันอะไรเลย แต่ถ้าเป็นข้าวที่มาจากร้านสะดวกซื้อ จะเห็นคราบมันชัดเจน นั่นก็พิสูจน์ได้ว่ามีการเติมน้ำมันจริง ร้านสะดวกซื้อหุงข้าวใส่น้ำมันเพื่ออะไร ? การหุงข้าวใส่น้ำมันเกี่ยวกับเรื่องคุณภาพของข้าว ข้าวสารที่หุงสุกเป็นข้าวสวยแล้วเมื่อนำไปแช่ในตู้เย็นเก็บไว้นาน ๆ ข้าวจะมีกระบวนการเปลี่ยนแปลงของโครงสร้างที่อยู่ในข้าว ที่เรียกกันว่าการเกิด รีโทรเกรเดชัน (retrogradation) ซึ่งจะส่งผลทำให้คุณภาพของข้าวมีความแข็งมากขึ้น ซึ่งการเติมน้ำมันลงไป ก็จะมีส่วนช่วยชะลอการเปลี่ยนแปลงตรงนี้ ทำให้ข้าวไม่แข็งจนเกินไป หรือเวลานำข้าวไปอุ่นด้วยไมโครเวฟ ข้าวก็ยังกลับมานุ่มเหมือนเดิม เรื่องนี้อาจจะเป็นไปได้ว่าการที่มีน้ำมันอยู่ในข้าวจะช่วยลดการเกาะติดเป็นก้อนของข้าวสวย น้ำมันที่ใส่ขณะหุงข้าวทำให้เม็ดข้าวกระจายตัวสวย และมีความมันเงาขึ้นมา แล้วน้ำมันที่ใส่ลงไปขณะหุงข้าว ปริมาณมากแค่ไหน ? ปริมาณที่เติมลงในข้าวไม่มาก […]

ชัวร์ก่อนแชร์ KEYWORD : TERMINALLY ONLINE — ปรากฏการณ์ยุคดิจิทัล ที่หลายคนเป็นโดยไม่รู้ตัว !

ปรากฏการณ์ที่ส่งผลต่อการใช้ชีวิตของคนในยุคดิจิทัลอย่างมาก ทำให้มีพฤติกรรม ความคิดที่แยกระหว่างโลกจริงและโลกออนไลน์ไม่ออก 🎯 ตรวจสอบข้อเท็จจริงและคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ อาจารย์ธาม เชื้อสถาปนศิริ อาจารย์ประจำสถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว มหาวิทยาลัยมหิดล พฤติกรรมที่ไม่สามารถแยกระหว่างโลกความจริงกับโลกออนไลน์ ทั้งด้านความคิด ค่านิยม และการแสดงออก ขอให้นึกถึงท่าอากาศยาน มีสายการบินเข้า สายการบินออก จะรู้สึกได้ว่าสนามบินพลุกพล่านจอแจตลอดเวลา มีคนเข้าและมีคนออก เมื่อนำคำ Terminally Online มาใช้กับ Digital หมายถึง การใช้อินเทอร์เน็ตอย่างต่อเนื่องยาวนาน สม่ำเสมอ ไม่หยุดหย่อน จนเรื้อรัง ในภาษาทางการแพทย์ ใช้คำว่า Chronically Online Chronic แปลว่า เรื้อรัง Chronically Online พฤติกรรมการใช้อินเทอร์เน็ตต่อเนื่องยาวนานทั้งวันทั้งคืน นั่งทำงานก็ยังเปิดออนไลน์ ซื้อของก็ออนไลน์ คุยกับเพื่อนก็ออนไลน์ เล่นเกมออนไลน์ นั่นคือ“ออนไลน์” ในทุกอิริยาบถของชีวิต การแยกระหว่าง “โลกจริง” กับ “โลกออนไลน์” ? ขณะนี้สังคมกำลังพูดถึงเรื่องนี้ เทรนด์ฮิตคืออะไร มีการนำเหตุการณ์เหล่านั้นมาพูดคุยในชีวิตจริง และบางอย่างในชีวิตจริงที่ควรจะอยู่ในชีวิตจริง นำไปใส่ในออนไลน์ ไม่สามารถแยกออกได้ระหว่างเส้นแบ่งโลกจอกับโลกจริงเป็นอย่างไร […]

ชัวร์ก่อนแชร์ : วิธีสังเกตโรคกระเพาะ-กรดไหลย้อน จริงหรือ?

บนสื่อสังคมออนไลน์แชร์วิธีสังเกตความแตกต่างของโรคกระเพาะกับกรดไหลย้อน ที่เป็นโรคคล้ายกันแต่ต่างกันทั้งสาเหตุและอาการ จริงหรือ ? 🎯 ตรวจสอบข้อเท็จจริงและคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ ผศ.นพ.ปิยะพันธ์ พฤกษพานิช สาขาวิชาโรคทางเดินอาหาร ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย “โรคกระเพาะอาหาร” และ “โรคกรดไหลย้อน” เป็นโรคที่ทำให้หลายคนเกิดความสับสนได้ บางคนคิดว่าตัวเองเป็นโรคกระเพาะอาหาร หรือว่าเป็นโรคกรดไหลย้อน บางคนก็คิดว่าเป็นทั้งโรคกระเพาะอาหาร และโรคกรดไหลย้อนพร้อมกัน ทั้งโรคกระเพาะอาหาร และโรคกรดไหลย้อน เกิดจาก “กรด” เหมือนกัน โรคหนึ่ง “กรดอยู่ในกระเพาะ” ทำให้เกิดอาการแสบร้อนบริเวณลิ้นปี่ ในขณะที่ “กรดไหลย้อน” เป็นเรื่องของอาการเรอเปรี้ยวและอาการแสบร้อนกลางอก ซึ่งอยู่คนละตำแหน่ง คนละอวัยวะกัน อาการของโรค “กรดไหลย้อน” และ “กระเพาะอาหาร”​มีความแตกต่างกัน จริงหรือ ? โรคกระเพาะอาหาร (Dyspepsia) เกิดขึ้นที่กระเพาะอาหาร อิ่มก็ปวดแสบ หิวก็ปวดแน่น โรคกรดไหลย้อน (Gastroesophageal Reflux Disease : GERD) เป็นโรคของหลอดอาหาร อยู่บริเวณกลางทรวงอกหรือลำคอ มักเป็นหลังมื้ออาหาร มีอาการแสบร้อนกลางหน้าอก และไม่ควรมาอยู่บริเวณลิ้นปี่ […]

ชัวร์ก่อนแชร์ : 5 เครื่องดื่มที่ไม่ควรใส่กระบอกน้ำเก็บอุณหภูมิ จริงหรือ ?

บนสื่อสังคมออนไลน์แชร์ 5 เครื่องดื่ม ที่ไม่ควรใส่ในกระบอกน้ำเก็บอุณหภูมิ ได้แก่ นม ยาจีน น้ำผลไม้ น้ำเกลือ และน้ำชา จริงหรือ ? 🎯 ตรวจสอบข้อเท็จจริงและคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ ผศ.ดร.บุศรินทร์ จงเจริญยานนท์ อาจารย์ประจำภาควิชาเทคโนโลยีการบรรจุและวัสดุ และรองคณบดีฝ่ายสื่อสารองค์กร คณะอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เรื่องที่แชร์กันมีบางส่วนจริง และบางส่วนไม่จริง กระบอกน้ำเก็บอุณหภูมิส่วนใหญ่ทำมาจากสเตนเลส (stainless) มี 2 ชั้นซ้อนกัน คือ ผนังชั้นนอก ฉนวนสุญญากาศ ผนังชั้นใน ระหว่างผนังชั้นนอกและผนังชั้นในทำให้เป็นสภาวะ “สุญญากาศ” จึงทำให้แก้วสามารถเก็บรักษาอุณหภูมิทั้งร้อนและเย็นของเครื่องดื่มไว้ได้ ไม่ควรใส่ “นม” ในกระบอกน้ำเก็บอุณหภูมิ จริงหรือ ? “นม” หรือเครื่องดื่มที่มีนมเป็นส่วนประกอบ จัดเป็นอาหารที่เน่าเสียได้ง่าย องค์การอนามัยโลกแนะนำว่าไม่ควรเก็บอาหารกลุ่มเน่าเสียได้ง่ายที่อุณหภูมิ 5-60 องศาเซลเซียส (ช่วงอันตราย) ถ้ามีความจำเป็นจะต้องเก็บไว้ สามารถเก็บไว้ไม่เกิน 2 ชั่วโมง และถ้าสภาพอุณหภูมิ 30 องศาเซลเซียส ให้เก็บได้ไม่เกิน 1 […]

ชัวร์ก่อนแชร์ KEYWORD : SASAENG ? — แฟนคลับตัวยง คลั่งรักจนเกินเหตุ !

คำยอดฮิตบนสื่อสังคมออนไลน์ที่ใช้เรียกแฟนคลับที่คลั่งไคล้ศิลปินจนเกินเหตุ เป็นพฤติกรรมที่ส่งผลกระทบต่อความปลอดภัย และสุขภาพจิตของศิลปิน ? 🎯 ตรวจสอบข้อเท็จจริงและคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ อาจารย์ธาม เชื้อสถาปนศิริ อาจารย์ประจำสถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว มหาวิทยาลัยมหิดล SASAENG เป็นคำศัพท์ในอุตสาหกรรมบันเทิงของเกาหลีใต้ คำว่า “SA” มาจากคำว่า “ส่วนตัว” คำว่า “SAENG” มาจากคำว่า “ชีวิต” กลุ่มแฟนคลับที่ชื่นชม ชื่นชอบนักร้อง ดารา ศิลปิน แต่ว่าระดับของการชื่นชม ชื่นชอบ ถึงขั้นรุกล้ำ คุกคาม หมกมุ่น ทำให้ชีวิตศิลปินหรือบุคคลสาธารณะไม่สามารถดำเนินไปได้อย่างปกติ ทำให้รู้สึกถึงความไม่ปลอดภัย ระดับความรุนแรงของพฤติกรรม “SASAENG” ระดับความรุนแรงของพฤติกรรม “SASAENG” มีดังนี้ ระดับที่ 1 เริ่มรุกล้ำข้อมูลส่วนตัวของศิลปิน เช่น รู้ตารางงานและข้อมูลส่วนตัวของศิลปินต่าง ๆ ระดับที่ 2 เริ่มติดตามอย่างหมกมุ่น เช่น ตามศิลปินทางออนไลน์ และออนไซต์หลาย ๆ สถานที่ ระดับที่ 3 เริ่มแอบถ่ายศิลปินทุกช่วงเวลาที่ดำเนินชีวิตตามปกติ เพื่อเก็บไว้ดูส่วนตัว ระดับที่ […]

ชัวร์ก่อนแชร์ : 10 สาเหตุโรคกระเพาะอาหาร จริงหรือ ?

บนสื่อสังคมออนไลน์แชร์ 10 สาเหตุของโรคกระเพาะอาหาร ตั้งแต่กินอาหารไม่ตรงเวลา การกินยาบางชนิด ความเครียด ไปจนถึงติดเชื้อแบคทีเรีย จริงหรือ ? 🎯 ตรวจสอบข้อเท็จจริงและคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ ผศ.นพ.ปิยะพันธ์ พฤกษพานิช สาขาวิชาโรคทางเดินอาหาร ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย “กระเพาะอาหาร” ทำหน้าที่ย่อยอาหาร ผลิตน้ำย่อย (กรดย่อยอาหาร) แต่กระเพาะอาหารไม่ถูกย่อย เพราะมีกลไกสร้างเมือกเคลือบผิวกระเพาะอาหารไว้ “โรคกระเพาะอาหาร” ไม่ใช่โรคร้ายแรง แต่ทำให้ทรมาน รบกวนการใช้ชีวิต เพราะแสบร้อนบริเวณลิ้นปี่ มีท้องอืดแน่นหลังกินอาหาร สาเหตุโรคกระเพาะอาหารที่แชร์กัน 10 ข้อ มีดังต่อไปนี้ ข้อ 1. กินยาบางชนิดอย่างต่อเนื่อง ยากลุ่มต้านการอักเสบ (Non-steroidal Anti-inflammatory drugs : NSAIDs) ยากลุ่มนี้ช่วยแก้อาการปวด บวม แดง ร้อน และลดการอักเสบโดยตรงของร่างกาย รวมทั้งมีฤทธิ์ลดไข้ ผลข้างเคียงของยากลุ่มต้านการอักเสบอย่างหนึ่งก็คือ ลดการป้องกันผิวกระเพาะอาหาร ทำให้กระเพาะเกิดแผลและระคายเคืองได้ง่าย ถ้าจำเป็นต้องกินยากลุ่มนี้จะต้องกินหลังอาหารทันที และกินเมื่อจำเป็นในช่วงสั้นที่สุด ข้อ 2. […]

ชัวร์ก่อนแชร์ : 5 เครื่องดื่มที่ไม่ควรดื่มพร้อมยา จริงหรือ ?

บนสื่อสังคมออนไลน์แชร์คำเตือนคนกินยา มี 5 เครื่องดื่มที่ไม่ควรดื่มพร้อมยา เช่น ชา กาแฟ นม น้ำผลไม้ น้ำอัดลม และ เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ จริงหรือ ? 🎯 ตรวจสอบข้อเท็จจริงและคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ ผศ.นพ.พิสนธิ์ จงตระกูล อาจารย์พิเศษ ภาควิชาเภสัชวิทยา คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ประธานคณะทำงานสร้างความเข้มแข็งประชาชน ด้านการใช้ยาอย่างสมเหตุผล (สยส.) โดยภาพรวมเรื่องที่แชร์ดีและมีประโยชน์ แต่บางอย่างไม่ได้เขียนละเอียด อาจจะมีข้อความคลาดเคลื่อนไปบ้าง เพราะปกติเวลากลืนยาก็ต้องมีของเหลวช่วยกลืนยา โดยหลักการควรดื่มน้ำเปล่ากับยาถูกต้องที่สุด ข้อ 1. ดื่มชา กาแฟ พร้อมยา จะเพิ่มกาเฟอีนในร่างกาย ? ในชา กาแฟ มีกาเฟอีน ถ้ายาที่กินมีฤทธิ์ทางเดียวกันคือกระตุ้นระบบประสาทส่วนกลาง ทำให้มีอาการใจสั่น หัวใจเต้นเร็ว เมื่อรวมกับชา กาแฟ ฤทธิ์ของยานั้นก็จะสูงขึ้น จึงควรหลีกเลี่ยงชาหรือกาแฟช่วงกินยา มีบางเหตุการณ์ที่นำกาเฟอีนมาผสมกับยาแก้ปวดบางชนิดเพื่อเสริมฤทธิ์ของยา เช่น ยารักษาไมเกรนบางชนิดมีกาเฟอีนผสมอยู่ด้วย โดยรวมแล้ว ถ้าดื่มเครื่องดื่มที่มีกาเฟอีนปริมาณสูง รวมกับยาบางชนิดเมื่อระดับยาสูงขึ้นอาจจะเกิดเป็นพิษก็ได้ ข้อ 2. […]

ชัวร์ก่อนแชร์ FACTSHEET : พยาธิปากขอในแมวสู่คน

พยาธิปากขอในแมวจะติดมาสู่คนอย่างไร และจะมีวิธีการป้องกันไม่ให้ติดพยาธิปากขอในคนและสัตว์อย่างไร ? 🎯 ตรวจสอบข้อเท็จจริงและคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ รศ.น.สพ.ดร.ปิยนันท์ ทวีถาวรสวัสดิ์ อาจารย์ประจำหน่วยปรสิตวิทยา ภาควิชาพยาธิวิทยา คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จากงานวิจัยเรื่องพยาธิปากขอในแมวจรจัดของคณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พบว่า แมวจรจัดมีพยาธิปากขอที่สามารถติดต่อสู่คนได้ พยาธิปากขอจากแมวติดต่อมาสู่คนได้อย่างไร ? ปกติแล้วพยาธิปากขอตัวเต็มวัยเพศผู้และเพศเมียอยู่ในลำไส้เล็ก เมื่อผสมพันธุ์แล้วตัวเมียจะปล่อยไข่ปนเปื้อนออกมากับอุจจาระอยู่ตามกองดินกองทราย สังเกตได้ว่าทั้งแมวและสุนัขชอบเล่นตามกองดินกองทราย และตามกองดินกองทรายมีความชื้นทำให้ตัวอ่อนพยาธิปากขอสามารถเจริญเติบโตเป็นพยาธิปากขอระยะติดต่อ ขั้นตอนการเจริญเติบโตของพยาธิปากขอ เริ่มจากไข่ เจริญเติบโตเป็นตัวอ่อนระยะที่ 1 ตัวอ่อนระยะที่ 2 และตัวอ่อนระยะที่ 3 ซึ่งตัวอ่อนระยะที่ 3 เป็นตัวอ่อนระยะติดต่อที่สามารถไชหรือติดเข้าสู่ร่างกายคนได้ ขั้นตอนการติดพยาธิปากขอจากแมวสู่คนก็ไม่ได้ติดกันง่าย ๆ เพราะการอุ้มแมวกอดแมวเป็นไปได้ยากที่จะติดพยาธิปากขอ การติดพยาธิปากขอจะติดจากตัวอ่อนระยะติดต่อเท่านั้น ซึ่งมีระยะเวลาตั้งแต่การพัฒนาจากไข่ไปเป็นตัวอ่อนใช้เวลาประมาณ 7-10 วัน ที่ผ่านมาพบว่าโอกาสที่คนจะติดพยาธิปากขอจากการเลี้ยงแมวก็คือ แมวไปถ่ายที่สนามหญ้ามีไข่พยาธิออกมาและเจริญเติบโตเป็นตัวอ่อนระยะติดต่อ เมื่อคนออกไปเดินเล่นบนสนามหญ้า (ไม่ได้สวมใส่รองเท้า) ก็มีโอกาสที่ตัวอ่อนระยะติดต่อไชเข้าสู่ตัวคนได้ หยุดวงจรการเจริญเติบโตของพยาธิปากขอ ? การตัดวงจรการเจริญเติบโตของพยาธิปากขอ จะช่วยป้องกันการติดต่อโรคจากสัตว์เลี้ยงสู่คนได้ ถ้ารู้ว่าแมวถ่ายตามจุดต่าง ๆ คนเลี้ยงจะต้องเก็บและจัดการให้เรียบร้อย เป็นการลดโอกาสสัมผัสตัวอ่อนระยะติดต่อได้ การให้ยาถ่ายพยาธิเป็นประจำ เพื่อตัดวงจรไม่ให้มีพยาธิปากขอตัวเต็มวัย โอกาสผลิตไข่ก็จะน้อยลงในสิ่งแวดล้อม […]

ชัวร์ก่อนแชร์ FACTSHEET : พยาธิปากขอในแมว

พยาธิปากขอในแมวเกิดจากสาเหตุใด มีวิธีการดูแลป้องกันและรักษาพยาธิปากขอในแมวอย่างไร ? 🎯 ตรวจสอบข้อเท็จจริงและคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ รศ.น.สพ.ดร.ปิยนันท์ ทวีถาวรสวัสดิ์ อาจารย์ประจำหน่วยปรสิตวิทยา ภาควิชาพยาธิวิทยา คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พยาธิปากขอ (Hookworm Infections) เป็นพยาธิตัวกลมชนิดหนึ่ง ก่อโรคติดเชื้อพยาธิปากขอในระบบทางเดินอาหาร ทั้งในคน สุนัข แมว สามารถติดพยาธิปากขอได้ พยาธิปากขอที่พบบ่อยในประเทศไทย ได้แก่ Ancylostoma caninum และ Ancylostoma ceylanicum สำหรับพยาธิปากขอที่พบบ่อยในแมว คือ Ancylostoma ceylanicum แมวติดพยาธิปากขอ และ/หรือ ได้รับพยาธิปากขอเข้าสู่ร่างกาย ทางใด ? ในแมวมีโอกาสติดพยาธิปากขอได้ 2 ทาง ตัวอ่อนพยาธิปากขอระยะติดต่อสามารถไชเข้าสู่ผิวหนังได้ เพราะพยาธิมีเอนไซม์สามารถย่อยผิวหนัง และ/หรือ แมวกินตัวอ่อนเข้าไป คนเราไม่สามารถมองเห็นพยาธิปากขอได้ด้วยตาเปล่า แต่มักจะพบพยาธิปากขอ (ตัวเต็มวัย ขนาดประมาณ 1.5 เซนติเมตร) จากการผ่าซากแมวที่เสียชีวิตแล้วถึงรู้ว่ามีพยาธิปากขอ โดยทั่วไป การตรวจดูว่าสัตว์เลี้ยงมีไข่พยาธิหรือไม่ ทำได้โดยการนำอุจจาระไปตรวจ แต่สามารถดูได้จากสีก่อน การเกิดโรคพยาธิปากขอจะมีการดูดเลือด […]

ชัวร์ก่อนแชร์ : เตือนระวังภัยแฝงจากน้ำยาปรับผ้านุ่ม จริงหรือ ?

บนสื่อสังคมออนไลน์แชร์เตือนให้ระวังการใช้น้ำยาปรับผ้านุ่ม เต็มไปด้วยสารเคมีเป็นพิษที่ส่งผลต่อมนุษย์ ส่งผลเสียต่อสุขภาพและทำให้เกิดโรคมะเร็งได้ จริงหรือ ? 🎯 ตรวจสอบข้อเท็จจริงและคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ ศ.ดร.กาวี ศรีกูลกิจ  สาขาวิชาวัสดุศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย น้ำยาปรับผ้านุ่มมีสารอันตรายจริงหรือ ? ขอบตอบว่าไม่จริง และข้อมูลที่แชร์นี้ก็ไม่ได้ให้ข้อมูลทั้งหมด น้ำยาปรับผ้านุ่มถึงแม้ว่าจะมีสารเริ่มต้นอันตรายอยู่บ้าง แต่ได้ถูกกำจัดออกไปแล้ว ในน้ำยาปรับผ้านุ่มประกอบด้วยสารเคมีสำคัญ 2 ชนิด 1. ส่วนที่ทำให้ผ้านุ่ม ก็คือ “กรดไขมัน” (ไม่ใช่น้ำมันที่เป็นกรด) มาจากสัตว์ที่ไม่เป็นอันตราย ทำให้ไฟฟ้าสถิตระหว่างเส้นใยลดลง ช่วยขจัดความแข็งบนเนื้อผ้า และสร้างความนุ่มนวล 2. ส่วนที่ให้ความหอมติดทนนาน ที่แชร์กันกล่าวถึงสารจำนวน 5 ชนิด คือ มัสก์ไซลีน (Musk Xylene) คลอโรฟอร์ม (Chloroform) เบนซิลแอลกอฮอล์ (Benzyl Alcohol) เอทิลอะซีเทต (Ethyl Acetate) เบนซิลอะซีเทต (Benzyl Acetate) มัสก์ไซลีน เป็นสารสังเคราะห์ที่เลียนแบบกลิ่นของกวาง แต่ได้หยุดดำเนินการไปแล้วเกือบ 30 ปี […]

ชัวร์ก่อนแชร์ FACTSHEET : การดูแลดวงตาในเด็ก

สุขภาพดวงตาเป็นเรื่องสำคัญต่อวัยเด็ก ทั้งคุณภาพชีวิตและรวมถึงการเรียนรู้ ผู้ปกครองควรใส่ใจดูแลเรื่องใดบ้าง และจะมีวิธีการสังเกตปัญหาอย่างไร ? 🎯 ตรวจสอบข้อเท็จจริงและคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ รศ.นพ.ศักดิ์ชัย วงศกิตติรักษ์ ประธานวิชาการ ราชวิทยาลัยจักษุแพทย์แห่งประเทศไทย ภาวะสายตาสั้นในเด็กเป็นกรรมพันธุ์ ถ้าคุณพ่อ คุณแม่ มีภาวะสายตาสั้น ลูกก็มีโอกาสสายตาสั้นมากขึ้น จึงจำเป็นต้องสังเกตอาการผิดปกติของลูก เพื่อจะได้แก้ปัญหาให้ลูกตั้งแต่อายุยังน้อย เช่น ดวงตา 2 ข้างเท่ากันหรือไม่ ตาดำเท่ากันทั้ง 2 ข้าง หรือมีข้างใดข้างหนึ่งใหญ่กว่าอีกข้างหนึ่ง หรือตรงกลางตาดำกลายเป็นสีขาว สิ่งเหล่านี้เป็นอาการเตือนของโรคร้ายแรงได้ การสังเกตความผิดปกติของดวงตาจากพฤติกรรมของเด็ก พฤติกรรมการมองเห็นของเด็กมีความสำคัญมาก จะช่วยให้จักษุแพทย์วินิจฉัยโรคตาในเด็กรวดเร็วชัดเจนมากขึ้น เช่น เด็กวิ่งเข้าไปดูจอโทรทัศน์ใกล้ ๆ เวลามองอะไรชอบหยีตามองหรือเอียงคอมอง นี่คืออาการเตือนว่าเด็กมีภาวะสายตาผิดปกติ อาจจะเป็นสายตาสั้น สายตายาว หรือสายตาเอียง เพียงแต่เด็กบอกอะไรไม่ได้ อธิบายไม่ถูก การสังเกตพฤติกรรมการใช้สายตาของเด็กที่ผิดปกติจะช่วยให้คุณพ่อคุณแม่เริ่มสังเกตได้และพาไปพบจักษุแพทย์เร็วทันการรักษาที่จะได้ประสิทธิภาพ ในเด็กบางคนเรียนหนังสือไม่ทันเพื่อน มองกระดานไม่เห็น ตัวเด็กเองไม่ได้บอกว่ามองกระดานไม่เห็น แต่เรียนตามเพื่อนไม่ทัน เรื่องนี้อย่าไปโทษไอคิว (Intellingence Quotient) หรือสติปัญญา แต่สิ่งที่จะต้องนึกถึงอย่างแรกคือเรื่องการมองเห็นของเด็กไม่ดีหรือไม่เท่าเพื่อน คุณพ่อคุณแม่ควรพาลูกไปพบจักษุแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพดวงตาและค่าสายตาด้วย เพราะอาจจะช่วยเปลี่ยนอนาคตของเด็กได้เลย เด็กวัยต่าง ๆ […]

ชัวร์ก่อนแชร์ FACTSHEET : การดูแลดวงตาในคนวัยทำงาน

การใช้ดวงตาสำหรับคนวัยทำงานในปัจจุบัน ส่งผลกระทบต่อดวงตาอย่างไร มีวิธีการป้องกันและรักษาได้อย่างไร ? 🎯 ตรวจสอบข้อเท็จจริงและคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ รศ.นพ.ศักดิ์ชัย วงศกิตติรักษ์ ประธานวิชาการ ราชวิทยาลัยจักษุแพทย์แห่งประเทศไทย คนวัยทำงาน หมายถึง กลุ่มคนที่มีอายุตั้งแต่ 20-50 ปี มีการใช้ดวงตาตลอดเวลา จึงควรดูแลสุขภาพดวงตาอย่างต่อเนื่อง การทำงานอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต และมือถือ อาจทำให้เกิดภาวะสายตาสั้น สายตาเอียง หรือแม้แต่สายตายาวมากขึ้นก็ได้ ปัญหาดวงตาที่พบมากขึ้นในคนวัยทำงาน คือ ภาวะตาแห้ง (Dry eye) ทุกคนจึงควรถนอมดวงตาด้วยการพักเป็นระยะ ๆ ด้วยสูตร 20 : 20 : 20 ดังนี้ ทุก ๆ 20 นาที ที่ทำงานอยู่หน้าจอ ควรหยุดพักสายตาอย่างน้อย 20 วินาที (พักการเพ่ง) และมองวัตถุที่ไกลออกไป 20 ฟุต (6 เมตร) เพื่อผ่อนคลายการเพ่งของดวงตา การจัดสภาพแวดล้อมเพื่อถนอมดวงตาและการป้องกันอุบัติเหตุ การปรับสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสมสามารถลด และ/หรือ […]

1 4 5 6 7 8 25