กรุงเทพฯ 1 ก.ค. -ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ยอมรับการเพิ่มมาตรการผ่อนคลาย การเดินทางเข้าประเทศวันนี้วันแรก ส่งผลให้ผู้โดยสารเดินทางคึกคักกว่า 85,000 คน ขณะที่การบินไทยยอมรับหลัง ผ่อนคลายมาตรการโควิด-19 ทำให้บริษัทฯ มีรายได้เพิ่มขึ้นอย่างเป็นนัยสำคัญ
นายกิตติพงศ์ กิตติขจร ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ระบุว่า การยกเลิกยกเลิกระบบ Thailand Pass” และการบังคับนักท่องเที่ยวต่างชาติทำประกันสุขภาพ มีผลตั้งแต่วันนี้ 1 ก.ค.เป็นต้นไป โดยนักท่องเที่ยวต่างชาติแค่แสดงใบรับรองการฉีดวัคซีน หรือ Certificate of Vaccination หรือแสดงผลการตรวจหาเชื้อโควิดเป็นลบ ด้วยวิธีตามที่กำหนด ในกรณีที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนหรือฉีดไม่ครบโดส
มาตรการผ่อนคลายดังกล่าวทำให้ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิมีผู้โดยสารคึกคักอย่างมากในวันนี้โดยมีผู้โดยสารเดินทางผ่านท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ 85,483 คน เพิ่มขึ้นจากเมื่อวานที่ผ่านมาก่อนมาตรการมีผล ที่มีผู้โดยสารระหว่างประเทศกว่า 70,000 คนเท่านั้น โดยจำนวนผู้โดยสารที่เดินทางในวันนี้แบ่งเป็นผู้โดยสาร เดินทางระหว่างประเทศ 54,353 คน และในประเทศ ประมาณ 31,000 คน โดยยอมรับว่า การผ่อนคลายมาตรการเพิ่มขึ้นในวันนี้ทำให้ผู้โดยสารโดยเฉพาะระหว่างประเทศที่มีการแสดงเอกสารเดินทางตามเงื่อนไข เมื่อเดินทางมาถึงประเทศไทยแล้วไม่ต้องมีการตรวจเพิ่มเติมสามารถเข้าสู่กระบวนการตรวจคนเข้าเมือง หรือ ตม. ได้เลย ก็ทำให้ผู้โดยสารได้รับความสะดวกอย่างมาก
ดังนั้นชื่อว่าปัจจุบันที่ยังอยู่ในช่วงนอกฤดูกาลท่องเที่ยวหรือ “โลว์ซีซั่น” ยังมีผู้โดยสารกลับมาเดินทางมากขนาดนี้ ดังนั้นเชื่อว่าเมื่อเข้าสู่ช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวปลายปีนี้ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิจะกลับมามีผู้โดยสารมากกว่าวันละ 100,000 คนแน่นอน
ด้านนายปิยะสวัสดิ์ อัมระนันท์ ประธานคณะผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า การบินไทย ได้เพิ่มจำนวนเที่ยวบินและเส้นทางบินรองรับความต้องการเดินทางของผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังมีมาตรการผ่อนคลาย โควิด-19 ส่งผลให้มีการเติบโตด้านรายได้อย่างมีนัยสำคัญมาตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2564 เป็นต้นมา โดยในช่วงวันที่ 1- 27 มิถุนายน 2565 จำนวนผู้โดยสารรวมเฉลี่ยในแต่ละวันของบริษัทและสายการบินไทยสมายล์ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 12,568 และ 12,257 คนต่อวัน จาก 269 และ 4,929 คนต่อวัน ในช่วงเดือนเมษายน – เดือนตุลาคม 2564 อัตราการบรรทุกผู้โดยสาร (Cabin Factor)ปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ร้อยละ 75 และมีอัตราการสำรองที่นั่งล่วงหน้าในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปี 2565 ที่เติบโตขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และช่วงไตรมาสที่ 3 มีแผนเพิ่มความถี่เที่ยวบิน ได้แก่ จาการ์ตา ไทเป สิงคโปร์ โคเปนเฮเกน มิวนิก ซูริก โซล และเปิดให้บริการเส้นทางบินเพิ่มเติมเพื่อให้ครอบคลุมเส้นทางหลักในภูมิภาคต่างๆ ที่สำคัญ ได้แก่ โตเกียว (สนามบินฮาเนดะ) บรัสเซลส์ เจดดาห์ ขณะที่รายได้จากการขนส่งสินค้าและไปรษณียภัณฑ์ของบริษัท ทั้งในส่วนของการขนส่งในเที่ยวบินโดยสารตามตารางบินและเที่ยวบินเช่าเหมาลำขนส่งสินค้ารวมในเดือนพฤษภาคม 2565 ที่ผ่านมา มีจำนวน 2,104 ล้านบาท สูงกว่าช่วงเวลาเดียวกันในปี 2562 คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 41.-สำนักข่าวไทย