ส.ป.ก.ชี้แนวกันไฟ อช.เขาใหญ่รุกเขตปฏิรูปที่ดิน

กรุงเทพฯ 27 ก.พ. – ส.ป.ก.ตรวจสอบภาพถ่ายทางอากาศย้อนหลัง 28 ปี เพื่อยืนยันแนวเขตปฏิรูปที่ดินท้องที่ ต.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา พบถนนซึ่งเป็นแนวกันไฟและเส้นทางลาดตระเวนของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ตัดรุกล้ำเข้ามาในเขตปฏิรูปที่ดิน 1 กม. ย้ำ ส.ป.ก.ไม่ได้รุกที่อุทยานฯ แน่นอน แต่การออก ส.ป.ก. 4-01 ในเขตปฏิรูปที่ดินซึ่งมีสภาพป่า เป็นการดำเนินการโดยมิชอบ หากพบในพื้นที่ใด “รมว.ธรรมนัส” สั่งลงโทษอย่างเด็ดขาด


สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) นำภาพถ่ายทางอากาศย้อนหลังตั้งแต่ พ.ศ. 2495 มาตรวจสอบเพื่อยืนยันแนวเขตปฏิรูปที่ดิน ท้องที่ตำบลหมูสี อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งสำนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัดนครราชสีมา ปักหลักหมุด ส.ป.ก. และออก ส.ป.ก. 4-01 ในหมู่ที่ 10 ต่อมาเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่เข้าตรวจยึด จนเป็นที่มาของข้อพิพาทเกี่ยวกับแนวเขตระหว่าง ส.ป.ก. และกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช

นอกจากนี้ยังทบทวนการดำเนินการของรัฐบาลเกี่ยวกับการจำแนกพื้นที่ป่าให้นำมาจัดสรรเป็นที่ทำกินของเกษตรกรในอดีตและข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ซึ่งพบว่าใน พ.ศ. 2502 มีมติ ครม.ให้จำแนกที่ดินในประเทศไทย โดยให้แยกเป็นที่ดินที่จะสงวนเป็นเขตป่าไม้ และที่ดินที่จะนำไปจัดสรรให้ราษฎรทำกิน ตามคำแนะนำขององค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) ในปี 2493 โดยมอบให้กระทรวงมหาดไทย ร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ดำเนินการ


กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มอบหมายให้กรมพัฒนาที่ดินเป็นผู้ดำเนินการ แม้กรมป่าไม้ สังกัดกระทรวงเกษตรฯ สาเหตุอาจเป็นเพราะขณะนั้นกรมป่าไม้ไม่มีเจ้าหน้าที่ที่มีความเชี่ยวชาญ

ต่อมาวันที่ 14 พฤศจิกายน 2504 กระทรวงมหาดไทยและกระทรวงเกษตรฯ นำเสนอให้ ครม.พิจารณาผลการจำแนกที่ดิน ซึ่ง ครม.มีมติเห็นชอบ โดยจำแนกเป็นพื้นที่ป่าที่จะสงวนไว้เป็นสมบัติของชาติถาวรสืบไปหรือที่ต่อมาเรียกว่า เขตป่าไม้ถาวรประมาณ 171 ล้านไร่และที่ดินจำแนกเพื่อจัดสรรให้ราษฎรทำกินประมาณ 31 ล้านไร่ โดยคราวนั้นได้จำแนกเขตป่าไม้ถาวรป่าเขาใหญ่ เนื้อที่ 219,375 ไร่ รวมอยู่ด้วย ขณะเดียวกัน ยังเสนอขอความเห็นจาก ครม.ด้วยว่า การสำรวจเพื่อจำแนกพื้นที่เป็นการสำรวจทางกายภาพว่า ที่ดินมีสภาพป่าและเหมาะสมต่อการทำเกษตรกรรมหรือไม่เท่านั้น สมควรมีการสำรวจภาคสนามอีกครั้งหนึ่ง ซึ่ง ครม.เห็นชอบตามที่เสนอ

จากนั้นเมื่อวันที่ 18 กันยายน 2505 มีการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกากำหนดบริเวณที่ดินป่าเขาใหญ่ เนื้อที่กว่า 1.3 ล้านไร่ ซึ่งทับซ้อนในเขตป่าไม้ถาวรป่าเขาใหญ่ด้วย กระทั่งในปี 2506 ครม.เห็นชอบแนวเขตป่าไม้ถาวรแห่งชาติป่าเขาใหญ่ ตามที่ได้เห็นชอบไว้เมื่อปี 2504 เนื้อที่ 219,375 ไร่เท่าเดิม


กรมป่าไม้ได้ส่งแนวเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่มาให้คณะกรรมการพัฒนาที่ดิน ในปี 2527 โดยในการประชุมคณะกรรมการพัฒนาที่ดิน ครั้งที่ 6/2537 เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2527 เห็นชอบให้จำแนกพื้นที่ทับซ้อนระหว่างเขตป่าไม้ถาวรกับเขตอุทยานแห่งชาติป่าเขาใหญ่อีกครั้ง แล้วเสนอ ครม.พิจารณาเมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2530 จากเนื้อที่ 219,375 ไร่ ครม.เห็นชอบจำแนกพื้นที่ทับซ้อนให้เป็นเขตอุทยานแห่งชาติป่าเขาใหญ่ 181,729 ไร่ ส่วนพื้นที่ป่าไม้ถาวรที่ไม่ทับซ้อนนี้ ให้จำแนกให้ ส.ป.ก. นำไปปฏิรูปที่ดิน 37,625 ไร่ และคงไว้เป็นป่าไม้ถาวรป่าเขาใหญ่ เพื่อให้ราษฎรใช้ประโยชน์และเป็นพื้นที่กันชน 3,729 ไร่

ดังนั้น ส.ป.ก. จึงมีความเห็นว่า เนื้อที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่มี 181,729 ไร่ ตามมติ ครม. ปี 2530 รวมทั้งจากการจำแนกที่ดินเป็น 3 ส่วนดังกล่าว จะเห็นชัดเจนว่า แนวเขตพื้นที่ที่ ส.ป.ก.ได้รับมอบ มิใช่ที่ดินทับซ้อนกับอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ หรือเคยเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่มาก่อนแต่อย่างใด

ทั้งนี้ ส.ป.ก. นำที่ดินป่าไม้ถาวรที่ถูกจำแนกออกไปตราพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดินต่อไป

ในช่วงปี 2536 กรมป่าไม้นำเงินกองทุนสิ่งแวดล้อมมาตัดถนนเป็นแนวกันไฟ และเป็นเส้นทางลาดตระเวนรอบเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ โดยผู้รับเหมาตัดถนนรุกล้ำเข้ามาในเขตปฏิรูปที่ดินประมาณ 1 กิโลเมตร ทำให้ในช่วงนั้นมีปัญหาการตรวจรับงานจ้าง

เมื่อถนนแนวกันไฟล้ำจากพื้นที่อุทยานแห่งชาติมาในเขตปฏิรูปที่ดิน เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่จึงเริ่มออกจับกุมชาวบ้านที่เข้าทำดินในที่ดินบริเวณนั้น ราษฎรจึงไม่กล้าเข้าไปทำกิน จึงเป็นสาเหตุให้ที่ดินกลับมามีสภาพเหมือนป่าธรรมชาติ

สำหรับประเด็นที่เจ้าหน้าที่สำนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัดนครราชสีมา เข้าไปรังวัดและออก ส.ป.ก. 4-01 บริเวณบ้านเหวปลากั้ง หมู่ที่ 10 ซึ่งที่ดินมีสภาพเป็นป่า เป็นสิ่งที่ผิดระเบียบการจัดสรรที่ดิน นอกจากนี้ บุคคลที่ได้รับ ส.ป.ก. 4-01 อาจไม่ใช่เกษตรกร จึงเป็นสิ่งที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เห็นว่าอาจมีเจตนาทุจริต จึงมอบหมายให้ที่ปรึกษากฎหมายเข้าแจ้งความดำเนินคดีอาญา ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ รวมทั้งให้เลขาธิการ ส.ป.ก. ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อนำไปสู่การลงโทษทางวินัยต่อไป

ล่าสุด ร.อ.ธรรมนัส ได้ลงนามในคำสั่งเรื่องนโยบายการดำเนินการบริเวณเขตพื้นที่กันชน (Buffer Zone) ระหว่างเขตปฏิรูปที่ดินกับที่ดินของรัฐประเภทอื่น โดยมีสาระสำคัญว่า พื้นที่ที่ติดกับป่าอนุรักษ์และป่าสงวนแห่งชาติ ต้องไม่จัดสรรให้เข้าทำการเกษตรอย่างเด็ดขาด แต่ให้จัดทำเป็นป่าชุมชน เพื่อให้เกษตรกรได้ใช้ประโยชน์ ควบคู่กับการรักษาพื้นที่ป่า

นอกจากนี้ยังให้ตรวจสอบการจัดที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดินว่า มีกรณีจัดที่ดินโดยผิดกฎหมายหรือไม่ หรือจัดที่ดินให้แก่เกษตรกรโดยมิชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ หรือยังมีที่ดินที่ยังไม่ได้ดำเนินการจัดให้แก่เกษตรกรแต่อย่างใด หากพบว่า การจัดที่ดินดังกล่าวไม่ชอบด้วยกฎหมาย ให้ดำเนินการตามกฎหมายหรือระเบียบที่เกี่ยวข้องให้ถูกต้องโดยเคร่งครัด ตลอดจนเตรียมการสำรวจพื้นที่ที่ยังไม่ได้รับการจัดสรร หรือที่ดินว่างเปล่า รองรับเกษตรกรกลุ่มเปราะบาง หรือกลุ่มผู้ด้อยโอกาสที่ไม่มีที่ดินทำกิน โดยให้จัดสรรที่ดินให้กับกลุ่มเหล่านี้ตามระเบียบ ส.ป.ก. ต่อไป 

ทั้งนี้ ร.อ.ธรรมนัส ย้ำว่า หากพบเจ้าหน้าที่ปฏิรูปที่ดินออก ส.ป.ก. 4-01 โดยมิชอบ จะไม่เลี้ยงไว้ โดยการจัดสรรที่ดินของ ส.ป.ก. ต้องจัดให้เกษตรกรผู้ยากไร้ ตามพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. 2518.-512-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“สุชาติ” จ่อลาออก สส. ให้สภามี สส.ทำงาน

ทำเนียบ 7 ก.ค.-“สุชาติ” เผยเตรียมลาออก สส. เพื่อให้บัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้ขึ้นมา มองให้สภามี สส.ทำงาน นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงธรรมเนียมปฏิบัติของคนที่เป็น สส.ระบบบัญชีรายชื่อ จะลาออกเมื่อเป็นรัฐมนตรี หรือไม่ว่า ที่ผ่านมายังไม่มีการลาออกแต่โดยธรรมเนียมก็ควรจะลาออก เพราะการทำหน้าที่ของรัฐมนตรีก็เต็มเวลาอยู่แล้ว ไม่มีเวลาที่จะไปช่วยงานสภา ซึ่งขณะนี้สภาเสียงปริ่มน้ำ ซึ่งตนมีความตั้งใจที่จะลาออกจาก สส ระบบบัญชีรายชื่ออยู่แล้ว เพื่อให้ สส.ระบบบัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้เลื่อนขึ้นมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สส. ลำดับถัดไปที่จะขึ้นมาเป็น สส.แทนนายสุชาติ คือ นายเอกพร รักความสุข บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ลำดับที่ 38.-316.-สำนักข่าวไทย

พม.ร้องเอาผิด “จอนนี่ มือปราบ” สร้างรีสอร์ทรุกล้ำที่ส่วนกลาง

บก.ปทส. 7 ก.ค. – จนท.กรมพัฒนาสังคมฯ ร้องตำรวจป่าไม้ตรวจสอบปมรีสอร์ทของ “จอนนี่มือปราบ” อินฟลูชื่อดัง บุกรุกพื้นที่นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ในอุบลราชธานี และถูกข่มขู่ไม่ให้เข้าพื้นที่ นายวัชระ โกเสนตอ นักพัฒนาสังคมชำนาญการพิเศษ ได้รับมอบอำนาจจากนายกันตพงศ์ รังษีสว่าง อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นำหลักฐานเอกสารเข้าแจ้งความกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือ บก.ปทส. เพื่อให้ดำเนินคดีกับ ด.ต.ยุทธพล หรือ “จอนนี่ มือปราบ” อดีตตำรวจที่ผันตัวลาออกจากราชการมาเป็นอินฟลูเอนเซอร์ กรณีสร้างรีสอร์ทรุกเข้าไปในเขตนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ตำบลคำเขื่อนแก้ว อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี นายวัชระ เปิดเผยว่า กรมพัฒนาสังคมฯ รับแจ้งจากนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ว่ามีผู้เข้าไปทำประโยชน์ในที่ดินของนิคมโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยส่วนที่รุกล้ำเข้ามาเป็นพื้นที่ที่นิคมกันไว้เป็นป่าไม้ส่วนกลาง 20% รุกล้ำเข้ามาประมาณ 1 ไร่ และเริ่มก่อสร้างรีสอร์ทเมื่อปี 2564 เป็นต้นมา และทางกรมฯ ก็ได้ลงบันทึกประจำวันและมีหนังสือให้ระงับการดำเนินการรีสอร์ทมาตั้งแต่ปี 2565 แต่เจ้าของรีสอร์ทไม่ให้ความร่วมมือ และยังมาโวยวายที่นิคมฯ ข่มขู่เจ้าหน้าที่ ไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปที่รีสอร์ท ทั้งนี้นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย มีพื้นที่ตามแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งนิคมสร้างตนเองฯ ชัดเจน เนื้อที่ […]

Camp Mystic after Texas floods

เปิดภาพความเสียหายน้ำท่วมแคมป์ในเท็กซัส

เท็กซัส 6 ก.ค.- ทีมกู้ภัย อาสาสมัครและตำรวจ ช่วยกันรื้อถอนเศษซากความเสียหายและซากต้นไม้กิ่งไม้ใกล้ที่ตั้งแคมป์ในรัฐเท็กซัสของสหรัฐ ซึ่งมีนักเรียนหญิง 27 คน สูญหายจากเหตุน้ำท่วมฉับพลันที่เกิดขึ้นเมื่อเช้ามืดวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น   ค่ายมิสติก (Camp Mystic) เป็นค่ายกิจกรรมนักเรียนหญิงล้วน มีนักเรียนเข้าร่วมกิจกรรมในค่าย 700 คน ในช่วงที่เกิดฝนตกหนักและน้ำท่วมฉับพลันครั้งใหญ่ในเทศมณฑลเคอร์ ทางตอนกลางของรัฐเท็กซัส แคมป์แห่งนี้ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำกัวดาลูปในแถบหุบเขาตอนกลางรัฐเท็กซัส ซึ่งเป็นศูนย์กลางที่เกิดน้ำท่วม ก่อตั้งโดยโค้ชฟุตบอลมหาวิทยาลัยเท็กซัส เมื่อเกือบหนึ่งร้อยปีก่อนในปี 2469 เพื่อให้เยาวชนหญิงได้สัมผัสบรรยากาศแบบคริสเตียนในการพัฒนาตนเอง.-820(814).-สำนักข่าวไทย

กรมอุตุฯ เตือน 4 ภาครับมือฝนถล่ม ระวังน้ำท่วม-น้ำป่าไหลหลาก

กทม. 6 ก.ค.- กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยยังมีฝนฟ้าคะนอง เตือน “เหนือ อีสาน ตะวันออก ใต้” รับมือฝนตกหนัก อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยาเผยภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณจังหวัดภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเมียนมาตอนบนและลาวตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย อนึ่ง พายุโซนร้อน “ดานัส” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน คาดว่าจะเคลื่อนเข้าใกล้ไต้หวัน ในช่วงวันที่ 6–7 กรกฎาคม 2568 โดยไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย แต่จะทำให้มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่ปกคลุมประเทศไทยมีกำลังแรงขึ้น โดยพายุนี้ไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย – สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ผบ.กองกำลังนเรศวร ลงพื้นที่ หลังเมียนมาปะทะรุนแรง

ตาก 12 ก.ค. – ผบ.กองกำลังนเรศวร ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ด่วน พร้อมเฝ้าระวังชายแดนอำเภอพบพระอย่างใกล้ชิด หลังเหตุปะทะในเมียนมาทวีความรุนแรง มีรายงานการโจมตีค่ายทหารเมียนมาด้วยโดรน กองกำลังกะเหรี่ยงเคเอ็นแอลเอ กลุ่มต่อต้านรัฐบาลเมียนมา ใช้โดรนทิ้งระเบิดโจมตีใส่ฐาน “ทีตาแหล่” ซึ่งตั้งอยู่ตรงข้ามบ้านวาเล่ย์เหนือ อำเภอพบพระ จังหวัดตาก หลายครั้ง ขณะที่ทหารเมียนมาก็ยิงปืนเล็กยาวตอบโต้ โดยยังไม่ทราบความเสียหายที่เกิดขึ้น และยังไม่มีรายงานผลกระทบต่อฝั่งประเทศไทย พลตรีไมตรี ชูปรีชา ผู้บัญชาการกองกำลังนเรศวร พร้อมคณะนายทหารระดับสูง และฝ่ายปกครองอำเภอพบพระ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์บริเวณบ้านวาเล่ย์ และบ้านมอเกอร์ไทย อำเภอพบพระ อย่างใกล้ชิด เพื่อประสานงานกับหน่วยงานความมั่นคงในการเตรียมแผนเผชิญเหตุจากผลกระทบของการสู้รบใกล้แนวชายแดนในด้านมนุษยธรรม โดยขณะนี้มีผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมาจำนวน 457 คน อาศัยอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว 2 แห่ง ในอำเภอพบพระ และได้รับการดูแลตามหลักมนุษยธรรมภายใต้ความร่วมมือของศูนย์สั่งการชายแดนประเทศเพื่อนบ้านด้านเมียนมา จังหวัดตาก และแนวทางของสภาความมั่นคงแห่งชาติ พลตรี ไมตรี เน้นย้ำให้หน่วยเฉพาะกิจราชมนู ร่วมกับฝ่ายปกครอง เพิ่มความเข้มงวดในการป้องกันการรุกล้ำอธิปไตยของกองกำลังติดอาวุธต่างชาติ และดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งกองกำลังนเรศวรยืนยันว่าประเทศไทยไม่ใช่คู่ขัดแย้ง และไม่สนับสนุนฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งในการใช้พื้นที่ประเทศไทยเพื่อประโยชน์ของตนเอง .-สำนักข่าวไทย

สองสาวใหญ่ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกมือถือ

กทม. 12 ก.ค. – สองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกโทรศัพท์มือถือลอยนวล พบเคยเข้ามาขอเงินหลวงตาแล้วครั้งหนึ่ง กล้องวงจรปิดบันทึกภาพขณะ ผู้หญิง 2 คนเข้าไปในกุฏิที่พระสงฆ์นอนอาพาธอยู่ คนหนึ่งนั่งพื้นส่วนอีกคนยืนอยู่แล้วเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์มือถือบนเตียงนอนไป เหตุการณ์นี้ นายมนูญ อายุ 29 ปี หลานชายของพระลูกวัดแห่งหนึ่ง ในซอยประชาอุทิศ 27 ถนนประชาอุทิศ แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพฯ ร้องเรียนกับผู้สื่อข่าว ให้ช่วยตามหาสองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิ “หลวงตาสุข” อายุ 80 ปี ซึ่งป่วยเป็นโรคประจำตัว ประกอบกับอายุมากเดินได้ไม่ปกติ โดยหลวงตาสุข เป็นพระลูกวัด พักอยู่กุฏิด้านหลังโบสถ์ เมื่อวานนี้ (11 ก.ค.) ประมาณ 13.45 น. ขณะกำลังนอนพักผ่อนอยู่ มีหญิงร่างท้วม 2 คนเข้าไปในกุฏิ จากนั้นคนใส่เอี๊ยมสีเขียวผมสั้นลงมือค้นหาสิ่งของบนหัวเตียง ส่วนอีกคนที่มาด้วย คอยดูต้นทาง จนกระทั่งหญิงคนที่รื้อหาสิ่งของมองเห็นโทรศัพท์มือถือ ราคาประมาณ 4,000 บาท ของพระที่วางไว้หัวเตียง […]

“บิ๊กเต่า” ให้โอกาสคณะสงฆ์ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง

กทม. 12 ก.ค.-“บิ๊กเต่า” ให้โอกาสคณะสงฆ์ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีเอี่ยวสีกากอล์ฟ เชื่อพระเป็นเหยื่อ หากไม่เสร็จพร้อมดำเนินการ เผยอดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ เข้าให้ข้อมูล เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง วันนี้ (12 ก.ค.) หลังจากอดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร เข้าให้ปากคำเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบ เมื่อเวลา 12.30 น. แต่งกายด้วยชุดโปโลสีเทา กางเกงวอร์มขายาว ผู้สื่อข่าว พยายามสอบถามว่าเข้ามาให้ปากคำกรณีที่ปรากฏอยู่ในคลิปหรือไม่ ทางอดีตผู้ช่วยเจ้าวาสไม่ตอบ เมื่อถามเพิ่มเติมว่า คลิปที่ปรากฏอยู่ตอนนนี้ ใช่ตัวเองจริงหรือไม่ อดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร ปิดปากเงียบ ไม่มีการให้ข้อมูลอะไรกับสื่อมวลชน ก่อนที่จะเดินขึ้นไปให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจหน้ากองปราบด้านบน จากนั้นในเวลา 14.00 น. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. เดินทางมาที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดยเดินทางขึ้นตึกด้านหลัง ใช้ลิฟต์ลานจอดรถ หลังเดินทางกลับจากวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร โดยหลบผู้สื่อข่าวที่มารออยู่ด้านหน้า และได้สอบปากคำอดีตพระครูสิริวิริยธาดา ในเวลา 16.20 น. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ให้สัมภาษณ์ว่าการหารือกับพระผู้ใหญ่ในวันนี้ ก็ถือเป็นการทำงานร่วมกันกับ ปปท. ซึ่งมีผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ […]

อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธร ย่องให้ข้อมูลตำรวจกองปราบ

12 ก.ค. – อดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร แอบย่องเข้าให้ข้อมูลกับตำรวจกองปราบ เวลา 12.05 น. วันที่ 12 กรกฎาคม 2568 อดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร เข้าให้ปากคำเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบ เบื้องต้นส่วมชุด โปโลสีเทา กางเกงวอร์มขายาว ผู้สื่อข่าว พยายามสอบถามว่าวันนี้เข้ามาให้ปากคำกรณีที่ ปรากฏอยู่ในคลิปหรือไม่ ทางอดีตผู้ช่วยเจ้าวาสวัดโสธรฯ ไม่ตอบแต่อย่างใด ผู้สื่อข่าวสอบถามเพิ่มเติมต่ออีกว่า คลิปที่ปรากฏอยู่ตอนนี้ ใช่ตัวเองจริงหรือไม่นั้น ด้านอดีตพระครูสิริวิริยธาดา ปิดปากเงียบ ไม่มีการให้ข้อมูลอะไรกับสื่อมวลชน ก่อนที่จะเดินขึ้นไปให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจหน้ากองปราบด้านบน.-414-สำนักข่าวไทย