กรมชลฯ กำชับแผนรับน้ำหลากจากฝนตกหนักใน 64 จว. 17-20 ก.ค.นี้

กรุงเทพฯ 17 ก.ค.- อธิบดีกรมชลประทาน กำชับเข้มแผนรับสถานการณ์น้ำหลาก จากกรมอุตุฯ เตือนพายุโซนร้อน “ตาลิม” จะเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามเย็นพรุ่งนี้ โดยไทยจะมีฝนตกเพิ่มขึ้นทุกภาคและตกหนักถึงหนักมาก 64 จังหวัด ระหว่าง 17-20 ก.ค. ย้ำเก็บกักน้ำจากฝนที่ตกเหนือเขื่อน


นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทานกล่าวว่า สั่งการโครงการชลประทานทั่วประเทศดำเนินการตามแผนรับสถานการณ์น้ำหลาก ตามที่กรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศเรื่อง พายุโซนร้อนกำลังแรง “ตาลิม” (TALIM) จะเคลื่อนผ่านเกาะไหหลำและขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามตอนบนเย็นวันที่ 18 ก.ค. แม้พายุจะไม่เคลื่อนตัวเข้าสู่ประเทศไทยโดยตรง แต่พายุจะช่วยดึงมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ให้มีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับร่องมรสุมจะเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลางตอนบน ดังนั้นระหว่างวันที่ 17 -20 ก.ค. ทุกภาคจะมีฝนเพิ่มขึ้น โดยจะมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งใน 64 จังหวัด โดยอาจเกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้

สำหรับ 64 จังหวัดที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษตามประกาศของกรมอุตุนิยมวิทยา ประกอบด้วย


วันที่ 17 ก.ค.

  • ภาคเหนือได้แก่ จังหวัดแม่ฮ่องสอน น่าน ตาก และกำแพงเพชร
  • ภาตตะวันออกเฉียงเหนือได้แก่ จังหวัดอุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี
  • ภาคกลางได้แก่ จังหวัดอุทัยธานี กาญจนบุรี ราชบุรี ลพบุรี สระบุรี สมุทรสงคราม รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล
  • ภาคตะวันออกได้แก่ จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด
  • ภาคใต้ได้แก่ จังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล

วันที่ 18 ก.ค.

  • ภาคเหนือได้แก่ จังหวัดแม่ฮ่องสอน ตาก และกำแพงเพชร
  • ภาคตะวันออกเฉียงเหนือได้แก่ จังหวัดเลย หนองบัวลำภู อุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี
  • ภาคกลางได้แก่ จังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี กาญจนบุรี ราชบุรี ลพบุรี สระบุรี สมุทรสาคร รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล
  • ภาคตะวันออกได้แก่ จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด
  • ภาคใต้ได้แก่ จังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล

วันที่ 19-20 ก.ค.


  • ภาคเหนือได้แก่ จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ ตาก พิจิตร พิษณุโลก และเพชรบูรณ์
  • ภาคตะวันออกเฉียงเหนือได้แก่ จังหวัดเลย หนองบัวลำภู อุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี
  • ภาคกลางได้แก่ จังหวัดอุทัยธานี กาญจนบุรี ราชบุรี ลพบุรี สระบุรี พระนครศรีอยุธยาสมุทรสงคราม รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑลภาคตะวันออกได้แก่ จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด
  • ภาคใต้ได้แก่ จังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครตรีอรรมราช ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล

ทั้งนี้กรมชลประทานได้เตรียมพร้อมรับมือ โดยติดตามสภาพอากาศและสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งประเมินวิเคราะห์สถานการณ์น้ำด้วยฝนคาดการณ์จากกรมอุตุนิยมวิทยาและสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) เพื่อกำหนดพื้นที่เฝ้าระวังเสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และพื้นที่ชุมชนเมืองที่เคยเกิดน้ำท่วมขังไม่สามารถระบายได้ทัน โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีฝนตกสะสมมากกว่า 90 มิลลิเมตร ในช่วงเวลา 24 ชั่วโมง ซึ่งให้สำนักงานชลประทานที่รับผิดชอบนำเครื่องจักรเครื่องมือเข้าประจำจุดเสี่ยง รวมทั้งเตรียมบุคลากรและระบบสื่อสารสำรองให้พร้อม นอกจากนี้ยังย้ำให้ตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรงและความสามารถใช้งานของอาคารชลประทาน และตรวจสอบ ซ่อมแซม แนวคันบริเวณริมแม่น้ำ รวมถึงกำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำ

นายประพิศกล่าวว่า ได้ย้ำให้เก็บกักน้ำจากฝนที่ตกบริเวณเหนืออ่างเก็บน้ำ ขณะเดียวกันให้พิจารณาบริหารจัดการน้ำในอ่างเก็บน้ำให้อยู่ในเกณฑ์ควบคุม หากจำเป็นต้องปรับเพิ่มปริมาณการระบายต้องไม่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ด้านท้ายอ่างเก็บน้ำ พร้อมกันนี้ต้องเตรียมพร้อมบูรณาการร่วมกับจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการประชาสัมพันธ์และแจ้งเตือนประชาชนล่วงหน้าและต้องเข้าช่วยเหลือประชาชนอย่างทันท่วงที กรณีที่เกิดสถานการณ์

หากหน่วยงานหรือประชาชนต้องการความช่วยเหลือ สามารถติดต่อสอบถามได้ที่โครงการชลประทานใกล้บ้าน หรือโทร. สายด่วนกรมชลประทาน 1460 ตลอดเวลา.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดโผตำรวจ ประชุม ก.ตร. กว่า 8 ชม. แต่งตั้งนายพล 250 ตำแหน่ง

1 ก.ย. – เปิดโผตำรวจ ประชุม ก.ตร. กว่า 8 ชม. บัญชีแต่งตั้งนายพลตำรวจ 250 ตำแหน่ง “บิ๊กเต่า” แห้ว “นพศิลป์” ได้ขึ้น พล.ต.ท. เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 31 สิงหาคม 2568 ที่ห้องศรียานนท์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ในฐานะรองประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (รองประธาน ก.ตร.) เป็นประธานการประชุม ก.ตร. ครั้งที่ 8/2568 วาระแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจ ระดับผู้บังคับการ (ผบก.) ถึง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ประจำปี 2568 โดยแต่งตั้งเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น และโยกย้ายสับเปลี่ยน กว่า 250 ตำแหน่ง ทั้งนี้ ก.ตร.ครบองค์ประชุม ขาดเพียงนายภูมิธรรม […]

“บิ๊กเต่า” ยอมรับมีอดีต ผอ.พศ.-ตลกดัง ถือครองโฉนดที่ดินแทนอดีตพระอลงกต

กรุงเทพฯ 1 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” ยอมรับมีอดีต ผอ.พศ.-ตลกชื่อดัง ถือครองโฉนดที่ดินแทน “อดีตพระอลงกต” ส่วน “สมปอง” ยังอยู่ในข่ายถูกดำเนินคดี แม้อ้างว่าเป็นการยืมเงินและคืนไปบางส่วนแล้ว ขณะที่วง “พิงค์แพนเตอร์” ประสานเข้าพบตำรวจเร็วๆ นี้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยความคืบหน้าการสืบสวนคดี “อลงกตการละคร” ระบุว่า คดีมีความคืบหน้าไปพอสมควร และมีตัวละครที่สามารถดำเนินคดีได้หลายคน แต่ตำรวจต้องการพยานหลักฐานมาประกอบข้อมูลตรงนี้ให้ชัดเจนมากขึ้นก่อน ซึ่งตอนนี้พนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามทยอยเรียกสอบปากคำพยานที่เกี่ยวข้องมากขึ้นเรื่อย ส่วนความคืบหน้าการตรวจสอบขยายผลเส้นทางการเงินและทรัพย์สิน โดยเฉพาะประเด็นที่มีคนใกล้ชิด อักษรย่อ นางสาว ว. ถือครองโฉนดที่ดินมูลค่ารวม 140 ล้านบาทนั้น พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ยืนยันว่าตำรวจอยู่ระหว่างดำเนินการตรวจสอบบุคคลเกี่ยวข้องทั้งหมด โดยในจำนวนนั้นยอมรับว่ามีอดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และตลกชื่อดัง ถือครองโฉนดที่ดินแทน “อดีตพระอลงกต” ด้วย โดยทั้งคู่มีพฤติกรรมคล้ายๆ กัน คือ เข้าไปหาผลประโยชน์ และไม่ใช่เพียงผลประโยชน์จากเงินวัดก้อนเดียว แต่หาผลประโยชน์จากกลุ่มเครือข่ายด้วย ซึ่งมีมูลค่าเงินจำนวนมาก และทางอดีตพระอลงกต ก็มองว่าตนเองถูกรังแก ถูกโกงเงินไป ทั้งเรื่องคอนเสิร์ต เรื่องที่ดิน และถือครองทรัพย์สินแทน […]

พรรคกล้าธรรม ออกแถลงการณ์โหวตหนุน “อนุทิน” นั่งนายกฯ

พรรคกล้าธรรม 30 ส.ค.-พรรคกล้าธรรม ออกแถลงการณ์ โหวตหนุน “อนุทิน” นั่งนายกฯ ชี้ปล่อยให้ประเทศเกิดสุญญากาศไม่ได้ เผยภูมิใจไทยรับข้อเสนอ แก้ กม.ต้องไม่กระทบสถาบันพระมหากษัตริย์ เมื่อเวลา 15.55 น. พรรคกล้าธรรม (กธ.) ได้ออกแถลงการณ์ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร พ้นจากความเป็นนายกรัฐมนตรี จากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งทำให้คณะรัฐมนตรีต้องพ้นจากตำแหน่งทั้งคณะ และจะต้องมีการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 ต่อไปว่า คณะกรรมการบริหารพรรค ร่วมกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ได้ร่วมกันพิจารณารับฟังความคิดเห็นของสมาชิกพรรคทุกท่าน เพื่อกำหนดทิศทางการดำเนินการของพรรค รวมถึงพิจารณาข้อเสนอของพรรคภูมิใจไทย โดยมีมติเป็นเอกฉันท์ว่า พรรคกล้าธรรม จะลงมติในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร สนับสนุนให้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 32 เนื่องด้วยสถานการณ์ของประเทศไทยขณะนี้ จำเป็นที่จะต้องมีฝ่ายบริหารมาขับเคลื่อนและแก้ปัญหาให้กับประชาชนในทุกด้าน ทั้ง ปัญหาความขัดแย้งระหว่างประเทศ ปัญหาเศรษฐกิจทั้งในและนอกประเทศ ปัญหาสังคมด้านต่าง ๆ อย่างเร่งด่วน โดยไม่สามารถประวิงเวลาไปได้อีก พรรคกล้าธรรม ได้แสดงจุดยืนของพรรคให้กับพรรคภูมิใจไทยทราบ คือ 1.พรรคกล้าธรรม ยึดถือ […]

“เดชอิศม์” ปิดประตูจับมือ “ภูมิใจไทย” ตั้งรัฐบาล

พรรคประชาธิปัตย์ 31 ส.ค.- “เดชอิศม์” ปิดประตูจับมือ “ภูมิใจไทย” ตั้งรัฐบาล กร้าว ถ้าหนุนก็ไม่เหลือความเป็นคน บอก รัฐประหาร 100 ครั้ง ก็ไม่เลวร้ายเท่าฮั้ว สว. ยกอำนาจให้คนเดียวชี้ขาดประเทศ ย้ำคดีเขากระโดง ต้องเอาผิดให้เด็ดขาด บอก 2-3 เดือน ก็ยุบสภาได้ ไม่ต้องรอ 4 เดือน นายเดชอิศม์ ขาวทอง เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายภูมิธรรม เวชยชัย ปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี ในฐานะแกนนำพรรคเพื่อไทย ออกมาระบุภายหลังการเจรจากับพรรคประชาชน ที่พรรคร่วมรัฐบาลรับเงื่อนไขทั้งหมดของพรรคประชาชน ว่า จริงๆ เป็นเรื่องของพรรคเพื่อไทย กับพรรคประชาชน ตนไปเป็นเพื่อนเขา ส่วนประเด็นเป็นเรื่องของทั้งสองพรรคต้องคุยกัน เมื่อถามย้ำว่า หมายถึงพรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้รับเงื่อนไขทั้งหมดใช่หรือไม่ นายเดชอิศม์ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์ปฏิบัติตามเงื่อนไขของพรรคร่วมรัฐบาลทั้งหมด ส่วนจะนำข้อหารือระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคประชาชน เข้าสู่ที่ประชุมกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ด้วยหรือไม่ นายเดชอิศม์ ยอมรับว่า อาจอยู่ในวาระอื่นๆ เนื่องจากมีวาระสำคัญอยู่แล้ว เมื่อถามว่า ส่วนตัวเห็นด้วยกับข้อเสนอของพรรคประชาชนและและข้อเสนอเพิ่มเติมของพรรคเพื่อไทยหรือไม่ นายเดชอิศม์ ยืนยันว่า […]

ข่าวแนะนำ

เพื่อไทยดันเต็มที่ “ชัยเกษม” แคนดิเดตนายกฯ คนสุดท้าย

พรรคเพื่อไทย 2 ก.ย.- “ทักษิณ” ขอบคุณ สส. เพื่อไทย ที่ยังอยู่กับพรรค พร้อมให้กำลังใจ บอกการต่อสู้ตั้งรัฐบาลยังเดินหน้าต่อ ด้านโฆษก เผยที่ประชุม ดัน “ชัยเกษม” แคนดิเดตนายกฯ คนสุดท้ายเต็มที่ ไม่มียกมือหนุนคนอื่น การประชุม สส. ประจำสัปดาห์ของพรรคเพื่อไทย วันนี้ (2 ก.ย.) โดยมีนางสาวแพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เข้าร่วมประชุมกับ สส. พรรคด้วย ซึ่งในครั้งนี้มีนายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย มาร่วมประชุมด้วย ภายหลังใช้เวลาประชุมประมาณ 1 ชั่วโมง นายดนุพร ปุณณกันต์ โฆษกพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า วันนี้มีสมาชิกเข้าร่วมประชุมเยอะมาก ซึ่งสัปดาห์นี้จะมีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร (สส.) 3 วัน ซึ่งวันในวันพุธที่ 3 ก.ย. จะประชุมพิจารณากฎหมายร่วมกัน ส่วนวันพฤหัสบดีที่ 4 ก.ย. จะเป็นการรายงานหน่วยงานต่าง ๆ […]

“ทักษิณ” รับผิดไว้ใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป

กรุงเทพฯ 2 ก.ย.- “ทักษิณ” ยอมรับผิด ไว้วางใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป ส่วนการจัดตั้งรัฐบาล ต้องรอดูพรรคประชาชน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 1 ก.ย. สส.พรรคเพื่อไทย ประมาณ 10 คน ได้นัดเลี้ยงสังสรรค์ให้นายฉลาด ขามช่วง ที่ได้รับเลือกให้เป็นดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 เมื่อเรื่องรู้ถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ จึงเดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกับนายฉลาด ด้วย โดยในวงรับประทานอาหาร นายทักษิณ พูดถึงกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ถอนตัวจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดยยอมรับผิดว่า “ไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส มากเกินไป พี่ผิดไปแล้ว พี่ดูคนผิด” ทำให้ สส. ที่ร่วมวงอยู่นั้นสวนทันทีว่านายทักษิณ โดนคนหลอกตลอด ซึ่ง สส.ที่ร่วมวง ต่างเห็นตรงกันว่า ไม่เคยเห็นนายทักษิณ ยอมรับผิดแบบนี้มาก่อน เห็นได้ว่านายทักษิณ ได้แสดงท่าทีรู้สึกผิดมาก พร้อมกันนี้ สส. […]

ครม. มอบ 4 รองนายกฯ ทำหน้าที่แทนนายกฯ ไร้คุยปมยุบสภา

ทำเนียบ 2 ก.ย.- “ชูศักดิ์” เผยที่ประชุม ครม. มอบ 4 รองนายกฯ ทำหน้าที่แทนนายกฯ ตามลำดับ ยันไม่มีคุยเรื่องยุบสภา นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันนี้ว่า ที่ประชุม ครม.มีมติมอบหมายรองนายกรัฐมนตรี 4 ท่าน ดังนี้ 1.นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม 2.นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน 3.นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง 4.นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจสังคม โดยทั้ง 4 ท่านจะเป็นรองนายกรัฐมนตรี และทำหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี โดยเรียงลำดับข้างต้น ในกรณีที่นายกรัฐมนตรีไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ รวมถึงมอบหมายรองนายกฯ เหล่านี้ทำหน้าที่เหมือนที่เคยปฏิบัติมา ทั้งนี้ ยืนยันว่าในที่ประชุม ครม.ในวันนี้ ไม่ได้มีวาระในเรื่องการยุบสภา เป็นการหารือในการประชุม ครม.ตามปกติ นอกจากนี้ […]

มทภ.2 ยัน “ทหาร” ไม่ปฏิวัติ ปล่อยกลไกการเมืองจัดการ

กทม. 2 ก.ย.-มทภ.2 ยัน “ทหาร” ไม่ปฏิวัติ ปล่อยกลไกการเมืองจัดการ เผย ผบ.ทบ. มองการเมืองมีแนวโน้มดี ไม่ยุ่ง เป็นทหารอาชีพ ให้เกียรติฝ่ายการเมือง มอง “แคนดิเดตนายกฯ” อยู่ในวงจำกัด ให้ใช้เวลาที่เหลือ 3-4 เดือน บางอย่างต้องช่วยกันก่อน เชื่อการเมืองมีคนดีอยู่แล้ว พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวถึงกรณีการบรรยายนักศึกษาธรรมศาสตร์ ถึงการนำคนดีมาบริหารประเทศ แต่ในสถานการณ์ที่อยู่ระหว่างเลือกนายกฯ ตั้งรัฐบาล และสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา เราควรมีผู้นำที่เข้าใจสถานการณ์ในแนวทางใด ว่า ทฤษฎีที่ผมพูดไปคือทฤษฎีที่อยากให้เป็น แต่ความจริงของประเทศไทย ก็ต้องว่าไปตามระบบของประเทศไทยในห้วงเวลานี้ ทหารไม่มีการปฏิวัติอยู่แล้ว ปล่อยให้เป็นไปตามกลไก เราต้องช่วยกันคัดกรองดูว่าอะไรถูกไม่ถูก เราจะเสนอนแอย่างไร อันนี้คือสิ่งที่ผมได้คุยกับน้องๆ เราอยากให้เป็นในอนาคต ส่วนทฤษีและความจริงจะได้ขนาดไหน พวกเราคนไทยทั้งประเทศต้องช่วยกัน เมื่อถามว่าในฐานะที่เป็นเพื่อน ตท.26 กับ พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผบ.ทบ. ได้ฝากและมองสถาการณ์อย่างไรบ้าง พล.ท.บุญสิน กล่าวว่า ท่านก็มองว่าน่าจะมีแนวโน้มไปทิศทางที่ดี กองทัพบกก็พร้อมทำหน้าที่ตัวเอง ไม่ยุ่งกับกระแสการเมืองอยู่แล้ว […]