รัฐสภาฯ 20 ก.ค. – “อนุทิน” ไม่ให้คะแนนการชี้แจงของตัวเอง มั่นใจทำการบ้านมาดี ขอแค่ได้เสียงเกิน 239 เสียง และไม่ขอวิจารณ์การนำเรื่องครอบครัวมาอภิปราย
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึง ภาพรวมการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ที่ผ่านมาสองวัน ว่า ทุกคนชี้แจงอย่างเต็มที่ ก็จะมีการอภิปรายที่ปกติและมีดุเดือดอยู่บ้าง ถือเป็นเรื่องธรรมดา ส่วนการนำเรื่องครอบครัวมาอภิปรายโจมตีกันในสภานั้นไม่ขอวิพากษ์วิจารณ์ และฝ่ายค้านมีสิทธิ์ที่จะอภิปรายกล่าวหาได้ และผู้ถูกกล่าวหาก็สามารถชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา ตนไม่ขอก้าวล่วงทั้งสองฝ่าย ส่วนที่มีสมาชิกพรรคภูมิใจไทยประท้วงก็ถือเป็นการทำหน้าที่ตามเอกสิทธิ์ของ ส.ส.
ส่วนที่มีการมองว่าการอภิปรายของฝ่ายค้านมาตรฐานตกต่ำ เพราะควรอภิปรายเรื่องการทำงานมากกว่าเรื่องส่วนตัว นายอนุทิน กล่าวว่าทุกคนทำตามหน้าที่ ไม่ขอวิจารณ์ว่ามาตรฐานต่ำหรือสูง และมีเอกสิทธิ์ของสภาฯ คุ้มครองอยู่ในสิ่งที่ถูกต้อง หากทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้องเอกสิทธิ์ก็จะไม่คุ้มครอง
นายอนุทิน กล่าวว่า ขณะที่ วานนี้ ตนกับนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้เข้าพบพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี โดยได้ให้กำลังใจซึ่งกันและกัน
นายอนุทิน กล่าวถึงการลงมติโหวตของพรรค ภูมิใจไทย ว่าจะเป็นไปตามมติของพรรค ส่วนที่มีกระแสข่าวว่าคะแนนของนายอนุทิน จะได้รับความไว้วางใจมาเป็นอันดับหนึ่งนั้น ขออย่าเพิ่งคิดไปถึงขนาดนั้น ขอแค่ให้คะแนนเสียงเกิน 239 เสียง ก็เพียงพอแล้ว และไม่ได้คิดถึงเรื่องที่พรรคภูมิใจไทยจะมีงูเห่าจำนวนมาก และมองว่าการชี้แจงของตนเองมีหลักฐานข้อมูลต่างๆ เตรียมมาพร้อม ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขมีข้อมูลหลักฐานเป็นตัวเลขที่ชัดเจน แต่ทั้งนี้ มองว่าเป็นการอภิปรายในเรื่องเดิมๆ ที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการโควิด แต่เชื่อว่าได้ชี้แจงทุกอย่างชัดเจน เพราะตนทำการบ้านมาดี ทั้งนี้ ไม่ขอให้คะแนนตัวเองว่าได้กี่คะแนน เพราะคนเราเข้าข้างตัวเองตลอดเวลา
ทั้งนี้ขอให้รอดูผลคะแนนในวันโหวตลงมติ ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลก็ให้ความไว้วางใจคณะรัฐมนตรี ขณะที่เรื่องส่วนตัว โดยเฉพาะเรื่องครอบครัว ไม่ขอยุ่งเกี่ยว เพราะไม่รู้ว่าอะไรเกิดขึ้นบ้าง เพราะเป็นเรื่องในบ้านแต่ถ้ารู้ก็อีกเรื่องหนึ่ง แต่ขอดูแต่เรื่องงานเป็นหลัก และขอให้รอดูการอภิปรายที่เป็นของหนักในวันพรุ่งนี้ (21 ก.ค.)
นายอนุทิน ยืนยันว่า นายศักดิ์สยาม ไม่ได้เก็งข้อสอบพลาด แต่เป็นการอภิปรายในประเด็นเรื่องส่วนตัว โดยเป็นช่วงก่อนเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรี แต่พอใจในการชี้แจงที่ชัดเจน พร้อมกันนี้มองว่าการนำเรื่องเก่า ที่ไม่เกี่ยวข้องในสมัยดำรงตำแหน่งมาอภิปราย จะเป็นการทำให้เสียเวลาของสภาฯ .-สำนักข่าวไทย