คุมเข้มจุดเสี่ยงเส้นทางรับสัญจรช่วงสงกรานต์

ภูมิภาค 9 เม.ย.- หลายจังหวัดเพิ่มมาตรการเข้มข้นดูแลการเดินทางวันหยุดยาวช่วงสงกรานต์ คุมเข้มจุดเสี่ยงทั้งสายหลักสายรองขึ้นเหนือ-ล่องใต้ 


นายชาคร ณ ลำปาง หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดลำปาง สาขาเถิน ดูแลพื้นที่ 4 อำเภอของจังหวัด เปิดเผยว่า  ถนนสายหลักที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษของการเดินทางทั้งไปและกลับในช่วงเทศกาลสงกรานต์ คือ ทางหลวงหมายเลข 1 พหลโยธิน สายลำปาง – ตาก  เขต อ.แม่พริก อ.เถิน และ อ.สบปราบ ระยะทางประมาณ 180 กิโลเมตร เนื่องจากเป็นถนนทางตรง บางจุดเป็นทางโค้งขึ้น-ลงเขา และเกิดอุบัติเหตุบ่อย ดังนั้น สงกรานต์นี้จึงได้ตั้งจุดตรวจ และจุดสกัดเป็นระยะ เพื่อเฝ้าระวังอุบัติเหตุและป้องปรามการขับขี่ที่มีความเสี่ยงของการเกิดอุบัติเหตุ โดยเฉพาะการดื่มสุราหรือความเหนื่อยล้าอาจหลับใน ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของอุบัติเหตุ เพราะบางช่วงเป็นถนนทางตรง ระยะทางยาว อาจจะทำให้ผู้ขับขี่เกิดอาการง่วงนอนเผลอหลับในได้ ถือว่าน่าห่วงมาก


ด้านนายสยาม ศิริมงคล รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ กล่าวว่า  ได้ตั้งจุดตรวจ  15 จุดบนถนนสายหลักและสายรอง จุดบริการอีก 1 จุด ที่บริเวณจุดตำรวจทางหลวงมอเตอร์เวย์ – ลาดกระบัง หมู่ 7 ตำบลศีรษะจระเข้น้อย อำเภอบางเสาธง สำหรับจุดเสี่ยงในเขตจังหวัดสมุทรปราการจากการสำรวจมีทั้งหมด 15 จุด ส่วนใหญ่เป็นเรื่องของผิวถนนไม่เรียบ บางจุดมีแสงสว่างไม่เพียงพอ จึงได้ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งปรับปรุงและคืนผิวจราจรเพื่อผู้ขับขี่ยานพาหนะจะได้ใช้ถนนได้อย่างปลอดภัย พร้อมทั้งรณรงค์ผู้ใช้รถใช้ถนนปฏิบัติตามกฎหมายจราจรอย่างเคร่งครัด ที่สำคัญควรมีน้ำใจซึ่งกันและกันในการใช้เส้นทาง

ที่ จ.สงขลา พ.ต.อ.เอกกฤต วิริยะภาพ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด ลงพื้นที่อำเภอสะเดา ตรวจความเรียบร้อยในการเดินทางผ่านแดนไทย-มาเลเซีย ของประชาชนและนักท่องเที่ยวช่วงสงกรานต์ ทั้งด่านสะเดาและด่านปาดังเบซาร์  โดยเน้นย้ำมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดและเฝ้าระวังบุคคลที่มีรายชื่อตามบัญชีดำ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนที่คาดว่าจะเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวหลายหมื่นคน  ซึ่งวันนี้บรรยากาศด่านพรมแดนสะเดาเริ่มคึกคักมากขึ้น กลุ่มแรงงานที่เดินทางไปทำงานในประเทศเพื่อนบ้านได้เริ่มทยอยเดินทางกลับภูมิลำเนา เพื่อร่วมกิจกรรมสงกรานต์กับครอบครัว


นายอภิชาต ชาญธัญกร ผู้อำนวยการแขวงทางหลวงประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า  ได้ประสานกับผู้รับเหมาซ่อมสร้างผิวการจราจรในพื้นที่ ต.ทองมงคล  อ.บางสะพาน  เร่งตีเส้นแบ่งช่องจราจรบนถนนเพชรเกษม และติดป้ายสะท้อนแสงริมขอบทาง เพื่อให้ผู้ใช้รถใช้ถนนเดินทางขึ้นล่อง 14 จังหวัดภาคใต้สามารถมองเห็นได้ชัดเจน โดยเฉพาะกลางคืน เพื่อรองรับการเดินทางช่วงสงกรานต์  นอกจากนี้ แขวงทางหลวงประจวบฯ จะปิดจุดกลับรถที่มีสถิติการเกิดอุบัติเหตุบ่อย 9 จุด ได้แก่ ถนนบายพาสชะอำ-ปราณบุรี กม.ที่ 35 500 แยกอ่างเก็บน้ำปราณบุรี กม.ที่ 244 บริเวณบ้านหนองเป่าปี่ กม.ที่ 260 แยกหนองหิน กม.ที่ 317 390 ชุมชนทับสะแก กม.ที่ 349 700 บริเวณหน้าหมวดทางหลวงบางสะพาน กม.ที่ 386 300 บ้านดอนมะกอก กม.ที่ 408 750 บ้านหนองข้าวเหนียว กม.ที่ 335 200 และบริเวณปั๊มต้นสน กม.ที่ 348 200 โดยติดตั้งป้ายปิดจุดกลับรถชั่วคราว เพื่อให้ใช้จุดกลับรถถัดไปลดความเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุ  และจัดชุดเคลื่อนที่เร็วพร้อมออกปฏิบัติการให้ความช่วยเหลือประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง ผู้ใช้รถใช้ถนนสามารถโทรแจ้งเหตุได้ที่สายด่วน 1586

ส่วนนายบัณฑิตย์ เทวีทิวารักษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี  กล่าวว่า จังหวัดสระบุรีเน้นเป็นพิเศษคือถนนสายรอง เพราะช่วงปีใหม่ที่ผ่านมาพบปัญหาการใช้ความเร็วเกินกำหนด ทำให้เกิดอุบัติเหตุและความสูญเสียคิดเป็นร้อยละ 80 ฉะนั้น จะใช้มาตรการคุมเข้มถนนสุวรรณศร ตั้งแต่รอยต่อกับอำเภอบ้านนา จ.นครนายก เข้าสู่อำเภอวิหารแดงผ่านแยกต่างระดับหินกองไปยังอำเภอภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งศูนย์อำนวยความปลอดภัยทางถนนจังหวัดสระบุรีได้วางแผนร่วมกับตำรวจภูธรและฝ่ายปกครองในท้องที่เพิ่มเข้มงวดกวดขันการขับขี่.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ข่าวแนะนำ

อัญเชิญเรือพระที่นั่งกลับพิพิธภัณฑ์

หลังสร้างความตราตรึงให้กับชาวไทยและคนทั้งโลก กับความงดงามของขบวนพยุหยาตราทางชลมารค กองทัพเรือ และกรมศิลปากร เริ่มอัญเชิญเรือพระที่นั่ง และเรือพระราชพิธี กลับเข้าสู่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเรือพระราชพิธี ซึ่งแต่ละขั้นตอนต้องใช้ความละเอียด รอบคอบ เพราะเรือทุกลำถือเป็นสมบัติล้ำค่าของแผ่นดิน

ย้อนรอยเส้นทางชีวิต “บิ๊กโจ๊ก”

เป็นเวลากว่า 6 เดือนแล้วที่เส้นทางตำรวจของ “บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล ต้องยุติลง หลังถูกให้ออกจากราชการไว้ก่อน กรณีพัวพันเว็บพนันออนไลน์ จากนี้ชะตาชีวิต “บิ๊กโจ๊ก” ขึ้นอยู่กับ ป.ป.ช. ว่าจะได้กลับมาสวมชุดตำรวจอีกหรือไม่

“ปานเทพ” เปิดหลักฐานสัญญาชัด 71 ล้านเป็นชื่อ “มาดามอ้อย”

“อ.ปานเทพ” เปิดหลักฐานหนังสือสัญญาบอกชัด 71 ล้านบาท เป็นชื่อ “มาดามอ้อย” เปิด 3 รายชื่อให้เร่งตรวจสอบ หวั่นโยกย้ายทรัพย์สิน