รัฐสภา 19 ก.ค.-“อนุทิน” ยัน สธ.แก้ปัญหาโควิดสำเร็จ ได้รับการยอมรับจากต่างชาติ ขออย่าด้อยค่าวัคซีนจีน ย้ำมีบทลงโทษถ้าใช้กัญชาทางที่ผิด เชื่อพ.ร.บ.กัญชาทันสมัยประชุมนี้ ขอโทษที่เคยพูดเรื่องพี้กัญชาตอนหาเสียง ต่อไปจะระวัง
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ชี้แจงการแก้ไขการแพร่ระบาด โควิด-19 ว่าประเทศไทยเตรียมรับสถานการณ์ โควิด-19 ก่อนที่องค์การอนามัยโลกจากประกาศเป็นโรคระบาด ทำให้ควบคุมสถานการณ์ได้ในระดับหนึ่ง แต่ส่วนใหญ่ผู้เสียชีวิตจะเกิดจากโรคแทรกซ้อน ยืนยันว่าไทยเป็นประเทศหนึ่งในไม่กี่ประเทศที่รักษาพยาบาลผู้ป่วยทุกราย รวมถึงดูแลค่าใช้จ่ายทั้งยาและเวชภัณฑ์และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งจัดหาวัคซีนให้กับประชาชนไปแล้วกว่า 140 ล้านโดส มากกว่าร้อยละ 70 ของประชากรและมากกว่าร้อยละ 90 ประชากรที่มีความเสี่ยง
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ผู้อภิปรายได้พยายามด้อยค่าวัคซีนที่มาจากประเทศจีน ซึ่งเป็นประเทศที่ให้การสนับสนุน วัคซีนและเวชภัณฑ์ให้กับไทย รวมถึงวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าที่มีฐานการผลิตวัคซีนในประเทศไทย ซึ่งบุคลากรด้านสาธารณสุขมีความทุ่มเทให้ทุกคนปลอดภัยจากโควิด ประชาชนที่ได้รับวัคซีนครบถ้วนและเข็มกระตุ้นพบว่าไม่มีผู้เสียชีวิตโดยตรงจากโควิด ยืนยันสามารถจัดหาวัคซีนได้ครอบคลุมตั้งแต่เด็กเล็กจนถึงจนถึงผู้สูงอายุ นำหน้าในหลายประเทศ จึงขออย่าด้อยค่าวัคซีน
“องค์การอนามัยโลกยกย่องให้ประเทศไทยเป็นต้นแบบของประเทศที่รับมือกับสถานการณ์โควิดได้อย่างยอดเยี่ยมและมีประสิทธิภาพ ทั้งยังได้รับการประเมินจากสถาบันที่มีความน่าเชื่อถือระดับโลกที่ประเมินดัชนีความมั่นคงทางสุขภาพประจำปี 2564 โดยจัดลำดับให้ ไทยเป็นประเทศที่มีความมั่นคงด้านสุขภาพเป็นลำดับที่ 5 ของโลกจาก 195 ประเทศ และเป็นอันดับหนึ่งในเอเชีย” นายอนุทิน กล่าว
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า สำหรับการระบาดระลอกใหม่ ได้สั่งการให้สถานพยาบาลเตรียมความพร้อมรับมือ ซึ่งการผ่อนคลายมาตรการต่าง ๆ และการเปิดประเทศ แน่นอนว่าทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น แต่ทุกคนยังต้องดูแลตัวเองด้วยการสวมใส่หน้ากากอนามัย ซึ่งภาพรวมรัฐบาลยังดูแลประชาชนได้เป็นอย่างดี โดยรัฐบาลยังรักษาสมดุลการแก้ปัญหาทางด้านสุขภาพและการแก้ปัญหาทางด้านโควิดอย่างเหมาะสม ซึ่งทุกคนต้องใช้ชีวิตร่วมกับโควิดอย่างปลอดภัย ข้อกล่าวหาที่บอกว่ารัฐบาลล้มเหลวในระบบสาธารณสุข ยืนยันว่าสามารถบริหารจัดการได้ ซึ่งดูได้จากการที่ประเทศไทยได้รับการคัดเลือกจากประเทศสมาชิกในกลุ่มอาเซียนให้ไทยเป็นที่ตั้งของสำนักงานเลขาธิการศูนย์อาเซียนด้านการรับมือภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุขและโรคอุบัติใหม่
นายอนุทิน ชี้แจงถึงนโยบายกัญชาเสรี ว่า รัฐบาลวางนโยบายให้นำกัญชามาใช้ในด้านประโยชน์ทางการแพทย์สุขภาพ และก่อให้เกิดประโยชน์ทางเศรษฐกิจ โดยไม่มีเรื่องของสันทนาการและนันทนาการ ยืนยันกระทรวงสาธารณสุขไม่ได้ปฏิบัตินอกเหนือจากนโยบายของรัฐบาลที่ให้ไว้กับประชาชน โดยเน้นการนำกัญชาและกันชงมาใช้ประโยชน์ในทางการแพทย์และสุขภาพ เพื่อเสริมสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจเท่านั้น ซึ่งหากนำไปใช้นอกเหนือจากนี้โดยไม่ถูกต้องตามเจตนารมย์และผิดกฎหมาย จะดำเนินคดีและลงโทษตามกฎหมายที่กำหนดไว้ ส่วนร่างพ.ร.บ.กัญชากัญชง อยู่ระหว่างการพิจารณาโดยมีผู้เชี่ยวชาญด้านต่าง ๆ ร่วมพิจารณาอย่างรอบคอบ ซึ่งจะทำให้เป็นกฎหมายที่ดีและมีประสิทธิภาพ
“การที่กังวลมากเกินไป อาจทำให้ประเทศเกิดความล้าหลัง และเชื่อว่าทุกคนเข้าใจว่าหากใช้กัญชาในทางการแพทย์อย่างถูกต้อง ประชาชนจะมีความยินดีและมีโอกาสเข้ารับการรักษาด้วยพืชสมุนไพรไทย ยืนยันการนำกัญชากันชงไปใช้ในทางที่ผิด จะไม่มีทางเกิดขึ้นในรัฐบาลชุดนี้ การดำเนินการทุกอย่างทุกขั้นตอนผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการหลายชุด มั่นใจว่าในร่างกฎหมายที่กำลังร่างอยู่นี้ จะสามารถควบคุมกิจกรรมต่าง ๆ ที่เป็นข้อกังวลได้ เช่น การนำกัญชาไปประกอบอาหาร ซึ่งผู้ประกอบการร้านอาหารจะต้องกำกับสัดส่วนการใช้กัญชาและติดประกาศ เพื่อให้ประชาชนทราบว่าใช้ส่วนผสมจากกัญชา ซึ่งหากไม่ปฏิบัติตามจะมีบทลงโทษ ทั้งนี้ คาดหวังว่าร่างกฏหมายกัญชากันชงจะเสร็จสิ้นในสมัยประชุมสภาฯ นี้ เพื่อลดความกังวลต่าง ๆ และมั่นใจว่าทั้งหมดจะควบคุมการใช้กัญชาให้เป็นไปอย่างถูกต้องได้” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าว
นายอนุทิน กล่าวถึงคลิประหว่างหาเสียงเรื่องการพี้กัญชาที่ส.ส.ฝ่ายค้านนำมาเปิดในสภา ฯ โดยยอมรับอาจพูดติดตลกบ้าง แต่ยืนยันไม่มีเจตนาทางลบ ขอให้ดูทั้งคลิปทั้งหมด อย่าดูแค่ช่วงสั้น ๆ เพราะคลิปสามารถตัดต่อได้ และขอโทษหากพูดอะไรไม่เหมาะสม จากนี้จะระมัดระวัง.-สำนักข่าวไทย