คาดเวียดนามจะเริ่มฉีดวัคซีนโควิดเดือนหน้า

ฮานอย 22 ก.พ. – เวียดนามจะเริ่มฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ในเดือนหน้า โดยจะฉีดวัคซีนโดสแรกให้แก่เจ้าหน้าที่สาธารณสุขและผู้สูงอายุเป็นลำดับแรก ขณะที่ทางการกำลังเร่งควบคุมการระบาดระลอกใหม่ เวียดนามคาดว่าจะได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 จำนวน 60 ล้านโดสในปีนี้ ที่รวมถึงวัคซีน 30 ล้านโดสจากโครงการโคแวกซ์ (COVAX) ขององค์การอนามัยโลก และจะได้รับวัคซีนล็อตแรก 204,000 โดสจากแอสตราเซนเนกาในวันที่ 28 กุมภาพันธ์นี้ หนังสือพิมพ์ต๋วยแจ๋ของทางการเวียดนามรายงานว่า เวียดนามจะเริ่มฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ระยะแรกในเดือนมีนาคมหลังได้รับวัคซีนของแอสตราเซนเนกาล็อตแรกและผ่านการตรวจสอบคุณภาพ โดยจะฉีดให้แก่เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์และกลุ่มคนที่มีความเสี่ยงสูงก่อน นอกจากนี้ ทางการยังได้จัดเตรียมตู้เย็นสำหรับเก็บวัคซีนในอุณหภูมิระหว่าง -40 ถึง -86 องศาเซลเซียสไว้ใน 3 เมืองใหญ่ของเวียดนาม ได้แก่ กรุงฮานอย นครโฮจิมินห์ และเมืองดานัง อย่างไรก็ดี กระทรวงสาธารณสุขเวียดนามยังไม่ได้ออกแถลงการณ์ยืนยันเกี่ยวกับโครงการฉีดวัคซีนแต่อย่างใด ก่อนหน้านี้ รัฐบาลเวียดนามระบุว่า กำลังอยู่ในระหว่างเจรจาข้อตกลงซื้อวัคซีนกับบริษัทผู้ผลิตวัคซีนของรัสเซียและสหรัฐ และคาดว่าวัคซีนที่ผลิตใช้เองในประเทศจะแล้วเสร็จในเดือนพฤษภาคมนี้ อีกทั้งยังประกาศอนุมัติใช้วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของแอสตราเซนเนกาเป็นกรณีฉุกเฉิน หลังพบผู้ป่วยติดเชื้อในชุมชนรายแรกในรอบเกือบ 2 เดือน ทั้งนี้ เวียดนาม ซึ่งมีประชากรราว 98 […]

บ.ญี่ปุ่นเล็งฟื้นทดลองยารักษาโควิด-19 ที่ถูกระงับ

แหล่งข่าวเผยว่า ฟูจิฟิล์มโฮลดิงส์คอร์ปของญี่ปุ่นกำลังพิจารณาฟื้นการทดลองทางคลินิกเรื่องการนำยาต้านไวรัสอาวิแกนมาใช้รักษาผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 หลังจากถูกรัฐบาลระงับการอนุมัติไปเมื่อปลายปีก่อน

จีนเรียกร้องให้สหรัฐฟื้นฟูความสัมพันธ์ทวิภาคี

จีนเรียกร้องให้รัฐบาลประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐกลับมาทำงานร่วมกับรัฐบาลจีนในการเปิดการเจรจาร่วมกันระหว่างทั้งสองประเทศอีกครั้ง เพื่อฟื้นฟูความสัมพันธ์ทวิภาคีที่ถูกทำลายภายใต้นโยบายของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์

สหรัฐมียอดตายโควิดใกล้แตะ 500,000 คนแล้ว

วอชิงตัน 22 ก.พ. – สหรัฐมียอดผู้เสียชีวิตจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ใกล้แตะ 500,000 คนนับตั้งแต่พบการระบาดครั้งแรกในประเทศเมื่อหนึ่งปีก่อน ยอดผู้เสียชีวิตที่เพิ่มสูงมีขึ้นในขณะที่สหรัฐกำลังมีความหวังหลังจากที่ประชาชนหลายล้านคนได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 และพบยอดผู้ป่วยติดเชื้อในช่วงฤดูหนาวลดลง อย่างไรก็ดี ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐเตือนเมื่อเดือนก่อนว่า สหรัฐอาจมียอดผู้เสียชีวิตสูงกว่า 600,000 คน นายแอนโทนี เฟาชี หัวหน้าที่ปรึกษาทางการแพทย์ของประธานาธิบดีไบเดนกล่าวกับบรรษัทกระจายเสียงและแพร่ภาพแห่งชาติหรือเอ็นบีซีของสหรัฐว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ในสหรัฐเป็นเรื่องน่ากลัวและทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ไม่เคยมีชาวอเมริกันเสียชีวิตมากเท่าระดับนี้มาก่อนในรอบกว่าร้อยปีนับตั้งแต่เกิดการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ในปี 2461 ตัวเลขผู้เสียชีวิตล่าสุดเป็นเรื่องที่น่าตกใจและแทบไม่น่าเชื่อ แต่มันก็เป็นความจริง เขายังตั้งข้อสังเกตว่า สหรัฐพบยอดผู้ป่วยติดเชื้อลดลงอย่างมากหลังมีตัวเลขผู้ป่วยติดเชื้อพุ่งสูงในเดือนที่แล้ว แต่ระบุว่า การกลับไปใช้ชีวิตปกติอาจจะต้องใช้ระยะเวลาอีกนาน ข้อมูลบนเว็บไซต์มหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ ของสหรัฐระบุว่า สหรัฐมียอดผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ทั้งหมด 498,879 คน ส่วนทั่วโลกมียอดผู้เสียชีวิตเกือบ 2.5 ล้านคน สหรัฐพบผู้เสียชีวิตรายแรกในเดือนกุมภาพันธ์ปีก่อน ใช้เวลา 3 เดือนจึงจะมีผู้เสียชีวิตแตะ 100,000 คน ซึ่งเป็นช่วงที่มีการระบาดระลอกแรกอย่างรุนแรงในนครนิวยอร์ก แต่หลังจากนั้นโรคโควิด-19 ได้แพร่ระบาดไปทั่วประเทศ และทำให้อัตราการเสียชีวิตเพิ่มสูงขึ้นเป็น 400,000 คนภายในเวลาเดือนกว่าเท่านั้น ส่วนหนึ่งเกิดจากการรวมตัวสังสรรค์กันในช่วงวันหยุด […]

รมว.ต่างประเทศสหรัฐ ประกาศจัดการเฉียบขาดกับเมียนมา

วอชิงตัน 22 ก.พ.- นายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐประกาศหลังเกิดเหตุผู้ประท้วงในเมียนมาเสียชีวิต 2 คนเมื่อวันเสาร์ว่า สหรัฐจะดำเนินการอย่างเฉียบขาดกับทางการเมียนมาที่ใช้ความรุนแรงปราบปรามผู้ต่อต้านการรัฐประหาร นายบลิงเคนทวีตเมื่อวันอาทิตย์ตามเวลาสหรัฐว่า สหรัฐจะเดินหน้าดำเนินการอย่างเฉียบขาดกับผู้ใช้ความรุนแรงอย่างผิดกฎหมายกับประชาชนชาวเบอร์มา (เป็นการเรียกชื่อเดิมของเมียนมา) ที่เรียกร้องให้กอบกู้รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย สหรัฐขออยู่เคียงข้างประชาชนชาวเบอร์มา รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐยืนยันเรื่องนี้ หลังเกิดเหตุตำรวจเมียนมายิงกระสุนจริงและแก๊สน้ำตาสลายการชุมนุมในเมืองมัณฑะเลย์ เมืองใหญ่อันดับสองของเมียนมาเมื่อวันเสาร์ ทำให้มีผู้ประท้วงเสียชีวิต 2 คน บาดเจ็บหลายสิบคน และมีขึ้น 10 วัน หลังจากสหรัฐประกาศใช้มาตรการคว่ำบาตรรักษาการประธานาธิบดีเมียนมาและนายทหารหลายคน ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐอนุมัติให้ใช้มาตรการคว่ำบาตรกลุ่มยึดอำนาจรัฐบาลพลเรือน ในจำนวนนี้มีรัฐมนตรีกลาโหม บริษัทหยกและอัญมณี 3 แห่ง ด้านนางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐเตือนขณะออกมาตรการคว่ำบาตรนายทหารระดับสูงของเมียนมาสองนายเมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ว่า หากยังมีการใช้ความรุนแรงกับผู้ประท้วงอีก กองทัพเมียนมาจะได้รู้ว่ามาตรการนี้เป็นเพียงชุดแรกเท่านั้น.-สำนักข่าวไทย

อียูเตรียมอนุมัติคว่ำบาตรเมียนมา-รัสเซีย

บรัสเซลส์ 22 ก.พ.- รัฐมนตรีต่างประเทศสหภาพยุโรป หรืออียู (EU) เตรียมอนุมัติมาตรการคว่ำบาตรผู้รับผิดชอบการรัฐประหารในเมียนมา และการปราบปรามฝ่ายค้านในรัสเซีย รัฐมนตรี 27 ชาติสมาชิกอียูจะพบกันในกรุงบรัสเซลส์ของเบลเยียมในวันนี้ และจะประชุมทางไกลกับนายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ อียูจะเพิ่มการคว่ำบาตรกองทัพเมียนมาอย่างเจาะจง จากการรัฐประหารเมื่อต้นเดือน และเพิ่มการกวาดล้างผู้ประท้วงอย่างรุนแรงจนมีผู้เสียชีวิต เจ้าหน้าที่อียูเผยว่า การประชุมวันนี้จะเห็นชอบข้อสรุปที่อาจนำมาซึ่งการใช้มาตรการเฉพาะกับสมาชิกกองทัพบางคน โดยเมื่อวันเสาร์ นายโจเซฟ บอร์เรล หัวหน้านโยบายต่างประเทศอียู ได้ประณามการใช้ความรุนแรงกับการชุมนุมอย่างสันติ หลังจากมีผู้ประท้วงเสียชีวิต 2 คน และกล่าวว่ารัฐมนตรีต่างประเทศอียูจะตัดสินใจอย่างเหมาะสม ส่วนความเคลื่อนไหวในเรื่องรัสเซียมีขึ้นหลังจากนายบอร์เรลไปเยือนรัสเซียเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน แต่ถูกรัสเซียประกาศขับนักการทูตอียู 3 คน และปัดการเจรจา อียูคว่ำบาตรรัสเซียหลายชุดอยู่แล้วจากเรื่องที่รัสเซียผนวกคาบสมุทรไครเมียของยูเครนในปี 2557 และเมื่อเดือนตุลาคมได้คว่ำบาตรเจ้าหน้าที่รัสเซีย 6 คน จากเรื่องวางยานายอเล็กซี นาวัลนี ผู้นำฝ่ายค้าน นายนาวัลนีกลับประเทศในเดือนนี้หลังรักษาตัวที่เยอรมนี และถูกตัดสินจำคุกเกือบ 3 ปี ทำให้ผู้สนับสนุนออกมาประท้วงทั่วประเทศ และถูกเจ้าหน้าที่ใช้กระบองฟาดและจับกุม นอกจากนี้ที่ประชุมรัฐมนตรีต่งประเทศอียูยังจะหารือเรื่องขึ้นบัญชีดำเจ้าหน้าที่รัฐบาลเวเนซุเอลาพัวพันการเลือกตั้งเดือนธันวาคมที่อียูไม่ยอมรับ และเรื่องจีนกวาดล้างผู้ชุมนุมในฮ่องกง.-สำนักข่าวไทย

ผู้ประท้วงเมียนมาเรียกร้องให้นัดหยุดงานประท้วงรัฐประหาร

ย่างกุ้ง 22 ก.พ. – ผู้ประท้วงต่อต้านรัฐประหารในเมียนมาเรียกร้องให้มีการนัดหยุดงานทั่วไปและออกมาชุมนุมบนท้องถนนมากขึ้นในวันนี้ ขณะที่เจ้าหน้าที่เมียนมาขู่ว่า เหตุปะทะระหว่างทหารและผู้ประท้วงอาจทำให้มีผู้เสียชีวิต หลังมีผู้ประท้วงถูกยิงเสียชีวิต 2 รายในเมืองมัณฑะเลย์เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา รัฐบาลทหารเมียนมาได้ส่งกำลังทหารลงพื้นที่มากขึ้นและสัญญาว่าจะจัดการเลือกตั้งครั้งใหม่ แต่ไม่สามารถยุติการประท้วงรายวันและขบวนการอารยะขัดขืนที่ยืดเยื้อมากว่า 2 สัปดาห์ เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลทหารสละอำนาจและปล่อยตัวนางออง ซาน ซู จี ผู้นำประเทศที่มาจากการเลือกตั้ง แกนนำนักเคลื่อนไหวเยาวชนเมียนมาโพสต์เฟซบุ๊กเมื่อคืนที่ผ่านมาว่า ใครที่ไม่กล้าออกมาร่วมประท้วงก็ขอให้อยู่ในบ้าน แต่เขาจะออกไปประท้วงให้ได้ และคาดว่าจะได้เห็นชาวเมียนมารุ่นใหม่ในการชุมนุมวันนี้ ทั้งนี้ ผู้ชุมนุมให้ความสำคัญกับการประท้วงในวันนี้ ซึ่งเป็นวันที่ 22.2.2021 โดยนำไปเปรียบเทียบกับคนรุ่นก่อนที่ชุมนุมประท้วงต่อต้านทหารเมื่อวันที่ 8.08.1988 จนเกิดเหตุปราบปรามนองเลือด รอยเตอร์ตั้งข้อสังเกตว่า การตอบโต้ของกองกำลังความมั่นคงเมียนมาในการประท้วงครั้งนี้มีความรุนแรงน้อยกว่าครั้งก่อน แต่ก็มีผู้ประท้วงเสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 3 คน หลังจากที่มีผู้ประท้วง 2 คนถูกยิงเสียชีวิตในเมืองมัณฑะเลย์เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ขณะที่กองทัพระบุว่า มีตำรวจเสียชีวิต 1 นายหลังได้รับบาดเจ็บจากเหตุประท้วง ขณะที่สถานีโทรทัศน์เอ็มอาร์ทีวีของทางการเมียนมาประกาศเตือนว่า กลุ่มผู้ประท้วงกำลังยุยงประชาชนเมียนมาโดยเฉพาะวัยรุ่นและเยาวชนที่มีอารมณ์อ่อนไหวให้ก้าวไปในเส้นทางเผชิญหน้าที่อาจนำไปสู่การเสียชีวิต ด้านสมาคมช่วยเหลือนักโทษการเมืองของเมียนมาเผยว่า ขณะนี้มีผู้ประท้วงที่ถูกควบคุม ตั้งข้อหา หรือตัดสินลงโทษ 640 คน รวมถึงอดีตแกนนำรัฐบาลและผู้ประท้วงต่อต้านรัฐประหารนับตั้งแต่เกิดเหตุยึดอำนาจการปกครองเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา. -สำนักข่าวไทย

เวียดนามจะได้รับวัคซีนโควิด 60 ล้านโดสในปีนี้

ฮานอย 19 ก.พ. – เวียดนามจะได้รับวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 จำนวน 60 ล้านโดสในปีนี้ โดยแบ่งเป็นวัคซีน 30 ล้านโดสจากโครงการโคแวกซ์ (COVAX) ขององค์การอนามัยโลก และอีก 30 ล้านโดสจากแอสตราเซเนกา ในขณะที่เวียดนามกำลังเผชิญกับการระบาดระลอกรุนแรงที่สุดของประเทศ นายเหงียน ถั่น ลอง รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขเวียดนามกล่าวว่า เวียดนามพบการระบาดของเชื้อโควิดสายพันธุ์อังกฤษที่แพร่เชื้อได้รวดเร็วในจังหวัดหายเซือง ทางตอนเหนือของเวียดนาม ซึ่งถือเป็นความท้าทายครั้งใหญ่ในการควบคุมการระบาด เนื่องจากเชื้อไวรัสสายพันธุ์ดังกล่าวแพร่เชื้อได้รวดเร็วกว่าเดิมถึงร้อยละ 70 หากทางการไม่เร่งตรวจหาเชื้อโควิดในประชาชนท่ามกลางสถานการณ์ที่พบผู้ป่วยติดเชื้อพุ่งสูงขึ้น ก็จะไม่สามารถควบคุมการระบาดได้ นายลองยังระบุด้วยว่า เวียดนามจะได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ราว 30 ล้านโดสในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ผ่านโครงการโคแวกซ์ขององค์การอนามัยโลก และจะตั้งเป้าฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชนในพื้นที่ที่มีการระบาดรุนแรงก่อน พร้อมทั้งเรียกร้องให้ภาคเอกชนช่วยสนับสนุนกระทรวงสาธารณสุขในการจัดหาวัคซีนเพิ่มเติม ก่อนหน้านี้ รัฐบาลเวียดนามได้ประกาศทำข้อตกลงซื้อวัคซีน 30 ล้านโดสจากแอสตราเซเนกา และระบุว่า จะได้รับวัคซีนล็อตแรกจำนวน 204,000 โดสในวันที่ 28 กุมภาพันธ์นี้ นอกจากนี้ เวียดนามยังคาดว่าจะเริ่มฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ที่ผลิตขึ้นเองได้ภายในเดือนพฤษภาคมนี้ ขณะนี้ เวียดนามมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสม 2,437 คน และผู้เสียชีวิตเพียง […]

กัมพูชาปฏิเสธคุมการใช้งานอินเทอร์เน็ตตามแบบจีน

พนมเปญ 19 ก.พ. – กัมพูชาปฏิเสธข้อกล่าวหาว่า รัฐบาลจงใจใช้กฎหมายใหม่ตั้งเกตเวย์อินเทอร์เน็ตแห่งชาติ เพื่อนำไปสู่การสอดส่องและปิดกั้นข้อมูลตามแบบจีน และยังระบุว่าจะร่างกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในเร็ว ๆ นี้ด้วย กระทรวงไปรษณีย์และโทรคมนาคมของกัมพูชาระบุในแถลงการณ์ว่า ข้อกล่าวหาเกี่ยวกับการตั้งเกตเวย์อินเทอร์เน็ตแห่งชาติไม่มีมูลความจริง มีแรงจูงใจทางการเมือง ไม่เป็นความจริง และขัดแย้งกับวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ในกฎหมายรอง กระทรวงขอยืนยันว่า ไม่มีบทบัญญัติใดในกฎหมายรองที่อนุญาตให้จัดเก็บข้อมูลของผู้บริโภคและจำกัดเสรีภาพในการแสดงความคิด ทั้งนี้ แถลงการณ์ดังกล่าวมีขึ้นหลังเกิดเสียงคัดค้านการออกพระราชกฤษฎีกาฉบับย่อยในสัปดาห์นี้ที่กำหนดให้การรับส่งข้อมูลอินเทอร์เน็ตทั้งหมดต้องผ่านเกตเวย์แห่งชาติ ขณะที่นักวิเคราะห์หลายรายให้ความเห็นว่า นายกรัฐมนตรีฮุน เซน ของกัมพูชาที่ดำรงตำแหน่งผู้นำประเทศมายาวนานอาจใช้กฎหมายดังกล่าวเพื่อทำตามมาตรการควบคุมอินเทอร์เน็ตที่เข้มงวดของจีน ซึ่งปิดกั้นการเข้าถึงแอปพลิเคชันของชาติตะวันตก เช่น ทวิตเตอร์ เฟซบุ๊ก และยูทูบ รวมถึงการเซ็นเซอร์เนื้อหาที่อาจบ่อนทำลายพรรคคอมมิวนิสต์ของจีน ในขณะเดียวกัน รัฐบาลกัมพูชาออกแถลงการณ์ระบุว่า ประเทศส่วนใหญ่ล้วนแล้วแต่มีการใช้เกตเวย์อินเทอร์เน็ต และการออกกฎหมายใหม่ดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่รัฐบาลได้ปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญและผู้ให้บริการโทรคมนาคมส่วนตัวแล้ว การตั้งเกตเวย์อินเทอร์เน็ตแห่งชาติมีขึ้นในขณะที่รัฐบาลของนายฮุนเซนตกเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์จากนานาประเทศเกี่ยวกับการปราบปรามที่มุ่งทำลายกลุุ่มประชาสังคมและฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง เพื่อให้พรรครัฐบาลผูกขาดอำนาจการปกครองประเทศ นอกจากนี้ รัฐบาลกัมพูชายังตั้งข้อหาทางอาญาและสั่งจำคุกศัตรูทางการเมืองอีกหลายรายด้วย.-สำนักข่าวไทย

ผู้ประท้วงเมียนมาที่ถูกยิงด้วยกระสุนจริงเสียชีวิตแล้ว

หญิงเมียนมาวัย 20 ปีที่ถูกยิงเข้าศีรษะขณะร่วมชุมนุมต่อต้านรัฐประหารในกรุงเนปิดอว์เมื่อสัปดาห์ก่อนได้เสียชีวิตในโรงพยาบาลเมื่อเวลาประมาณ 11.00 น. ที่ผ่านมา

จีนเผยมีทหารเสียชีวิต 4 นายจากเหตุปะทะอินเดียปีก่อน

ปักกิ่ง 19 ก.พ. – จีนเผยว่า มีทหาร 4 นายที่เสียชีวิตจากเหตุปะทะกับกองกำลังอินเดียบริเวณหุบเขากัลวานเมื่อปีก่อน ซึ่งถือเป็นการยืนยันผู้เสียชีวิตจากเหตุดังกล่าวเป็นครั้งแรกจากทางการจีน กระทรวงกลาโหมของจีนกล่าวว่า ทหารจีนได้เสียสละชีวิตของตนจากเหตุปะทะกับกองกำลังต่างชาตินิรนามบริเวณหุบเขากัลวานที่เป็นพรมแดนระหว่างเขตปกครองตนเองทิเบตของจีน และเขตลาดักห์ของอินเดียในเดือนมิถุนายนปีที่แล้ว เหตุดังกล่าวทำให้มีผู้บังคับกองพันเสียชีวิต 1 นาย และทหารจีนเสียชีวิตอีก 3 นาย โดยทั้งหมดจะได้รับรางวัลเชิดชูเกียรติจากการเสียสละชีวิตของตน ทั้งยังกล่าวโทษกองกำลังต่างชาติว่า ได้ละเมิดฉันทามติกับจีนอย่างโจ่งแจ้งและข้ามเส้นพรมแดนเพื่อไปตั้งเต็นท์ อย่างไรก็ดี กองกำลังจีนสามารถขับไล่ศัตรูออกจากพื้นที่ไปได้และถือเป็นชัยชนะครั้งสำคัญ ในขณะที่ฝ่ายตรงข้ามต้องหนีกลับไปอย่างหัวซุกหัวซุนโดยที่มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก กองกำลังจีนและอินเดียเปิดฉากต่อสู้กันในสงครามชายแดนมาตั้งแต่ปี 2505 และต่างกล่าวหากันไปมาอีกฝ่ายพยายามรุกล้ำพรมแดนและไม่อาจเจรจาหาข้อยุติที่เหมาะสมได้ จนกระทั่งเกิดเหตุปะทะกันของทั้งสองฝ่ายบริเวณหุบเขากัลวานในช่วงกลางเดือนมิถุนายนปีก่อนที่ทำให้ทหารอินเดียเสียชีวิต 20 นาย ซึ่งถือเป็นเหตุปะทะรุนแรงที่สุดครั้งหนึ่งในรอบหลายสิบปี แต่ในตอนนั้นจีนไม่ได้เปิดเผยยอดทหารที่ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต อย่างไรก็ดี จีนและอินเดียได้ตกลงปลดกองกำลังทหารออกจากพื้นที่ตามแนวชายแดนเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาแล้ว.-สำนักข่าวไทย

ทวีปแอฟริกามียอดผู้เสียชีวิตจากโควิดทะลุ 100,000 คน

โยฮันเนสเบิร์ก 19 ก.พ. – ทวีปแอฟริกามียอดผู้เสียชีวิตจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ทะลุ 100,000 คนแล้ว แม้ยอดผู้เสียชีวิตดังกล่าวอยู่ในระดับต่ำกว่าทวีปอื่น ๆ แต่ก็เป็นจำนวนที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วหลังเกิดการระบาดระลอก 2 จนทำให้เกิดปัญหาโรงพยาบาลเกิดความตึงตัว สำนักข่าวรอยเตอร์สบันทึกสถิติตัวเลขเกี่ยวกับโควิด-19 ซึ่งพบว่า ทวีปแอฟริการายงานยอดผู้เสียชีวิตทั้งหมด 100,354 คน เทียบกับทวีปอเมริกาเหนือที่มีกว่า 500,000 คน และทวีปยุโรปที่มีเกือบ 900,000 คน แม้ยอดผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ในทวีปแอฟริกาจะน้อยกว่าอีกสองทวีป แต่กลับมีจำนวนเพิ่มสูงอย่างรวดเร็วทั่วทวีป โดยเฉพาะในแอฟริกาใต้ที่มียอดผู้เสียชีวิตเกือบครึ่งหนึ่งของทั้งหมด และกำลังเผชิญกับการระบาดระลอก 2 จากเชื้อไวรัสโคโรนากลายพันธุ์ที่แพร่เชื้อเร็วที่ทำให้ผู้ป่วยติดเชื้อล้นโรงพยาบาล เจ้าหน้าที่ประสานงานโครงการฉีดวัคซีนขององค์การอนามัยโลกประจำทวีปแอฟริกากล่าวว่า ยอดผู้ป่วยติดเชื้อที่เพิ่มสูงขึ้นทำให้ผู้ป่วยหลายรายมีอาการรุนแรง และบางประเทศก็รับมือกับสถานการณ์เช่นนี้ได้อย่างยากลำบาก เนื่องจากมีข้อจำกัดด้านการจัดซื้อถังออกซิเจนที่ส่งผลกระทบเชิงลบในแง่ของการจัดการผู้ป่วยติดเชื้อที่มีอาการรุนแรง ทั้งยังระบุเพิ่มเติมว่า กลุ่มประเทศที่อยู่ใกล้กับแอฟริกาใต้ เช่น ซัมบับเว โมซัมบิก และมาลาวีพบผู้ป่วยติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นด้วย และมีโอกาสที่เชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ 501Y.V2 ที่พบระบาดครั้งแรกในแอฟริกาใต้เมื่อปลายปีก่อนได้แพร่กระจายไปทั่วภูมิภาคตอนใต้ของทวีปแอฟริกาแล้ว แม้ว่าจะต้องมีการตรวจหาลำดับจีโนมมากขึ้นเพื่อพิสูจน์ข้อสันนิษฐานก่อนก็ตาม ขณะนี้ แอฟริกาใต้ ซึ่งเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของทวีปแอฟริกามียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมเกือบ 1.5 ล้านคน และผู้เสียชีวิตราว 48,700 คน.-สำนักข่าวไทย

1 279 280 281 282 283 315