ส.ป.ก.ชี้แนวกันไฟ อช.เขาใหญ่รุกเขตปฏิรูปที่ดิน

กรุงเทพฯ 27 ก.พ. – ส.ป.ก.ตรวจสอบภาพถ่ายทางอากาศย้อนหลัง 28 ปี เพื่อยืนยันแนวเขตปฏิรูปที่ดินท้องที่ ต.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา พบถนนซึ่งเป็นแนวกันไฟและเส้นทางลาดตระเวนของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ตัดรุกล้ำเข้ามาในเขตปฏิรูปที่ดิน 1 กม. ย้ำ ส.ป.ก.ไม่ได้รุกที่อุทยานฯ แน่นอน แต่การออก ส.ป.ก. 4-01 ในเขตปฏิรูปที่ดินซึ่งมีสภาพป่า เป็นการดำเนินการโดยมิชอบ หากพบในพื้นที่ใด “รมว.ธรรมนัส” สั่งลงโทษอย่างเด็ดขาด


สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) นำภาพถ่ายทางอากาศย้อนหลังตั้งแต่ พ.ศ. 2495 มาตรวจสอบเพื่อยืนยันแนวเขตปฏิรูปที่ดิน ท้องที่ตำบลหมูสี อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งสำนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัดนครราชสีมา ปักหลักหมุด ส.ป.ก. และออก ส.ป.ก. 4-01 ในหมู่ที่ 10 ต่อมาเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่เข้าตรวจยึด จนเป็นที่มาของข้อพิพาทเกี่ยวกับแนวเขตระหว่าง ส.ป.ก. และกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช

นอกจากนี้ยังทบทวนการดำเนินการของรัฐบาลเกี่ยวกับการจำแนกพื้นที่ป่าให้นำมาจัดสรรเป็นที่ทำกินของเกษตรกรในอดีตและข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ซึ่งพบว่าใน พ.ศ. 2502 มีมติ ครม.ให้จำแนกที่ดินในประเทศไทย โดยให้แยกเป็นที่ดินที่จะสงวนเป็นเขตป่าไม้ และที่ดินที่จะนำไปจัดสรรให้ราษฎรทำกิน ตามคำแนะนำขององค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) ในปี 2493 โดยมอบให้กระทรวงมหาดไทย ร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ดำเนินการ


กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มอบหมายให้กรมพัฒนาที่ดินเป็นผู้ดำเนินการ แม้กรมป่าไม้ สังกัดกระทรวงเกษตรฯ สาเหตุอาจเป็นเพราะขณะนั้นกรมป่าไม้ไม่มีเจ้าหน้าที่ที่มีความเชี่ยวชาญ

ต่อมาวันที่ 14 พฤศจิกายน 2504 กระทรวงมหาดไทยและกระทรวงเกษตรฯ นำเสนอให้ ครม.พิจารณาผลการจำแนกที่ดิน ซึ่ง ครม.มีมติเห็นชอบ โดยจำแนกเป็นพื้นที่ป่าที่จะสงวนไว้เป็นสมบัติของชาติถาวรสืบไปหรือที่ต่อมาเรียกว่า เขตป่าไม้ถาวรประมาณ 171 ล้านไร่และที่ดินจำแนกเพื่อจัดสรรให้ราษฎรทำกินประมาณ 31 ล้านไร่ โดยคราวนั้นได้จำแนกเขตป่าไม้ถาวรป่าเขาใหญ่ เนื้อที่ 219,375 ไร่ รวมอยู่ด้วย ขณะเดียวกัน ยังเสนอขอความเห็นจาก ครม.ด้วยว่า การสำรวจเพื่อจำแนกพื้นที่เป็นการสำรวจทางกายภาพว่า ที่ดินมีสภาพป่าและเหมาะสมต่อการทำเกษตรกรรมหรือไม่เท่านั้น สมควรมีการสำรวจภาคสนามอีกครั้งหนึ่ง ซึ่ง ครม.เห็นชอบตามที่เสนอ

จากนั้นเมื่อวันที่ 18 กันยายน 2505 มีการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกากำหนดบริเวณที่ดินป่าเขาใหญ่ เนื้อที่กว่า 1.3 ล้านไร่ ซึ่งทับซ้อนในเขตป่าไม้ถาวรป่าเขาใหญ่ด้วย กระทั่งในปี 2506 ครม.เห็นชอบแนวเขตป่าไม้ถาวรแห่งชาติป่าเขาใหญ่ ตามที่ได้เห็นชอบไว้เมื่อปี 2504 เนื้อที่ 219,375 ไร่เท่าเดิม


กรมป่าไม้ได้ส่งแนวเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่มาให้คณะกรรมการพัฒนาที่ดิน ในปี 2527 โดยในการประชุมคณะกรรมการพัฒนาที่ดิน ครั้งที่ 6/2537 เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2527 เห็นชอบให้จำแนกพื้นที่ทับซ้อนระหว่างเขตป่าไม้ถาวรกับเขตอุทยานแห่งชาติป่าเขาใหญ่อีกครั้ง แล้วเสนอ ครม.พิจารณาเมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2530 จากเนื้อที่ 219,375 ไร่ ครม.เห็นชอบจำแนกพื้นที่ทับซ้อนให้เป็นเขตอุทยานแห่งชาติป่าเขาใหญ่ 181,729 ไร่ ส่วนพื้นที่ป่าไม้ถาวรที่ไม่ทับซ้อนนี้ ให้จำแนกให้ ส.ป.ก. นำไปปฏิรูปที่ดิน 37,625 ไร่ และคงไว้เป็นป่าไม้ถาวรป่าเขาใหญ่ เพื่อให้ราษฎรใช้ประโยชน์และเป็นพื้นที่กันชน 3,729 ไร่

ดังนั้น ส.ป.ก. จึงมีความเห็นว่า เนื้อที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่มี 181,729 ไร่ ตามมติ ครม. ปี 2530 รวมทั้งจากการจำแนกที่ดินเป็น 3 ส่วนดังกล่าว จะเห็นชัดเจนว่า แนวเขตพื้นที่ที่ ส.ป.ก.ได้รับมอบ มิใช่ที่ดินทับซ้อนกับอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ หรือเคยเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่มาก่อนแต่อย่างใด

ทั้งนี้ ส.ป.ก. นำที่ดินป่าไม้ถาวรที่ถูกจำแนกออกไปตราพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดินต่อไป

ในช่วงปี 2536 กรมป่าไม้นำเงินกองทุนสิ่งแวดล้อมมาตัดถนนเป็นแนวกันไฟ และเป็นเส้นทางลาดตระเวนรอบเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ โดยผู้รับเหมาตัดถนนรุกล้ำเข้ามาในเขตปฏิรูปที่ดินประมาณ 1 กิโลเมตร ทำให้ในช่วงนั้นมีปัญหาการตรวจรับงานจ้าง

เมื่อถนนแนวกันไฟล้ำจากพื้นที่อุทยานแห่งชาติมาในเขตปฏิรูปที่ดิน เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่จึงเริ่มออกจับกุมชาวบ้านที่เข้าทำดินในที่ดินบริเวณนั้น ราษฎรจึงไม่กล้าเข้าไปทำกิน จึงเป็นสาเหตุให้ที่ดินกลับมามีสภาพเหมือนป่าธรรมชาติ

สำหรับประเด็นที่เจ้าหน้าที่สำนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัดนครราชสีมา เข้าไปรังวัดและออก ส.ป.ก. 4-01 บริเวณบ้านเหวปลากั้ง หมู่ที่ 10 ซึ่งที่ดินมีสภาพเป็นป่า เป็นสิ่งที่ผิดระเบียบการจัดสรรที่ดิน นอกจากนี้ บุคคลที่ได้รับ ส.ป.ก. 4-01 อาจไม่ใช่เกษตรกร จึงเป็นสิ่งที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เห็นว่าอาจมีเจตนาทุจริต จึงมอบหมายให้ที่ปรึกษากฎหมายเข้าแจ้งความดำเนินคดีอาญา ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ รวมทั้งให้เลขาธิการ ส.ป.ก. ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อนำไปสู่การลงโทษทางวินัยต่อไป

ล่าสุด ร.อ.ธรรมนัส ได้ลงนามในคำสั่งเรื่องนโยบายการดำเนินการบริเวณเขตพื้นที่กันชน (Buffer Zone) ระหว่างเขตปฏิรูปที่ดินกับที่ดินของรัฐประเภทอื่น โดยมีสาระสำคัญว่า พื้นที่ที่ติดกับป่าอนุรักษ์และป่าสงวนแห่งชาติ ต้องไม่จัดสรรให้เข้าทำการเกษตรอย่างเด็ดขาด แต่ให้จัดทำเป็นป่าชุมชน เพื่อให้เกษตรกรได้ใช้ประโยชน์ ควบคู่กับการรักษาพื้นที่ป่า

นอกจากนี้ยังให้ตรวจสอบการจัดที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดินว่า มีกรณีจัดที่ดินโดยผิดกฎหมายหรือไม่ หรือจัดที่ดินให้แก่เกษตรกรโดยมิชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ หรือยังมีที่ดินที่ยังไม่ได้ดำเนินการจัดให้แก่เกษตรกรแต่อย่างใด หากพบว่า การจัดที่ดินดังกล่าวไม่ชอบด้วยกฎหมาย ให้ดำเนินการตามกฎหมายหรือระเบียบที่เกี่ยวข้องให้ถูกต้องโดยเคร่งครัด ตลอดจนเตรียมการสำรวจพื้นที่ที่ยังไม่ได้รับการจัดสรร หรือที่ดินว่างเปล่า รองรับเกษตรกรกลุ่มเปราะบาง หรือกลุ่มผู้ด้อยโอกาสที่ไม่มีที่ดินทำกิน โดยให้จัดสรรที่ดินให้กับกลุ่มเหล่านี้ตามระเบียบ ส.ป.ก. ต่อไป 

ทั้งนี้ ร.อ.ธรรมนัส ย้ำว่า หากพบเจ้าหน้าที่ปฏิรูปที่ดินออก ส.ป.ก. 4-01 โดยมิชอบ จะไม่เลี้ยงไว้ โดยการจัดสรรที่ดินของ ส.ป.ก. ต้องจัดให้เกษตรกรผู้ยากไร้ ตามพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. 2518.-512-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นายกฯ รับคลิปเสียงจริง ซัด “ฮุนเซน” ปล่อยหวังรัฐบาล-กองทัพแตกแยก

ทำเนียบ 18 มิ.ย.- นายกฯ รับคลิปเสียงคุย “ฮุนเซน” เป็นของจริง แจงปมบอกแม่ทัพภาคที่ 2 เป็นฝ่ายตรงข้าม เป็นเทคนิคการเจรจาต่อรองสร้างสันติภาพ หลัง “ฮุนเซน” โกรธ ชี้จุดประสงค์หวังสร้างคะแนนนิยมรัฐบาลกัมพูชาที่ไม่สนความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ รับไม่ไว้ใจ จากนี้ไม่ขอคุยส่วนตัว ปัดตอบสัมพันธ์ 2 ตระกูล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงด่วนกรณีมีคลิปเสียงสนทนาระหว่างที่พูดคุยกับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา เผยแพร่ออกมาผ่านโซเชียลมีเดีย โดยยอมรับว่าเป็นคลิปจริง เป็นการคุยกันเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งตนได้ทราบข้อมูลจากล่ามที่แปลว่า ทางสมเด็จฮุน เซน โกรธแม่ทัพภาคที่ 2 ที่มีการพูดกันก่อนหน้านั้น เมื่อได้คุยกัน ตนจึงบอกว่า แม่ทัพภาคที่ 2 พูดกันแบบนี้ ในเมื่อเราทั้งไทยและกัมพูชาเป็นฝั่งตรงข้ามกันอยู่แล้ว ในตอนนั้นก็ต้องพูดแบบนี้ อย่าไปคิดเลย ซึ่งเป็นสิ่งที่พยายามจะทำความเข้าใจ เพราะทางฝั่งสมเด็จฮุน เซน โกรธเรื่องนี้ และเป็นเทคนิคในการพูดหลังไมค์หลังบ้านแบบส่วนตัว ซึ่งการคุยโทรศัพท์ก็ไม่ควรเอามาเปิดเผย เพราะเป็นเทคนิคในการเจรจาพูดคุยต่อรอง ส่วนตัวคิดว่า ตนทำเพราะมีจุดมุ่งหมายและมีประเด็นที่จะรักษาไว้ซึ่งความสงบสุขของบ้านเมืองและรักษาอธิปไตยของไทยไว้ ให้ผลประโยชน์อยู่กับประเทศชาติและประชาชน ตนก็คุยด้วยความซอฟต์และความนุ่มนวล เพราะบางทีเวลาคุยกันส่วนตัวก็เรียกกันลุงหลาน […]

ทบ.ติดแฮชแท็กเซฟ มทภ.2

กทม. 18 มิ.ย.- ทบ.ติดแฮชแท็กเซฟ มทภ.2 ส่วนหน้าสโมสรกองทัพบก ถ.วิภาวดีรังสิต ขึ้นข้อความให้กำลังใจผ่านจอแอลอีดี ขณะที่เพจโซเชียลกองทัพ แห่โพสต์ข้อความ #ศักดิ์ศรีของทหาร 18 มิ.ย.68 ภายหลังจากที่มีคลิปเสียงการพูดคุยระหว่าง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภาและอดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา หลุดออกมา และมีการพูดถึง พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ว่าอยู่ฝั่งตรงข้าม ล่าสุดเพจเฟซบุ๊กของหน่วยทหารต่างๆ อาทิ กรมกิจการพลเรือนทหารบก ได้โพสต์ข้อความว่า พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เรื่อง #ศักดิ์ศรีของทหาร 1. ทหาร คือ ผู้ที่ได้รับเกียรติอย่างสูงจากประชาชนทั้งชาติ ให้เป็นสุภาพบุรุษ ถืออาวุธเพื่อป้องกันประเทศ 2. ทหาร เป็นผู้เสียสละประโยชน์สุขส่วนตัว เพื่อความผาสุกของประชาชนและความอยู่รอดของชาติ 3. ทหาร คือ ผู้ที่รักและบูชาเกียรติยศมากกว่าเงิน นอกจากนี้ เพจ Smart Soldiers Strong […]

“อนุทิน” บอก “จบแล้วครับนาย” ขออย่าปรามาส จะเป็นฝ่ายค้านให้ดู

กทม. 18 มิ.ย.-“อนุทิน” สั่ง จนท.ขนของออกจากกระทรวง บอก “จบแล้วครับนาย” ไม่ต้องคุยนายกฯ หลัง “หมอมิ้ง” ยื่นไพ่ใบสุดท้าย ขออย่าปรามาส จะเป็นฝ่ายค้านให้ดู เตรียมซ้อมกับ “ไอซ์ รักชนก” เวลา 13.35 น. วันที่ 18 มิ.ย.68 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์หลังนายกฯ ระบุว่ายังไม่แจ้งเงื่อนไขการปรับ ครม. ว่า ตนยังไม่ได้ยิน ซึ่งเมื่อวานนี้ได้คุยกับ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกฯ ซึ่งเราก็บอกท่าทีเราไปแล้ว เมื่อถามว่า การขนของออกจากห้องทำงาน ถือเป็นการปิดประตูเจรจาหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ได้คุยกับ นพ.พรหมินทร์ ชัดเจนแล้วว่า เราคงไม่ได้เปลี่ยนอะไร และ นพ.พรหมินทร์ ได้ย้ำเงื่อนไขของพรรคเพื่อไทยว่าเป็นแบบนี้ เมื่อถามต่อว่า ต้องคุยกับนายกฯ อีกครั้งหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ตนยังไม่ได้คุยกับนายกฯ และเมื่อวาน […]

“ฮุน เซน” ปล่อยแล้ว คลิปเสียงฉบับเต็ม 17 นาที

กัมพูชา 18 มิ.ย. – “ฮุน เซน” ปล่อยแล้ว คลิปเสียงคุย “แพทองธาร” ฉบับเต็ม 17 นาที เผยบันทึกเสียงสนทนาเพื่อความโปร่งใส ส่งต่อให้บุคคลอื่นราว 80 คน เว็บไซต์ขแมร์ ไทม์ส รายงานว่า “นายฮุน เซน” ประธานวุฒิสภากัมพูชาเปิดเผยผ่านสื่อโซเชียล มีเนื้อหาระบุว่า “เมื่อเย็นวันที่ 15 มิถุนายน ผมได้สนทนาทางโทรศัพท์กับนายกรัฐมนตรีของไทยเป็นเวลา 17 นาที 6 วินาที โดยมีนายเคลียง ฮวต รองผู้ว่าราชการกรุงพนมเปญ ทำหน้าที่ล่ามแปลภาษา ซึ่งตามปกติแล้วเพื่อหลีกเลี่ยงการเข้าใจที่คลาดเคลื่อนหรือตีความหมายผิดในเรื่องที่เป็นทางการ จึงจำเป็นต้องทำการบันทึกเสียงสนทนาเพื่อความโปร่งใส รวมถึงเพื่อวัตถุประสงค์ภายในของกัมพูชาด้วย และจากนั้นเป็นต้นมา ตนเอง ก็ได้แชร์เทปเสียงสนทนานี้ให้กับบุคคลอื่นๆ ราว 80 คน ที่รวมถึงสมาชิกคณะกรรมการถาวรของพรรค คณะทำงานวุฒิสภา หน่วยงานเฉพาะกิจด้านการต่างประเทศ หน่วยงานด้านการศึกษาและการเข้าถึงกลุ่มกิจการชายแดน และสมาชิกกองกำลังติดอาวุธ ซึ่งในจำนวนคนเหล่านี้อาจมีความเป็นไปได้ที่จะมีบางคนที่ไม่พอใจนายกรัฐมนตรีของไทย ฮุน เซนโพสต์ต่อว่า “แต่หลังจากการสนทนาผ่านไปเพียงไม่กี่ชั่วโมง ผู้นำไทยกลับออกมากล่าวหาผู้นำกัมพูชาอย่างเปิดเผยว่าทำงานการเมืองอย่างไม่เป็นมืออาชีพ และขับเคลื่อนประเด็นทางการเมืองผ่านทางเฟซบุ๊ก […]

ข่าวแนะนำ

“ภูมิใจไทย” มีมติถอนตัวร่วมรัฐบาล จี้นายกฯ รับผิดชอบ​ทำไทยเสียเกียรติ

กทม. 18 มิ.ย.-“ภูมิใจไทย” มีมติถอนตัวจากการร่วมรัฐบาล รัฐมนตรีร่อนใบลาออก มีผล 19 มิ.ย. จี้นายกฯ รับผิดชอบ​ ทำไทยเสียเกียรติ-ศักดิ์ศรี จากกรณีคลิปเสียงสนทนา “ฮุน ​เซน​” พร้อมร่วมมือประชาชน-กองทัพ รักษาอธิปไตยไทย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 20.39 น. วันนี้ พรรคภูมิใจไทย ได้ออกแถลงการณ์​ ลงวันที่ 18 มิถุนายน 2568​ ระบุถึงกรณีการโทรศัพท์เจรจาระหว่างนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กับสมเด็จฮุน เซน​ ประธานวุฒิสภากัมพูชา ซึ่งมีผลกระทบต่ออธิปไตย ดินแดน ผลประโยชน์ของประเทศไทย และ​กองทัพไทย ตามที่ประชาชนได้รับทราบแล้วนั้น พรรคภูมิใจไทย ขอเรียนว่า กรรมการบริหารพรรคภูมิใจไทย ได้ประชุมพิจารณาถึงกรณีที่เกิดขึ้น และมีมติให้พรรคภูมิใจไทย ถอนตัวออกจากการร่วมรัฐบาล ทั้งนี้ รัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทยทุกคน ได้ส่งใบลาออกต่อนายกรัฐมนตรี ซึ่งมีผลวันที่ 19 มิถุนายน 2568 เป็นต้นไป พรรคภูมิใจไทย ขอเรียกร้องให้นางสาวแพทองธาร ชินวัตร […]

เปิดขุมทรัพย์ช่องจอม รังใหม่แก๊งคอลเซ็นเตอร์

สุรินทร์ 18 มิ.ย. – จุดผ่านแดนถาวรช่องจอม จ.สุรินทร์ เป็น 1 ในจุดยุทธศาสตร์สำคัญ ที่ไม่เพียงตอบโต้กันในมิติทางเศรษฐกิจ แต่กระทบกระทั่งในมิติความมั่นคง ทั้งเรื่องพื้นที่ทับซ้อน และแหล่งอาชญากรรมข้ามชาติที่เมืองโอร์เสม็ด จังหวัดอุดรมีชัย ของกัมพูชา ถูกจับตาว่าเป็นฐานใหม่ของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ .-สำนักข่าวไทย

“ฮุน เซน” ปล่อยแล้ว คลิปเสียงฉบับเต็ม 17 นาที

กัมพูชา 18 มิ.ย. – “ฮุน เซน” ปล่อยแล้ว คลิปเสียงคุย “แพทองธาร” ฉบับเต็ม 17 นาที เผยบันทึกเสียงสนทนาเพื่อความโปร่งใส ส่งต่อให้บุคคลอื่นราว 80 คน เว็บไซต์ขแมร์ ไทม์ส รายงานว่า “นายฮุน เซน” ประธานวุฒิสภากัมพูชาเปิดเผยผ่านสื่อโซเชียล มีเนื้อหาระบุว่า “เมื่อเย็นวันที่ 15 มิถุนายน ผมได้สนทนาทางโทรศัพท์กับนายกรัฐมนตรีของไทยเป็นเวลา 17 นาที 6 วินาที โดยมีนายเคลียง ฮวต รองผู้ว่าราชการกรุงพนมเปญ ทำหน้าที่ล่ามแปลภาษา ซึ่งตามปกติแล้วเพื่อหลีกเลี่ยงการเข้าใจที่คลาดเคลื่อนหรือตีความหมายผิดในเรื่องที่เป็นทางการ จึงจำเป็นต้องทำการบันทึกเสียงสนทนาเพื่อความโปร่งใส รวมถึงเพื่อวัตถุประสงค์ภายในของกัมพูชาด้วย และจากนั้นเป็นต้นมา ตนเอง ก็ได้แชร์เทปเสียงสนทนานี้ให้กับบุคคลอื่นๆ ราว 80 คน ที่รวมถึงสมาชิกคณะกรรมการถาวรของพรรค คณะทำงานวุฒิสภา หน่วยงานเฉพาะกิจด้านการต่างประเทศ หน่วยงานด้านการศึกษาและการเข้าถึงกลุ่มกิจการชายแดน และสมาชิกกองกำลังติดอาวุธ ซึ่งในจำนวนคนเหล่านี้อาจมีความเป็นไปได้ที่จะมีบางคนที่ไม่พอใจนายกรัฐมนตรีของไทย ฮุน เซนโพสต์ต่อว่า “แต่หลังจากการสนทนาผ่านไปเพียงไม่กี่ชั่วโมง ผู้นำไทยกลับออกมากล่าวหาผู้นำกัมพูชาอย่างเปิดเผยว่าทำงานการเมืองอย่างไม่เป็นมืออาชีพ และขับเคลื่อนประเด็นทางการเมืองผ่านทางเฟซบุ๊ก […]

มทภ.2 ไม่ติดใจนายกฯ ปมคลิปเสียง ขอทำเพื่อชาติ-ปชช.

อีสาน 18 มิ.ย.- “พล.ท.บุญสิน” มทภ.2 ไม่ติดใจ “นายกฯ อิ๊งค์” ปมคลิปเสียง ขอทำงานเพื่อชาติ-ประชาชน พร้อมเดินทางเยี่ยมลูกน้องบาดเจ็บจากภารกิจชายแดน พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้โทรมาปรับความเข้าใจ พร้อมทั้งอธิบายเนื้อหาในการสนทนากับสมเด็จฮุน เซน เพื่อต้องการให้สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา เบาบางลง เป็นการพูดคุยกันหลังบ้าน โดยตนได้บอกกับนายกฯ ไปว่า “ผมไม่มีอะไรครับ ผมเข้าใจ” ทั้งนี้ นายกฯ ได้ขอบคุณที่เข้าใจ ถือว่าคุยแล้วเข้าใจแล้ว ก็ไม่ติดใจอะไร ตนทำเพื่อประเทศชาติ เพื่อประโยชน์ส่วนรวมของพี่น้องประชาชน พล.ท.บุญสิน ยังระบุต่อว่า วันนี้กำลังเดินทางไปเยี่ยมผู้ใต้บังคับบัญชาที่ได้รับบาดเจ็บจากภารกิจชายแดน ตนทำงานตามปกติ ไม่มีอะไร.-313.-สำนักข่าวไทย