นนทบุรี 1 ก.ค.-รัฐมนตรีพาณิชย์เผยยอดส่งออกไทยเดือน พ.ค. 65 เติบโตต่อเนื่อง +10.5% มาจากทั่วโลกผ่อนคลายโควิดทำให้ความต้องการสินค้าต่าง ๆ กลับมาดีขึ้น ประกอบกับมีหลายปัจจัยหนุนทำให้ยอดส่งออกเป็นบวกไปถึงสิ้นปี ทำให้ยอดส่งออกทั้งปี 65 น่าจะเป็นบวกแน่นอน
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ รายงานสถานการณ์การส่งออกไทยในเดือนพฤษภาคม 2565 พบว่า มีมูลค่า 25,509 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัว 10.5% จากสินค้าในกลุ่มอุตสาหกรรมเกษตร และสินค้าอุตสาหกรรม ที่ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 15 ทั้งน้ำตาลทราย อาหารทะเลกระป๋อง และแปรรูป รวมไปถึงสินค้าดาวรุ่งอย่าง อาหารสัตว์เลี้ยง ที่ขยายตัวต่อเนื่องแล้วถึง 33 เดือน เครื่องโทรสาร-โทรศัพท์ อัญมณีและเครื่องประดับ รวมถึงเหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์
ขณะที่การส่งออกสินค้าเกษตร ก็ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 ทั้งมันสำปะหลัง +81.4% มีส่วนช่วยดึงราคาหัวมันสำปะหลังสดในประเทศให้สูงขึ้นตามไปด้วย และยางพารา รวมทั้งผลไม้สดยังส่งออกได้ดีทั้งมังคุด ลำไย และทุเรียน โดยตลาดส่งออกที่ขยายตัวสูงสุดได้แก่ เอเชียใต้ +55.7% แคนนาดา +45.3% ตะวันออกกลาง +37.9% และตลาดหลักอย่างสหรัฐอเมริกา ก็ขยายตัว 29.2%
อย่างไรก็ตาม ส่งผลให้ระยะ 5 เดือนแรกของปี 2565 ภาพรวมการส่งออกไทย มีมูลค่า 122,631 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขยายตัว 12.9% หรือสร้างรายได้เข้าประเทศแล้วกว่า 4 ล้านล้านบาท โดยเป็นไปตามความต้องการอาหาร และภาคการผลิตทั่วโลกที่ขยายตัวเพิ่มขึ้น รวมทั้งเงินบาทอ่อนค่าที่ส่งผลดีต่อการแข่งขัน และที่สำคัญนโยบายการผลักดันการส่งออก และแก้ไขปัญหาติดขัดโดยเฉพาะการบริหารจัดการส่งออกผลไม้ในช่วงผลผลิตออกสู่ตลาดจำนวนมาก ไปยังตลาดใหญ่อย่างจีน ทำได้อย่างผลรูปธรรม รวมทั้งการเร่งรัดผู้ส่งออกใช้ประโยชน์จากความตกลงเขตการค้าเสรี หรือ FTA และมีการทำ mini FTA เพื่อส่งเสริมการค้าระดับเมืองมากขึ้น
ทั้งนี้ มั่นใจว่า แนวโน้มการส่งออกในช่วงที่เหลือของปียังเป็นบวกอยู่ ทั้งปี 2565 จะขยายตัวเกินกว่าเป้าหมาย 4-5% แน่นอน สร้างรายได้เข้าประเทศไม่ต่ำกว่า 9 ล้านล้านบาท ทำให้ภาคการส่งออก ยังคงเป็นตัวขับเคลื่อนหลักของเศรษฐกิจของไทย
ส่วนตัวเลข การนำเข้าในเดือนพฤษภาคม 2565 มีมูลค่ากว่า 27,383 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวสูงถึง 24.2% รวม 5 เดือนแรกของปีนี้ มีมูลค่า 127,358 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขยายตัว 20.2% เป็นการขาดดุลในแง่มูลค่า จากราคาวัตถุดิบนำเข้าที่ปรับตัวสูงขึ้น แต่ในแง่ปริมาณการนำเข้าไม่ได้เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ในเดือนพฤษภาคม ไทยขาดดุลการค้า 1,874 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และ 5 เดือนแรกของปี ไทยขาดดุล 4,726 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
นอกจากนี้ ภาพรวมการส่งออก ผ่าน การค้าชายแดน และการค้าผ่านแดนของไทย ในเดือนพฤษภาคม 2565 มีมูลค่ากว่า 90,704 ล้านบาท มีการปรับตัวลดลงเล็กน้อย 3.77% โดยแบ่งเป็นการค้าชายแดนกับ 4 ประเทศ มูลค่า 55,002 ยังบวก 16.33% ขยายตัวทุกตลาดทั้งเมียนมา กัมพูชา และ สปป.ลาว มีเพียงมาเลเซียที่หดตัว แต่ยังคงเป็นคู่ค้าอันดับ 1 ของไทย
ขณะที่ การค้าผ่านแดนกับ 3 ประเทศ มีมูลค่า 35,702 ล้านบาท หดตัวถึง 24.01% ตามการส่งออกที่ลดลงทุกตลาดทั้งจีน สิงคโปร์ และเวียดนาม แต่มาจากการที่ไทย หันไปส่งออกทางเรือ และทางอากาศมากขึ้น เพื่อแก้ไขปัญหาโลจิสติกส์บริเวณด่านชายแดนที่ติดขัดปัญหาโควิด
ส่งผลให้ในช่วง 5 เดือนแรกมูลค่าการส่งออกทางชายแดน และผ่านแดนของไทย รวม 403,585 ล้านบาท ยังลดลง 0.91% แต่ยังมั่นใจว่า ตลอดทั้งปีจะยังขยายตังได้ตามเป้าหมายที่ 5% มูลค่ารวมกว่า 1 ล้านล้านบาท เนื่องจากมีความคืบหน้าในการเร่งรัดเปิดด่านชายแดน จากทั้งหมด 97 ด่าน ที่เปิดได้แล้ว 46 ด่าน สามารถกลับเปิดเพิ่มเติมได้แล้วอีก 13 ด่าน ตามการผ่อนคลายมาตรการโควิดที่มากขึ้น รวมทั้งเงินบาทยังอ่อนค่าส่งผลดีต่อการแข่งขัน.-สำนักข่าวไทย