เผย “ทรัมป์” จงใจนิ่งเฉยต่อเหตุจลาจลอาคารรัฐสภา 6 ม.ค.

วอชิงตัน 22 ก.ค. – พยานในกระบวนการพิจารณาคดีของรัฐสภาสหรัฐ เผยว่า อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐนั่งดูรายงานข่าวถ่ายทอดสดเหตุจลาจลที่อาคารรัฐสภาเมื่อวันที่ 6 มกราคมผ่านโทรทัศน์เป็นเวลาหลายชั่วโมง โดยไม่สนคำร้องขอจากบรรดาลูก ๆ ของเขาและที่ปรึกษาใกล้ชิดที่ต้องการให้เขาออกโรงเตือนกลุ่มผู้สนับสนุนให้หยุดก่อเหตุรุนแรง


คณะกรรมการสมาชิกรัฐสภาสหรัฐที่ได้รับแต่งตั้งในกระบวนการพิจารณาคดีของรัฐสภาสหรัฐ ครั้งที่ 8 เผยเมื่อวันพฤหัสบดีตามเวลาท้องถิ่นว่า อดีตประธานาธิบดีทรัมป์ทำตัวเพิกเฉยเป็นเวลากว่า 3 ชั่วโมง นับตั้งแต่ที่เขากล่าวคำปราศรัยเรียกร้องให้กลุ่มผู้สนับสนุนมุ่งหน้าไปที่อาคารรัฐสภาไปจนกระทั่งเขายอมอัดคลิปวิดีโอพูดเกลี้ยกล่อมให้กลุ่มผู้สนับสนุนเดินทางกลับบ้าน นางอีเลน ลูเรีย สส. จากพรรคเดโมแครต กล่าวว่า อดีตประธานาธิบดีทรัมป์นั่งบนโต๊ะอาหารและดูข่าวเหตุจลาจลผ่านโทรทัศน์ด้วยท่าทีนิ่งเฉย ในขณะที่เจ้าหน้าที่ระดับสูง ที่ปรึกษาใกล้ชิด และสมาชิกในครอบครัวต่างเรียกร้องให้เขาลงมือทำอะไรสักอย่างในฐานะประธานาธิบดี พร้อมทั้งเปิดคลิปวิดีโอที่บันทึกคำให้การของที่ปรึกษาทำเนียบขาวและเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงที่อธิบายถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันที่ 6 มกราคม

นายแพท ซิโพลโลน ที่ปรึกษาทำเนียขาวสหรัฐ ให้การในคลิปดังกล่าวเกี่ยวกับท่าทีของอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ว่า นายทรัมป์ไม่ได้สั่งการใด ๆ ไปยังกระทรวงกลาโหม อัยการสูงสุด หรือกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ เพื่อรับมือกับเหตุจลาจลเมื่อวันที่ 6 มกราคม ส่วนคลิปเสียงของนายโดนัลด์ ทรัมป์ จูเนียร์ บุตรชายคนโตของอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ ที่พูดคุยกับนายมาร์ก มีโดวส์ หัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่ประจำทำเนียบขาว ระบุว่า นายทรัมป์ จูเนียร์ ต้องการให้บิดาของเขาออกมาประณามเหตุจลาจลในครั้งนี้ ขณะที่นายอดัม คินซิงเกอร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในสอง สส. พรรครีพับลิกันที่เป็นคณะกรรมการในการพิจารณาคดี ระบุว่า อดีตประธานาธิบดีทรัมป์ไม่สนใจที่จะยับยั้งผู้ก่อเหตุจลาจล ทั้งนี้ เหตุจลาจลอาคารรัฐสภาเกิดขึ้นในขณะที่นายไมค์ เพนซ์ อดีตรองประธานาธิบดี กำลังประชุมกับสมาชิกรัฐสภาสหรัฐเมื่อวันที่ 6 มกราคม เพื่อประกาศรับรองผลชนะการเลือกต้้งของนายโจ ไบเดน จากพรรคเดโมแครต เหตุดังกล่าวทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายราย ตำรวจบาดเจ็บกว่า 140 นาย และทำให้การประกาศรับรองชัยชนะของไบเดนต้องล่าช้าออกไป.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Joe Biden and Kamala Harris on stage

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่ “แฮร์ริส” พ่ายแพ้

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่นางคอมมาลา แฮร์ริส ตัวแทนพรรคเดโมแครต พ่ายแพ้การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ให้แก่นายโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน

“ทรัมป์” คว้าชัยเด็ดขาด ครองตำแหน่งประธานาธิบดีอีกสมัย

โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกัน คว้าชัยชนะเด็ดขาดในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ เหนือคู่แข่งอย่าง คอมมาลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครต นับเป็นการกลับมาครองตำแหน่งผู้นำสหรัฐอีกครั้ง หลังต้องออกจากทำเนียบขาวไปเมื่อ 4 ปีก่อน

พบศพไวยาวัจกรวัดดังระยองถูกยิงดับพร้อมหญิงสาวในบ้านพัก

พบศพไวยาวัจกรวัดดัง จ.ระยอง ถูกยิงเสียชีวิตในบ้านพัก พร้อมหญิงสาวหน้าตาดี คาดเสียชีวิตมาแล้ว 3 วัน ตำรวจเร่งหาสาเหตุ

พบเด็กหญิงฝาแฝดวัย 9 ขวบ ดวงตาสีฟ้า

พบเด็กหญิงฝาแฝดชาวนครพนม วัย 9 ขวบ มีดวงตาสีฟ้าสดใส ซึ่งเป็นโรคทางพันธุกรรมที่พบได้ยาก อาศัยอยู่กับแม่เลี้ยงเดี่ยว แม่เผยลูกมีปัญหาทางการได้ยิน ใช้ชีวิตลำบาก ถูกบลูลี่ แต่ไม่ขอเปิดรับบริจาค เพราะเคยถูกมิจฉาชีพแอบอ้าง

ข่าวแนะนำ

นำ “ทนายตั้ม-ภรรยา” ฝากขัง เจ้าตัวยกมือไหว้ ปัดตอบทุกประเด็น

กองปราบฯ นำ “ทนายตั้ม-ภรรยา” ฝากขังศาลอาญารัชดา เบื้องต้นท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว ด้านเจ้าตัวยกมือไหว้ ปัดตอบทุกประเด็น

ครูปรีชาทนายตั้ม

“ครูปรีชา” หิ้วกาแฟ-ข้าวผัด เยี่ยม “ทนายตั้ม”

เกือบ 24 ชั่วโมง ที่ตำรวจกองปราบฯ คุมตัว “ทนายตั้ม-ภรรยา” มาสอบปากคำ เบื้องต้นทั้งคู่ยังให้การปฏิเสธ เตรียมส่งตัวฝากขังบ่ายนี้ ส่วนคู่กรณีหวย 30 ล้าน “ครูปรีชา” นำข้าวผัดและกาแฟ เข้าเยี่ยม “ทนายตั้ม” พร้อมยืนยันคำเดิม “ความจริงก็คือความจริง”

นายกฯ เร่งตั้งทีม JTC เจรจา MOU44 คาดชัด 18 พ.ย.นี้

นายกฯ ยันรัฐบาลเร่งตั้งคณะกรรมการ JTC หารือเส้นเขตแดน MOU 44 และพลังงานใต้ทะเล คาด 18 พ.ย.นี้ ชัดเจน “ภูมิธรรม” มั่นใจกัมพูชายึดตามสนธิสัญญาเจนีวา แม้ไม่เข้าร่วม ย้ำมีผลผูกพันทุกประเทศทั่วโลก