กทม. 27 พ.ค.-“ชัชชาติ” ลงพื้นที่ชุมชนเคหะบางบัว ส่งสัญาณถึงว่าที่ ส.ก. และ ผอ.ทุกเขต เน้นลงพื้นที่สร้างความไว้ใจ เร่งแก้ปัญหาให้ประชาชน ย้ำไม่มีความขัดแย้ง ทำงานได้กับทุกพรรค
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ว่าที่ผู้ว่าฯ กรุงเทพฯ ลงพื้นที่ซอยพหลโยธิน 49/1 ชุมชนเคหะบางบัว เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ เพื่อรับฟังปัญหาของคนในชุมชน โดยมีนายตกานต์ สุนนทวุฒิ ว่าที่ ส.ก. เขตหลักสี่ พรรคเพื่อไทย และนายสมบัติ กนกทิพย์วรรณ ผู้อำนวยการเขตหลักสี่ ร่วมลงพื้นที่ด้วย ทันทีที่นายชัชชาติ เดินทางมาถึง มีตัวแทนผู้อยู่อาศัยชุมชนเคหะบางบัว ได้ยื่นหนังสือร้องเรียนขอให้ช่วยแก้ปัญหา 4 ข้อ คือปัญหาผู้รับเหมาวางบ่อพักน้ำกีดขวางการจราจร ซึ่งก่อสร้างมาตั้งแต่ปลายปี64 จนถึงขณะนี้ยังไม่แล้วเสร็จ, ปัญหาการจัดเก็บขยะล่าช้า และมีชุมชนโดยรอบนำขยะมาทิ้งในพื้นที่, ปัญหาทางเท้าแคบ ประชาชนต้องเดินบนถนนเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุ, ปัญหาน้ำท่วมขังภายในชุมชน โดยนายชัชชาติ ได้รับหนังสือร้องเรียนและฝากให้ ผอ.เขตรับไปช่วยดูแล จากนั้นได้เดินสำรวจพื้นที่รอบชุมชน จุดก่อสร้างท่อระบายน้ำ และพื้นที่ริมคลองบางบัว
นายชัชชาติ กล่าวว่า ในช่วงเดือนที่ผ่านมามีคนร้องเรียนจำนวนมาก เนื่องจากถนนในชุมชนบางบัว มีการขยายท่อระบายน้ำจาก 60 เซนติเมตร เป็น 1 เมตร แต่กลับพบว่า พื้นที่ด้านใต้ท่อระบายน้ำมีแนวสาธารณูปโภคอยู่จึงไม่สามารถดำเนินการได้ ซึ่งกรุงเทพมหานครอยู่ระหว่างการแก้แบบ แต่บ่อพักน้ำที่หล่อขึ้นมาแล้ว มีการนำมาวางอยู่ข้างถนนทำให้ชาวบ้านเดือดร้อน จึงหารือผู้อำนวยการเขตช่วยแก้ไข ให้ขยับออกจากพื้นที่ก่อนได้หรือไม่ และคืนพื้นที่ให้กับประชาชน ซึ่งทาง ผอ.เขตก็รับไปทำ นอกจากนี้ยังมีปัญหาเรื่องขยะ ซึ่งชุมชนเคหะบางบัวมีชุมชนรอบข้างหลายแห่งที่มาทิ้งขยะในพื้นที่นี้ ปัญหานี้เกิดจากการเข้ามาเก็บขยะเพียงสัปดาห์ละครั้ง ซึ่งไม่เพียงพอ ซึ่งชาวบ้านอยากได้สัปดาห์ละ 2 ครั้ง เรื่องนี้ทางผู้อำนวยการเขตก็รับไป นอกจากนี้จุดที่ทิ้งขยะและถังขยะก็ไม่เพียงพอ จึงได้ฝากให้ฝ่ายรักษาความสะอาดไปออกแบบแก้ปัญหาและอาจใช้ที่ชุมชนแห่งนี้เป็นต้นแบบให้กับพื้นที่อื่นๆ นอกจากนี้ยังมีปัญหาเรื่องคลองระบายน้ำ
นายชัชชาติ กล่าวต่อว่า การลงพื้นที่เช่นนี้ทำให้เห็นปัญหาที่แท้จริง ซึ่งตนเองพยายามลงพื้นที่ให้ได้หลายพื้นที่ ไม่ใช่เป็นการข้ามการบริหารจัดการ แต่เป็นการส่งสัญญาณให้ผู้อำนวยการเขตและ ส.ก.ทุกเขต เห็นว่าการดูแลประชาชนเป็นเรื่องสำคัญ หากไม่ทำ ตนเองจะลงไปดูเองและฝากให้ทุกคนพยายามลงไปดู จัดระดับความสำคัญว่าเรื่องใดควรแก้ไขเร่งด่วน ซึ่งการลงพื้นที่ไม่ใช่เป็นการมาแก้ปัญหาด้วยตัวเอง แต่เป็นการส่งสัญญาณให้เจ้าหน้าที่ กทม. ต้องลงไปดูแลประชาชน ไม่ต้องรอให้ผู้ว่าฯ ลงไป ทั้งชุมชนและ กทม.ต้องไปด้วยกัน และได้บอกประชาชนเสมอว่า อย่าคาดหวังให้ กทม.ทำทุกอย่าง แต่ต้องมีความร่วมมือของทั้งสองฝ่าย
นายชัชชาติ กล่าวต่อว่า การลงพื้นที่จะไม่มีการคาดโทษผู้อำนวยการเขต เรื่องในอดีตที่ผ่านมาไม่ว่ากัน ปัจจุบันตนเองจะมาเน้นเรื่องชุมชน ซึ่งคิดว่าทุกคนอยากจะทำงานให้กับประชาชนอยู่แล้ว ต้องเปลี่ยนวิธีคิดและมองเชิงบวก ซึ่งสุดท้ายจะมีการประเมินรายปีอยู่แล้ว ซึ่งประชาชนจะได้ร่วมประเมิน ผอ.เขตด้วย และฝากไปยัง ผอ.ทุกเขต การแก้ปัญหาต้องตอบสนองประชาชนได้อย่างรวดเร็ว เมื่อเกิดความล่าช้าประชาชนจะไม่ไว้ใจ การแก้ปัญหาจะต้องรวดเร็ว เห็นได้จากการที่ตนเองยังไม่ทันได้รับตำแหน่งก็ลงพื้นที่ทันที จึงอยากฝากถึง ผอ.ทุกเขต จะต้องสร้างความไว้ใจให้กับประชาชน
นายชัชชาติ ยังกล่าวด้วยว่า จากการลงพื้นที่ตลอด 5 วันหลังการเลือกตั้ง จะเห็นว่าข้าราชการกรุงเทพมหานคร มีความตั้งใจที่อยากจะแก้ปัญหา ซึ่งเมื่อเราให้ทิศทาง ทุกคนก็พร้อมที่จะร่วมมือกัน ขณะที่ชุมชนเองก็มีพลังที่อยากจะทำเมืองให้ดีขึ้น ปัญหาหลายอย่างไม่ได้ยากที่จะแก้ไข ซึ่งการลงพื้นที่ก็ไม่ได้หนักใจอะไร คิดว่าทำได้ แต่ต้องสื่อสารให้ดีและไม่มีความขัดแย้ง โดยเฉพาะเรื่องพรรค ไม่ว่าจะมาจากพรรคไหน หรือเป็นใคร แต่ทุกคนมาร่วมมือกันได้ ที่ผ่านมาเกิดความบอบช้ำจากการขัดแย้งมาเยอะแล้ว เป็นเวลาที่จะต้องเดินไปด้วยกัน ต่างคนต่างให้เกียรติซึ่งกันและกัน ทำงานร่วมกัน เป็นปรากฏการณ์ที่ดีและสนุกกับการทำงานตลอด 5 วันที่ผ่านมา ไม่ได้เหนื่อย แต่มีความหวังที่จะทำให้กรุงเทพฯ เปลี่ยนไปได้จริงๆ เป็น 3 ประสาน ทั้งผู้บริหาร ข้าราชการและชุมชนร่วมกัน สามารถเปลี่ยนกรุงเทพฯ ได้.-สำนักข่าวไทย