นนทบุรี 5 ส.ค.-รัฐมนตรีพาณิชย์เฝ้าติดตามความตึงเครียดจีน-ไต้หวัน ใกล้ชิด แต่เตรียมแผนขยายช่องทางขยายส่งออกสินค้าไทยทุกช่องทาง มั่นใจแผนลงนามขยายการค้าไทย-จีน ระหว่างวันที่ 24-25 ส.ค.นี้ เกิดขึ้นได้แน่นอน
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์กล่าวถึงสถานการณ์จีน-ไต้หวันว่าแม้จะตึงเครียดอยู่บ้าง แต่สั่งการให้ทูตพาณิชย์ไทยประจำอยู่ในจีนสำรวจมีรายการสินค้าในหมวดไหนบ้างที่ประเทศไทยสามารถส่งสินค้าไปยังจีน เพื่อชดเชยสินค้าไต้หวันที่ไม่สามารถส่งออกไปยังจีนได้ โดยไม่ใช่เรื่องของการฉวยโอกาสแต่อย่างใด แต่ถือเป็นภารกิจของไทยเพิ่มตัวเลขส่งออกในทุกช่องทางที่สามารถทำได้
ทั้งนี้ ได้รับข้อมูลจากสำนักงานทูตพาณิชย์ไทยในจีน ได้ข้อสรุปร่วมกันว่าสินค้าไทยที่สามารถส่งออกไปยังตลาดจีนเพื่อชดเชยตลาดของไต้หวัน มีหมวดสำคัญ คือ อาหารกับเครื่องดื่ม ซึ่งอาหารประกอบด้วยบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ปลาสดแช่แข็ง ขนมขบเคี้ยว ผลไม้รวมทั้งเครื่องดื่มหลากหลายรูปแบบ เป็นต้น ขณะเดียวกันให้กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศเร่งจัด OBM (Online Business Matching )จับคู่ธุรกิจ ในหมวดสินค้าสำคัญของไทย เพื่อเจรจาการค้ากับผู้นำเข้าของจีนจะมีการจัด OBM ขึ้นในช่วงวันที่ 24-25 สิงหาคม 2565 ขณะนี้มีผู้ส่งออกไทยตอบรับเข้าร่วมแล้ว 150 รายและมีผู้นำเข้าจากจีนและฮ่องกง 200 รายร่วมเจรจา หวังว่าตัวเลขการส่งออกของไทยจะเพิ่มขึ้นจำนวนหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม การนำเข้า-ส่งออกของไทย ตอนนี้ยังไม่มีปัญหาเป็นกรณีเฉพาะจีนกับไต้หวัน แต่ไทยต้องทำหน้าที่จัดOBM เจรจาการค้าครั้งนี้ให้เกิดขึ้น เพราะไทยต้องการเพิ่มตัวเลขนำเงินเข้าประเทศเหมือนกันจะเป็นช่องทางขยายการส่งออกสินค้าของไทยในสถานการณ์สงครามรัสเซีย-ยูเครน ได้ดำเนินการอยู่ มีการเจาะตลาดใหม่หลายตลาดซึ่งมีการดำเนินการไปแล้ว ตัวเลขการส่งออก 6 เดือนแรกของเราปีนี้อยู่ในสถานการณ์ที่ดีมาก ตัวเลขเป็นบวกถึง12.9% ในภาพรวม และสามารถทำเงินเข้าประเทศแตะ 5 ล้านล้านบาท เฉพาะครึ่งปีแรก ปีนี้จะได้เกินเป้าค่อนข้างแน่นอน ซึ่งปีที่แล้วทั้งปีได้ 8.5 ล้านล้านบาทเป็นต้น.-สำนักข่าวไทย