ลำปาง 31 มี.ค.- อธิบดี ปภ.เดินสายขึ้นเหนือหาสาเหตุปัญหาไฟป่าวางแผนป้องกันให้มีประสิทธิภาพ เน้นแก้ต้นเหตุดีกว่าแก้ปลายเหตุ ปรับวิธีเร่งดับไฟเป็นซุ่มโป่งจับคนเผา ระบุต่อไปอาจไม่โชคดีเท่าครั้งนี้ที่มีพายุฝนมาช่วย
วันนี้ (31 มี.ค.) ที่ห้องประชุมองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้เขตภาคเหนือตอนบน จ.ลำปาง นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และนายจตุพร บุรุษพัฒน์ อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ ประชุมติดตามสถานการณ์หมอกควันในพื้นที่ภาคเหนือ หลังจากได้ลงพื้นที่ติดตามข้อมูลจากจังหวัดเชียงราย และพะเยา เพื่อนำไปประเมินแนวทางการทำงานในการป้องกันและแก้ปัญหา
นายฉัตรชัย กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา นายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เช่นกัน เพราะหลายจังหวัดภาคเหนือมักปัญหาหมอกควันไฟป่าเป็นประจำ โดยเฉพาะ 9 จังหวัดที่มีหนักที่สุด ดังนั้น จึงต้องลงพื้นที่รวบรวมข้อมูลและปัญหาต่าง ๆ นำไปแก้ไขให้เกิดความยั่งยืน สาเหตุส่วนใหญ่พบว่าเกิดจากมนุษย์ หากทุกฝ่ายช่วยกันสร้างความร่วมมือและความเข้าใจกันอย่างแท้จริงจะช่วยลดปัญหาลงได้
“ปีนี้มีความโชคดีในเรื่องสภาพอากาศที่เกิดฝนตกลงมา จึงทำให้สถานการณ์คลายลงเป็นระยะ แต่จะไม่ยั่งยืน เพราะหากฝนจากพายุฤดูร้อนผ่านไป ปัญหาก็จะกลับมาเหมือนเดิม และถ้าเกิดฝนทิ้งช่วงอีก เป็นน่าห่วงว่าปัญหาไฟป่าจะเกิดขึ้นยาวจากความแห้งแล้ง ก็จะไปกระทบกับสภาพอากาศและการท่องเที่ยว โดยเฉพาะสงกรานต์กำลังจะมาถึง”
ด้านนายจตุพร ยังแนะว่า ไฟป่าดอยพระบาท อ.เมือง จ.ลำปาง ปีนี้ถือว่าผิดปกติ อยากให้ดูว่าต้นเหตุของไฟมาจากสาเหตุใด หากวิธีเดิมที่ทำไม่ได้ผล ก็ให้ปรับเปลี่ยนวิธีการใหม่ให้ได้ผลมากขึ้น ต้องคุมที่ต้นเหตุดีกว่าแก้ปัญหาปลายเหตุที่ต้องเร่งดับไฟ หากเป็นไปได้ให้จัดกำลังซุ่มโป่งจับกุมคนเผา เหมือนแผนของ จ.เชียงราย ที่ปรับแผนจากลาดตระเวนมาเป็นซุ้มโป่งเป็นการคุมต้นเหตุ.-สำนักข่าวไทย