ศาลาว่าการ กทม. 17 ส.ค.- “ผู้ว่าฯ ชัชชาติ” เตือนกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออก แถวลาดกระบัง หนองจอก มีนบุรี เฝ้าระวังรับมือน้ำท่วม หลังฝนตกหนัก-เขื่อนตอนบนระบายน้ำ กระทบคลองประเวศ
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า ได้เฝ้าระวังปริมาณน้ำในเขื่อน โดยเฉพาะเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ซึ่งมีปริมาณน้ำเกือบ 50% ของความจุอ่าง หากมีการระบาย จะลงสู่คลองรพีพัฒน์ คลอง 13 และลงมาที่คลองพระองค์เจ้าไชยานุชิต และมาทางคลองฝั่งตะวันออกของกรุงเทพมหานคร กระทบต่อคลองประเวศและคลองแสนแสบบางส่วน ทำให้ไม่สามารถระบายน้ำออกไปได้ จึงเป็นอีกเหตุผลที่ทำให้น้ำในคลองประเวศยังคงสูงอยู่ และต้องระบายออกทางพระโขนงฝั่งเดียว ทำให้มีผลกระทบต่ออ่อนนุชและช่วงถนนเฉลิมพระเกียรติ จะต้องมีการเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ฝั่งตะวันออกของกรุงเทพมหานครแถวลาดกระบัง หนองจอก มีนบุรี ต้องเฝ้าระวังน้ำท่วม แม้ว่าปริมาณฝนที่ตกในกรุงเทพมหานครจะไม่มาก แต่ก็เกิดน้ำท่วม เพราะมีปริมาณน้ำจากเขื่อนด้านบน เป็นองค์ประกอบที่ต้องติดตาม และอาจต้องเข้าพูดคุยกับหน่วยงานที่ดูแลเรื่องน้ำระดับชาติเพื่อหารือร่วมกัน
ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวด้วยว่า ฝนที่ตกหนักในพื้นที่กรุงเทพมหานคร วัดได้เมื่อวานนี้หนักสุด 140 มิลลิเมตร ที่เขตประเวศ ซึ่งจุดอ่อนที่มีปัญหาคือคลองประเวศ ที่จะต้องระบายสู่คลองตัน ทำได้ช้า เนื่องจากมีความคดเคี้ยว เมื่อคลองประเวศเต็ม ทำให้คลองที่เชื่อมต่อมีปัญหา ขณะที่พื้นที่กรุงเทพฯ รอบนอกบางส่วนมีการสร้างถนนเอกชนและปลูกบ้าน ซึ่งจะไม่มีทางระบายน้ำ ส่วนใหญ่จะระบายลงคลองเป็นหลัก เมื่อมีน้ำปริมาณมาก ทำให้ถนนเหล่านี้ถูกน้ำท่วม เพราะไม่ได้มีการออกแบบการระบายน้ำตามหลักวิชาการ ซึ่งในระยะยาวไม่สามารถแก้ได้ง่าย ซึ่งจะต้องดูแลการระบายน้ำในคลองเหล่านี้ให้รวดเร็วขึ้น เพราะหากน้ำในคลองลดได้ จะสามารถระบายน้ำลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาได้ ซึ่งการลดน้ำในคลองให้เร็วอาจจะต้องหาทางออกเร็วขึ้น เช่น การทำอุโมงค์เพิ่มเพื่อมารับน้ำ
ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า ปัญหาน้ำท่วมส่วนใหญ่สามารถดูแลได้เป็นอย่างดี ซึ่งที่ผ่านมา กทม.พร่องน้ำได้เร็ว มีการทำเส้นเลือดฝอยได้ดีขึ้น มีหลายจุดที่น้ำลดลงเร็ว ซึ่งหลายที่แก้ปัญหาได้ถูกทาง ต้องให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ แต่มีบางจุดที่มีปัญหาซ้ำซากก็ยังมีน้ำท่วมอยู่ เช่น อ่อนนุช และถนนเฉลิมพระเกียรติ.-สำนักข่าวไทย