กัวลาลัมเปอร์ 19 ก.ค. – ชาวมาเลเซียเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 51 ในรอบ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่การระบาดของเชื้อโควิดโอไมครอนสายพันธุ์ย่อยทำให้ประชาชนหวั่นวิตกว่าอาจเกิดการระบาดระลอกใหม่ในประเทศ
เว็บไซต์เดอะสตาร์ของมาเลเซียรายงานอ้างข้อมูลจากโพรเทคเฮลต์ (ProtectHealth) องค์กรไม่แสวงหากำไรสังกัดกระทรวงสาธารณสุขมาเลเซียที่ระบุว่า มีชาวมาเลเซียเข้ารับการฉีดวัคซีนโควิดในช่วงวันที่ 4 ก.ค.-10 ก.ค. จำนวน 50,774 คน เพิ่มขึ้นร้อยละ 31 จากในช่วงวันที่ 27 มิ.ย.-3 ก.ค. ที่มี 38,822 คน ส่วนในช่วงวันที่ 11 ก.ค.-17 ก.ค. มีผู้เข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด 76,433 คน เพิ่มขึ้นจาก 2 สัปดาห์ก่อนถึงร้อยละ 51 ทั้งยังระบุว่า ขณะนี้ มาเลเซียมียอดผู้ป่วยติดเชื้อโควิดรายใหม่และผู้ป่วยรักษาตัวในโรงพยาบาลเพิ่มขึ้นทั่วประเทศ ส่วนผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขของมาเลเซียได้ออกมาเรียกร้องให้ชาวมาเลเซีย โดยเฉพาะผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปและกลุ่มเปราะบาง เข้ารับการฉีดวัคซีนโควิดเข็มกระตุ้นภูมิคุ้มกันโดยด่วน เนื่องจากเชื้อโควิดโอไมครอนสายพันธุ์ย่อยสามารถแพร่เชื้อได้อย่างรวดเร็วและหลบหลีกภูมิคุ้มกันที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติหลังติดเชื้อหรือภูมิคุ้มกันที่ได้รับจากวัคซีน
ศ. พญ. มอย ฟุง หมิง จากมหาวิทยาลัยมลายาของมาเลเซีย กล่าวว่า เชื้อโควิดโอไมครอนสายพันธุ์ย่อย BA.5 สามารถหลบเลี่ยงภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติที่เกิดขึ้นจากติดเชื้อโควิดหรือภูมิคุ้มกันที่ได้รับจากการฉีดวัคซีนโควิดครบสองโดสหรือวัคซีนเข็มกระตุ้นเข็มที่สาม ดังนั้น การระบาดของเชื้อโควิดโอไมครอนสายพันธุ์ย่อยอาจทำให้เกิดการติดเชื้อโควิดซ้ำ แต่การฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นจะช่วยป้องกันไม่ให้ผู้ป่วยติดเชื้อโควิดมีอาการรุนแรง ป้องกันการเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล และช่วยลดอัตราการเสียชีวิตได้ ขณะนี้ มาเลเซียมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 4.62 ล้านคน และผู้เสียชีวิตกว่า 35,800 คน. -สำนักข่าวไทย