ญี่ปุ่นเริ่มฉีดวัคซีนโควิดเป็นวันแรก

โตเกียว 17 ก.พ. – ญี่ปุ่นเริ่มฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ของไฟเซอร์ให้แก่บุคลากรทางการแพทย์ของโรงพยาบาลในกรุงโตเกียววันนี้เป็นวันแรก สถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นของญี่ปุ่นเผยแพร่ภาพบุคลากรทางการแพทย์ของโรงพยาบาลโตเกียวที่กำลังได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 โดยที่บุคลากรกลุ่มดังกล่าวจัดอยู่ในกลุ่มผู้ประกอบอาชีพทางการแพทย์ 40,000 คนที่จะได้รับวัคซีนไฟเซอร์โดสแรก รัฐบาลของนายกรัฐมนตรีโยชิฮิเดะ ซูงะ ของญี่ปุ่นให้ความสำคัญสูงสุดกับการฉีดวัคซีนให้แก่ชาวญี่ปุ่น 126 ล้านคนอย่างรวดเร็ว ในขณะที่การจัดแข่งขันโอลิมปิกโตเกียวจะเริ่มขึ้นในช่วงปลายเดือนกรกฎาคมนี้ อย่างไรก็ดี โครงการฉีดวัคซีนดังกล่าวที่ตั้งเป้าฉีดวัคซีนให้แก่เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ 3.7 ล้านคนและผู้สูงวัยที่มีอายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไปราว 36 ล้านคนอาจต้องใช้เวลาถึง 1 ปีจึงจะสำเร็จ นอกจากนี้ ยังเกิดความวิตกกังวลว่า วัคซีนของไฟเซอร์ที่สั่งซื้อมาหลายล้านโดสอาจสูญเปล่าเป็นบางส่วน เนื่องจากญี่ปุ่นประสบปัญหาขาดแคลนเข็มฉีดยาแบบพิเศษที่จะช่วยเพิ่มจำนวนเข็มที่ฉีดได้ต่อวัคซีน 1 ขวด ญี่ปุ่นได้ทำข้อตกลงสั่งซื้อวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 จำนวน 314 ล้านโดสจากไฟเซอร์ แอสตราเซเนกา และโมเดอร์นา ซึ่งเพียงพอสำหรับฉีดให้ประชาชน 157 ล้านคน แม้ญี่ปุ่นพบยอดผู้ป่วยติดเชื้อรายวันลดลงในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาหลังจากที่มียอดผู้ป่วยพุ่งสูงในช่วงต้นเดือนมกราคม แต่กรุงโตเกียวและอีก 9 จังหวัดยังคงใช้ประกาศภาวะฉุกเฉินเพื่อควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 ขณะนี้ ญี่ปุ่นมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมราว 415,000 คน และผู้เสียชีวิต 7,013 คน.-สำนักข่าวไทย

เกาหลีเหนือพยายามเจาะระบบขโมยข้อมูลวัคซีนไฟเซอร์

โซล 16 ก.พ. – แฮกเกอร์เกาหลีเหนือพยายามเจาะระบบคอมพิวเตอร์ของไฟเซอร์ บริษัทเวชภัณฑ์ของสหรัฐ เพื่อสืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 และเทคโนโลยีการรักษา สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานอ้างคำพูดของสมาชิกรัฐสภาเกาหลีใต้คนหนึ่งที่ระบุว่า เขาได้ฟังสำนักข่าวกรองแห่งชาติของเกาหลีใต้กล่าวสรุปว่า เกาหลีเหนือพยายามที่จะฉกฉวยเทคโนโลยีที่เกี่ยวกับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 และการรักษา ด้วยการใช้สงครามไซเบอร์เพื่อเจาะเข้าระบบของไฟเซอร์ หน่วยข่าวกรองของเกาหลีใต้กล่าวด้วยว่า สามารถสกัดความพยายามของเกาหลีเหนือในการแฮกบริษัทเกาหลีใต้ที่กำลังพัฒนาวัคซีนป้องกันโควิด-19 เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว กลุ่มแฮกเกอร์ที่สงสัยว่าจะเป็นจากเกาหลีเหนือพยายามเจาะข้อมูลของหน่วยงานด้านสุขภาพอย่างน้อย 9 แห่ง รวมถึงจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน โนวาแว็ก อิงค์ และ แอสตราเซเนกา ก่อนหน้านี้ เกาหลีเหนือถูกปล่อยให้อยู่อย่างโดดเดี่ยวตั้งแต่ประกาศใช้นโยบายปิดพรมแดนในเดือนมกราคมปีที่แล้ว เพื่อป้องกันตัวเองจากโรคโควิด-19 ที่พบการระบาดครั้งแรกในจีน ซึ่งมีพรมแดนติดกับเกาหลีเหนือ ขณะที่นายคิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือได้กล่าวเน้นย้ำหลายครั้งว่า เกาหลีเหนือไม่พบการระบาดของโรคโควิด-19 ในชุมชน แม้ผู้เชี่ยวชาญจากหลายประเทศได้ตั้งข้อสงสัยในคำยืนยันดังกล่าวก็ตาม นอกจากนี้ การใช้นโยบายปิดพรมแดนยังเพิ่มแรงกดดันต่อสภาพเศรษฐกิจที่ตกต่ำของเกาหลีเหนือที่ถูกคว่ำบาตรจากหลายประเทศที่คัดค้านโครงการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ ซึ่งทำให้เกาหลีเหนือยิ่งต้องเร่งหาทางจัดการกับโรคโควิด-19 โดยเร่งด่วน ทั้งนี้ เกาหลีเหนือขึ้นชื่อว่ามีกองทัพแฮกเกอร์หลายพันคนที่ผ่านการฝึกฝนมาอย่างดีเพื่อโจมตีระบบของบริษัท สถาบัน หรือนักวิจัยในเกาหลีใต้และประเทศอื่น ๆ.-สำนักข่าวไทย

เวียดนามสั่งล็อกดาวน์จังหวัดทางเหนือสกัดโควิด

ฮานอย 16 ก.พ. – เวียดนามประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์จังหวัดหายเซืองทางตอนเหนือของประเทศตั้งแต่เที่ยงคืนของวันนี้เป็นต้นไป หลังพบผู้ป่วยติดเชื้อหลายสิบรายทุกวันนับตั้งแต่เกิดการระบาดครั้งใหม่ในช่วงปลายเดือนก่อน เวียดนามต้องกลับมาตื่นตัวกับการควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 อีกครั้ง หลังพบผู้ป่วยติดเชื้อในชุมชนที่จังหวัดหายเซืองเมื่อวันที่ 28 มกราคมที่ผ่านมา ทั้งที่ก่อนหน้านี้ไม่พบการระบาดในชุมชนเกือบ 2 เดือน สถานีโทรทัศน์วีทีวีของเวียดนามรายงานว่า ทางการเวียดนามได้ประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์จังหวัดหายเซือง ซึ่งพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิด 499 คนตั้งแต่เที่ยงคืนของวันนี้เป็นต้นไปจนกว่าจะมีประกาศยกเลิก ขณะที่สถานีวิทยุวอยซ์ออฟเวียดนามของทางการเวียดนามรายงานว่า กรุงฮานอยต้องตกอยู่ในสถานการณ์เฝ้าระวังเช่นกัน หลังชายชาวญี่ปุ่นคนหนึ่งที่เพิ่งเดินทางกลับมาถึงเวียดนามเสียชีวิตในเวลาไม่กี่วันต่อมาด้วยระบบหายใจล้มเหลว และมีผลตรวจติดเชื้อโควิด เมื่อวานนี้ ทางการเวียดนามรายงานว่า พบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ 40 คน ซึ่งมีผู้ป่วย 2 คนที่มีประวัติสัมผัสโดยตรงกับชายญี่ปุ่นที่เสียชีวิตรวมอยู่ด้วย ทำให้มียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสม 2,269 คน และผู้เสียชีวิตเพียง 35 คน.-สำนักข่าวไทย

ออสเตรเลียอนุมัติใช้วัคซีนของแอสตราเซเนกาแล้ว

ซิดนีย์ 16 ก.พ. – ออสเตรเลียประกาศอนุมัติการใช้วัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ของแอสตราเซเนกาเป็นการชั่วคราว ซึ่งมีขึ้นก่อนที่ทางการจะเริ่มโครงการฉีดวัคซีนทั่วประเทศในสัปดาห์หน้า รัฐบาลออสเตรเลียเผยว่า ได้สั่งซื้อวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของแอสตราเซเนกาไว้เพียงพอสำหรับฉีดให้ประชาชน 25 ล้านคนแล้ว โดยที่วัคซีนส่วนใหญ่จะได้รับการผลิตในออสเตรเลีย อีกทั้งยังได้สั่งซื้อวัคซีนจากไฟเซอร์/ไบออนเทคที่ผลิตในต่างประเทศไว้เพียงพอสำหรับฉีดให้ประชาชนราว 1 ใน 5 หรือคิดเป็นร้อยละ 20 ของประชากรทั้งหมด นายกรัฐมนตรีสกอตต์ มอร์ริสัน ของออสเตรเลียกล่าวว่า ขณะนี้ออสเตรเลียมีวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพถึง 2 ขนานแล้ว ขณะที่นายพอล เคลลี หัวหน้าเจ้าหน้าที่การแพทย์ของออสเตรเลียเผยก่อนหน้านี้ว่า ได้รับทราบเกี่ยวกับความกังวลด้านประสิทธิภาพของวัคซีนแอสตราเซเนกาที่ป้องกันโรคโควิด-19 ได้เพียงราวร้อยละ 62 ซึ่งถือว่าค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับวัคซีนขนานอื่น ๆ ทั้งยังยอมรับว่า วัคซีนดังกล่าวอาจไม่เพียงพอต่อการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ในออสเตรเลีย ออสเตรเลียได้รับวัคซีนไฟเซอร์ ซึ่งมีประสิทธิภาพป้องกันโรคโควิด-19 ได้สูงถึงร้อยละ 95 ล็อตแรกเมื่อวานนี้ และเจ้าหน้าที่ของทางการออสเตรเลียได้วางแผนเริ่มฉีดวัคซีนเป็นครั้งแรกในวันที่ 22 กุมภาพันธ์ ทางการคาดว่าจะได้รับวัคซีนแอสตราเซเนกาที่ผลิตในต่างประเทศในเดือนหน้า นอกจากนี้ ออสเตรเลียยังได้วางแผนนำวัคซีนดังกล่าวมาผลิตเองเป็นจำนวนมาก เพื่อป้องกันปัญหาขาดแคลนวัคซีนจากความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้นในต่างประเทศ ขณะนี้ ออสเตรเลียมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 28,900 คน […]

ญี่ปุ่นประสบปัญหาฉีดวัคซีนโควิดเพราะขาดเข็มฉีดยาพิเศษ

โตเกียว 16 ก.พ. – ญี่ปุ่นเร่งจัดซื้อเข็มฉีดยาพิเศษเพื่อเพิ่มจำนวนผู้ที่จะได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 แต่บริษัทผู้ผลิตเข็มฉีดยากลับประสบปัญหาในการเร่งผลิต ซึ่งทำให้หลายฝ่ายกังวลว่า วัคซีนหลายล้านโดสที่สั่งซื้อมาอาจสูญเปล่า ญี่ปุ่น ซึ่งมีประชากรทั้งหมด 126 ล้านคนได้สั่งซื้อวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 จากไฟเซอร์ 144 ล้านโดส เพื่อนำมาฉีดให้แก่ประชาชน 72 ล้านคน และจะเริ่มฉีดวัคซีนวันพรุ่งนี้เป็นวันแรก ไฟเซอร์ระบุว่า หากใช้เข็มฉีดยาพิเศษแล้ว วัคซีน 1 ขวดจะนำไปฉีดได้ถึง 6 เข็ม แต่ถ้าใช้เข็มฉีดยาแบบมาตรฐาน จะนำไปฉีดได้เพียง 5 เข็ม วัคซีนที่เหลือก็ต้องทิ้งไป ซึ่งทำให้รัฐบาลญี่ปุ่นได้จัดเตรียมการสั่งซื้อเข็มฉีดยาพิเศษมาระยะหนึ่งแล้ว อย่างไรก็ดี นายคัตสึโนบุ คาโต หัวหน้าเลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นกล่าวถึงปัญหาดังกล่าวเพียงว่า ทางการยังคงพยายามจัดหาเข็มฉีดยาพิเศษเหล่านี้อยู่ ขณะที่โฆษกหญิงของไฟเซอร์และเจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุขญี่ปุ่นปฏิเสธที่จะให้ความเห็นเกี่ยวกับข้อตกลงซื้อวัคซีน 144 ล้านโดสว่าขึ้นอยู่กับการฉีดวัคซีน 6 เข็มจาก 1 ขวดหรือไม่ ด้านนิโปร คอร์ป บริษัทผลิตเข็มฉีดยาที่มีโรงงานในไทยและมีกำลังผลิตเดือนละ 500,000 เข็มระบุว่า บริษัทได้วางแผนเพิ่มกำลังผลิตต่อเดือนเพิ่มขึ้นอยู่ในหลักล้านต้น ๆ และจะต้องใช้เวลาถึง 5 […]

เกาหลีใต้บรรลุข้อตกลงสั่งซื้อวัคซีนโควิดเพิ่ม

โซล 16 ก.พ. – เกาหลีใต้บรรลุข้อตกลงซื้อวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 เพิ่มเติมสำหรับประชากรอีก 23 ล้านคน หลังจากที่เมื่อวานนี้เจ้าหน้าที่เผยว่า ปัญหาการจัดส่งที่ล่าช้าและความกังวลเกี่ยวกับประสิทธิภาพของวัคซีนอาจทำให้ชาวเกาหลีใต้ได้รับการฉีดวัคซีนน้อยลงในไตรมาสแรกของปีนี้ นายกรัฐมนตรีชุง เซ-คยุน ของเกาหลีใต้กล่าวว่า เกาหลีใต้ได้บรรลุข้อตกลงซื้อวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ที่เพียงพอสำหรับฉีดให้ประชาชน 20 ล้านคนจากโนวาแวกซ์ และ 3 ล้านคนจากไฟเซอร์ รัฐบาลได้พยายามหาทางเพื่อให้มีวัคซีนเพียงพอในขั้นต้นแล้ว แต่แผนฉีดวัคซีนในไตรมาสแรกของปีนี้กลับเผชิญกับความไม่แน่นอนมากขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากบริษัทเวชภัณฑ์ระดับโลกหลายแห่งประสบปัญหาด้านการผลิตวัคซีน รวมถึงการแข่งขันระหว่างประเทศเพื่อนำวัคซีนมาใช้มากยิ่งขึ้น เกาหลีใต้ได้สั่งซื้อวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เพียงพอสำหรับประชากร 56 ล้านคนแล้ว ซึ่งมากกว่าประชากรของประเทศที่มี 52 ล้านคน โดยสั่งซื้อวัคซีนจากโครงการโคแวกซ์ (COVAX) ขององค์การอนามัยโลก โมเดอร์นา แอสตราเซเนกา และจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน และจะเริ่มฉีดวัคซีนระยะแรกในวันที่ 26 กุมภาพันธ์นี้ เมื่อวานนี้ เจ้าหน้าที่เกาหลีใต้กล่าวว่า จะไม่ฉีดวัคซีนของแอสตราเซเนกาให้กับผู้ที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป ซึ่งเป็นการกลับการตัดสินใจ พร้อมกันนั้น ยังปรับลดเป้าหมายการฉีดวัคซีนเนื่องจากการได้รับวัคซีนจากโครงการโคแวกล่าช้า สำนักงานควบคุมและป้องกันโรคเกาหลีหรือเคดีซีเอรายงานว่า เกาหลีใต้พบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ 457 คน […]

เกาหลีใต้เปลี่ยนใจไม่ฉีดวัคซีนแอสตราเซนเนกาในผู้สูงวัย

โซล 15 ก.พ. – เกาหลีใต้เปลี่ยนใจไม่ฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ของแอสตราเซนเนกาให้แก่ผู้สูงวัยที่มีอายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไป และลดเป้าหมายในการฉีดวัคซีนลงเนื่องจากวัคซีนในโครงการโคแวกซ์ (COVAX) ขององค์การอนามัยโลกจัดส่งล่าช้ากว่ากำหนด สำนักงานควบคุมและป้องกันโรคของเกาหลีใต้หรือเคดีซีเอเผยว่า เกาหลีใต้ได้ลดเป้าหมายฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของแอสตราเซนเนกาให้แก่ประชาชนภายในไตรมาสแรกของปีนี้ลงเหลือ 750,000 คน จากเดิมที่ตั้งเป้าไว้ที่ 1.3 ล้านคน เนื่องจากต้องปรับตารางการได้รับวัคซีนแอสตราเซนเนกาจำนวน 2.6 ล้านโดสที่จะได้รับผ่านโครงการโคแวกซ์ แต่ไม่ได้ระบุถึงปัญหาการผลิตวัคซีนในทวีปยุโรปที่ทำให้เกิดความล่าช้า ซึ่งส่งผลกระทบต่อการจัดสรรวัคซีนในโครงการดังกล่าว ทั้งยังเน้นย้ำว่าแผนการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ภายในเดือนพฤศจิกายนนี้จะยังคงเป็นไปตามเดิม ในขณะเดียวกัน เกาหลีใต้ยังตัดสินใจเลื่อนการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของแอสตราเซนเนกาในกลุ่มผู้สูงวัยออกไปจนกว่าจะได้รับข้อมูลยืนยันประสิทธิภาพที่มากพอ ทั้งที่เมื่อสัปดาห์ที่แล้วประกาศว่าจะอนุมัติให้ใช้วัคซีนขนานนี้ และจะฉีดให้แก่ผู้ที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป แม้ว่าในเวลานั้นคณะที่ปรึกษาของทางการเกาหลีใต้ได้แย้งว่ายังขาดข้อมูลยืนยันประสิทธิภาพในกลุ่มผู้ป่วยสูงวัยก็ตาม หลายประเทศในทวีปยุโรปให้คำแนะนำว่า ควรฉีดวัคซีนของแอสตราเซนเนกาและมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดให้แก่ประชาชนวัย 18 – 64 ปีเท่านั้น แต่แอสตราเซนเนการะบุว่า วัคซีนดังกล่าวช่วยกระตุ้นการสร้างภูมิคุ้มกันโรคโควิด-19 ในผู้สูงวัยได้ดีเช่นกัน ทั้งนี้ เกาหลีใต้จะเริ่มฉีดวัคซีนในวันที่ 26 กุมภาพันธ์นี้ โดยจะฉีดให้แก่กลุ่มคนที่มีความเสี่ยงสูงก่อน เช่น เจ้าหน้าที่สาธารณสุข ประชาชนที่มีโรคประจำตัว และผู้สูงอายุ ขณะนี้เกาหลีใต้มียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 83,860 […]

น้ำท่วมหลังธารน้ำแข็งชนเขื่อนแตกทำนิวเดลีขาดแคลนน้ำ

นิวเดลี 15 ก.พ.- เหตุน้ำท่วมหลังจากเขื่อนทางตอนเหนือของอินเดียแตกเพราะธารน้ำแข็งแตกแล้วไหลมาชน ทำให้กรุงนิวเดลี เมืองหลวงที่อยู่ห่างไปกว่า 500 กิโลเมตรขาดแคลนน้ำกินน้ำใช้ ทางการอินเดียโทษว่า เศษซากและโคลนจำนวนมากที่ปนมากับน้ำท่วมจากเหตุเขื่อนในรัฐอุตราขัณฑ์แตกเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ทำให้ขาดแคลนน้ำสะอาด เพราะน้ำในหุบเขาที่อยู่เหนือกรุงนิวเดลีขึ้นไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ 530 กิโลเมตรเป็นแหล่งน้ำดิบของเมืองหลวงแห่งนี้ที่มีประชากรกว่า 31 ล้านคน ยังไม่สามารถบอกได้ว่าสถานการณ์จะดีขึ้นเมื่อใด รองประธานคณะกรรมการน้ำประปาเดลีขอร้องชาวเมืองใช้น้ำอย่างประหยัด เนื่องจากโรงบำบัด 2 แห่งหลักไม่สามารถเดินเครื่องได้เต็มกำลังเพราะน้ำดิบสกปรก เจ้าหน้าที่กำลังทำความสะอาดตัวกรองตลอด 24 ชั่วโมง และผลักดันน้ำดิบสกปรกออกไป เหตุเขื่อนแตกและน้ำท่วมฉับพลันดังกล่าว มีผู้เสียชีวิตกว่า 50 คน สูญหายราว 150 คน กระแสน้ำไหลแรงทำให้โรงไฟฟ้า ถนน และสะพานเสียหาย เจ้าหน้าที่กู้ภัยเพิ่งจะสามารถกู้ศพจากอุโมงค์ที่ถูกโคลนและเศษซากท่วมทับ คาดว่ามีคนงานติดอยู่ในอุโมงค์กว่า 30 คน.-สำนักข่าวไทย

บิทคอยน์ซื้อขายในเอเชียร่วงกว่า 5% หลังทำสถิติสูงสุด

สิงคโปร์ 15 ก.พ.- บิทคอยน์ คริปโตเคอเรนซียอดนิยมราคาร่วงลงในการซื้อขายที่ตลาดเอเชียวันนี้ หลังจากเดินหน้าทำสถิติราคาสูงสุดเมื่อวันอาทิตย์ เนื่องจากนักลงทุนขายทำกำไร รอยเตอร์รายงานว่า บิทคอยน์ราคาร่วงลงมากถึงร้อยละ 5.6 ไปแตะหน่วยละ 45,914 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.37 ล้านบาท) ในการซื้อขายที่ตลาดเอเชียวันนี้ หลังจากทำสถิติราคาสูงสุดที่หน่วยละ 49,714.66 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.48 ล้านบาท) เมื่อวานนี้ ขณะที่อีเธอเรียม คริปโตคู่แข่ง ราคาร่วงลงกว่าร้อยละ 8 แต่ทั้งสองสกุลสามารถขยับราคาขึ้นมาหลังจากนั้น การร่วงลงในวันนี้เป็นเพียงการพักฐานจากราคาที่ปรับขึ้นไม่หยุด หลังจากบริษัทใหญ่และนักลงทุนรายใหญ่เริ่มเข้าซื้อทรัพย์สินดิจิทัลอย่างจริงจังในปริมาณมาก นับตั้งแต่ต้นปีจนถึงขณะนี้ราคาบิทคอยน์ปรับขึ้นแล้วกว่าร้อยละ 60 และปรับขึ้นกว่า 11 เท่าตั้งแต่เดือนมีนาคมปีก่อน ราคาบิทคอยน์ปรับขึ้นถึง 1 ใน 5 ภายในสัปดาห์เดียวเมื่อเทสลา ผู้ผลิตรถพลังงานไฟฟ้าประกาศว่าซื้อบิทคอยน์มูลค่า 1,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 44,827 ล้านบาท) และจะรับการชำระเงินด้วยบิทคอยน์ สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานเมื่อวันเสาร์ว่า บริษัทลงทุนของมอร์แกนสแตนลีย์กำลังพิจารณาเรื่องลงทุนในบิทคอยน์ ขณะที่เพย์แพล ระบบการชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ให้ลูกค้าใช้บิทคอยน์ได้แล้ว เช่นเดียวกับมาสเตอร์การ์ดที่เตรียมจะดำเนินการลักษณะเดียวกัน.-สำนักข่าวไทย

บ. ญี่ปุ่นเกินครึ่งอยากให้ยกเลิกหรือเลื่อนจัดโอลิมปิก

โตเกียว 15 พ.ย. – โตเกียว โชโก รีเสิร์ช บริษัทวิจัยของญี่ปุ่นเผยผลสำรวจความเห็นล่าสุดที่ชี้ว่า บริษัทญี่ปุ่นเกินครึ่งเห็นด้วยกับการยกเลิกหรือเลื่อนจัดการแข่งขันโอลิมปิกโตเกียว ผลสำรวจความเห็นของโตเกียว โชโก รีเสิร์ชระบุว่า มีบริษัทที่เห็นว่าควรยกเลิกหรือเลื่อนจัดโอลิมปิกโตเกียวสูงถึงร้อยละ 56 ซึ่งเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 53.6 ในการสำรวจครั้งก่อนในเดือนสิงหาคม ขณะที่มีบริษัทที่คิดว่าควรจัดการแข่งขันเต็มรูปแบบตามกำหนดที่วางไว้ในปีนี้เพียงร้อยละ 7.7 ลดลงอย่างมากจากครั้งก่อนที่มีร้อยละ 22.5 ส่วนร้อยละ 20 คิดว่าควรจัดโอลิมปิกโตเกียวแบบจำกัดผู้ชม และร้อยละ 17 เห็นว่าควรจัดแบบไม่มีผู้ชม ทั้งยังมีบริษัทกว่าร้อยละ 70 ที่ระบุว่า การยกเลิกหรือเลื่อนจัดการแข่งขันแทบจะไม่ส่งผลกระทบต่อรายได้ของบริษัท ผลสำรวจดังกล่าวจัดทำขึ้นระหว่างวันที่ 1 – 8 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา มีบริษัทญี่ปุ่นร่วมตอบแบบสอบถามผ่านระบบออนไลน์กว่า 11,000 แห่ง และมีขึ้นก่อนที่นายโยชิโร โมริ ประธานคณะกรรมการจัดการแข่งขันโอลิมปิกประกาศลาออกเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา หลังจากแสดงความเห็นที่เป็นการเหยียดเพศ ทำให้คณะผู้จัดการแข่งขันต้องสรรหาประธานคนใหม่ในขณะที่เหลือเวลาเพียง 5 เดือนก่อนถึงกำหนดการแข่งขัน. -สำนักข่าวไทย

กองทัพเมียนมาแถลงกำหนดโทษกลุ่มผู้ประท้วง

ย่างกุ้ง 15 ก.พ. – กองทัพเมียนมาออกแถลงการณ์ผ่านเฟซบุ๊กที่มีข้อความกำหนดเรื่องการลงโทษผู้ประท้วงต่อต้านรัฐประหาร รอยเตอร์รายงานอ้างข้อความส่วนหนึ่งในแถลงการณ์ของกองทัพเมียนมาว่า ผู้ใดก็ตามที่ใช้คำพูด ตัวอักษร สัญลักษณ์ การแสดงออก หรืออื่น ๆ ที่นำมาหรือพยายามนำมาซึ่งความเกลียดชัง หรือปลุกระดมความไม่พอใจต่อรัฐบาลที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายสำหรับสหภาพเมียนมา หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สำนักงานป้องกัน หรือเจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันอาจต้องโทษจำคุกสูงสุดถึง 20 ปี และโดนปรับเงิน หรืออาจต้องโทษสูงสุด 7 ปี  หรือโดนปรับเงิน หรือทั้งจำทั้งปรับ อย่างไรก็ดี กลุ่มผู้ประท้วงต่อต้านรัฐประหารหลายแสนคนยังคงออกมาชุมนุมกันบนท้องถนนทั่วประเทศเป็นวันที่ 10 เพื่อเรียกร้องให้มีการถ่ายโอนอำนาจกลับสู่ระบอบประชาธิปไตยและปล่อยตัวนางออง ซาน ซู จี ผู้นำที่มาจากการเลือกตั้ง เหตุการณ์ความไม่สงบในปัจจุบันปลุกความทรงจำถึงเหตุนองเลือดต่อต้านการปกครองโดยตรงจากกองทัพที่ดำเนินมาเกือบ 50 ปี และสิ้นสุดลงเมื่อกองทัพเริ่มวางมือจากการเมืองในปี 2554 แม้สถานการณ์รุนแรงในครั้งนี้ยังคงอยู่ในวงจำกัด แต่เมื่อวานนี้ตำรวจเมียนมาได้เปิดฉากยิงสลายกลุ่มผู้ประท้วงที่โรงไฟฟ้าแห่งหนึ่งในพื้นที่ทางตอนเหนือของเมียนมา โดยไม่รู้แน่ชัดว่าตำรวจใช้กระสุนยางหรือกระสุนจริง และไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บ นอกจากนี้ กองทัพเมียนมายังต้องเผชิญกับการชุมนุมประท้วงในหลายพื้นที่ทั่วประเทศที่รวมถึงการประท้วงของกลุ่มพนักงานรัฐบาล ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของขบวนการอารยะขัดขืนที่ทำให้การปฏิบัติหน้าที่ของรัฐบาลหยุดชะงัก. -สำนักข่าวไทย

1 281 282 283 284 285 315