เจ้าหน้าที่จีนขอโทษบุกค้นห้องพักเรื่องโควิด

ปักกิ่ง 20 ก.ค. – เจ้าหน้าที่ของทางการจีนออกมากล่าวขอโทษประชาชนที่อาศัยในอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งที่อยู่ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์ในนครกว่างโจวของมณฑลกวางตุ้ง ทางตอนใต้ของจีน หลังเจ้าหน้าที่ได้ทำลายกลอนล็อกประตูกว่า 84 ห้องพักในอะพาร์ตเมนต์แห่งนี้เพื่อค้นหาผู้ที่มีประวัติสัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วยโควิด บรรษัทแพร่ภาพกระจายเสียงอังกฤษ หรือบีบีซี รายงานว่า มีผู้พักอาศัยจำนวนมากติดเชื้อโควิดที่อะพาร์ตเมนต์ในนครกว่างโจว ทำให้เจ้าหน้าที่ของทางการท้องถิ่นต้องเข้าไปติดตามและค้นหาผู้มีประวัติสัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วยโควิดที่อาจหลบซ่อนตัวอยู่ในห้องพักเพื่อหลีกเลี่ยงการกักตัวที่ศูนย์กักตัวของทางการจีน ขณะที่สำนักข่าวท้องถิ่นของจีนรายงานว่า เจ้าหน้าที่ของทางการนครกว่างโจวได้ทำลายกลอนล็อกประตูกว่า 84 ห้องในอะพาร์ตเมนต์ดังกล่าว เพื่อค้นหาผู้มีประวัติสัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วยโควิด เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม หลังมีรายงานพบผู้ป่วยโควิดจำนวนมากที่อะพาร์ตเมนต์แห่งนี้ อย่างไรก็ดี ทางการนครกว่างโจวระบุว่า จะจ่ายเงินชดเชยค่าเสียหายให้แก่เจ้าของห้องพักทุกคน เหตุการณ์นี้ถูกวิพากษ์วิจารณ์เป็นวงกว้างในสื่อโซเชียลมีเดียของจีน ผู้ใช้งานสื่อโซเชียลมีเดียหลายรายโพสต์แสดงความรู้สึกไม่พอใจและเรียกร้องให้ทางการจีนลงโทษเจ้าหน้าที่ผู้ก่อเหตุในความผิดฐานบุกรุกบ้านเรือนโดยผิดกฎหมาย ส่วนเมื่อวานนี้ทางการนครกว่างโจวได้ออกมากล่าวขอโทษประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุดังกล่าวว่า การบุกเข้าห้องพักโดยไม่ได้รับอนุญาตถือเป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุไปจากข้อกำหนดเพื่อป้องกันการระบาดของโรคโควิด-19 ทางการจะเร่งสอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและลงโทษเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ในครั้งนี้. -สำนักข่าวไทย

“ปูติน” อ้างยูเครนไม่ยอมทำตามเงื่อนไขข้อตกลงสันติภาพ

เตหะราน 20 ก.ค. – ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย เผยวันนี้ว่า รัฐบาลรัสเซียยังไม่เห็นว่ายูเครนต้องการที่จะทำตามเงื่อนไขในข้อตกลงสันติภาพเบื้องต้นตามที่ได้ตกลงกันไว้ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ประธานาธิบดีปูตินให้สัมภาษณ์ผ่านสถานีโทรทัศน์หลังเสร็จสิ้นภารกิจเยือนอิหร่านในช่วงเช้ามืดวันนี้ว่า รัฐบาลรัสเซียยังไม่เห็นว่ายูเครนต้องการที่จะทำตามเงื่อนไขในข้อตกลงสันติภาพเบื้องต้นตามที่ได้ตกลงกันไว้ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ทั้งยังระบุว่า ซาอุดีอาระเบียกับสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ได้เสนอตัวเป็นคนกลางเพื่อช่วยแก้ปัญหาความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครน ขณะที่รัฐบาลยูเครนยังไม่ได้ออกมาแสดงความเห็นเกี่ยวกับคำพูดดังกล่าวของประธานาธิบดีปูติน ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีปูตินได้เดินทางเยือนอิหร่านเมื่อวันอังคาร และได้พบกับ อยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน เพื่อกระชับความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศที่ถูกชาติตะวันตกใช้มาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ นอกจากนี้ ประธานาธิบดีปูตินยังได้พบกับประธานาธิบดีเรเจพ ทายยิพ แอร์โดอาน ของตุรกี ในระหว่างเดินทางเยือนอิหร่าน เพื่อหารือเกี่ยวกับข้อตกลงกลับมาเปิดการส่งออกธัญพืชของยูเครนจากท่าเรือในทะเลดำ ซึ่งถูกรัสเซียปิดล้อม ผู้นำรัสเซียระบุว่า รัสเซียพร้อมที่จะอำนวยความสะดวกในการส่งออกธัญพืชของยูเครนจากท่าเรือในทะเลดำ แต่ก็ต้องการให้นานาชาติยกเลิกการใช้มาตรการจำกัดการส่งออกธัญพืชจากรัสเซียเช่นกัน. -สำนักข่าวไทย

‘เน็ตฟลิกซ์’ เสียยอดสมาชิกอีกเกือบ 1 ล้านคน

แคลิฟอร์เนีย 20 ก.ค. – เน็ตฟลิกซ์ (Netflix) ผู้ให้บริการวิดีโอสตรีมมิงรายใหญ่ของสหรัฐ เผยว่า บริษัทเสียยอดสมาชิกเกือบ 1 ล้านคนในช่วงเดือนเมษายนถึงกรกฎาคม เนื่องจากปัญหาวิกฤตค่าครองชีพทั่วโลกที่ส่งผลกระทบต่อการเงินของครัวเรือน เน็ตฟลิกซ์ รายงานว่า บริษัทเสียยอดสมาชิกราว 970,000 คนในช่วงเดือนเมษายนถึงกรกฎาคม ซึ่งต่ำกว่าตัวเลขที่เคยคาดการณ์ในเดือนเมษายนว่า อาจเสียยอดสมาชิกมากถึง 2 ล้านคนจากปัญหาความท้าทายด้านธุรกิจ อย่างไรก็ดี เน็ตฟลิกซ์ระบุว่า บริษัทคาดว่ายอดสมาชิกจะกลับมามีอัตราเติบโตอีกครั้งในไตรมาสปัจจุบัน และจะดีขึ้นกว่าเดิมตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไป เพราะบริษัทจะเปิดให้บริการวิดีโอสตรีมมิงแบบใหม่ที่มีราคาถูกลงและมีโฆษณาแทรก และกำหนดสัญญาแบบใหม่ของการแชร์บัญชีหลายครัวเรือน เน็ตฟลิกซ์ระบุในหนังสือชี้แจงผู้ถือหุ้นว่า บริษัทกำลังเผชิญกับความท้าทายและโอกาสในการสร้างรายได้และการเพิ่มยอดสมาชิกด้วยการเดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์ เนื้อหา และกลยุทธ์การตลาด ดังที่ได้ทำมาตลอด 25 ปีที่ผ่านมา และมุ่งสร้างรายได้จากฐานผู้ชมกลุ่มใหญ่ให้ดีขึ้นกว่าเดิม ซึ่งรวมถึงการต่อยอดซีรีส์เรื่อง ‘สเตรนเจอร์ ธิงส์’ (Stranger Things) ที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในขณะนี้ด้วยการสร้างภาคแยก. -สำนักข่าวไทย

“ปูติน” เดินทางเยือนอิหร่านในวันนี้

เตหะราน 19 ก.ค. – ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย จะเดินทางเยือนอิหร่านในวันนี้ ซึ่งนับเป็นการเดินทางเยือนต่างประเทศครั้งที่สองของผู้นำรัสเซีย นับตั้งแต่รัสเซียสั่งเปิดฉากบุกโจมตียูเครนเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ บรรษัทแพร่ภาพกระจายเสียงอังกฤษ หรือบีบีซี รายงานว่า ประธานาธิบดีปูตินจะเดินทางเยือนรัสเซียเพื่อพบกับอยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน และประธานาธิบดีเรเจพ ทายยิพ แอร์โดอาน ของตุรกี ขณะที่เจ้าหน้าที่ของทางการตุรกีระบุว่า ผู้นำทั้งสามจะหารือร่วมกันในประเด็นเกี่ยวกับการส่งออกธัญพืช สงครามซีเรีย และสงครามยูเครน บีบีซีมองว่า การเดินทางเยือนอิหร่านจะเปิดโอกาสให้ประธานาธิบดีปูตินเดินหน้าสานสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับอิหร่าน ซึ่งเป็นหนึ่งในชาติพันธมิตรที่เหลืออยู่ไม่มากของรัสเซียและถูกชาติตะวันตกใช้มาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจเช่นเดียวกับรัสเซีย ทั้งนี้ การเดินทางเยือนอิหร่านของผู้นำรัสเซียมีขึ้นหลังจากที่เจ้าหน้าที่สหรัฐได้กล่าวหารัฐบาลอิหร่านเมื่อสัปดาห์ก่อนว่า อิหร่านกำลังวางแผนส่งโดรนหลายร้อยลำให้แก่รัสเซียเพื่อนำไปใช้ในสงครามยูเครน ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีปูตินได้เดินทางเยือนทาจิกิสถานและเติร์กเมนิสถานในเดือนมิถุนายน ซึ่งถือเป็นการเดินทางเยือนต่างประเทศครั้งแรกนับตั้งแต่เปิดฉากบุกโจมตียูเครนในเดือนกุมภาพันธ์ โดยที่ทั้งสองประเทศเคยเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพโซเวียต. -สำนักข่าวไทย

ฟิลิปปินส์เล็งทำข้อตกลงนำเข้าปุ๋ยจากจีน-รัสเซีย

มะนิลา 19 ก.ค. – ฟิลิปปินส์กำลังพิจารณาทำข้อตกลงนำเข้าปุ๋ยจากผู้ผลิตปุ๋ยรายใหญ่ของโลก เช่น จีนกับรัสเซีย เพื่อลดต้นทุนด้านการเกษตรและเพิ่มผลผลิตอาหารท่ามกลางภาวะเงินเฟ้อสูง ทำเนียบประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ระบุในแถลงการณ์วันนี้ว่า ประธานาธิบดีมาร์กอส เฟอร์ดินานด์ จูเนียร์ ของฟิลิปปินส์ ได้วางแผนทำข้อตกลงนำเข้าปุ๋ยในราคาที่เหมาะสมจากจีน รัสเซีย อินโดนีเซีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และมาเลเซีย ประธานาธิบดีมาร์กอสได้ให้คำมั่นว่าจะเดินหน้านโยบายกระตุ้นผลผลิตทางการเกษตรภายใน 6 เดือนข้างหน้า และต้องการให้ฟิลิปปินส์ลดพึ่งพาการนำเข้าอาหาร รวมถึงหลีกเลี่ยงผลกระทบรุนแรงจากปัญหาวิกฤตอาหารที่เกิดขึ้นทั่วโลก ทั้งนี้ ผู้นำฟิลิปปินส์เตรียมแจ้งให้ประเทศผู้ผลิตปุ๋ยทั้งห้ารายทราบถึงปริมาณปุ๋ยที่ฟิลิปปินส์ต้องการนำเข้าในเร็ว ๆ นี้ ปัจจุบันฟิลิปปินส์ใช้ปุ๋ยราวปีละ 2.5 ล้านตัน ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่กระทรวงเกษตรของฟิลิปปินส์เตือนว่า ราคาข้าวในประเทศที่พุ่งสูงขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าเป็นผลมาจากราคาปุ๋ยที่แพงขึ้นจากปัญหาสงครามยูเครนที่ทำให้ปริมาณปุ๋ยในตลาดทั่วโลกลดลง ขณะนี้ ฟิลิปปินส์มีอัตราเงินเฟ้อโดยเฉลี่ยสูงถึงร้อยละ 4.4 ในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ สูงกว่าที่ทางการคาดไว้ที่ร้อยละ 2-4 และมีอัตราเงินเฟ้อสูงถึงร้อยละ 6.1 ในเดือนมิถุนายน ซึ่งทำสถิติสูงสุดในรอบเกือบ 4 ปี. -สำนักข่าวไทย

นักท่องเที่ยวติดอยู่ในเมืองตากอากาศของจีนที่ถูกล็อกดาวน์

ปักกิ่ง 19 ก.ค. – นักท่องเที่ยวกว่า 2,000 คนต้องติดอยู่ในเมืองเป๋ย์ไห่ ซึ่งเป็นเมืองชายฝั่งในเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง ทางตอนใต้ของจีน หลังทางการท้องถิ่นประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์และเดินหน้าตรวจหาเชื้อโควิดครั้งใหญ่กับประชาชนราว 1.9 ล้านคนในช่วงสุดสัปดาห์ เนื่องจากพบการระบาดของโรคโควิด-19 ทางการท้องถิ่นของเมืองเป๋ย์ไห่ระบุเมื่อวันอาทิตย์ว่า นักท่องเที่ยวที่ไม่มีประวัติสัมผัสผู้ป่วยติดเชื้อโควิด หรือเดินทางไปในพื้นที่เสี่ยงระดับปานกลางถึงสูง จะได้รับอนุญาตให้เดินทางออกจากเมืองเป๋ย์ไห่ได้ หากมีผลตรวจหาเชื้อโควิดเป็นลบ แต่นักท่องเที่ยวที่ไม่เข้าข่ายตามข้อกำหนดดังกล่าวจะต้องกักตัวอยู่ในเมืองนี้ต่อไป ทั้งนี้ เมืองเป๋ย์ไห่ ซึ่งเป็นเมืองตากอากาศชื่อดังของจีน พบผู้ป่วยโควิดกว่า 450 คนในช่วงวันที่ 12-16 ก.ค. ซึ่งนับว่าอยู่ในระดับต่ำมากเมื่อเทียบกับหลายประเทศทั่วโลก แต่ถือว่าอยู่ในระดับสูงตามนโยบายทำให้ยอดผู้ป่วยโควิดเป็นศูนย์ของจีน นักท่องเที่ยวคนหนึ่งที่เดินทางไปเที่ยวเมืองเป๋ย์ไห่ในช่วงวันหยุดได้โพสต์ระบายความรู้สึกไม่พอใจกับมาตรการดังกล่าวผ่านโต่วอิน แพลตฟอร์มวิดีโอคลิปสั้นแบบเดียวกันกับติ๊กต๊อกว่า เธอเพิ่งหลุดพ้นจากมาตรการล็อกดาวน์ 3 เดือนในนครเซี่ยงไฮ้ และเดินทางมาพักผ่อนหย่อนใจที่เมืองเป๋ย์ไห่ แต่กลับต้องมาเจอกับมาตรการล็อกดาวน์ที่เมืองนี้อีก ทั้งนี้ หลายพื้นที่ของจีนยังคงใช้มาตรการเข้มงวดเพื่อควบคุมยอดผู้ป่วยติดเชื้อโควิด ข้อมูลขององค์การอนามัยโลกระบุว่า ขณะนี้ จีนมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 5.28 ล้านคน และผู้เสียชีวิตกว่า 22,800 คน. -สำนักข่าวไทย

คลื่นสูงซัดถล่มงานแต่งในรัฐฮาวายของสหรัฐ

โฮโนลูลู 19 ก.ค. – เกิดเหตุคลื่นสูงซัดถล่มงานแต่งที่จัดขึ้นริมหาดได้รับความเสียหายบนชายฝั่งตอนใต้ในรัฐฮาวายของสหรัฐเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา หนังสือพิมพ์เดอะการ์เดียนของอังกฤษรายงานว่า เกิดเหตุคลื่นสูงหลายลูกซัดถล่มงานแต่งที่จัดขึ้นในย่านไคลัว-โคนาบนเกาะฮาวายเมื่อช่วงค่ำวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น จนทำให้โต๊ะเก้าอี้ภายในงานล้มระเนระนาด ซารา แอคเกอร์แมน หนึ่งในแขกของงานแต่งดังกล่าวและเป็นผู้บันทึกคลิปวิดีโอขณะเกิดเหตุคลื่นสูงซัดถล่ม เผยว่า คลื่นดังกล่าวมีขนาดใหญ่มาก เธอกำลังบันทึกคลิปวิดีโอบรรยากาศงานแต่ง แต่จู่ ๆ คลื่นสูงก็ซัดผ่านข้ามกำแพงเข้ามาจนทำให้โต๊ะเก้าอี้ในงานล้มระเนระนาด ทั้งยังระบุว่า เหตุการณ์สุดระทึกนี้เกิดขึ้นก่อนงานเริ่มเพียง 5 นาที ซึ่งทำให้แขกเหรื่อในงานรู้สึกตกใจจนทำอะไรไม่ถูก อย่างไรก็ดี งานแต่งดังกล่าวยังคงเดินหน้าต่อไปหลังคลื่นสงบ และทุกคนก็ช่วยเก็บกวาดโต๊ะเก้าอี้หลังเสร็จสิ้นพิธีกล่าวคำสาบานแต่งงานของคู่บ่าวสาว คริส เบรนช์ลีย์ นักอุตุนิยมวิทยาของสำนักอุตุนิยมวิทยาของเมืองโฮโนลูลูในรัฐฮาวาย กล่าวว่า คลื่นดังกล่าวอาจมีความสูงราว 3.6-4.5 เมตร เป็นคลื่นขนาดใหญ่มากที่เกิดขึ้นได้ยาก และเป็นคลื่นลูกใหญ่ที่สุดในรอบหลายสิบปีที่ผ่านมา ทั้งยังระบุว่า คลื่นเหล่านี้เป็นผลกระทบที่เกิดขึ้นจากปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่ทำให้ระดับน้ำทะเลสูงขึ้น เมื่อระดับน้ำทะเลสูงขึ้นแม้เพียงเล็กน้อยก็จะส่งผลกระทบรุนแรงขึ้นเมื่อเกิดพายุใหญ่หรือระดับน้ำทะเลที่ขึ้นสูงเช่นกัน. -สำนักข่าวไทย

เกาหลีใต้พบผู้ป่วยโควิดรายใหม่พุ่งกว่า 73,000 คน

โซล 19 ก.ค. – เกาหลีใต้มียอดผู้ป่วยติดเชื้อโควิดรายใหม่กว่า 73,000 คนในวันนี้ ท่ามกลางสถานการณ์ที่เกาหลีใต้กำลังเผชิญกับการระบาดของเชื้อโควิดโอไมครอนสายพันธุ์ย่อยที่แพร่เชื้อได้อย่างรวดเร็วในขณะที่เกาหลีใต้กำลังผ่อนคลายมาตรการควบคุมโรค สำนักงานควบคุมและป้องกันโรคของเกาหลีใต้ หรือเคดีซีเอ รายงานวันนี้ว่า เกาหลีใต้พบผู้ป่วยโควิดรายใหม่ 73,582 คน เพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่าเมื่อเทียบกับวันก่อนหน้าที่มีเพียง 26,299 คน ขณะที่เกาหลีใต้มียอดผู้ป่วยโควิดรายวันเฉลี่ย 40,342 คนเมื่อวันอาทิตย์ และ 41,310 คนเมื่อวันเสาร์ นอกจากนี้ ยังมีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 12 คน ทำให้มียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 18.8 ล้านคน และผู้เสียชีวิตกว่า 24,700 คน สำนักข่าวยอนฮัพของเกาหลีใต้ระบุว่า เกาหลีใต้มียอดผู้ป่วยโควิดพุ่งสูงขึ้นตั้งแต่ช่วงสิ้นเดือนมิถุนายน เนื่องจากการระบาดของเชื้อโควิดโอไมครอนสายพันธุ์ย่อย BA.5 ที่แพร่ระบาดในช่วงวันหยุดฤดูร้อน โดยมียอดผู้ป่วยโควิดรายใหม่ทะลุ 10,000 คนเมื่อวันที่ 29 มิถุนายนเป็นครั้งแรกในรอบ 3 สัปดาห์ ก่อนพุ่งขึ้นเป็นกว่า 20,000 คนในวันที่ 9 กรกฎาคม และทะลุ 40,000 คนเมื่อวันพุธที่แล้ว […]

ชาวมาเลเซียแห่ฉีดวัคซีนโควิดหลังยอดป่วยโควิดพุ่ง

กัวลาลัมเปอร์ 19 ก.ค. – ชาวมาเลเซียเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 51 ในรอบ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่การระบาดของเชื้อโควิดโอไมครอนสายพันธุ์ย่อยทำให้ประชาชนหวั่นวิตกว่าอาจเกิดการระบาดระลอกใหม่ในประเทศ เว็บไซต์เดอะสตาร์ของมาเลเซียรายงานอ้างข้อมูลจากโพรเทคเฮลต์ (ProtectHealth) องค์กรไม่แสวงหากำไรสังกัดกระทรวงสาธารณสุขมาเลเซียที่ระบุว่า มีชาวมาเลเซียเข้ารับการฉีดวัคซีนโควิดในช่วงวันที่ 4 ก.ค.-10 ก.ค. จำนวน 50,774 คน เพิ่มขึ้นร้อยละ 31 จากในช่วงวันที่ 27 มิ.ย.-3 ก.ค. ที่มี 38,822 คน ส่วนในช่วงวันที่ 11 ก.ค.-17 ก.ค. มีผู้เข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด 76,433 คน เพิ่มขึ้นจาก 2 สัปดาห์ก่อนถึงร้อยละ 51 ทั้งยังระบุว่า ขณะนี้ มาเลเซียมียอดผู้ป่วยติดเชื้อโควิดรายใหม่และผู้ป่วยรักษาตัวในโรงพยาบาลเพิ่มขึ้นทั่วประเทศ ส่วนผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขของมาเลเซียได้ออกมาเรียกร้องให้ชาวมาเลเซีย โดยเฉพาะผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปและกลุ่มเปราะบาง เข้ารับการฉีดวัคซีนโควิดเข็มกระตุ้นภูมิคุ้มกันโดยด่วน เนื่องจากเชื้อโควิดโอไมครอนสายพันธุ์ย่อยสามารถแพร่เชื้อได้อย่างรวดเร็วและหลบหลีกภูมิคุ้มกันที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติหลังติดเชื้อหรือภูมิคุ้มกันที่ได้รับจากวัคซีน ศ. พญ. มอย ฟุง หมิง […]

“ริชี ซูนัก” มีคะแนนนำศึกชิงตำแหน่งนายกฯ อังกฤษ

ลอนดอน 19 ก.ค. – นายริชี ซูนัก อดีตรัฐมนตรีกระทรวงการคลังของอังกฤษ มีคะแนนนำเป็นอันดับ 1 ในการลงคะแนนรอบล่าสุดเพื่อสรรหาหัวหน้าพรรคอนุรักษ์นิยมและนายกรัฐมนตรีอังกฤษคนใหม่จาก ส.ส. พรรคอนุรักษนิยม ซึ่งเป็นพรรครัฐบาล ก่อนที่จะเหลือผู้สมัครชิงตำแหน่งผู้นำอังกฤษเพียง 2 คนในการลงคะแนนรอบสุดท้าย พรรคอนุรักษนิยมประกาศเมื่อวันจันทร์ว่า นายซูนักได้รับคะแนนเสียงสนับสนุนจาก ส.ส. พรรคอนุรักษ์นิยมครั้งล่าสุดมากเป็นอันดับ 1 ด้วยคะแนนเสียง 115 คะแนน ตามมาด้วยนางเพนนี มอร์ดอนต์ รัฐมนตรีด้านนโยบายการค้า 82 คะแนน นางลิซ ทรัสส์ รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศ 71 คะแนน นางเคมิ เบดนอค รัฐมนตรีด้านรัฐบาลท้องถิ่น ความเชื่อ และชุมชน 58 คะแนน และนายทอม ทูเกนแฮต ประธานคณะกรรมาธิการการต่างประเทศของรัฐบาลอังกฤษ 31 คะแนน โดยที่นายทูเกนแฮตเป็นผู้ที่ตกรอบในครั้งนี้ เนื่องจากได้รับคะแนนรั้งท้าย ทั้งนี้ ส.ส. พรรคอนุรักษ์นิยมจะยังคงเปิดลงคะแนนสนับสนุนต่อไปจนกว่าจะเหลือผู้สมัครชิงตำแหน่งเพียง 2 คนสุดท้าย โดยสมาชิกพรรคจะเป็นผู้ตัดสินใจลงคะแนนเลือกผู้ชนะอีกครั้ง นางทรัสส์ […]

อินเดียจับหญิงอเมริกันกุเรื่องถูกลักพาตัวหลอกครอบครัว

นิวเดลี 18 ก.ค. – ตำรวจอินเดียจับกุมหญิงอเมริกันในข้อหากุเรื่องถูกลักพาตัวเพื่อเรียกเงินค่าไถ่จากครอบครัวของตนเองเพราะเงินหมด ตำรวจอินเดียเผยว่า ได้จับกุมหญิงอเมริกัน วัย 27 ปี ในข้อหากุเรื่องถูกลักพาตัวเพื่อเรียกเงินค่าไถ่จากครอบครัวของตนเอง ขณะที่สถานีโทรทัศน์เอ็นดีทีวีของอินเดีย รายงานว่า หญิงรายนี้เดินทางเข้าอินเดียตั้งแต่เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม และโทรหาแม่ของเธอในวันที่ 7 กรกฎาคม โดยอ้างว่าเธอถูกชายคนหนึ่งลักพาตัว เหตุการณ์นี้ทำให้ตำรวจอินเดียเริ่มสอบสวนหาที่อยู่ของหญิงคนนี้ หลังจากสถานทูตสหรัฐได้ส่งคำร้องจากครอบครัวเพื่อขอความช่วยเหลือจากตำรวจอินเดียในการค้นหาตัวลูกสาว หนังสือพิมพ์อินเดียน เอ็กซ์เพรส ของอินเดียระบุว่า ตำรวจได้สืบค้นหมายเลขประจำเครื่องคอมพิวเตอร์ (IP address) จากเครื่องคอมพิวเตอร์ที่เธอใช้ส่งอีเมลถึงสำนักงานบริการพลเมืองสหรัฐ รวมถึงการโทรศัพท์ผ่านระบบวิดีโอคอลถึงแม่ของเธอ ข้อมูลดังกล่าวทำให้ตำรวจสามารถตามจับกุมชายชาวไนจีเรีย วัย 31 ปี ที่ให้การยอมรับว่าหญิงอเมริกันได้พักอยู่กับเขาที่อพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งในย่านชานเมืองของเมืองเดลี และหลังจากที่ตำรวจอินเดียช่วยเหลือหญิงรายนี้ได้ เธอกลับสารภาพว่า เป็นคนกุเรื่องลักพาตัวเพื่อเรียกค่าไถ่จากครอบครัวของตนเองเพราะเงินหมด ตำรวจอินเดียยังระบุว่า หญิงคนนี้เป็นชาวกรุงวอชิงตันและรู้จักชายไนจีเรียผ่านเฟซบุ๊ก เธอพักอยู่กับชายคนนี้มาตั้งแต่ที่เดินทางถึงอินเดีย วีซ่าของเธอและหนังสือเดินทางของเขายังหมดอายุอีกด้วย ทั้งนี้ ตำรวจจะดำเนินคดีทางกฎหมายกับทั้งสองคนในข้อหาพำนักอยู่ในอินเดียโดยผิดกฎหมาย. -สำนักข่าวไทย

รมว.ต่างประเทศเกาหลีใต้เยือนญี่ปุ่น หวังฟื้นความสัมพันธ์

นายปาร์ก จิน รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของเกาหลีใต้ เดินทางถึงกรุงโตเกียวของญี่ปุ่น ในวันนี้ โดยระบุว่า เขาได้นำสารความปรองดองจากประธานาธิบดียุน ซอก-ยอล ของเกาหลีใต้ที่ต้องการแก้ไขความขัดแย้งทางประวัติศาสตร์และฟื้นฟูความสัมพันธ์ที่ตึงเครียดกับญี่ปุ่น

1 66 67 68 69 70 315