ฝรั่งเศสจ่อปรับเงินร้านค้าติดแอร์เปิดประตูทิ้งไว้

ปารีส 25 ก.ค. – ฝรั่งเศสประกาศว่า รัฐบาลจะสั่งห้ามร้านค้าที่ติดเครื่องปรับอากาศเปิดประตูร้านทิ้งไว้ ไม่เช่นนั้นจะถูกปรับเงินสูงถึง 750 ยูโร (ราว 28,000 บาท) เพื่อให้ประชาชนช่วยกันประหยัดพลังงาน อันแยส ปานนิเยร์-รูนาแชร์ รัฐมนตรีกระทรวงการเปลี่ยนผ่านทางนิเวศวิทยาของฝรั่งเศส เผยกับสถานีวิทยุท้องถิ่นของฝรั่งเศสเมื่อวันอาทิตย์ว่า จะสั่งห้ามร้านค้าที่ติดเครื่องปรับอากาศเปิดประตูทิ้งไว้ เนื่องจากการกระทำดังกล่าวเป็นต้นเหตุของการสิ้นเปลืองพลังงานถึงกว่าร้อยละ 20 และเป็นเรื่องที่ไม่ควรเกิดขึ้นอย่างยิ่ง ทั้งยังระบุว่า กระทรวงฯ จะประกาศใช้มาตรการจำกัดการใช้ป้ายไฟเพื่อการโฆษณาในทุกเมืองในอีกไม่กี่วันข้างหน้าตั้งแต่เวลา 01.00 – 06.00 น. ยกเว้นป้ายไฟที่ท่าอากาศยานและสถานีรถโดยสารสาธารณะ หนังสือพิมพ์เดอะการ์เดียนของอังกฤษ รายงานว่า ทางการท้องถิ่นของหลายเมืองในฝรั่งเศสได้ลงมติผ่านร่างข้อกำหนดดังกล่าวในระดับท้องถิ่นในเดือนนี้ โดยกำหนดให้ปรับเงินร้านค้าติดเครื่องปรับอากาศที่ฝ่าฝืนข้อกำหนดโดยการเปิดประตูทิ้งไว้ขณะเปิดเครื่องปรับอากาศ ขณะที่รัฐบาลฝรั่งเศสได้วางแผนขยายข้อกำหนดดังกล่าวให้มีผลบังคับใช้ทั่วประเทศ โดยคาดว่าจะตั้งโทษปรับเงินสูงสุดถึง 750 ยูโร แต่จะเร่งดำเนินการแจ้งให้เจ้าของร้านค้าทราบเกี่ยวกับเรื่องการช่วยกันประหยัดพลังงานก่อน. -สำนักข่าวไทย

“อีลอน มัสก์” ปฏิเสธข่าวตีท้ายครัวผู้ร่วมก่อตั้งกูเกิล

แคลิฟอร์เนีย 25 ก.ค. – อีลอน มัสก์ มหาเศรษฐีชาวอเมริกันและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือซีอีโอ ของเทสลา ปฏิเสธรายงานข่าวของสื่อสหรัฐที่ระบุว่า เขามีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับนิโคล ชานาแฮน ภรรยาของเซอร์เก บริน ผู้ร่วมก่อตั้งกูเกิล มัสก์ วัย 51 ปี เผยผ่านทวิตเตอร์ว่า รายงานข่าวของหนังสือพิมพ์วอลล์ สตรีท เจอร์นัล ของสหรัฐ ที่ระบุว่า เขามีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับชานาแฮน วัย 33 ปี ซึ่งเป็นภรรยาของบริน วัย 48 ปี นั้นเป็นเรื่องไร้สาระ เขายังคงเป็นเพื่อนกับบริน และทั้งคู่เพิ่งพบปะกันที่งานปาร์ตี้เมื่อคืนวันเสาร์ เขาเคยพบกับชานาแฮนแค่ 2 ครั้งในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา และทุกครั้งก็มีคนอื่นอยู่ด้วย ไม่ใช่การพบกันแบบสองต่อสองหรือมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งแต่อย่างใด ทั้งยังระบุว่า วอลล์ สตรีท เจอร์นัล รายงานข่าวที่ไม่เป็นความจริงเพื่อโจมตีเขาและเทสลาหลายครั้งจนเขาไม่เชื่อในสิ่งที่สื่อดังกล่าวรายงานอีกต่อไป ก่อนหน้านี้ วอลล์ สตรีท เจอร์นัล รายงานอ้างแหล่งข่าวไม่เผยนามที่ระบุว่า มัสก์แอบมีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับชานาแฮนเป็นเวลาสั้น ๆ […]

ไฟป่าในรัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐยังลุกลามต่อเนื่อง

แคลิฟอร์เนีย 25 ก.ค. – สำนักงานดับเพลิงของรัฐแคลิฟอร์เนียในสหรัฐ เผยว่า สถานการณ์ไฟป่า ‘โอ๊ก ไฟร์’  (Oak Fire) ยังคงลุกลามอย่างต่อเนื่อง และไม่สามารถควบคุมไฟป่าได้ เนื่องจากรัฐแคลิฟอร์เนียกำลังเผชิญกับสภาพอากาศร้อนจัดที่มีอุณหภูมิสูงถึง 38 องศาเซลเซียส เจ้าหน้าที่ของสำนักงานดับเพลิงรัฐแคลิฟอร์เนีย ระบุเมื่อช่วงค่ำวันอาทิตย์ตามเวลาท้องถิ่นว่า ไฟป่า ‘โอ๊ก ไฟร์’ ที่เกิดขึ้นเมื่อวันศุกร์ได้เผาไหม้พื้นที่ราว 39,400 ไร่ และยังคงไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ ขณะนี้ ไฟป่าดังกล่าวยังคงลุกลามอย่างต่อเนื่อง แต่ไม่ได้รุนแรงเท่าหลายวันก่อน เจ้าหน้าที่ดับเพลิงกำลังเร่งควบคุมไฟป่าให้ได้โดยเร็ว ขณะนี้ ทางการท้องถิ่นได้สั่งอพยพประชาชนกว่า 6,000 คนออกจากพื้นที่ และมีสิ่งปลูกสร้างกว่า 10 หลังถูกไฟป่าเผาไหม้ ขณะที่สำนักงานป่าไม้และควบคุมอัคคีภัยของรัฐแคลิฟอร์เนีย (Cal Fire) รายงานว่า มีสิ่งปลูกสร้างอีกราว 3,271 หลัง ซึ่งรวมถึงบ้านเรือนและสถานประกอบกิจการ ที่เสี่ยงต่อการถูกเผาไหม้จากไฟป่าในครั้งนี้ บรรษัทแพร่ภาพกระจายเสียงอังกฤษ หรือบีบีซี รายงานว่า หลายสิบรัฐของสหรัฐกำลังเผชิญกับอุณหภูมิร้อนจัดที่เกิดขึ้นจากคลื่นความร้อน เช่น เขตมาริโปซา เคาน์ตี ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ที่มีอุณหภูมิพุ่งสูงถึง 38 […]

สิงคโปร์พบผู้ป่วยฝีดาษลิงเพิ่มอีก 2 คน

สิงคโปร์ 25 ก.ค. – สิงคโปร์พบผู้ป่วยโรคฝีดาษลิงรายใหม่เพิ่มอีก 2 คนเมื่อวันอาทิตย์ ซึ่งถือเป็นผู้ป่วยฝีดาษลิงรายที่ 7 และ 8 ของสิงคโปร์ กระทรวงสาธารณสุขของสิงคโปร์เผยว่า พบผู้ป่วยโรคฝีดาษลิงรายใหม่อีก 2 คน เป็นชายชาวเอสโตเนีย วัย 46 ปี และชายสิงคโปร์ วัย 26 ปี ทำให้สิงคโปร์พบผู้ป่วยฝีดาษลิงทั้งหมด 8 คน แบ่งเป็นผู้ป่วยฝีดาษลิงในประเทศ 4 คน และผู้ป่วยที่เดินทางมาจากต่างประเทศ 4 คน โดยที่ผู้ป่วยทั้งหมดไม่มีความเชื่อมโยงกัน ทั้งยังระบุว่า ชายเอสโตเนียได้เดินทางจากกรุงลอนดอนของอังกฤษมายังสิงคโปร์เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม และมีผลตรวจติดเชื้อฝีดาษลิงในวันที่ 24 กรกฎาคม เนื่องจากมีผื่นขึ้นบริเวณขาหนีบ มีไข้ และต่อมน้ำเหลืองบวม ส่วนชายสิงคโปร์ ซึ่งมีผื่นบริเวณขาหนีบและส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย มีผลตรวจติดเชื้อฝีดาษลิงในวันอาทิตย์เช่นกัน เจ้าหน้าที่ได้ส่งตัวผู้ป่วยทั้งสองคนเข้ารับการรักษาที่ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติแล้ว โดยที่ผู้ป่วยทั้งสองมีอาการคงที่ กระทรวงสาธารณสุขสิงคโปร์ยังได้ส่งแถลงการณ์ถึงหนังสือพิมพ์เดอะสเตรทไทมส์ของสิงคโปร์เกี่ยวกับการใช้มาตรการในประเทศหรือข้อจำกัดพรมแดน หลังองค์การอนามัยโลกประกาศให้โรคฝีดาษลิงเป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศเมื่อสัปดาห์ก่อนว่า สิงคโปร์ได้ใช้มาตรการควบคุมโรคฝีดาษลิงตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลกมาตั้งแต่เดือนพฤษภาคมแล้ว และระบบสาธารณสุขของสิงคโปร์ยังคงมีขีดความสามารถสูงในการตรวจหาเชื้อ […]

หุ่นยนต์หมากรุกพลาดหักกระดูกนิ้วมือเด็กรัสเซีย

มอสโก 25 ก.ค. – เกิดเหตุหุ่นยนต์เล่นหมากรุกพลาดหักกระดูกนิ้วมือเด็กชายรัสเซีย วัย 7 ขวบ ในระหว่างที่ทั้งสองกำลังแข่งหมากรุกในรายการแข่งขันที่กรุงมอสโกของรัสเซีย สำนักข่าวทาสส์ของรัสเซียรายงานว่า เด็กชายรัสเซีย วัย 7 ขวบ ต้องเผชิญหน้ากับหุ่นยนต์หมากรุกในรายการแข่งขันหมากรุก ‘มอสโก โอเพ่น’ ที่กรุงมอสโกเมื่อสัปดาห์ก่อน แต่เกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นเมื่อหุ่นยนต์ได้คว้าและตรึงนิ้วมือของเด็กชายไว้จนกระดูกนิ้วหัก ขณะที่นายเซอร์เก ลาซาเรฟ ประธานสมาพันธ์หมากรุกแห่งรัสเซีย เผยว่า เด็กชายคนดังกล่าวชื่อคริสโตเฟอร์ เขาได้เริ่มเดินหมากก่อนในการแข่งขันครั้งนี้ แต่ในระหว่างที่กำลังรอให้หุ่นยนต์ใช้เวลาคิดเพื่อเดินหมาก เด็กชายกลับใจร้อนและต้องการเดินหมากตาใหม่ทั้งที่หุ่นยนต์กำลังใช้เวลาคิดอยู่ หุ่นยนต์เข้าใจผิดคิดว่านิ้วของเด็กชายเป็นตัวหมากรุก จึงคว้าและตรึงนิ้วของเด็กชายไว้จนกระดูกนิ้วหัก ทั้งยังระบุว่า คริสโตเฟอร์ได้กลับมาเข้าร่วมการแข่งขันต่อในวันต่อมาโดยสวมเฝือกที่นิ้วมือทั้งนี้ คริสโตเฟอร์เป็น 1 ใน 30 ผู้เล่นหมากรุกรุ่นอายุต่ำกว่า 9 ปีที่ดีที่สุดของรัสเซีย คลิปวิดีโอจากกล้องวงจรปิดที่เผยแพร่ในสื่อออนไลน์แสดงให้เห็นภาพหุ่นยนต์หมากรุก ซึ่งมีลักษณะเป็นแขนกลอัตโนมัติขนาดใหญ่และขับเคลื่อนโดยปัญญาประดิษฐ์ หรือเอไอ ได้คว้าและตรึงนิ้วของเด็กชายไว้แน่นเป็นเวลาหลายวินาที ก่อนเจ้าหน้าที่หลายคนได้กรูเข้ามาช่วยแงะนิ้วเด็กชายออกมาได้. -สำนักข่าวไทย

วอนอียูใช้ข้อจำกัดอุณหภูมิในกลุ่มแรงงานกลางแจ้ง

ปารีส 25  ก.ค. – สมาพันธ์สหภาพแรงงานแห่งยุโรป หรืออีทียูซี เรียกร้องให้สหภาพยุโรป หรืออียู ประกาศใช้ข้อจำกัดอุณหภูมิสูงสุดในกลุ่มแรงงานที่ต้องทำงานกลางแจ้ง หลังแรงงาน 3 คนเสียชีวิตขณะทำงานกลางแจ้งในสเปนเมื่อสัปดาห์ก่อน ซึ่งเป็นช่วงที่ยุโรปเผชิญกับคลื่นความร้อนรุนแรง รองเลขาธิการอีทียูซี เรียกร้องให้อียูประกาศใช้ข้อจำกัดอุณหภูมิสูงสุดในกลุ่มแรงงานที่ต้องทำงานกลางแจ้ง โดยระบุว่า แรงงานกลุ่มนี้เป็นกลุ่มเสี่ยงที่ต้องเผชิญกับวิกฤตการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศทุกวัน และต้องได้รับการคุ้มครองจากอันตรายที่เพิ่มขึ้นจากปัญหาอุณหภูมิที่พุ่งสูงขึ้นเช่นกัน ประเทศส่วนใหญ่ของอียูยังไม่ประกาศใช้ข้อกำหนดดังกล่าวในกลุ่มแรงงานที่ต้องทำงานกลางแจ้ง แต่เบลเยียม ฮังการี และลัตเวีย ได้ประกาศใช้ข้อกำหนดบางส่วนเกี่ยวกับประเด็นนี้แล้ว อีทียูซีระบุด้วยว่า ฝรั่งเศส ซึ่งยังไม่ได้ประกาศใช้ข้อจำกัดอุณหภูมิในกลุ่มแรงงานที่ต้องทำงานกลางแจ้ง พบแรงงานเสียชีวิตมากถึง 12 คนจากปัญหาคลื่นความร้อนในปี 2563 ก่อนหน้านี้ สเปน ซึ่งมีการใช้ข้อจำกัดอุณหภูมิในกลุ่มแรงงานบางส่วน พบแรงงาน 3 คนเสียชีวิตในช่วงที่เผชิญกับคลื่นความร้อนรุนแรงเมื่อสัปดาห์ก่อน เช่น พนักงานกวาดถนน วัย 60 ปี ที่เสียชีวิตในกรุงมาดริดเมื่อวันเสาร์ หลังมีอาการหมดสติจากโรคลมแดดขณะทำงานในวันศุกร์ ซึ่งเป็นช่วงที่สเปนมีอุณหภูมิสูงเกือบ 40 องศาเซลเซียส อีกรายเป็นพนักงานคลังสินค้า วัย 56 ปี ในย่านชานเมืองของกรุงมาดริด ที่เสียชีวิตเมื่อวันเสาร์เช่นกัน หลังป่วยเป็นโรคลมแดดในขณะทำงาน ทั้งนี้ ผลสำรวจของยูโรฟาวด์ […]

“สี จิ้นผิง” อวยพร “ไบเดน” ให้หายป่วยโควิดโดยเร็ว

ปักกิ่ง 22 ก.ค. – ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน แสดงความห่วงใยไปยังประธานาธิบดีโจ ไบเดน ที่ติดเชื้อโควิด-19 และขอให้ผู้นำสหรัฐหายป่วยในเร็ววัน สำนักข่าวซินหัวของทางการจีน รายงานว่า ประธานาธิบดีสีได้ส่งข้อความถึงประธานาธิบดีไบเดนในวันนี้ว่า เขาขอแสดงความห่วงใยต่อประธานาธิบดีไบเดน และขอให้หายป่วยจากโรคโควิดในเร็ววัน ขณะที่ คารีน ฌอง-ปิแอร์ โฆษกทำเนียบขาวของสหรัฐ เผยเมื่อวันพฤหัสบดีตามเวลาท้องถิ่นว่า ประธานาธิบดีไบเดนมีผลตรวจหาเชื้อโควิดเป็นบวก แต่มีอาการป่วยเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ขณะนี้ ผู้นำสหรัฐได้เริ่มกักตัวในที่พักที่ทำเนียบขาว และจะยังคงทำงานตามปกติจากที่พักในระหว่างกักตัว โดยที่ประธานาธิบดีไบเดนได้เริ่มรับประทานยาแพ็กซ์โลวิด ซึ่งเป็นยาเม็ดต้านเชื้อโควิดที่พัฒนาโดยไฟเซอร์แล้ว ประธานาธิบดีไบเดนระบุผ่านทวิตเตอร์ว่า ขณะนี้ เขามีสุขภาพแข็งแรงดีและยังมีงานอีกมากที่ต้องทำ ขอให้ทุกคนสบายใจได้ ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีไบเดนระบุว่า เขากับประธานาธิบดีสีจะหารือกันทางโทรศัพท์ในอีกสัปดาห์ครึ่ง แต่กระทรวงต่างประเทศของจีนปฏิเสธว่า ยังไม่มีกำหนดแน่นอนในการหารือครั้งนี้ ทั้งนี้ คาดว่าการพูดคุยดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อลดความสัมพันธ์ที่ตึงเครียดระหว่างจีนกับสหรัฐ หลังจากที่นายหวัง อี้ รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศจีน กับนายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศสหรัฐ เพิ่งพบกันในช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา อย่างไรก็ดี มีรายงานว่า ข่าวแผนการเดินทางเยือนไต้หวันของนางแนนซี เปโลซี ประธานรัฐสภาสหรัฐ ในเดือนหน้า อาจส่งผลให้เป้าหมายลดความสัมพันธ์ที่ตึงเครียดของทั้งสองประเทศล้มเหลว.-สำนักข่าวไทย

เด็กชายจีนขับรถยนต์พาน้องสาวซิ่ง 120 กม./ชม.

ปักกิ่ง 22 ก.ค. – เด็กชายจีน วัย 12 ปี ตัดสินใจขโมยรถยนต์พ่อ และขับรถพาน้องสาวนั่งรถเล่น เนื่องจากทั้งสองรู้สึกเบื่อ ก่อนตำรวจพบตัวเด็กทั้งคู่ที่อีกมณฑลหนึ่ง ซึ่งอยู่ห่างออกไปถึง 200 กิโลเมตร โดยมีช่วงหนึ่งที่เด็กชายขับรถด้วยความเร็วถึง 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เว็บไซต์ข่าวเดอะเปเปอร์ (The Paper) ของจีน รายงานว่า เด็กชายชาวเมืองหูโจวในมณฑลเจ้อเจียง ทางตะวันออกของจีน ใช้น้องสาวให้ไปขโมยกุญแจรถยนต์เอสยูวีในขณะที่พ่อแม่ของทั้งสองคนออกไปทำงานเมื่อวันจันทร์ โดยที่เด็กชายขับรถพาน้องสาวออกจากบ้านเมื่อเวลา 10.00 น. จากนั้น พ่อของเด็กกลับถึงบ้านในเวลา 12.00 น. ของวันเดียวกัน แต่พบว่าลูก ๆ และรถยนต์หายไปจากบ้าน เขาจึงรีบโทรแจ้งตำรวจเพื่อรายงานเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตำรวจของมณฑลเจ้อเจียงได้ออกตามหารถยนต์คันดังกล่าวจนพบตัวเด็กชายและน้องสาวที่มณฑลเจียงซู ซึ่งอยู่ห่างจากมณฑลเจ้อเจียงราว 200 กิโลเมตร เด็กชายรับสารภาพกับตำรวจว่า เขาเริ่มรู้สึกกลัวหลังขับรถไปได้ระยะหนึ่งจนต้องเลี้ยวรถออกจากถนนทางหลวงและหยุดจอดรถที่ลานจอดรถใกล้โรงเรียนแห่งหนึ่งก่อนตำรวจพบตัวเขากับน้องสาวในเวลาต่อมา ขณะที่ภาพจากกล้องวงจรปิดเผยให้เห็นว่า เด็กชายขับรถคันดังกล่าวบนทางหลวงในมณฑลเจ้อเจียงด้วยความเร็วถึง 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และมีอีกคลิปหนึ่งที่แสดงให้เห็นว่า เด็กชายขับรถเลี้ยวปาดหน้ารถยนต์อีกคัน จนทำให้ผู้ขับรถคันนั้นต้องหักหลบกะทันหัน เด็กชายคนดังกล่าวยังระบุว่า เขาใช้น้องสาวไปขโมยกุญแจรถยนต์ของพ่อ และขับรถโดยใช้ประสบการณ์จากการสังเกตเวลาพ่อขับรถ รวมถึงการเล่นเกมขับรถยนต์ […]

นิวซีแลนด์พบผู้เสียชีวิตจากโควิดช่วง 7 วันพุ่งสูงสุด

เวลลิงตัน 22 ก.ค. – นิวซีแลนด์มียอดผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 พุ่งทำสถิติสูงสุดท่ามกลางสถานการณ์ระบาดของเชื้อโควิดโอไมครอนสายพันธุ์ย่อยที่ส่งผลกระทบต่อกลุ่มประชากรสูงวัยอย่างหนัก กระทรวงสาธารณสุขของนิวซีแลนด์ระบุในแถลงการณ์วันนี้ว่า นิวซีแลนด์มียอดผู้เสียชีวิตพุ่งสูงถึง 151 คนในวันที่ 10-16 ก.ค. ทำลายสถิติเดิมที่มีผู้เสียชีวิต 115 คนของช่วงหนึ่งสัปดาห์ในเดือนมีนาคม ซึ่งเป็นช่วงที่นิวซีแลนด์เผชิญกับการระบาดของโรคโควิดครั้งรุนแรงที่สุด ทั้งยังระบุว่า ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา นิวซีแลนด์มีผู้เสียชีวิตจากโรคโควิดเพิ่มขึ้น 26 คน โดยที่ทั้งหมดเป็นผู้ที่มีอายุมากกว่า 60 ปี ขณะที่สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า นิวซีแลนด์กำลังรับมือกับการระบาดของเชื้อโควิดโอไมครอนสายพันธุ์ย่อย BA.5 และพบผู้ป่วยโควิดรายใหม่ 64,780 คนในรอบ 7 วันที่ผ่านมา โดยที่ทางการนิวซีแลนด์ระบุว่ายังมีผู้ป่วยติดเชื้อโควิดอีกเป็นจำนวนมากที่ไม่ได้เข้าสู่ระบบรายงานผู้ป่วย ในขณะเดียวกัน รัฐบาลนิวซีแลนด์กำลังเผชิญกับแรงกดดันจากกลุ่มแพทย์ที่เรียกร้องให้รัฐบาลกลับมาใช้คำสั่งจำกัดการรวมตัวของประชาชนในที่สาธารณะและคำสั่งสวมหน้ากากอนามัยในโรงเรียน แต่ไอโอนา โฮลสเตด หัวหน้าฝ่ายบริหารการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการนิวซีแลนด์ ระบุเมื่อวันพฤหัสบดีว่า กระทรวงฯ ได้ประกาศคำแนะนำให้แต่ละโรงเรียนขอความร่วมมือทุกคนสวมหน้ากากอนามัยให้ได้มากที่สุดเมื่อกลับมาเปิดเรียนอีกครั้งหลังสิ้นสุดช่วงวันหยุดยาวในสัปดาห์หน้า ขณะนี้ นิวซีแลนด์มียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 1.54 ล้านคน และผู้เสียชีวิต 1,890 คน.-สำนักข่าวไทย

เผย “ทรัมป์” จงใจนิ่งเฉยต่อเหตุจลาจลอาคารรัฐสภา 6 ม.ค.

วอชิงตัน 22 ก.ค. – พยานในกระบวนการพิจารณาคดีของรัฐสภาสหรัฐ เผยว่า อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐนั่งดูรายงานข่าวถ่ายทอดสดเหตุจลาจลที่อาคารรัฐสภาเมื่อวันที่ 6 มกราคมผ่านโทรทัศน์เป็นเวลาหลายชั่วโมง โดยไม่สนคำร้องขอจากบรรดาลูก ๆ ของเขาและที่ปรึกษาใกล้ชิดที่ต้องการให้เขาออกโรงเตือนกลุ่มผู้สนับสนุนให้หยุดก่อเหตุรุนแรง คณะกรรมการสมาชิกรัฐสภาสหรัฐที่ได้รับแต่งตั้งในกระบวนการพิจารณาคดีของรัฐสภาสหรัฐ ครั้งที่ 8 เผยเมื่อวันพฤหัสบดีตามเวลาท้องถิ่นว่า อดีตประธานาธิบดีทรัมป์ทำตัวเพิกเฉยเป็นเวลากว่า 3 ชั่วโมง นับตั้งแต่ที่เขากล่าวคำปราศรัยเรียกร้องให้กลุ่มผู้สนับสนุนมุ่งหน้าไปที่อาคารรัฐสภาไปจนกระทั่งเขายอมอัดคลิปวิดีโอพูดเกลี้ยกล่อมให้กลุ่มผู้สนับสนุนเดินทางกลับบ้าน นางอีเลน ลูเรีย สส. จากพรรคเดโมแครต กล่าวว่า อดีตประธานาธิบดีทรัมป์นั่งบนโต๊ะอาหารและดูข่าวเหตุจลาจลผ่านโทรทัศน์ด้วยท่าทีนิ่งเฉย ในขณะที่เจ้าหน้าที่ระดับสูง ที่ปรึกษาใกล้ชิด และสมาชิกในครอบครัวต่างเรียกร้องให้เขาลงมือทำอะไรสักอย่างในฐานะประธานาธิบดี พร้อมทั้งเปิดคลิปวิดีโอที่บันทึกคำให้การของที่ปรึกษาทำเนียบขาวและเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงที่อธิบายถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันที่ 6 มกราคม นายแพท ซิโพลโลน ที่ปรึกษาทำเนียขาวสหรัฐ ให้การในคลิปดังกล่าวเกี่ยวกับท่าทีของอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ว่า นายทรัมป์ไม่ได้สั่งการใด ๆ ไปยังกระทรวงกลาโหม อัยการสูงสุด หรือกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ เพื่อรับมือกับเหตุจลาจลเมื่อวันที่ 6 มกราคม ส่วนคลิปเสียงของนายโดนัลด์ ทรัมป์ จูเนียร์ บุตรชายคนโตของอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ ที่พูดคุยกับนายมาร์ก มีโดวส์ หัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่ประจำทำเนียบขาว ระบุว่า นายทรัมป์ […]

ตุรกีเผยรัสเซียกับยูเครนจ่อทำข้อตกลงเปิดท่าเรือในทะเลดำ

เคียฟ 22 ก.ค. – ตุรกีเผยว่า รัสเซียกับยูเครนจะลงนามข้อตกลงร่วมกันในวันนี้เพื่อกลับไปเปิดท่าเรือของยูเครนในทะเลดำที่ยูเครนใช้ส่งออกธัญพืชอีกครั้ง ซึ่งทำให้เกิดความหวังครั้งใหม่ในการบรรเทาภาวะวิกฤตอาหารทั่วโลกที่เป็นผลมาจากการเปิดฉากบุกโจมตียูเครนของรัสเซีย ทำเนียบประธานาธิบดีตุรกีประกาศเมื่อวันพฤหัสบดีว่า รัสเซียกับยูเครนจะลงนามข้อตกลงในวันนี้เพื่อกลับไปเปิดท่าเรือของยูเครนในทะเลดำที่ใช้ส่งออกธัญพืชอีกครั้ง ขณะที่โฆษกขององค์การสหประชาชาติ หรือยูเอ็น ระบุว่า ขณะนี้ยังไม่มีการเปิดเผยถึงรายละเอียดของข้อตกลงดังกล่าว แต่นายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการของยูเอ็น จะเดินทางเยือนตุรกีในวันนี้ และคาดว่าจะมีการลงนามในข้อตกลงในเวลา 13.30 น. ของวันนี้ตามเวลามาตรฐานกรีนิช หรือตรงกับเวลา 20.30 น. ของวันนี้ตามเวลาประเทศไทย อย่างไรก็ดี รัสเซียกับยูเครน ซึ่งเป็นผู้ส่งออกอาหารรายใหญ่ของโลก ยังไม่ได้ออกมายืนยันประกาศของทำเนียบประธานาธิบดีตุรกี แต่ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน กล่าวเป็นนัยผ่านคลิปวิดีโอเมื่อคืนวันพฤหัสบดีว่า รัสเซียอาจเลิกปิดกั้นท่าเรือของยูเครนในทะเลดำเร็ว ๆ นี้ สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า รัสเซียได้ใช้กองเรือปิดกั้นท่าเรือของยูเครนในทะเลดำจนทำให้ปริมาณอาหารในตลาดทั่วโลกลดลงอย่างมากและทำให้ราคาธัญพืชพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน สั่งเปิดฉากบุกโจมตียูเครนเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์.-สำนักข่าวไทย

สหรัฐพบผู้ป่วยโปลิโอรายแรกในรอบเกือบ 10 ปี

นิวยอร์ก 22 ก.ค. – สหรัฐพบผู้ป่วยโรคโปลิโอในนครนิวยอร์ก ซึ่งนับเป็นผู้ป่วยโรคโปลิโอรายแรกในรอบเกือบ 10 ปีของสหรัฐ สำนักงานสาธารณสุขของรัฐนิวยอร์ก ระบุในแถลงการณ์เมื่อวันพฤหัสบดีตามเวลาท้องถิ่นว่า พบชายหนุ่มป่วยเป็นโรคโปลิโอและมีอาการอัมพาตตั้งแต่เดือนมิถุนายนในเขตร็อกแลนด์ เคาน์ตี ของรัฐนิวยอร์ก โดยคาดว่าอาจติดเชื้อไวรัสโปลิโอมาจากต่างประเทศ ขณะที่ พญ. แพทริเซีย ชเนเบล รัพเพิร์ต หัวหน้าสำนักงานสาธารณสุขเขตร็อกแลนด์ เคาน์ตี กล่าวว่า เจ้าหน้าที่กำลังเร่งติดตามครอบครัวและผู้มีประวัติสัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วยโรคโปลิโอรายนี้เพื่อประเมินถึงความเสี่ยงของการระบาดในชุมชน แต่เน้นย้ำว่า ผู้ป่วยคนดังกล่าวไม่สามารถทำให้เกิดการระบาดได้ ทั้งยังระบุว่า ผู้ป่วยรายนี้ได้รับเชื้อไวรัสโปลิโอที่อ่อนแอจากวัคซีนป้องกันโรคโปลิโอที่ใช้ในต่างประเทศ ซึ่งอาจทำให้เกิดการติดเชื้อในบางครั้ง และเป็นวัคซีนที่สหรัฐเลิกใช้มาตั้งแต่ปี 2543 ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐ หรือซีดีซี ได้ประกาศยืนยันพบผู้ป่วยโรคโปลิโอรายดังกล่าว ซึ่งนับเป็นผู้ป่วยโรคโปลิโอรายแรกนับตั้งแต่สหรัฐพบผู้ป่วยรายสุดท้ายที่ติดเชื้อจากการรับวัคซีนที่ใช้หยอดทางปากในปี 2556 ทั้งยังระบุว่า ผู้ป่วยโรคโปลิโอส่วนใหญ่มักไม่มีอาการป่วย แต่อาจมีอาการคล้ายไข้หวัด เช่น เจ็บคอ มีไข้ อ่อนเพลีย และคลื่นไส้ นอกจากนี้ ยังมีผู้ป่วยส่วนน้อยที่ถูกไวรัสโปลิโอทำลายระบบประสาทและเป็นอัมพาต ปัจจุบัน โรคโปลิโอยังไม่มีวิธีรักษาให้หายขาด แต่สามารถป้องกันการติดเชื้อได้ด้วยการรับวัคซีน.-สำนักข่าวไทย

1 64 65 66 67 68 315