ออสเตรเลียยืนยันจะผลักดันร่าง กม. เก็บเงินเฟซบุ๊กต่อ

ซิดนีย์ 19 ก.พ. – ออสเตรเลียให้คำมั่นว่า จะผลักดันการบังคับใช้กฎหมายที่ทำให้เฟซบุ๊กต้องจ่ายเงินให้บริษัทสื่อท้องถิ่นหากต้องการนำเนื้อหาข่าวเหล่านั้นไปใช้หรือส่งต่อ ซึ่งได้รับแรงสนับสนุนจากผู้นำทั่วโลกหลังเฟซบุ๊กปิดกั้นเนื้อหาข่าวทุกชนิดในออสเตรเลียเมื่อวานนี้ นายกรัฐมนตรีสกอตต์ มอร์ริสัน ของออสเตรเลียกล่าวว่า ผู้นำอังกฤษ แคนาดา ฝรั่งเศส และอินเดียได้แสดงการสนับสนุนร่างกฎหมายดังกล่าวของออสเตรเลีย ตอนนี้ทั่วโลกให้ความสนใจกับสิ่งที่ออสเตรเลียทำอยู่ นั่นคือเหตุผลที่เขาอยากให้เฟซบุ๊กเข้ามามีส่วนร่วมอย่างสร้างสรรค์ เพราะพวกเขารู้ว่า สิ่งที่ออสเตรเลียจะทำนั้นมีแนวโน้มที่ชาติตะวันตกอื่น ๆ จะทำตามเช่นกัน ขณะที่นายสตีเวน กิลโบลต์ รัฐมนตรีกระทรวงมรดกแคนาดาเผยว่า แคนาดาจะนำแนวทางของออสเตรเลียมาใช้ เนื่องจากจะมีการออกกฎหมายของประเทศในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ทั้งนี้ สภาผู้แทนราษฎรของออสเตรเลียได้ลงมติผ่านร่างกฎหมายดังกล่าวที่บังคับให้เฟซบุ๊กและกูเกิลต้องจ่ายเงินให้บริษัทสื่อท้องถิ่นหรือเผชิญกับการอนุญาโตตุลาการโดยบังคับ และคาดว่าสมาชิกวุฒิสภาจะลงมติเห็นชอบภายในสัปดาห์หน้า ในขณะเดียวกัน นายจอช ฟรายเดนเบิร์ก รัฐมนตรีกระทรวงการคลังของออสเตรเลียระบุผ่านทวิตเตอร์ว่า เขาได้พูดคุยกับนายมาร์ค ซักเคอร์เบิร์ก ประธานเจ้าหน้าที่บริหารหรือซีอีโอของเฟซบุ๊กเป็นครั้งที่สองหลังจากที่เฟซบุ๊กปิดกั้นเนื้อหาข่าวทุกชนิดในออสเตรเลีย และจะมีการหารือร่วมกันอีกครั้งในช่วงสุดสัปดาห์นี้ ด้านเฟซบุ๊กและอัลฟาเบต อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกูเกิลได้ร่วมกันรณรงค์ต่อต้านร่างกฎหมายดังกล่าวของออสเตรเลีย และขู่ว่าจะถอดบริการหลักออกจากออสเตรเลีย หากร่างกฎหมายมีผลบังคับใช้.-สำนักข่าวไทย

ฮ่องกงอนุมัติใช้วัคซีนของซิโนแวกแล้ว

ฮ่องกงอนุมัติใช้วัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ของซิโนแวก บริษัทเวชภัณฑ์ของจีนเป็นกรณีฉุกเฉิน และจะเริ่มฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชนในวันที่ 26 กุมภาพันธ์นี้

ภัยหนาวในรัฐเทกซัสทำให้เต่าทะเลหลายพันตัวเกยตื้น

เทกซัส 18 ก.พ. – ภัยหนาวฉับพลันในรัฐเทกซัสของสหรัฐทำให้เต่าทะเลราว 4,700 ตัวที่ไม่คุ้นชินกับอุณหภูมิที่ลดลงอย่างรวดเร็วถูกคลื่นซัดเข้ามาเกยตื้นบนชายหาดของเกาะเซาท์ปาเดร บนชายฝั่งตอนใต้ของรัฐ กลุ่มอาสาสมัครช่วยกันขนย้ายฝูงเต่าทะเลราว 4,700 ตัว ไปไว้ในอ่างและบ่อเลี้ยงในศูนย์ประชุมของเกาะเซาท์ปาเดร ก่อนปล่อยพวกมันกลับสู่ท้องทะเลอีกครั้งเมื่อน้ำทะเลอุ่นขึ้นกว่านี้ ผู้อำนวยการบริหารขององค์กรส่งเสริมการท่องเที่ยวและการจัดประชุมสัมมนาของเกาะเซาท์ปาเดรได้เผยแพร่คลิปวิดีโอกลุ่มอาสาสมัครกำลังช่วยกันวางเต่าบนรถเข็นอย่างระมัดระวัง และมีฝูงเต่าหลากหลายขนาดนอนกองอยู่บนลานขององค์กร เขาระบุว่า เต่าทะเลมีอาการหนาวสั่น ซึ่งเป็นภาวะที่สัตว์เลือดเย็นมีอุณหภูมิร่างกายต่ำผิดปกติจนเซื่องซึมและไม่สามารถเคลื่อนที่ได้เมื่ออุณหภูมิรอบตัวลดต่ำลง ขณะที่ผู้อำนวยการบริหารของซี เทอร์เทิล อิงค์ (Sea Turtle Inc) ศูนย์อนุรักษ์และวิจัยเต่าทะเลของรัฐเทกซัสที่เป็นผู้ควบคุมภารกิจช่วยเหลือเต่าทะเลในครั้งนี้กล่าวว่า เหตุการณ์เช่นนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เพราะปกติแล้วมีเต่าทะเลเพียง 100-500 ตัวเท่านั้น ที่ถูกคลื่นซัดจนเกยตื้นบริเวณชายหาดทางใต้ของรัฐในฤดูหนาว  ในขณะเดียวกัน ชาวรัฐเทกซัสหลายล้านคนยังคงใช้ชีวิตท่ามกลางความหนาวเหน็บโดยที่เครื่องทำความร้อนไม่สามารถใช้งานได้ เนื่องจากเหตุไฟดับที่เกิดขึ้นจากภัยหนาวฉับพลันจนทำให้อุณหภูมิลดต่ำลงจากปกติอย่างมาก.-สำนักข่าวไทย

นิวซีแลนด์จะแจกผ้าอนามัยฟรีในโรงเรียน

นิวซีแลนด์จะแจกผ้าอนามัยฟรีในโรงเรียนเพื่อแก้ไขปัญหาที่นักเรียนยากจนไม่สามารถซื้อผ้าอนามัยได้ตั้งแต่เดือนมิถุนายนนี้เป็นต้นไป

อินเดียจะตรวจหาเชื้อผู้ที่มาจากประเทศพบโควิดกลายพันธุ์

นิวเดลี 18 ก.พ. – อินเดียจะบังคับการตรวจหาโมเลกุลซึ่งเป็นส่วนประกอบของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ในกลุ่มผู้ที่เดินทางมาจากอังกฤษ แอฟริกาใต้ และบราซิล เพื่อควบคุมการระบาดของเชื้อไวรัสกลายพันธุ์ที่แพร่เชื้อเร็วในกลุ่มประเทศดังกล่าว อินเดีย ซึ่งมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมสูงเป็นอันดับ 2 ของโลก รองจากสหรัฐ พบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์แอฟริกาใต้ 4 คนในเดือนที่แล้ว และพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดสายพันธุ์บราซิล 1 คนในเดือนนี้ รัฐบาลอินเดียกล่าวว่า เชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์แอฟริกาใต้และบราซิลสามารถติดเชื้อในปอดได้ง่ายกว่าสายพันธุ์อังกฤษที่อินเดียพบผู้ป่วยทั้งหมด 187 คนแล้ว รัฐบาลอินเดียเผยว่า สายการบินต่าง ๆ จำเป็นต้องคัดกรองผู้โดยสารที่จะเดินทางเข้าอินเดียจากกลุ่มประเทศดังกล่าวตั้งแต่สัปดาห์หน้าเป็นต้นไป แม้ว่าอินเดียไม่มีเที่ยวบินตรงจากบราซิลและแอฟริกาใต้ และผู้โดยสารส่วนใหญ่ที่เดินทางมาจากประเทศดังกล่าวต้องแวะเปลี่ยนเครื่องที่ท่าอากาศยานในกลุ่มประเทศตะวันออกกลางก็ตาม ขณะที่กระทรวงสวัสดิการสุขภาพและครอบครัวของอินเดียระบุในแถลงการณ์ว่า ผู้โดยสารทุกคนที่เดินทางหรือแวะเปลี่ยนเครื่องในเที่ยวบินจากอังกฤษ ทวีปยุโรป หรือตะวันออกกลางจะต้องเข้ารับการตรวจหาโมเลกุลแบบเสียค่าใช้จ่ายเองเมื่อเดินทางมาถึงอินเดีย นอกจากนี้ ผู้โดยสารทุกคนจะต้องมีใบรับรองผลตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนาเป็นลบก่อนออกเดินทางมายังอินเดีย ขณะนี้ อินเดียมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมราว 11 ล้านคน และมีผู้เสียชีวิตกว่า 155,000 คน โดยพบยอดผู้ป่วยติดเชื้อรายวันลดลงอย่างมากเมื่อเทียบกับช่วงกลางเดือนกันยายนปีก่อนที่มียอดผู้ป่วยสูงถึงวันละเกือบ 100,000 คน ทั้งนี้ ทางการอินเดียได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ให้แก่ประชาชน 9.2 ล้านคนแล้วตั้งแต่เริ่มโครงการฉีดวัคซีนวันที่ 16 มกราคมที่ผ่านมา.-สำนักข่าวไทย

เจ้าชายฟิลิปจะประทับในโรงพยาบาลต่อไป

ลอนดอน 18 ก.พ. – เจ้าชายฟิลิป ดยุกแห่งเอดินบะระและพระสวามีสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งอังกฤษทรงประทับอยู่ในโรงพยาบาลในกรุงลอนดอนเป็นคืนที่สองแล้ว ขณะที่แหล่งข่าวระบุว่า พระองค์ไม่ได้เข้าโรงพยาบาลเพราะมีอาการของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 สำนักพระราชวังบักกิงแฮมระบุในแถลงการณ์ว่า เจ้าชายฟิลิป ซึ่งมีพระชันษา 99 พรรษาทรงมีสภาพจิตใจที่ดีขณะเข้ารับการรักษาพระองค์ในโรงพยาบาลคิง เอ็ดเวิร์ดที่ 7 ในช่วงเย็นของวันอังคารที่ผ่านมา หลังจากที่พระองค์ทรงรู้สึกไม่สบายพระองค์ ขณะที่แถลงการณ์ของสำนักพระราชวังในวันนี้ระบุว่า เจ้าชายฟิลิปจะทรงประทับอยู่ในโรงพยาบาลอีกราว 2 – 3 วัน เพื่อให้คณะแพทย์ถวายการรักษาและฟื้นฟูพระวรกาย ในขณะที่แหล่งข่าวรายหนึ่งระบุว่า พระองค์ไม่ได้ทรงประทับรถพยาบาลฉุกเฉินและทรงพระดำเนินจากรถไปที่อาคารโรงพยาบาลด้วยพระองค์เอง ด้านสำนักนายกรัฐมนตรีของอังกฤษระบุว่า นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ของอังกฤษขอให้เจ้าชายฟิลิปทรงหายประชวรโดยเร็วในขณะที่พระองค์ประทับอยู่ที่โรงพยาบาลในอีก 2 – 3 วันข้างหน้า ในขณะเดียวกัน สมาชิกราชวงศ์อังกฤษยังคงปฏิบัติราชกรณียกิจตามกำหนดการเดิมในวันนี้ โดยที่สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 จะทรงพูดคุยกับพลเรือเอกโทนี ราดาคิน ผู้บัญชาการกองทัพเรือจากที่ประทับในพระราชวังวินด์เซอร์ ขณะที่เจ้าชายชาร์ลส์และคามิลลา ดัชเชสแห่งคอร์นวอลล์จะเสด็จเยี่ยมโรงพยาบาลในเมืองเบอร์มิงแฮมในเขตเวส์มิดแลนด์สของอังกฤษ.-สำนักข่าวไทย

รัฐบาลทหารเมียนมาจับกุมผู้ชุมนุมเกือบ 500 คนแล้ว

ย่างกุ้ง 18 ก.พ. – รัฐบาลทหารเมียนมาออกหมายจับบุคคลมีชื่อเสียง 6 คนในข้อหาสนับสนุนให้เกิดการนัดหยุดงานประท้วงต่อต้านรัฐประหารที่ทำให้หน่วยงานรัฐบาลหลายแห่งต้องตกอยู่ในสภาพเป็นอัมพาต ขณะที่ยอดผู้ถูกจับกุมจากการชุมนุมเพิ่มขึ้นเป็นเกือบ 500 คนแล้ว ชาวบ้านในเมืองมัณฑะเลย์ ซึ่งเป็นเมืองขนาดใหญ่อันดับ 2 ของเมียนมากล่าวว่า เมื่อช่วงค่ำของวานนี้ กองกำลังรักษาความปลอดภัยของเมียนมาเปิดฉากยิงใส่กลุ่มพนักงานรถไฟที่พยายามขัดขวางการเดินขบวนรถไฟ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของขบวนการอารยะขัดขืน และทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 คน ขณะที่ชาวเมียนมาอีกหลายแสนคนออกมารวมตัวกันบนท้องถนนหลายสายทั่วประเทศในการชุมนุมประท้วงใหญ่ เพื่อต่อต้านการก่อรัฐประหารเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ และเรียกร้องให้ปล่อยตัวนางออง ซาน ซู จี ผู้นำรัฐบาลพลเรือนที่มาจากการเลือกตั้ง การเดินขบวนบนท้องถนนเป็นไปด้วยความสงบเรียบร้อยกว่าการประท้วงเมื่อ 50 ปีก่อนที่ทหารเมียนมาปกครองประเทศและใช้กำลังปราบปรามจนเกิดเหตุนองเลือด อย่างไรก็ดี การประท้วงของกลุ่มผู้ชุมนุมและขบวนการอารยะขัดขืนได้ส่งผลกระทบรุนแรงต่อภาคธุรกิจในเมียนมาเช่นกัน ในขณะเดียวกัน กองทัพเมียนมาได้ออกหมายจับบุคคลมีชื่อเสียง 6 คน เช่น ผู้กำกับภาพยนตร์ นักแสดง และนักร้องที่ฝ่าฝืนกฎหมายต่อต้านการยุยงในข้อหาสนับสนุนให้ข้าราชการเข้าร่วมการประท้วง ซึ่งอาจต้องโทษจำคุกสูงสุดถึง 2 ปี อย่างไรก็ดี นักแสดงชาวเมียนมาคนหนึ่งที่มีชื่อตามหมายจับกลับท้าทายกฎหมายดังกล่าวด้วยการโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า เขารู้สึกทึ่งมากที่ได้เห็นการรวมพลังของชาวเมียนมา และอำนาจของประชาชนต้องหวนคืนสู่ประชาชน ทั้งนี้ แม้รัฐบาลทหารได้ออกมาเรียกร้องให้พนักงานของรัฐกลับไปทำงานตามปกติ และขู่ว่าจะลงโทษหากไม่ทำตามคำสั่ง แต่การนัดหยุดงานประท้วงก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะสิ้นสุดลง.-สำนักข่าวไทย

อิตาลีปรับเฟซบุ๊กฐานทำให้เข้าใจผิดด้านปกป้องข้อมูล

โรม 17 ก.พ. – หน่วยงานต่อต้านการผูกขาดของอิตาลีประกาศปรับเฟซบุ๊กรอบใหม่เปฺ็นเงิน 7 ล้านยูโร (253 ล้านบาท) ในข้อหากระทำการที่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิดด้านการปกป้องข้อมูล หน่วยงานต่อต้านการผูกขาด หรือเป็นที่รู้จักกันในชื่อ เอจีซีเอ็มของอิตาลีระบุว่า เฟซบุ๊ก บริษัทโซเชียลมีเดียยักษ์ใหญ่ของสหรัฐไม่ได้แจ้งให้ผู้ใช้งานทราบเกี่ยวกับวิธีการจัดเก็บและนำข้อมูลของพวกเขาไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทางการค้าอย่างเหมาะสม เอจีเซีเอ็มจึงสั่งปรับเงินเฟซบุ๊กอีก 7 ล้านยูโรในวันนี้ ซึ่งถือเป็นครั้งที่ 2 แล้ว เนื่องจากเฟซบุ๊กยังคงเพิกเฉยต่อคำสั่งปรับปรุงแก้ไขแนวทางปฏิบัติตามที่หน่วยงานร้องขอ ทั้งยังระบุว่า แม้เฟซบุ๊กจะไม่ได้โฆษณาตัวเองว่าฟรีอีกต่อไปแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้ให้ข้อมูลที่ชัดเจนในทันทีเกี่ยวกับการจัดเก็บและนำข้อมูลผู้ใช้ไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทางการค้า ข้อมูลเหล่านี้เป็นสิ่งที่ผู้ใช้งานจำเป็นต้องได้รับเพื่อตัดสินใจว่าจะยินดีเข้าร่วมบริการหรือไม่ ก่อนหน้านี้ เอจีซีเอ็มเคยสั่งปรับเงินเฟซบุ๊ก 5 ล้านยูโร (181 ล้านบาท) ในปี 2561 ในข้อหาการปฏิบัติทางการค้าที่ไม่เป็นธรรม และสั่งให้เฟซบุ๊กปรับปรุงแก้ไขแนวทางดำเนินงานดังกล่าว.-สำนักข่าวไทย

ไต้หวันว่าข้อตกลงซื้อวัคซีนโควิดไม่คืบหน้าเพราะจีนกดดัน

ไทเป 17 ก.พ. – ไต้หวันเผยว่า ข้อตกลงซื้อวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ที่พัฒนาโดยไบออนเทคต้องหยุดชะงักไป อาจเป็นผลมาจากแรงกดดันของจีนที่ทำให้เกิดความล่าช้า นายเฉิน สือจง รัฐมนตรีสาธารณสุขไต้หวันกล่าวว่า ทางการไต้หวันเกือบจะประกาศข้อตกลงดังกล่าวในเดือนธันวาคมที่ผ่านมา แต่ไบออนเทค บริษัทเวชภัณฑ์ของเยอรมนีกลับระงับข้อตกลงไปเสียก่อน แม้นายเฉินไม่ได้กล่าวโทษจีนโดยตรง แต่ก็ระบุเป็นนัยว่า มีมิติทางการเมืองที่ส่งผลต่อการตัดสินใจในข้อตกลงซื้อวัคซีนของไต้หวัน และเขากำลังวิตกกังวลเกี่ยวกับแรงกดดันจากภายนอกที่เข้ามาแทรกแซง ด้วยเหตุนี้ เขาจึงต้องระมัดระวังเรื่องการพูดคุยเกี่ยวกับข้อตกลงตามแผนในที่สาธารณะ เขายังระบุเพิ่มเติมเพียงสั้น ๆ ว่า คนบางคนไม่ต้องการให้ไต้หวันมีความสุขมากจนเกินไป นายเฉินยังกล่าวทิ้งท้ายว่า ไบออนเทคไม่ได้บอกให้ไต้หวันไปเจรจากับโฟซัน ฟาร์มาซูติคัล กรุ๊ป บริษัทยาของจีนในนครเซี่ยงไฮ้ที่ทำข้อตกลงกับไบออนเทคในการพัฒนาและจำหน่ายวัคซีนของไบออนเทคในจีน ฮ่องกง มาเก๊า และไต้หวัน นอกจากนี้ ไต้หวันยังไม่ได้ยกเลิกข้อตกลงซื้อวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 กับไบออนเทค แต่กำลังอยู่ในขั้นตอนรอดำเนินการเท่านั้น ก่อนหน้านี้ ไต้หวันเคยประกาศในเดือนธันวาคมที่ผ่านมาว่า ได้บรรลุข้อตกลงซื้อวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เกือบ 20 ล้านโดส โดยแบ่งเป็นวัคซีนของแอสตราเซเนกา 10 ล้านโดส และวัคซีนที่เหลือผ่านโครงการโคแวกซ์ (COVAX) ขององค์การอนามัยโลกและบริษัทที่ไม่เปิดเผยชื่อ.-สำนักข่าวไทย

ผู้ประท้วงเมียนมานำรถจอดกลางถนนทำทีเป็นรถเสีย

ผู้ชุมนุมต่อต้านรัฐประหารนำรถยนต์หลายคันมาจอดกลางถนนและบนสะพานหลายแห่ง โดยเปิดกระโปรงรถทำทีเป็นว่ารถยนต์เหล่านั้นขัดข้องเพื่อขัดขวางรถบรรทุกตำรวจและทหารไม่ให้เดินทางไปสลายการชุมนุมของกลุ่มผู้ประท้วง

เกาหลีใต้พบผู้ป่วยโควิดสูงสุดในรอบเกือบ 40 วัน

โซล 17 ก.พ. – เกาหลีใต้พบผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 รายใหม่ 621 คน ซึ่งทำสถิติสูงสุดในรอบเกือบ 40 วัน ขณะที่นายกรัฐมนตรีเกาหลีใต้เตือนประชาชนให้ปฏิบัติตามมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมอย่างเคร่งครัด สำนักงานควบคุมและป้องกันโรคเกาหลีหรือเคดีซีเอรายงานว่า พบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ 621 คน ซึ่งทำสถิติแตะหลักหกร้อยเป็นครั้งแรกในรอบ 39 วัน และเพิ่มขึ้นจากไม่กี่วันก่อนหน้าที่มีผู้ป่วยอยู่ในระดับ 300 – 400 คนเท่านั้น ทำให้มียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 84,940 คน และผู้เสียชีวิตราว 1,530 คน ยอดผู้ป่วยติดเชื้อที่เพิ่มสูงขึ้นเป็นผลมาจากการเพิ่มปริมาณการตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนาในประชาชนหลังผ่านพ้นเทศกาลตรุษจีนในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ในขณะที่ทางการเกาหลีใต้เพิ่งประกาศผ่อนคลายมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมที่รวมถึงการยกเลิกคำสั่งปิดสถานบันเทิงยามค่ำคืน และขยายเวลาเปิดร้านอาหารเพิ่มเป็นจนถึงเวลา 22.00 น. มาได้เพียง 3 วันเท่านั้น นายกรัฐมนตรีชุง เซ-คยุน ของเกาหลีใต้กล่าวว่า เขาได้รับรายงานเกี่ยวกับผู้ที่ไม่ปฏิบัติตามมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม การเปิดไนต์คลับจนถึงเวลา 05.00 น. และการจัดงานเลี้ยงฉลองในโรงแรมเลยเวลาที่กำหนด ทั้งนี้ รัฐบาลได้ผ่อนคลายมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมเพื่อช่วยเหลือเจ้าของธุรกิจขนาดเล็กให้มีรายได้เลี้ยงชีพ ไม่ใช่เพื่อทำให้เกิดการระบาดของโรคโควิด-19 ตัวเลขผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ของวันนี้แสดงให้เห็นว่า การระบาดระลอกที่ 3 ในเกาหลีใต้ยังไม่สิ้นสุด […]

ภัยหนาวจัดในสหรัฐ เสียชีวิต 21 ศพ

เทกซัส 17 ก.พ. – พายุฤดูหนาวครั้งใหญ่ในสหรัฐทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 21 คนแล้ว ขณะที่ประชาชนหลายล้านคนในรัฐเทกซัสทางตอนใต้ของสหรัฐยังคงประสบปัญหาไฟฟ้าดับ ภัยหนาวจัดได้เข้าปกคลุมหลายพื้นที่ของสหรัฐเป็นวงกว้าง ทำให้ศูนย์ฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ต้องปิดทำการและเป็นอุปสรรคในการฉีดวัคซีนให้ประชาชน โดยคาดว่าหลายพื้นที่จะยังคงเผชิญกับภัยหนาวจัดไปจนถึงสุดสัปดาห์นี้ เจ้าหน้าที่รัฐเทกซัสตกเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก เนื่องจากระบบโครงข่ายไฟฟ้าของรัฐยังคงเกิดเหตุขัดข้องติดต่อกันหลายครั้งจนทำให้เกิดไฟดับ สภาพอากาศหนาวจัดทำให้กังหันลมผลิตไฟฟ้าขนาดใหญ่ในพื้นที่ทางตะวันตกของรัฐเทกซัสหยุดนิ่งจนบริษัทพลังงานไม่อาจตอบสนองความต้องการใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มสูงขึ้นได้ สื่อท้องถิ่นและเจ้าหน้าที่ตำรวจรายงานว่า ภัยหนาวจัดทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 21 คนในรัฐเทกซัส ลุยเซียนา เคนทักกี และมิสซูรี ในจำนวนนี้ มีผู้เสียชีวิต 4 คนจากเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนที่เมืองชูการ์แลนด์ในรัฐเทกซัสที่เกิดเหตุไฟดับ เจ้าหน้าที่ในพื้นที่ทางตอนใต้ของรัฐเทกซัสเตือนประชาชนห้ามนำเตาย่างหรือเครื่องทำความร้อนโพรเพนมาไว้ในบ้าน ขณะที่โรงพยาบาลท้องถิ่นต้องรักษาผู้ป่วยหลายรายที่สูดดมก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์เข้าไปในร่างกายมากเกินไป เนื่องจากพวกเขาต้องการทำให้อากาศภายในบ้านอุ่นขึ้นหลังเกิดเหตุไฟดับ ทั้งนี้ ทำเนียบขาวออกแถลงการณ์ระบุว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐได้ยืนยันกับผู้ว่าการรัฐที่ประสบเหตุภัยหนาวจัดว่า รัฐบาลสหรัฐพร้อมให้ความช่วยเหลือเป็นการฉุกเฉินอย่างเต็มที่.-สำนักข่าวไทย

1 280 281 282 283 284 315