สกลนคร 15 มิ.ย. – นายกฯ เยี่ยมโครงการพระราชดำริภูพาน ชื่นชมสัตว์ 4 ดำ มหัศจรรย์ สร้างรายได้ให้ชุมชน ทักหมูดำอย่างกันเอง ยอมรับเหนื่อยใจ เพราะห่วงประชาชน
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายชัยวุฒิ ธนาคมนุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีกระทรวงแรงงาน และคณะ เดินทางไปเยี่ยมชมโครงการพระราชดำริ ณ ศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพานอันเนื่องมาจากพระราชดำริ อ.เมือง จ.สกลนคร แหล่งความรู้ที่สําคัญในการประกอบอาชีพและดํารงชีวิตของประชาชนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และสามารถขยายผลการศึกษาในด้านต่าง ๆ เพื่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนที่เหมาะสมกับพื้นที่ สร้างอาชีพและรายได้ให้กับเกษตรกรอย่างยั่งยืน
นายกรัฐมนตรีได้เยี่ยมชมโครงการพระราชดำริด้านปศุสัตว์ ซึ่งได้ศึกษาและพัฒนาวิจัยพันธุ์สัตว์ทั้ง 4 ชนิด ได้แก่ ไก่ดํา หมูดํา วัวดํา และกระต่ายดํา จนเป็นที่รู้จักกันว่า 4 ดํามหัศจรรย์ ซึ่งเป็นสัตว์เศรษฐกิจที่สำคัญสร้างชื่อเสียงให้กับจังหวัดสกลนคร และสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรในพื้นที่
นายกรัฐมนตรีได้สอบถามถึงการพัฒนาวิจัยด้านปศุสัตว์ต่าง ๆ ด้วยความสนใจ รวมถึงการพัฒนาวิจัยพันธุ์สัตว์ทั้ง 4 ชนิด โดยชื่นชมว่าเป็นการดำเนินการที่ดี และสามารถพัฒนาต่อยอดในด้านอื่น ๆ ได้ สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลในการส่งเสริมปศุสัตว์มูลค่าสูง
นายกรัฐมนตรี ได้มอบพันธุ์สัตว์ให้กับเกษตรกร ซึ่งผ่านการอบรมจากศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพานอันเนื่องมาจากพระราชดําริ เพื่อเป็นกำลังใจและเป็นที่ระลึกสำหรับเกษตรกร โดยช่วงหนึ่งนายกรัฐมนตรีพูดคุยกับหมูดำโดยทักทายว่า “ว่าอย่างไรลูก กินเยอะ ๆ นะ” รวมทั้งได้ทักทายกระต่ายดำ “ทำตัวดี ๆ นะ” พร้อมป้อนหญ้าเป็นอาหาร
นายกรัฐมนตรี กล่าวกับเกษตรกรที่มารอต้อนรับว่า วันนี้เรามีวิกฤตซ้ำ 2 อย่าง คือ สถานการณ์โควิด-19 และสงคราม รัฐบาลเชื่อว่าเราจะเข้มแข็งสู้ต่อไปได้ สิ่งสำคัญที่สุดคือใจต้องสู้และอดทน โดยรัฐบาลจะดูแลให้มากที่สุด และเชื่อมั่นว่าจะผ่านพ้นไปได้ อาจจะลำบาก อาจจะเหนื่อย ตนก็เหนื่อย เหนื่อยใจ ด้วยความเป็นห่วงประชาชนทุกคน เพราะเราคือครอบครัวเดียวกัน นายกฯ มีครอบครัว 70 ล้านคน ก็จะพยายามทำให้ทุกคนให้ได้และมีความสุขทั้งหมด ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะถ่ายภาพหมู่ร่วมกับประชาชน และกล่าวทิ้งท้ายว่า “ขอให้กำลังใจ ขออย่าท้อแท้ จะต้องสู้ไปด้วยกัน”.-สำนักข่าวไทย