ชัวร์ก่อนแชร์ : ตรวจเจอแคลเซียมหลอดเลือดหัวใจ ต้องรีบไปฉีดสีทำบอลลูน จริงหรือ ?

บนสื่อสังคมออนไลน์มีการแชร์แนวทางการรักษาหัวใจ หากตรวจเจอแคลเซียมหลอดเลือดหัวใจ ควรต้องไปทำบอลลูนขยายหลอดเลือด ? 🎯 ตรวจสอบข้อเท็จจริงและคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ รศ.นพ.สุพจน์ ศรีมหาโชตะ สาขาวิชาโรคหัวใจและหลอดเลือด ภาควิชาอายุรศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ อดีตนายกสมาคมแพทย์โรคหัวใจแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ถ้าผู้ป่วยไม่มีอาการอะไร ไปตรวจร่างกายตามปกติ แต่พบแคลเซียมในหลอดเลือด ไม่ใช่ข้อบ่งชี้ว่าจำเป็นต้องไปฉีดสีหลอดเลือดหัวใจ การตรวจแคลเซียมหลอดเลือดมีมาประมาณ 20 ปีแล้ว แคลเซียมถือเป็นความเสื่อมอย่างหนึ่งของหลอดเลือด การเสื่อมของหลอดเลือดเพราะมีหินปูนมาเกาะ ปริมาณแคลเซียมสัมพันธ์กับอายุที่เพิ่มขึ้น และสัมพันธ์กับความเสี่ยงที่จะเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจในอนาคตได้ การตรวจพบแคลเซียมในหลอดเลือดอาจเป็น “สัญญาณ” แต่ไม่ใช่ข้อสรุปที่ชัดเจน การพบแคลเซียมในหลอดเลือดก็สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ ไม่ต้องกังวล เพียงแต่เรื่องการป้องกันการเกิดโรคในอนาคตด้วยการออกกำลังกาย ควบคุมเรื่องเบาหวานและความดันเลือดสูง (ถ้ามี) งดสูบบุหรี่ เพราะบุหรี่เป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญมาก ก็ช่วยป้องกันโรคหัวใจในอนาคต Calcium Score หรือ CT Coronary Calcium Score คือการตรวจหา “ปริมาณแคลเซียมสะสมที่ผนังหลอดเลือดหัวใจ” ด้วยเครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (CT Scan) ค่าแคลเซียมที่ได้ไม่ได้เป็นตัวบ่งบอกว่าต้องไปฉีดสี เพราะการฉีดสีขึ้นกับอาการของผู้ป่วยเป็นหลัก แคลเซียมที่ตรวจพบในหลอดเลือด เกี่ยวข้องกับอาหารและการดื่มนม หรือไม่ ? ข้อมูลเรื่องการดื่มนมกับแคลเซียมยังไม่ชัด แต่ว่าการได้แคลเซียมเสริมในยามีความสัมพันธ์ที่ทำให้มีแคลเซียมในหลอดเลือดหัวใจหรือแคลเซียมบริเวณส่วนอื่นในร่างกายเพิ่มมากขึ้น […]

ชัวร์ก่อนแชร์ FACTSHEET : สัญญาณและการรักษา กระดูกสันหลังคด

รู้ได้อย่างไรว่าเป็น “กระดูกสันหลังคด” หากเป็นกระดูกสันหลังคดแล้ว ควรจะต้องทำอย่างไร ? 🎯 ตรวจสอบข้อเท็จจริงและคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ รศ.ดร.กภ.มัณฑนา วงศ์ศิรินวรัตน์ อาจารย์คณะกายภาพบำบัด มหาวิทยาลัยมหิดล กระดูกสันหลังคดจากกรรมพันธุ์ สังเกตได้จากคนในครอบครัว ผู้ใหญ่มีกระดูกสันหลังคด เช่น คุณแม่ คุณน้า คุณยาย เป็นกระดูกสันหลังคด ก็ต้องคอยดูลูกสาวว่าจะเป็นกระดูกสันหลังคดมั้ย เพราะเด็กผู้หญิงจะเป็นมากกว่าเด็กผู้ชาย ดังนั้น การสังเกตกระดูกสันหลังคดจากกรรมพันธุ์ มีสิ่งที่ผู้ปกครองควรดู ได้แก่ คอเอียง ไหล่ 2 ข้างเท่ากันหรือไม่ เอวหรือก้นบิดเอียงมั้ย หรือบางครั้งตัวเด็กสังเกตแล้วบอกพ่อแม่ก็มี กระดูกสันหลังคดจากพฤติกรรม คนข้างนอกสังเกตเห็นมากกว่า เช่น คนทักว่าตัวเอียง เพราะคนที่มีพฤติกรรมแล้วตัวเอียงมักจะคิดว่าตัวเองตัวตรง เพราะสมองจะคิดว่าท่าทางประจำคือท่าที่ตรงแล้ว แต่จริง ๆ ก็คือไม่ตรง ดังนั้น การสังเกตตัวเองว่ากระดูกสันหลังคดหรือไม่ ให้ยืนท่าถนัดที่สุดหน้ากระจก แล้วดูว่าตัวตรงหรือไม่ ไหล่ 2 ข้างเท่ากันมั้ย สะโพกเท่ากันหรือไม่ แต่จะไม่รู้ว่าเอียงกี่องศา วิธีเดียวที่จะรู้ว่าเอียงกี่องศาก็คือการเอกซเรย์กระดูกสันหลัง กระดูกสันหลังเอียงมากกว่า 7 องศา แสดงว่ากระดูกสันหลังคดมากกว่า 10 […]

ชัวร์ก่อนแชร์ : ยาสีฟันที่มีไตรโคลซานอันตราย จริงหรือ ?

บนสื่อสังคมออนไลน์แชร์ข้อความเตือนให้ระวังสาร “ไตรโคลซาน” ในยาสีฟัน เสี่ยงเป็นอันตรายต่อตับและไต จริงหรือ ? 🎯 ตรวจสอบข้อเท็จจริงและคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ ศ.ทพ.ดร.พรชัย จันศิษย์ยานนท์ สาขาศัลยศาสตร์ช่องปากและแม็กซิลโลเฟเชีย ภาควิชาศัลยศาสตร์ คณะทันตแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เรื่องสารไตรโคลซาน (Triclosan : TCS) ในยาสีฟันที่แชร์กันไม่เป็นความจริง เพราะว่าสารไตรโคลซานที่ห้ามกันนั้น เฉพาะในสบู่ล้างมือ สาเหตุที่ห้ามไตรโคลซานเพราะไม่มีข้อมูลชัดเจนว่าสบู่ล้างมือที่มีไตรโคลซาน และสบู่ล้างมือแบบไม่มีไตรโคลซาน ไม่พบว่ามีประสิทธิภาพแตกต่างกัน มีการศึกษาในสัตว์ทดลอง พบว่า ถ้าใช้ปริมาณมากก็จะมีผลตามนั้นจริง ณ ปัจจุบัน ปริมาณที่ใช้อยู่ยังไม่มีการศึกษาฉบับใดบอกว่ามีอันตราย ทำให้เกิดภาวะเช่นนั้น นอกจากนี้ ยังมีการศึกษาใหม่ที่แย้งการศึกษาเดิม ทำการศึกษาในสัตว์ทดลอง เพื่อดูว่าส่งผลต่อต่อมไทรอยด์ การทำงานของระบบหัวใจและหลอดเลือดหรือไม่ ซึ่งก็พบว่าไม่มีผล ทุกวันนี้ สารไตรโคลซานที่เป็นองค์ประกอบของยาสีฟันสามารถใช้ได้ และไม่มีการศึกษาใดที่พบว่าไตรโคลซานเป็นอันตรายต่อมนุษย์ ไตรโคลซานมีประโยชน์อะไรบ้าง ? “ไตรโคลซาน” เป็นลิขสิทธิ์ของยาสีฟันยี่ห้อหนึ่ง มีผลต้านเชื้อแบคทีเรีย และมีการทดลองพบว่า ไตรโคลซานช่วยลดอาการเหงือกอักเสบได้จริง การแปรงฟันถูกวิธี อย่างน้อย 3 นาทีต่อครั้ง ใช้ไหมขัดฟันทุกวัน เลือกแปรงฟันด้วยยาสีฟันที่มีฟลูออไรด์ทุกครั้ง ก็สามารถป้องกันฟันผุและป้องกันเหงือกอักเสบได้อยู่แล้ว นอกจากนี้ […]

ชัวร์ก่อนแชร์ FACTSHEET : รู้จักกระดูกสันหลังคด

กระดูกสันหลังคด เกิดจากสาเหตุใด บุคคลใดมีความเสี่ยง และพฤติกรรมใดบ้าง ที่เสี่ยงทำให้กระดูกสันหลังคด 🎯 ตรวจสอบข้อเท็จจริงและคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ รศ.ดร.กภ.มัณฑนา วงศ์ศิรินวรัตน์ อาจารย์คณะกายภาพบำบัด มหาวิทยาลัยมหิดล โรคกระดูกสันหลังคด (Scoliosis) คือ ความผิดปกติกระดูกสันหลังที่ผิดรูปมีการคดโค้งออกไปด้านข้าง กระดูกสันหลังของคนปกติควรจะต้องตรงตั้งแต่ศีรษะลงมาจนถึงกระดูกก้นกบ แต่กระดูกสันหลังอาจจะเอียงได้นิดหน่อยเกี่ยวข้องกับการใช้ชีวิตประจำวันของแต่ละคน ใครก็ตามที่กระดูกสันหลังมีความเอียงมากกว่า 10 องศา ถือว่า “มีภาวะกระดูกสันหลังคด” แล้ว กระดูกสันคด สังเกตได้จากสิ่งต่าง ๆ ดังต่อไปนี้ 1. ตัวเอียงไปข้างใดข้างหนึ่ง (ให้ยืนตรง) 2. หัวไหล่ ทั้ง 2 ข้างไม่เท่ากัน 3. สะบัก กระดูกโก่งนูนมากขึ้น 4. เอวเบี้ยว ร่องเอว 2 ข้างไม่เท่ากัน 5. สะโพก 2 ข้าง สูง-ต่ำไม่เท่ากัน 6. แนวกระดูกสันหลังไม่ตรง (ดูจากการก้มตัว) สาเหตุ “กระดูกสันหลังคด” เกิดจากอะไร ? […]

ชัวร์ก่อนแชร์ KEYWORD : SMARTPHONE FACE — โรคสุดฮิตของคนติดสมาร์ตโฟน

SMARTPHONE FACE หนึ่งในโรคยอดฮิตที่พ่วงมากับอาการเสพติดสื่อสังคมออนไลน์ เป็นภัยสุขภาพที่แฝงมากับเทคโนโลยีสมัยใหม่ ? 🎯 ตรวจสอบข้อเท็จจริงและคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ อาจารย์ธาม เชื้อสถาปนศิริ อาจารย์ประจำสถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว มหาวิทยาลัยมหิดล Smart = ฉลาด หรืออัจฉริยะ Phone = โทรศัพท์ Face = ใบหน้า พฤติกรรมของคนที่ใช้โทรศัพท์มือถือนั่งอยู่ตรงข้ามกับคู่สนทนา แต่ก้มหน้ามองจอโทรศัพท์มือถือ และ/หรือ รวมถึงคู่สนทนาที่ไม่ได้นั่งอยู่ตรงหน้า ซึ่งบางครั้งเรียกกันว่า “สังคมก้มหน้า” SMARTPHONE FACE อธิบายได้ว่า เราทุกคนไม่มีปฏิสัมพันธ์แบบตาจ้องตา “เรียก” ก็ไม่สบตา “คุย” ก็ไม่มองหน้า และ/หรือ ไม่หันมาสนทนาพาทีด้วย เรียกได้ว่าขาดการปฏิสัมพันธ์แบบ face to face SMARTPHONE FACE กับปัญหาการสื่อสาร ปัญหาใหญ่ในเด็กเล็กก็คือ เด็กไม่มีทักษะการเรียนรู้ภาษาที่เป็น “อวัจนภาษา” (nonverbal language) “อวัจนภาษา” สำคัญอย่างไร ? ตัวเด็กจะไม่เข้าใจ ขาดทักษะการสื่อสาร ความหมายโดยนัย […]

ชัวร์ก่อนแชร์ : หลังผ่าตัดคลอด “กินลูกปลาช่อน” ช่วยให้แผลหายไว จริงหรือ ?

บนสื่อสังคมออนไลน์มีการแชร์คลิปกินลูกปลาช่อนดิบเพื่อช่วยให้แผลผ่าคลอดหายไว จริงหรือ ? 🎯 ตรวจสอบข้อเท็จจริงกับอาจารย์ประจำภาควิชาปรสิตวิทยา คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ศ.นพ.ดร.เผด็จ สิริยะเสถียร อาจารย์ประจำภาควิชาปรสิตวิทยา คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ในคลิปที่แชร์กัน “กินลูกอ่อนปลาช่อนดิบเพื่อหวังให้แผลผ่าตัดคลอดหายเร็วขึ้น” ไม่ได้ช่วยอะไรเลย แต่กลับจะได้ “พยาธิ” เป็นของแถมด้วย พยาธิที่พบจากการกินปลาช่อนดิบคือ พยาธิตัวจี๊ด (Gnathostoma Spinigerum)  และพยาธิตืดปลา (Fish tapeworm infection หรือ Diphyllobothriasis) วงจรชีวิตของพยาธิตัวจี๊ด ปกติแล้วตัวแก่ของพยาธิตัวจี๊ด (ทั้งตัวผู้และตัวเมีย) จะอาศัยอยู่ในกระเพาะอาหารของสุนัข แมว เสือ หลังจากพยาธิผสมพันธุ์แล้ว พยาธิตัวเมียจะปล่อยไข่ออกมากับอุจจาระของสัตว์เหล่านี้ เมื่อไข่ลงน้ำจะฟักตัวออกมาเป็นตัวอ่อนระยะที่ 1 ตัวกุ้งไร (cyclops) จะกินตัวอ่อนพยาธิ (ระยะที่ 1) และไปเจริญเป็นตัวอ่อนระยะที่ 2 เมื่อปลากินกุ้งไรที่มีพยาธิ พยาธิจะเจริญในปลาเป็นตัวอ่อนระยะที่ 3 ซึ่งเป็นระยะติดต่อ ถ้าสุนัขหรือแมวกินปลานี้เข้าไป พยาธิก็ไปเจริญเป็นตัวแก่ในกระเพาะอาหาร แต่ถ้าคนกินปลาซึ่งมีพยาธิระยะติดต่อเข้าไป พยาธิจะคืบคลานหรือไชไปตาม อวัยวะต่าง […]

ชัวร์ก่อนแชร์ KEYWORD : BRAIN ROT คำแห่งปี 2024 สะท้อนปัญหาใหญ่ในยุคปัจจุบัน !

“BRAIN ROT” ถูกประกาศให้เป็น “คำแห่งปี 2024” โดย Oxford Dictionary สะท้อนให้เห็นถึงนิสัยการใช้สื่อสังคมออนไลน์ที่เป็นปัญหาสำคัญในปัจจุบัน 🎯 ตรวจสอบข้อเท็จจริงและคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ อาจารย์ธาม เชื้อสถาปนศิริ อาจารย์ประจำสถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว มหาวิทยาลัยมหิดล “BRAIN ROT” สภาวะการเสื่อมถอยของสภาพจิตใจหรือสติปัญญา อันเกิดจากการบริโภคเนื้อหาออนไลน์ที่ไม่มีคุณภาพมากเกินไป BRAIN = สมอง และ ROT = เน่า ดังนั้น BRAIN ROT หมายถึง สมองเน่า BRAIN ROT เป็นคำเปรียบเปรยหมายถึง สมองของเรามีภาวะเหนื่อยล้า หรือความจำใช้งานระยะยาวทำไม่ได้ หรือมีภาวะการตัดสินใจหรือมีภาวะหลงลืม อันเกิดมาจากการใช้สื่อสังคมออนไลน์เป็นระยะเวลานาน ไม่ใช่เฉพาะเวลาที่ใช้สื่อสังคมออนไลน์นานอย่างเดียว แต่ยังรวมถึงเนื้อหาที่ดูไม่ค่อยเสริมสร้างความรู้ แต่เป็นเนื้อหาจากวิดีโอสั้น ๆ เช่น Reel ใน YouTube หรือ TikTok หรือเป็นสื่อสั้นอะไรก็ได้บนสื่อสังคมออนไลน์ ทำให้สมองของคนเราขาดการเรียนรู้เชิงลึก (Deep Learning) BRAIN ROT ทำลายสมาธิระยะยาว […]

ชัวร์ก่อนแชร์ : ต้องเลิกใช้หลอดดูดน้ำ จริงหรือ ?

บนสื่อสังคมออนไลน์แชร์คลิปเตือนว่า ต่อไปนี้คงต้องเปลี่ยนพฤติกรรม ไม่ใช้หลอดดูดน้ำดื่มแล้ว เพราะนักวิจัยพบสารเคมี PFAS ในหลอดดูดแทบทุกชนิด ทั้งหลอดกระดาษ ไม้ไผ่ พลาสติก แก้ว ยกเว้นแค่หลอดสเตนเลสเท่านั้น แม้แต่ EU ก็สั่งยกเลิกแล้ว 🎯 ตรวจสอบข้อเท็จจริงและคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ ผศ.ดร.บุศรินทร์ จงเจริญยานนท์ อาจารย์ประจำภาควิชาเทคโนโลยีการบรรจุและวัสดุ และ รองคณบดีฝ่ายสื่อสารองค์กร คณะอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ข้อมูลในคลิปมีส่วนที่เป็นความจริงและไม่เป็นความจริง ส่วนที่เป็นความจริงก็คือ ในหลอดกระดาษมี PFAS อยู่จริง แต่ไม่ใช่เป็นสาเหตุที่ทำให้สหภาพยุโรป (EU) ยกเลิกการใช้หลอดกระดาษ หรือหลอดพลาสติกแบบที่ใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้ง สาเหตุที่ EU แบน หรือยกเลิกหลอดพลาสติกชนิดใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้ง เป็นเพราะปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม ขยะที่เกิดจากการใช้พลาสติกชนิดใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้ง (Single-used plastic) ไม่ว่าจะเป็นจาน ช้อนส้อม มีด หรือแม้แต่หลอด เพราะฉะนั้น การใช้หลอดที่มี PFAS อยู่ แต่ใช้อย่างถูกประเภทตามที่ผู้ผลิตแนะนำ ก็ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ปลอดภัย เพราะ PFAS ก็ยังมีใช้กันอยู่ทั่วไปในชีวิตประจำวันอยู่แล้ว สาร PFAS […]

ชัวร์ก่อนแชร์ : ชาถุงจุ่มน้ำร้อน เสี่ยงไมโครพลาสติก จริงหรือ ?

บนสื่อสังคมออนไลน์แชร์เตือนว่า ใครที่ชอบดื่มชา กาแฟ “บรรจุซอง” จุ่มน้ำร้อน เลิกได้แล้ว เพราะมีการฉีดเคลือบพลาสติกไว้บนซอง เมื่อชงในน้ำร้อนจะมีไมโครพลาสติกออกมาปนเปื้อน ส่งผลต่อหลอดเลือดและอวัยวะต่าง ๆ จนเป็นมะเร็งได้ ? 🎯 ตรวจสอบข้อเท็จจริงและคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ ผศ.ดร.บุศรินทร์ จงเจริญยานนท์ อาจารย์ประจำภาควิชาเทคโนโลยีการบรรจุและวัสดุ และ รองคณบดีฝ่ายสื่อสารองค์กร คณะอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จากคลิปที่แชร์กันเป็นข้อมูลที่น่าสนใจ แต่ยังเป็นการพูดแบบเหมารวม และอาจมีข้อมูลบางส่วนยังไม่อาจนำมาอ้างอิงได้ ถุงใส่ชาถึงแม้จะเป็นกระดาษแต่ก็มีการเคลือบพลาสติก ซึ่งอาจมีทั้งถุงชาแบบกระดาษมีการเคลือบพลาสติก และถุงชาแบบพลาสติกก็มีไมโครพลาสติกหลุดออกมาได้ ถ้าไล่เรียงโอกาสพบไมโครพลาสติกก็อาจจะเป็นกลุ่มที่เป็นซองพลาสติก และกลุ่มกระดาษที่เคลือบพลาสติกด้วย กลุ่มสุดท้ายที่อาจพบได้น้อยที่สุด คือถุงผ้าที่ทำจากเส้นใยธรรชาติร้อยเปอร์เซ็นต์ อาจจะมีบางส่วนที่เรานึกไม่ถึง ก็คือตัวใบชาที่มีโอกาสปนเปื้อนไมโครพลาสติกได้ เริ่มตั้งแต่กระบวนการเพาะปลูก น้ำที่ใช้รด ปุ๋ยเคมี ปุ๋ยอินทรีย์ต่าง ๆ ก็มีไมโครพลาสติกปนเปื้อนอยู่ในนั้นแล้ว ถัดมา เมื่อเก็บเกี่ยวใบชาแล้วนำมาหมัก ถ้าหมักในภาชนะพลาสติก ก็มีโอกาสปนเปื้อนไมโครพลาสติกได้เช่นกัน เมื่อหมักใบชาเสร็จแล้วก็นำมาตากแห้ง ในอากาศก็มีไมโครพลาสติก เพราะฉะนั้นก็มีโอกาสปนเปื้อนไมโครพลาสติกตั้งแต่ตัววัตถุดิบด้วยซ้ำ ปัจจุบัน สามารถพบไมโครพลาสติกในอาหารทะเลจากแหล่งน้ำที่มีไมโครพลาสติกปนเปื้อนอยู่ ซึ่งรวมถึงเกลือทะเลด้วย นอกจากนี้ อาหารที่บรรจุในถุงพลาสติกก็มีโอกาสปนเปื้อนไมโครพลาสติกด้วย การใช้ชีวิตประจำวัน มีการใช้บรรจุภัณฑ์จากพลาสติก มีบางส่วนที่อาจจะนึกไม่ถึงเลยก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า […]

ชัวร์ก่อนแชร์ : 8 ประโยชน์ของ น้ำด่าง จริงหรือ ?

บนสื่อสังคมออนไลน์มีการแชร์ 8 ประโยชน์ของน้ำด่าง มีทั้งลดความเป็นกรดในเลือด ปรับสมดุลร่างกาย ต้านอนุมูลอิสระ ขับสารพิษ ไปจนถึงการชะลอความแก่ชรา จริงหรือ ? 🎯 ตรวจสอบข้อเท็จจริงและคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ รศ.ภก.ดร.บดินทร์ ติวสุวรรณ คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เรื่องน้ำด่างที่แชร์กันไม่จริง เพราะว่าร่างกายมีระบบ Buffer และกลไกอื่นที่ช่วยควบคุมค่าความเป็นกรดและด่างให้มีความเป็นกลางอยู่แล้ว การดื่มน้ำด่าง ถ้าร่างกายปกติก็ไม่มีผลกระทบต่อระบบกรด-ด่างในร่างกายและของกระแสเลือด ข้อ 1. น้ำด่างช่วยลดความเป็นกรดในกระแสเลือดและปรับสมดุลของร่างกาย จริงหรือ ?   ไม่จริง เพราะเรื่องของการปรับสมดุลความเป็นกรด-ด่างในร่างกาย เกิดขึ้นเนื่องจากระบบของร่างกาย และถูกควบคุมไว้อย่างดี ที่ช่วง pH 7.4 (บวก ลบ 0.5) อยู่แล้ว การดื่มอะไรเข้าไปจะไม่สามารถกระทบค่าความเป็นกรด-ด่าง หรือ pH ในกระแสเลือดได้ ข้อ 2. น้ำด่างมีฤทธิ์เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ และช่วยขับสารพิษออกจากร่างกาย จริงหรือ ? ไม่จริง สารเหล่านี้ต้องอาศัยสารที่มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) ไม่เกี่ยวกับความเป็นด่าง ข้อ 3. […]

ชัวร์ก่อนแชร์ FACTSHEET : ภาวะการมองเห็นภาพตรงกลางผิดปกติ

ภาวะการมองเห็นภาพตรงกลางผิดปกติเกิดจากสาเหตุใด เป็นสัญญาณบ่งบอกโรคหรือไม่ ? 🎯 ตรวจสอบข้อเท็จจริงและคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ รศ.นพ.ศักดิ์ชัย วงศกิตติรักษ์ ประธานวิชาการ ราชวิทยาลัยจักษุแพทย์แห่งประเทศไทย ภาวะมองเห็นภาพผิดปกติตรงส่วนกลางของภาพ เป็นความผิดปกติของลานสายตา ทางการแพทย์เรียกว่า สโกโทมา (Scotoma) สโกโทมา คือ คุณภาพการมองเห็นภาพแย่ลง มองเห็นภาพบริเวณส่วนกลางเปลี่ยนไป อาจมืดลงกว่าเดิม หรือเห็นแสงบางชนิดปรากฏขึ้นมา สาเหตุของการมองเห็นภาพตรงกลางผิดปกติ เกี่ยวข้องกับความผิดปกติของดวงตาและสมอง ? โดยทั่วไป การมองเห็นภาพที่ผิดปกติหรือการมองเห็นภาพแย่ลง ถ้าสาเหตุเกิดจากดวงตา อาการมองเห็นภาพแย่ลงหรือผิดปกติ มักจะคงอยู่ตลอด เช่น ถ้ามองเห็นภาพเบี้ยว ก็เป็นอยู่ตลอดเวลา ต่อให้ผ่านไปสักพักก็ไม่หาย หรือกะพริบตาอย่างไรก็ไม่หาย ส่วนใหญ่เป็นสาเหตุจากโรคของดวงตา ตั้งแต่กระจกตาด้านนอกไปจนถึงจอประสาทตา    กรณีที่เป็น ๆ หาย ๆ อาจเกิดจากสาเหตุที่นอกเหนือจากดวงตาของเรา เช่น ความผิดปกติของสมองที่รับผิดชอบเกี่ยวกับการมองเห็นภาพ หลอดเลือดที่ไปเลี้ยงบริเวณส่วนการมองเห็นภาพนั้นมีความผิดปกติ (ขาดเลือด) หรือมีอาการเกร็งชั่วคราว มองเห็นภาพมืดไปหลายวินาทีแล้วค่อย ๆ กลับมามองเห็นปกติ อาการเหล่านี้มักไม่ได้เกิดจากสาเหตุดวงตาโดยตรง การมองเห็นกลางภาพผิดปกติ พบได้บ่อยเกี่ยวข้องกับอะไร ? กรณีเห็นแสงวาบบริเวณตรงกลางภาพ ที่พบได้บ่อย […]

ชัวร์ก่อนแชร์ Motor Check : ยาห้ามใช้ก่อนขับรถ จริงหรือ ?

บนสื่อสังคมออนไลน์มีการแชร์ว่า ยาบางชนิด ห้ามใช้ก่อนขับขี่รถยนต์ เพราะอาจทำให้เกิดการง่วงซึม และเป็นอันตรายในขณะขับรถได้ เรื่องนี้จริงหรือไม่ ? 🎯 ตรวจสอบข้อเท็จจริงและคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ รศ.ภก.ดร.บดินทร์ ติวสุวรรณ ภาควิชาอาหารและเภสัชเคมี คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มียาหลายชนิดไม่ควรกินถ้าจะต้องขับรถหรือทำงานกับเครื่องจักร รวมถึงคนที่ทำงานอยู่บนที่สูง จะทำให้เกิดอันตรายได้ เพราะยาเหล่านี้มีฤทธิ์กดประสาทส่วนกลาง ทำให้เกิดภาวะง่วงซึมได้ มีทั้งง่วงมากและง่วงน้อย ภาวะ “ง่วงซึม” ที่เกิดจากการกินยาเรียกว่า “ผลข้างเคียงจากยา” (side effect) ซึ่งรบกวนคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย ยาชนิดที่ 1 “ยาแก้ปวด” ห้ามกินก่อนขับรถ จริงหรือ ? ยาแก้ปวดทุกชนิดไม่ได้มีผลข้างเคียงทำให้ง่วง ตัวอย่างยาแก้ปวดที่กินแล้วไม่มีภาวะง่วงซึม ได้แก่ 1. ยาพาราเซตามอล (Paracetamol) ที่ทางการแพทย์เรียกว่า “อะเซตามีโนเฟน (Acetaminophen) 2. ยากลุ่มเอ็นเสด (NSAIDs : non-steroidal antiinflammatory drugs) เป็นยาบรรเทาอาการปวดและอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ เช่น ยาไอบูโพรเฟน (Ibuprofen) ยาไดโคลฟีแนก (Diclofenac) มียาแก้ปวดบางชนิดที่กินแล้วไม่ควรขับรถ ได้แก่ […]

1 5 6 7 8 9 25