จับ 2 หนุ่มญี่ปุ่นอุ้มรีดเงิน ทำร้ายร่างกาย บังคับกินอุจจาระ

6 พ.ย. – สืบนครบาล จับชายชาวญี่ปุ่น 2 คน อุ้มเพื่อนร่วมชาติ ทำร้ายร่างกาย บังคับกินอุจจาระ เรียกเงิน 3 แสนบาท พบหนีคดีจากญี่ปุ่นมาขายกัญชาในประเทศไทย


นายนิกิ ฟุกุ และนายโทมิ อาซาอิ สัญชาติญี่ปุ่น ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ในความผิดฐาน “ร่วมกันกรรโชกทรัพย์ผู้อื่น” ถูกตำรวจนครบาล นำโดย พ.ต.ต.ธัญพีรสิษฐ์ จุลพิภพ หรือ สารวัตรแจ๊ะ จับกุมตัวได้ที่ห้องพักรีสอร์ตแห่งหนึ่งใน อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เมื่อคืนที่ผ่านมา พร้อมเงินสด 179,000 บาท อุปกรณ์เสพกัญชา สมุดธนาคาร พร้อมของมีค่าจำนวนหนึ่ง

พลตำรวจตรีนพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. เปิดเผยว่า คดีนี้เกิดขึ้นเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา มีผู้เสียหายชายชาวญี่ปุ่น และหญิงชาวฟิลิปปินส์ 2 สามีภรรยาได้เข้าแจ้งความ ที่ สน.พญาไท และ สน.โชคชัย ว่าถูกกลุ่มชาวญี่ปุ่น 3 คน คนไทย 1 คน อุ้มเรียกเงิน 300,000 บาท แบ่งเป็นค่าทำวีซ่าที่ด่านปอยเปต และเงินที่ผู้เสียหายยืมกลุ่มผู้ก่อเหตุไป ซึ่งผู้เสียหายมีเงินไม่พอจ่าย ทำให้กลุ่มผู้ต้องหาไม่พอใจ และพาตัวผู้เสียหายไปข่มขู่จะฆ่าหมกป่า โดยพาไปกักขังที่โรงแรมแห่งหนึ่งย่าน ถ.เกษตรนวมินทร์ และ ทำร้ายร่างกาย ทั้งยังบังคับให้ กินอุจจาระ แต่ผู้เสียหายไม่ยอม และอาศัยจังหวะที่กลุ่มผู้ต้องหาเผลอ ติดต่อเจ้าหน้าที่สถานทูตญี่ปุ่น กระทั่งตำรวจเข้ามาช่วยเหลือไว้ได้ หลังเกิดเหตุตำรวจได้ติดตามจับตัวชาวไทยและชาวญี่ปุ่นได้ภายในวันเกิดเหตุ เหลือผู้ต้องหาอีก 2 คน ชาวญี่ปุ่น ซึ่งถูกจับได้เมื่อคืนที่ผ่านมา


จากการตรวจสอบ พบว่าผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ชอบเสพกัญชา โดยเฉพาะกัญชาสูตร “3king” ซึ่งต้องใช้ส่วนผสมที่เป็นกัญชาจากไทย หลังก่อเหตุได้หนีไปกบดานที่ จ.ชลบุรี และต้องหาซื้อกัญชามาเสพทุกวัน ทีมสืบสวนจึงลงพื้นที่ไปยังแหล่งจำหน่าย และพบเบาะแสของผู้ต้องหา จึงนำกำลังไปจับกุม

ก่อนหน้านี้ชุดสืบสวนพยายามเข้าจับหลายครั้ง แต่ผู้ต้องหาย้ายที่พักอย่างต่อเนื่อง ทำให้การติดตามตัวเป็นไปได้ด้วยความยากลำบาก จากการสอบปากคำเบื้องต้น ผู้ต้องหาทั้งคุ่ยังให้การภาคเสธ เปิดเผยว่า ตัวเองเคยถูกจับกุมคดีกัญชาที่ประเทศญี่ปุ่น 4 ครั้ง ก่อนหลบหนี มาที่ประเทศไทยพร้อมเงิน 1 พันล้านเยน เพื่อประกอบธุรกิจขายกัญชา และธุรกิจส่งออกต่างประเทศ ส่วนประเด็นที่สงสัยว่ามีความเชื่อมโยงกับแก๊งยากูซ่า หรือเป็นองค์กรอาชญากรรมหรือไม่ ขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบกับทางการประเทศญี่ปุ่น แต่จากการตรวจสอบร่างกายเบื้องต้น พบรอยสัก ซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะของแก๊งยากูซ่า

ขณะที่ผู้ต้องหาชาวญี่ปุ่นทั้ง 2 คน ตอบคำถามสื่อญี่ปุ่นที่มาปักหลักทำข่าวนี้ ว่าไม่ได้กระทำผิด ไม่ได้ก่อเหตุดังกล่าว ขอให้สื่อไปถามทนายความ ทั้งนี้ หลังสอบปากคำแล้วเสร็จ พนักงานสอบสวนได้ส่งตัวผู้ต้องหาให้สถานีตำรวจนครบาลพญาไทดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมส่งฝากขังศาลอาญารัชดาภายในวันศุกร์นี้ ขณะเดียวกัน ได้ประสานไปทางญี่ปุ่น ให้ตรวจสอบข้อมูลประเด็นที่ผู้เสียหายอ้างว่ามีพันธบัตร รวมมูลค่ากว่า 35 ล้านบาท ว่าเป็นความจริงหรือไม่ เพื่อดูว่ามีการกระทำความผิด หรือเข้าข่ายเป็นพฤติการณ์โจรปล้นโจรหรือไม่.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก