เอกชนมองสงคราม 2 ประเทศยืดเยื้อ ไทยต้องใช้นโยบายคลังเสริม

กรุงเทพฯ 8 มิ.ย.-ประธานกรรมการหอการค้าไทยสงครามรัสเซียและยูเครนมีโอกาสยืดเยื้อสูงทำให้ทั้งเวิลด์แบงก์หั่น GDP โลกปีนี้โตแค่ 2.9%แถมไทยเจอเงินเฟ้อสูงตลอดครึ่งปีนี้ไปพร้อมราคาสินค้าสูงตามแนะรัฐบาลจะต้องใช้นโยบายด้านการคลังเสริมทุกส่วนเพื่อให้จีดีไทยปีนี้โต 3% โชคดีเครื่องยนต์สำคัญช่วยเศรษฐกิจไทยคือ ภาคการส่งออกและท่องเที่ยวที่เข้ามาช่วยให้เศรษฐกิจไทยไม่ติดลบ


นายสนั่น  อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยกล่าวถึงสงครามรัสเซียและยูเครนขณะนี้มีโอกาสที่จะยืดเยือยาวนานสูงมาก ทำให้เกิดปัญหาความผันผวนด้านพลังงานและการขาดแคลนอาหารสูงมาก ซึ่งปัญหาดังกล่าวส่งผลให้ธนาคารโลกหรือเวิลด์แบงก์ปรับลดอัตราการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจโลกหรือ GDP ปีนี้โตแค่ 2.9%เท่านั้น รวมทั้งยังส่งผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อมต่อเศรษฐกิจไทยในขณะนี้ โดยที่เห็นชัดเจนอัตราเงินเฟ้อในเดือนพ.ค.65 มีอัตราสูงขึ้นถึง 7.1 % และคาดการณ์ว่าอัตราเงินเฟ้อของไทยในช่วงครึ่งปีหลังจะมีโอกาสติดลบสูงเช่นกัน ทำให้สินค้าต่างๆแพงขึ้นตาม 

ทั้งนี้ ในกรณีที่อัตราเงินเฟ้อติดลบสูงในหลายประเทศจะใช้นโยบายด้านอัตราดอกเบี้ยให้สูงขึ้นตามเพื่อลดความร้อนแรงของอัตราเงินเฟ้อ แต่ในส่วนของไทยเชื่อว่ากระทรวงการคลังและธนาคารแห่งประเทศไทยหรือธปท.จะไม่ใช้นโยบายด้านการเงินโดยเฉพาะปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายให้สูงขึ้น เพื่อลดการติดลบของอัตราเงินเฟ้อ แต่ภาคเอกชนมองว่าภาครัฐควรใช้นโยบายด้านการคลังโดยผ่านการตรึงราคาน้ำมันและพลังงานต่างๆเพื่อลดปัญหาสินค้าแพงช่วยประชาชนรวมถึงช่วยเหลือด้านต้นทุนขนส่งให้ภาคธุรกิจไม่ให้ได้รับผลกระทบมากจนเกินไป ซึ่งเวลานี้ไม่มีใครคาดการณ์ได้ว่าสงคราม 2 ประเทศจะจบลงเมื่อไหร่ ดังนั้น รัฐบาลจะต้องใช้แนวทางด้านการคลังเพื่อช่วยเหลือทุกกลุ่มไม่ให้ได้รับผลกระทบไปมากกว่านี้


อย่างไรก็ตาม เท่าที่ได้ประเมินสถานการณ์เศรษฐกิจตลอดปีนี้ เชื่อว่าน่าจะโตได้ไม่ต่ำกว่า 3% ซึ่งมีเครื่องยนต์สำคัญของไทยที่เข้ามาเสริม คือ ภาคการส่งออกและภาคการท่องเที่ยว หลังจากรัฐบาลผ่อนคลายมาตรการเข้าประเทศและอื่นๆ อย่างต่อเนื่องนั้น ทำให้พยุงเศรษฐกิจไทยได้ อีกทั้งในช่วง 4 เดือนแรกของปี การส่งออกสินค้าไทยไปตลาดทั่วโลกเติบโตดี ทำให้จีดีพีของไทยในปีนี้เติบโตได้ตรงตามเป้าหมายแน่นอน แม้ว่าจะเจอปัญหาด้านสงคราม 2 ประเทศก็ตาม และหากดูภาคการส่งออกโดยเฉพาะสินค้าภาคการเกษตรไทยนอกจากบริโภคเพียงพอภายในประเทศแล้วยังเหลือเพียงพอที่จะส่งออกไปทำตลาดต่างประเทศ ทำให้ภาคการเกษตรไทยมีอัตราการเติบโตไปด้วยโดยไม่ต้องกังวลหรืองดส่งออกสินค้าเกษตรของไทยแต่อย่างใด แต่สิ่งที่ภาครัฐจะต้องเข้ามาดูอีกจุดสำคัญ คือ จะทำอย่างไรไม่ให้ประเทศไทยขาดแคลนปุ๋ย เพราะถือเป็นสิ่งสำคัญต่อภาคการเกษตรไทยอย่างมาก

“เอกชนคาดหวังว่ารัฐบาลจะใช้นโยบายด้านการคลังเข้ามาเยี่ยวยาและกระตุ้นเศรษฐกิจในด้านต่างๆต่อเนื่องได้หลังจากนี้ไปก็น่าจะทำให้เศรษฐกิจไทยปีนี้เติบโตได้ไม่ต่ำกว่า 3% และเอกชนเห็นด้วยและไม่ขัดข้องต่อการปรับค่าจ้างแรงงานขั้นต่ำเพิ่มขึ้นเพื่อช่วยเหลือภาคแรงงานหลังจากค่าครองชีพมีอัตราสูง แต่ฝากภาครัฐให้เข้าไปดูความเหมาะสมว่าจะปรับค่าจ้างแรงงานจุดไหนก่อนและหลังเพื่อให้ทุกฝ่ายอยู่ร่วมกันได้”นายสนั่นกล่าว.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เหล้าเถื่อนลาว

เสียชีวิตรายที่ 6 คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว

คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเสียชีวิตเพิ่มรายที่ 6 เป็นหญิงชาวออสเตรเลีย เสียชีวิตขณะรักษาตัวในไทย

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษา ทบ.

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก ช่วยปฏิบัติราชการที่กองบัญชาการกองทัพบก หลังถูกร้องทำร้ายร่างกายผู้ใต้บังคับบัญชา พร้อมช่วยเจ้าทุกข์ย้ายหน่วยตามร้องขอ

ไฟไหม้โรงงานพัดลม เผาวอดเสียหายกว่า 50 ล้าน

ไฟไหม้โรงงานผลิตพัดลมรายใหญ่ จ.สมุทรสาคร ระดมรถดับเพลิงระงับเหตุ กว่า 5 ชม. จึงควบคุมไว้ได้ในวงจำกัด เบื้องต้นเสียหายกว่า 50 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

หมอบุญ

THG แจงบริษัทไม่เกี่ยวข้องคดีต่างๆ ที่เกิดจาก “หมอบุญ”

THG แจงตลาดหลักทรัพย์ฯ ปัจจุบัน “หมอบุญ” ไม่ได้ดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารใน THG คดีฉ้อโกงใดๆ ที่เกิดขึ้น บริษัทไม่เกี่ยวข้อง

ค้นบ้านสามารถ

ดีเอสไอ เข้าค้นบ้าน “สามารถ” คดีฟอกเงินดิไอคอน

ดีเอสไอ เข้าค้นบ้าน “สามารถ เจนชัยจิตรวนิช” คดีฟอกเงินดิไอคอน หลังพบเงิน “บอสดิไอคอน” โอนเข้าบัญชีแม่ของนายสามารถ