บุกรวบ 13 เซียนไฮโลในสวนมังคุด

นครศรีธรรมราช 30 ก.ค.-ฝ่ายปกครองบุกรวบนักพนัน 13 คน ในบ่อนไฮโลกลางสวนมังคุด จ.นครศรีธรรมราช พบติดตั้งกล้องรอบบ่อน ติดตามความเคลื่อนไหวของเจ้าหน้าที่ เมื่อเวลา 22.00 น. เมื่อวานนี้ (29 ก.ค.) ชุดปฏิบัติการพิเศษปกครองจังหวัดนครศรีธรรมราช นำกำลังเจ้าหน้าที่ อส.ฝ่ายปกครองชุดดังกล่าว เดินทางไปตรวจสอบบริเวณสวนมังคุด หมู่ 5 ต.ท้ายสำเภา อ.พระพรหม จ.นครศรีธรรมราช หลังสืบทราบมาว่ามีการลักลอบเปิดบ่อนการพนัน เล่นไฮโลกันมานานแล้ว เมื่อไปถึงพบว่ามีนักพนันชายหญิงเข้าไปเล่นจำนวนมาก บริเวณเพิงที่พักในสวนมังคุดหลังบ้านดังกล่าว เปิดไฟส่องแสงสว่าง มีนักพนันทั้งชายและหญิงจำนวนประมาณ 30 คน กำลังล้อมวงเล่นไฮโลอย่างเมามัน จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงกระจายกำลังปิดล้อมบริเวณดังกล่าว ก่อนจะส่งสัญญาณเข้าจู่โจมจับกุมนักพนันในบ่อน ปรากฏว่าเมื่อนักพนันเห็นเจ้าหน้าที่กรูเข้าไป ต่างพากันตกใจวิ่งหลบหนีไปคนละทิศละทาง สุดท้ายเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวนักพนันทั้งชายหญิงได้จำนวน 13 คน พร้อมอุปกรณ์การเล่นไฮโลครบชุด เงินสด 1,700 บาท นอกจากนั้นยังตรวจสอบพบว่ามีการติดตั้งกล้องวงจรปิดรอบๆ บ่อนไฮโล เพื่อเฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวของเจ้าหน้าที่ด้วย เจ้าหน้าที่จึงตรวจยึดไว้เป็นของกลางพร้อมอุปกรณ์พนัน เบื้องต้นทราบว่านักพนันในพื้นที่นัดหมายกันมาเล่นการพนันไฮโลกันเป็นประจำ โดยมีนายบุญฤทธิ์ เพชรสุวรรณ อายุ 57 ปี เป็นเจ้ามือสอบสวนผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา […]

อ.อ๊อด ชี้ Cocaethylene ไม่เกี่ยวกับโคเคนทางทันตกรรม

กรุงเทพฯ 30 ก.ค.-อ.อ๊อด ชี้ Cocaethylene ที่ตรวจพบในเลือดเกิดจากการเสพโคเคนร่วมกับแอลกอฮอล์ ไม่เกี่ยวกับโคเคนรักษาฟัน หลังพนักงานสอบสวนคดี “บอส” แจงเหตุไม่แจ้งข้อหายาเสพติด เพราะทันตแพทย์ยันสารโคเคนเกิดจากยารักษาฟัน ภายหลังคณะกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร นำโดยนายนิโรธ สุนทรเลขา ประธานกรรมาธิการฯ แถลงผลการเชิญพนักงานสอบสวน ชี้แจงคดีนายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือบอส ขับรถชนตำรวจเสียชีวิตเมื่อปี 2555 ซึ่งกรรมาธิการฯ ได้ซักถามในประเด็นการตั้งข้อหาของพนักงานสอบสวน 5 ข้อกล่าวหา นายณัฏฐ์ชนน ศรีก่อเกื้อ โฆษกกรรมาธิการ เปิดเผยว่า ข้อสงสัยสำคัญที่กรรมาธิการได้ซักถามพนักงานสอบสวนคือเหตุใดไม่มีการแจ้งข้อหาพบสารแปลกปลอมที่เกิดจากยาเสพติดในร่างกายของผู้ต้องหาทั้งที่มีผลตรวจทางนิติเวชวิทยายืนยันจากการตรวจเลือดของนายวรยุทธ โดยพนักงานสอบสวนได้ให้เหตุผลที่ไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหาในคดีนี้ว่า มีทันตแพทย์ยืนยันว่าได้ให้ยาที่มีส่วนผสมของโคเคนในการรักษาทำฟัน ซึ่งเมื่อดื่มแอลกอฮอร์เข้าไปผสมจะทำให้เกิดสารแปลกปลอมดังกล่าวในร่างกาย ทำให้ไม่สั่งฟ้องเรื่องสารเสพติด ล่าสุด รศ.ดร.วีรชัย พุทธวงศ์ หรือ อาจารย์อ๊อด อาจารย์ประจำภาควิชาเคมี คณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า “Cocaethylene ที่ตรวจพบในเลือดเกิดจากการเสพโคเคนร่วมกับแอลกอฮอล์ ไม่เกี่ยวกับโคเคนรักษาฟัน” และชี้ว่า “โคเคนที่ใช้เป็นยาชาเฉพาะที่ใช้ในงานทันตกรรม คือ คือ Lidocaine หมอใช้ปริมาณน้อย ต่างจากตัวที่ตรวจพบในเลือด”.-สำนักข่าวไทย

บุกทลายบ่อนใหญ่บางปะอิน รวบ 122 นักพนัน

พระนครศรีอยุธยา 29 ก.ค.-ฝ่ายปกครองบุกทลายบ่อนพนันขนาดใหญ่ ในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง พื้นที่ ต.สามเรือน อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา รวบนักพนัน 122 คน ยึดเงินสดกว่า 900,000 บาท เมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครองสนธิกำลัง 60 นาย เปิดปฏิบัติการ “ศรีอโยธยา” บุกทลายบ่อนพนันขนาดใหญ่ ภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง พื้นที่ตำบลสามเรือน อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งจากการสังเกตภายนอกคล้ายโกดังบนพื้นที่ประมาณ 350 ตารางเมตร มีรถจักรยานยนต์จอดอยู่จำนวนมาก รวมถึงมีคนเฝ้าประตูทางเข้า-ออกตลอดเวลา ก่อนสกัดจับนักพนันได้ 122 คน แบ่งเป็นชาย 49 คน และหญิง 73 คน ส่วนใหญ่เป็นแรงงานในนิคมอุตสาหกรรม พร้อมตรวจยึดเงินสดประมาณ 900,000 บาท พร้อมอุปกรณ์การเล่นไพ่เสือมังกร, ไฮโล, ตู้สล็อตแมทชีนจำนวนมาก อีกทั้งพบบัญชีเงินหมุนเวียนในบัญชีไม่ต่ำกว่าล้านบาท จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบผู้ดูแลบ่อน 2 คนแต่ทั้งคู่ยังให้การปฏิเสธ ขณะที่ภายในบ่อนสามารถใช้ทั้งชิพและเงินสดเล่น จึงนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดไปทำบันทึกการจับกุมบริเวณที่ว่าการอำเภอบางปะอิน ก่อนส่งพนักงานสอบสวน สภ.บางปะอิน ดำเนินคดี.-สำนักข่าวไทย

เร่งหาหลักฐาน หนุ่มใหญ่ลวงยายวัย 79 ข่มขืน

พัทลุง 29 ก.ค.-ตำรวจเร่งหาหลักฐานล่าตัวหนุ่มใหญ่ลวงยายวัย 79 ปี ไปข่มขืนในสวนปาล์ม จ.พัทลุง หลังผ่าน 9 วัน คดียังไม่คืบ หญิงสูงวัยในหมู่บ้านหวาดระแวง เกรงคนร้ายกลับมาก่อเหตุ ความคืบหน้าคดีคุณยายวัย 79 ปี อาชีพขายขนมข้าวต้มมัด ถูกหนุ่มใหญ่ทำทีตีสนิทบอกว่าเป็นญาติและรู้จักกับคนในหมู่บ้าน เมื่อเห็นยายเที่ยวเดินขายขนมก็เกิดความสงสาร และชวนนั่งคุยเลี้ยงข้าว ก่อนขอเหมาซื้อขนมทั้งหมดและออกอุบายให้ยายนั่งรถจักรยานยนต์เป็นเพื่อน เพื่อนำขนมทั้งหมดไปให้ส่งให้ญาติ ที่อยู่อีกหมู่บ้านหนึ่ง เมื่อถึงสวนปาล์ม ในพื้นที่ ม.1 ต.ท่าแค อ.เมือง จ.พัทลุง ชายคนดังกล่าวได้ลากยายไปบังคับขืนใจจนสำเร็จความใคร่ ก่อนจะขโมยเงินของยายจำนวน 2,000 บาท ไปด้วย ระหว่างชายคนดังกล่าวเดินไปยังรถจักรยานยนต์ ยายสบโอกาสรีบพยุงร่างวิ่งหลบหนีไปหาชาวบ้านและขอความช่วยเหลือ ก่อนจะให้ญาตินำไปแจ้งความที่ สภ.เมืองพัทลุง เหตุเกิดเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ขณะนี้ผ่านไปแล้ว 9 วัน คดียังไม่คืบ ทั้งที่มีภาพจากกล้องวงจรปิดบันทึกภาพคนร้ายขณะขับขี่จักรยานยนต์โดยมียายซ้อนท้ายไปอย่างชัดเจน ทางญาติจึงร้องเรียนมายังสื่อมวลชนเพื่อให้ช่วยเร่งติดตามหาคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้ เพราะเป็นภัยต่อสังคม ล่าสุด พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ สารัรัตน์ ผกก.สภ.เมืองพัทลุง กล่าวว่าคดีดังกล่าวตำรวจไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้ส่งเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนเร่งติดตามผู้ก่อเหตุโดยหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมให้แน่นหนา […]

เตือนภัยลิงก์โจร กรอกข้อมูลเสร็จ เงินออกเกลี้ยงบัญชี

ชลบุรี 29 ก.ค.-หญิงวัย 44 ปี ถูกมิจฉาชีพหลอกเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคาร ส่งลิงก์ให้กรอกข้อมูลยืนยันตัวตน สูญเงินเกลี้ยงบัญชี กว่า 190,000 บาท เผยเป็นเงินเก็บหลายปี ไว้เป็นค่าเทอมลูก ช่วงบ่ายวันนี้ นางสาวกิ่งแก้ว แก้วตาธนวัต อายุ 44 ปี เข้าร้องเรียนกับผู้สื่อข่าว หลังถูกโจรกรรมข้อมูลทางไลน์ โดยมิจฉาชีพหลอกให้หลงเชื่อว่าเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคาร ก่อนให้กรอกข้อมูลเลขบัตรประชาชน 13 หลักลงไป ทำให้คนร้ายสามารถทำธุรกรรมบัญชีธนาคารได้เอง จนต้องเสียเงินไปจำนวนทั้งสิ้น 191,000.12 บาท จึงนำหลักฐาน เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองชลบุรี นางสาวกิ่งแก้ว เปิดเผยว่ามีไลน์ของธนาคารเด้งมาให้กดเข้าไปในลิงก์ ด้วยความไม่รู้จึงได้ตอบรับและกดเข้าไปในลิงก์ดังกล่าว จากนั้นได้กรอกชื่อ-นามสกุล ให้ยืนยันตัวตน เบอร์โทรศัพท์ ที่ผูกกับธนาคาร เมื่อกรอกรายละเอียดเสร็จ ก็บอกว่าระบุตัวตนยังไม่ถูกต้อง ให้ทำใหม่ ที่ทำอยู่ประมาณ 5 รอบ ก็มี SMS ส่งมาว่ามีการโอนเงินไปให้บุคคลคนหนึ่ง 30,000 บาท จึงโทรศัพท์ไปที่ธนาคารบอกว่ามีเงินโอนออกไป สุดท้ายจึงรู้ว่าถูกโจรกรรมข้อมูลเงินเกลี้ยงบัญชี ซึ่งเงินจำนวนดังกล่าว เก็บมาเป็นเวลาหลายปี เพื่อเอาไว้ให้ค่าเทอมลูก อยากจะฝากถึงประชาชนว่าถ้าเจอในแบบนี้ให้โทรศัพท์ไปสอบถามทางธนาคารดีกว่า.-สำนักข่าวไทย

รวบหลานคลั่งบีบคอย่า โดดถีบลุงทรุดพื้น

บุรีรัมย์ 29 ก.ค.-รวบหลานเมายาบ้าคลั่ง ขอเงินย่าวัย 88 ปี ไม่ได้ บีบคอหวิดขาดใจ ทั้งกระโดดถีบลุงจนทรุดพื้น หลังถูกจับร่ำไห้กราบเท้าขอโทษ ลุงยันดำเนินคดีตามกฎหมาย เพราะสุดทนพฤติกรรมทำร้ายคนในครอบครัวหลายครั้งแถมขู่ฆ่าจนไม่กล้าอยู่บ้าน นายจักร์กฤษ ร่วมกูล ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคงอำเภอนางรอง จ.บุรีรัมย์ ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีชายเมายาบ้าคลุ้มคลั่ง ทำร้ายร่างกายคนในครอบครัว ทั้งข่มขู่จะฆ่าตลอดเวลาจนคนในครอบครัวเกิดความหวาดกลัวไม่กล้าอยู่บ้าน ต้องไปขออาศัยอยู่บ้านญาติชั่วคราว จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่และตำรวจ สภ.นางรอง ตรวจสอบ เมื่อไปถึงบ้านที่เกิดเหตุซึ่งเป็นบ้านหลังหนึ่งใน ต.นางรอง พบนายอาม (นามสมมติ) อายุ 21 ปี กำลังอยู่ในอาการคลุ้มคลั่งพูดจาไม่รู้เรื่อง ส่วนคนในครอบครัวหลบไปอยู่บ้านญาติอีกหลังเพราะกลัวจะถูกทำร้าย เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวนายอาม มาสงบสติอารมณ์ จากการสอบถามนายอาม ยอมรับว่าเสพยาเสพติดจริง และทำร้ายร่างกายนายวิชิต ผู้เป็นลุงด้วยแต่แค่ใช้เท้าเตะทีเดียว อ้างว่าโมโหที่ลุงพูดจาไม่รู้เรื่อง ซึ่งขณะที่เจ้าหน้าที่สอบถามบางช่วงนายอาม ก็ร้องไห้ไปด้วย พร้อมบอกว่าผมสำนึกผิดและอยากขอโทษทุกคนในบ้าน เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจปัสสาวะปรากฏว่าพบสารเสพติดในร่างกาย จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย ขณะที่นำตัวนายอาม ส่งพนักงานสอบสวน สภ.นางรอง นายวิชิต อายุ 61 ปี ซึ่งเป็นลุงที่ถูกนายอามทำร้าย ก็เดินทางมาแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อให้ดำเนินคดีกับนายอาม หลานชาย ฐานทำร้ายร่างกาย […]

ทบทวนมาตรการคอนเสิร์ต

กรุงเทพฯ 29 ก.ค.-รัฐบาลสั่งทบทวนมาตรการจัดคอนเสิร์ต หลังคอนเสิร์ตของ “เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น” ที่นครศรีธรรมราช ถูกวิพากษ์วิจารณ์หนักเรื่องการไม่ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโควิด-19 ติดตามจากรายงาน.-สำนักข่าวไทย

จ่อแจ้ง 2 ข้อหาผู้จัดคอนเสิร์ต “เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น”

ภูมิภาค 29 ก.ค.-ตำรวจเตรียมจ่อแจ้งข้อหาผู้จัดคอนเสิร์ต “เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น” ตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และ พ.ร.บ.โรคติดต่อ หลังไม่ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโควิด-19 ความคืบหน้าการดำเนินการกรณีคอนเสิร์ตของนักร้อง “เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น” ที่วัดเขาล้อม อ.อ่าวลึก จังหวัดกระบี่ และหน้าอำเภอเก่า อ.ชะอวด จังหวัดนครศรีธรรมราช ที่ไม่เป็นไปตามมาตรการป้องกันโควิด-19 ของ ศบค. พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร. เปิดเผยว่าได้รับรายงานจาก พล.ต.ต.ศักดิ์ชัย ลิ้มเจริญ ผบก.ภ.จว.กระบี่ และ พล.ต.ต.สนธิชัย อาวัฒนกุลเทพ ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช ว่าขณะนี้ได้รวบรวมพยานหลักฐานในส่วนที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งจะมีการเรียกตัวผู้จัดงานคอนเสิร์ต รวมถึงบุคคลที่เกี่ยวข้องเข้ามาสอบปากคำ และจะดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหาในส่วนที่เกี่ยวข้องทั้งในส่วนของ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และ พ.ร.บ.โรคติดต่อฯ ตามขั้นตอนของกฎหมาย ทั้งนี้อยากขอความร่วมมือผู้จัดงานคอนเสิร์ต ประชาชน ผู้ประกอบการ ร้านค้า ให้ถือปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ในการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด โดยเฉพาะการเว้นระยะห่างทางสังคม อย่างเคร่งครัด พร้อมกำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยร่วมปฏิบัติเข้มงวดในการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังและต่อเนื่อง.-สำนักข่าวไทย

นักร้องดังแหวกฉากกั้นโควิด-19 ขอโทษแล้ว

กรุงเทพฯ 29 ก.ค.-หมอแล็บแพนด้า เผยคลิปนักร้องสาวชื่อดัง แหวกฉากกั้นโควิด-19 ระหว่างนักร้องกับคนดูในผับ เตือนด้วยความรัก การ์ดอย่าตก ล่าสุดเจ้าตัวออกมาขอโทษผ่านเฟซบุ๊กแล้ว เฟซบุ๊ก ทนพ.ภาคภูมิ เดชหัสดิน นักเทคนิคการแพทย์ชื่อดัง เจ้าของแฟนเพจ หมอแล็บแพนด้า เผยคลิปเหตุการณ์ นักร้องสาวชื่อดัง ที่กำลังเปิดการแสดงอยู่ในสถานบันเทิงแห่งหนึ่ง เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคมที่ผ่านมา ได้แหวกแผ่นพลาสติกใสที่ใช้กั้นระหว่างนักร้องกับผู้ชมเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 พร้อมระบุข้อความ “ไม่เอาๆ การ์ดอย่าตกนะครับ ท่าแหวกม่านประเพณีก็มา อย่าว่ากัน ผมก็ไปเที่ยวเหมือนกัน ผับบาร์น่ะ ผมก็ไปบ่อยๆ คนรักกันชอบกันก็น่าจะเตือนด้วยความรักกันได้ อย่าให้คลิปแบบนี้มันหลุดมาเยอะ เตือนกันด้วยความรักนะครับ จะได้มีเพลงเพราะๆ ฟังกันในผับไปนานๆ” ซึ่งหลังคลิปถูกเผยแพร่ออกไป ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างมาก บางส่วนตั้งข้อสังเกตว่านักร้องสาวได้หันไปหาใครสักคนก่อนจะฉีกพลาสติก และอยากให้นักร้องสาวออกมาชี้แจงการกระทำดังกล่าว หลายคนบอกว่ารู้ว่าเป็นใคร และมีการระบุชื่อกันออกมา ต่อมานักร้องสาวคนดังกล่าว ได้แสดงตัวแล้ว เธอคือ “BOWKYLION” โบกี้-พิชญ์สินี วีระสุทธิมาศ เธอได้ออกมาขอโทษผ่านเฟซบุ๊กแฟนเพจเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ต่อแฟนเพลง ศิลปิน รวมถึงทุกคนที่จะได้รับผลกระทบจากการกระทำของตัวเอง พร้อมน้อมรับว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นความผิดของเธอเพียงคนเดียว โดยหลังจากนี้เธอจะแก้ไขพร้อมระวังตัว และจะเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับทุกคน พร้อมทั้งขอโทษและขอบคุณทุกคนที่เตือนเธอเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วย […]

วันหยุดสุดท้าย ถ.มิตรภาพ แยกบ้านโพธิ์ ยังเคลื่อนตัวได้

28 ก.ค.-ถนนมิตรภาพ กม.163 บริเวณแยกบ้านโพธิ์ อ.เมืองนครราชสีมา ปริมาณรถมาก เคลื่อนตัวได้ ขณะที่ทางหลวงหมายเลข 2 ช่วงซับบอน-มวกเหล็ก ใช้ความเร็วได้มากกว่า 60 กม./ชม. วันหยุดสุดท้ายแล้ว สำนักข่าวไทยตรวจสอบข้อมูลการจราจรจากเฟซบุ๊กตำรวจทางหลวง โดยมีการรายงานการจราจรบนถนนมิตรภาพ กิโลเมตรที่ 163 บริเวณแยกบ้านโพธิ์ อำเภอเมืองนครราชสีมา ซึ่งขณะนี้การจราจรบริเวณแยกไฟแดง และจุดกลับรถ มีปริมาณรถมาก และชะลอตัวก่อนขึ้นทางต่างระดับนครราชสีมา ทำให้ตำรวจปิดสัญญาณไฟจาจร เพื่อระบายรถทางตรง ขณะที่ตำรวจทางหลวงสระบุรี เปิดเผยว่าบริเวณทางหลวงหมายเลข 2 ช่วงซับบอน-มวกเหล็ก จุดรอยต่อแขวงนครราชสีมา การจราจรขาเข้ากรุงเทพฯ เคลื่อนตัวได้ดี ใช้ความเร็วได้มากกว่า 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำให้ตำรวจปิดช่องทางพิเศษชั่วคราว แต่ยังคงกรวยยางวางไว้ 1 ช่องจราจร ในบางจุดเสี่ยงรถติด.-สำนักข่าวไทย

เดินตลาด การ์ดอย่าตก NEW NORMAL

อสมท 28 ก.ค.-ช่วงที่สถานการณ์โรคดีขึ้นตามลำดับ จนสามารถกลับมาใช้ชีวิตปกติได้เกือบสมบูรณ์ แต่ก็มีคำเตือนจากคุณหมอ ว่าเริ่มเห็นความเปลี่ยนแปลงที่น่าห่วง โดยเฉพาะตามตลาด เพราะเห็นชัดว่าการ์ดเริ่มอ่อนแรง จะจริงอย่างที่หมอพูดไว้หรือไม่ ติดตามจากรายงาน.-สำนักข่าวไทย

เทียบกรณีคอนเสิร์ตอาจคล้ายสนามมวย

อสมท 28 ก.ค.-กรณีคอนเสิร์ตนักร้องสาว “เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น” ในแง่มุมของบุคลากรด้านสาธารณสุข ซึ่งทำงานต่อสู้กับโควิด-19 มาตลอดหลายเดือน มองว่าหากบังเอิญมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 เข้าชมคอนเสิร์ตด้วย อาจส่งผลคล้ายกับกรณีสนามมวยลุมพินีได้ นายแพทย์ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวไทย ต่อกรณีคอนเสิร์ตของ “เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น” ว่าได้เห็นภาพในคอนเสิร์ตบางส่วน สมมติว่าหากมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 ร่วมชมคอนเสิร์ตในวันดังกล่าว แล้วมีผู้ติดเชื้อร่วมชมคอนเสิร์ตด้วย และเมื่อคอนเสิร์ตเลิกแล้ว ต่างคนต่างแยกย้าย คนที่สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วย คืออยู่ใกล้ผู้ป่วยในรัศมี 2 เมตร เป็นระยะเวลาราว 5 นาที อาจเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ กว่าจะรู้ว่ามีผู้ติดเชื้อในคอนเสิร์ตใช้เวลาหลายวัน จะทำให้การติดตามสอบสวนโรคใช้เวลามากขึ้น ต้องตามสอบสวนในหลายสถานที่ที่คนสัมผัสผู้ป่วยใกล้ชิดเดินทางไป ซึ่งอาจคล้ายกรณีสนามมวยที่เกิดขึ้นช่วงเดือนมีนาคม แต่ถ้าจำกัดเฉพาะในกลุ่มที่ดูคอนเสิร์ตอย่างเดียว คนที่สัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วยในรัศมี 2 เมตร เป็นระยะเวลาราว 5 นาที คงมีไม่เกิน 10 คน ถึง 20 คน ซึ่งถือเป็นกลุ่มผู้เสี่ยงติดเชื้อโควิด-19 สูง นอกนั้นจะเป็นผู้เสี่ยงต่ำ แต่เชื่อว่าหากมีกรณีผู้ติดเชื้อร่วมชมคอนเสิร์ต ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มผู้เสี่ยงติดเชื้อต่ำ ย่อมกังวล […]

1 1,014 1,015 1,016 1,017