ปะทะเดือดต่อเนื่อง ชาวบ้านหนีตายเร่งหาที่หลบภัย

ตาก 26 มิ.ย. – สถานการณ์สู้รบระหว่างทหารกะเหรี่ยงกับทหารเมียนมา ผ่านไปกว่า 10 ชม. ยังไม่สงบ ปะทะเดือดด้วยอาวุธหนักต่อเนื่อง ชาวบ้านขวัญผวาต้องเร่งหาที่หลบภัย ผู้บาดเจ็บหนีตายขอข้ามมารักษาที่ฝั่งไทย ด้านเจ้าหน้าที่ตรึงกำลังเข้ม


สถานการณ์การสู้รบ บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา ระหว่างทหารกองกำลังกะเหรี่ยงเคเอ็นยู กะเหรี่ยงเคเอ็นดีโอ และกลุ่มพีดีเอฟ กว่า 100 นาย พร้อมอาวุธครบมือ ที่บุกยิงถล่มใส่ฐานที่มั่นของทหารเมียนมา กองพันที่ 32 ชุด บก.ควบคุมที่ 13 บ้านอูเกรทะ อ.ซูการี จ.เมียวดี ประเทศเมียนมา ฝั่งตรงข้ามกับห้วยแม่หม้าย หมู่ 2 บ้านวาเล่ย์ใต้ อ.พบพระ จ.ตาก ซึ่งการยิงปะทะกันครั้งนี้ มีการใช้อาวุธหนักนานาชนิด ตั้งแต่เช้ามืดต่อเนื่องมาจนถึงช่วงเย็นวันนี้ (26 มิ.ย.) นานกว่า 10 ชั่วโมง เสียงปืนและเสียงระเบิดจากทั้ง 2 ฝ่าย ก็ยังคงดังขึ้นต่อเนื่อง ได้ยินชัดเจนในฝั่ง อ.พบพระ จ.ตาก

การปะทะที่เกิดขึ้น ทหารกะเหรี่ยงเคเอ็นยู มีเป้าหมายบุกเข้ายึดฐานบ้านอูเกรทะ ซึ่งภายในมีทหารเมียนมาพร้อมอาวุธหนักประจำการอยู่ไม่ต่ำกว่า 70 นาย โดยการยิงปะทะตลอดทั้งวันนี้ อยู่ห่างแนวชายแดนบ้านวาเล่ย์ใต้ และบ้านมอเกอร์ไทย ฝั่งชายแดน อ.พบพระ จ.ตาก เพียง 400 เมตร ส่งผลให้ชาวบ้านที่อยู่ติดกับลำห้วยวาเล่ย์ ลำห้วยขนาดเล็กกั้นพรมแดนไทย-เมียนมา ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง เด็ก และคนชรา ต่างเร่งเก็บสิ่งของที่จำเป็นหนีออกจากบ้านพัก ไปพักอาศัยในพื้นที่ปลอดภัยเป็นการชั่วคราวในหลายจุด


ขณะที่คนไทยส่วนใหญ่ยังคงอยู่ในบ้านพักของตัวเอง และเตรียมพร้อมอพยพทันที หากมีกระสุนปืนจากอาวุธหนักหลุดข้ามมายังฝั่งไทย โดยเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจตระเวนชายแดน และฝ่ายปกครอง อ.พบพระ ได้เข้าตรึงกำลังอย่างเข้มงวดตลอดแนวยิงปะทะเลียบถนนติดแนวชายแดน

ล่าสุดมีรายงานว่า จากเหตุปะทะครั้งนี้ ทำให้ชาวบ้านฝั่งเมียนมาได้รับบาดเจ็บจากสะเก็ดระเบิดแล้ว 7 ราย หลายรายมีอาการสาหัส ถูกนำตัวข้ามลำห้วยวาเล่ย์ มาขึ้นฝั่งที่บ้านมอเกอร์ไทย ซึ่งเป็นพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว โดยมีหน่วยกู้ชีพ อ.พบพระ รับตัวนำส่งโรงพยาบาลแล้ว ซึ่งเป็นการช่วยเหลือตามหลักสากลและตามหลักมนุษยธรรมในภาวะภัยสงคราม ทั้งนี้ คาดว่าจะมีผู้บาดเจ็บอีกหลายรายทยอยข้ามแนวชายแดนมาขอรับการรักษาเพิ่มอีก เนื่องจากคาดว่าเหตุปะทะจะยังคงเกิดขึ้นต่อเนื่อง และหนักหน่วงขึ้นในคืนนี้ เจ้าหน้าที่จึงต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดตลอดทั้งคืน. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง