รถร่วม บขส. ขอปรับค่าโดยสารหลังน้ำมันพุ่ง ทยอยหยุดเดินรถ

กรุงเทพฯ 12 มิ.ย. – ผู้ประกอบการรถร่วมบริการเตรียมยื่นหนังสือ ขอปรับค่าโดยสารอีก 6 สตางค์ ต่อกิโลเมตร หลังจากราคาน้ำมันปรับสูงขึ้นต่อเนื่อง กระทบต้นทุนเดินรถ มีผู้ประกอบการหยุดเดินรถบางเส้นทางแล้ว


นายพิเชษฐ์ เจียมบุรเศรษฐ์ นายกสมาคมกิจการรถโดยสารประจำทางไทย เปิดเผยว่า สถานการณ์ราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลายเดือนที่ผ่านมา ส่งผลให้ผู้ประกอบการต้องแบกรับภาระเพิ่มขึ้นเที่ยวละประมาณ 1,400 บาท ถ้าวิ่ง 50 เที่ยว มีต้นทุนเพิ่มวันละ 70,000 บาท และโดยปกติ ต้นทุนพลังงาน คิดเป็น 50 – 60 % ของต้นทุนการเดินรถ และผู้ประกอบการ พยายามขอให้ภาครัฐพิจารณาแนวทางการช่วยเหลือ แต่ยังไม่ได้รับการตอบรับ โดยในสัปดาห์หน้านี้ ผู้ประกอบการจะเข้ายื่นหนังสือ ถึงคณะกรรมการควบคุมขนส่งทางบกกลาง อีกครั้งเพื่อขอปรับค่าโดยสารอีก 6 สตางค์ต่อกิโลเมตร เพื่อแบ่งเบาภาระให้ผู้ประกอบการเดินหน้าธุรกิจต่อไปได้ ซึ่งการขึ้นค่าโดยสารในอัตราดังกล่าว ก็เป็นวิธีการคำนวนค่าโดยสารในตารางที่ภาครัฐ ตกลงไว้กับผู้ประกอบการเอง ใช้การอ้างอิงกำหนดค่าโดยสารในช่วงที่ผ่านมา และมีการปรับราคาหลังสุดตั้งแต่ปี 2562 ที่ราคาดีเซล 27.79 บาทต่อลิตร

ผู้ประกอบการจำเป็นต้องปรับตัวสู้กับภาวะราคาน้ำมันแพง ต้องลดเที่ยววิ่งลงและทยอยหยุดการให้บริการบางเส้นทางไปแล้วถึง 40 % ของผู้ประกอบการทั้งหมด หากยังไม่ได้รับความช่วยเหลือ อาจต้องปิดกิจการถาวร


ส่วนเรือโดยสารบริการ ตอนนี้มีกำหนดการปรับราคาชัดเจนแล้ว โดยเรือด่วนเจ้าพระยา ประกาศปรับขึ้นค่าโดยสารระยะทางละ 1 บาท ตั้งแต่วันที่ 15 มิถุนายนนี้ เป็นต้นไป ส่งผลให้ค่าบริการเปลี่ยนแปลงจากราคาเริ่มต้น 15 บาท สูงสุด 32 บาท เป็น เริ่มต้น 16 บาท สูงสุด 33 บาท ตามประเภท และหากราคาน้ำมันขยับขึ้นต่อเนื่องในช่วงระยะเวลา 10 วันก็จะปรับขึ้นค่าโดยสารอีกครั้ง ยืนยันว่า หากราคาน้ำมันดีเซลลดลง ก็พร้อมจะลดค่าบริการ

ส่วนเรือคลองแสนแสบ นายเชาวลิต เมธยะประภาส กรรมการผู้จัดการ บริษัทครอบครัวขนส่ง (2002) จำกัด บอกว่า วันที่ 15 มิถุนายนนี้ ค่าโดยสารเรือคลองแสนแสบจะปรับค่าโดยสารเพิ่มขึ้น 1 บาท ตามราคาน้ำมันดีเซลที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น จะทำให้ราคาค่าโดยสารท่าเรือวัดศรีบุญเรือง-ท่าเรือผ่านฟ้า จากเดิมราคา 9-19 บาท เป็นราคา 10-20 บาท ตามระยะทาง โดยยอมรับว่า เรือแสนแสบมีรายได้วันละ 2-3 แสนบาทต่อวัน ขณะที่รายจ่ายและต้นทุนอื่นๆ ก็เพิ่มขึ้นสูงขึ้นเช่นกัน จากราคาน้ำมันที่ปรับราคาต่อเนื่อง

นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ยอมรับว่า ได้เจรจาให้ผู้ประกอบการเรือโดยสาร ให้ปรับราคาได้เพียง 1 บาท ก่อน ทั้งที่ตามสูตรการคำนวนค่าโดยสารจริง สามารถปรับราคา ได้ 2-3 บาท จากต้นทุนราคาพลังงานจริงที่สูงขึ้นขณะนี้ โดยผู้ประกอบการได้แจ้งขอปรับราคามาทุกสัปดาห์ แต่กระทรวงคมนาคม ก็ขอให้ปรับราคาแค่นี้ก่อน เพื่อแบ่งเบาภาระของประชาชน.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง