กทม. 8 พ.ค.-ผบก.ปอท. สั่งสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานอย่างรอบคอบและประสานข้อมูลกับดีอีเอส กรณีโฆษณาที่มีเนื้อหาดูหมิ่น ล้อเลียน และมีเจตนาพาดพิง
วันที่ 8 พ.ค. 2565 พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รอง ผบก.ปอท.ในฐานะ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติกล่าวว่า เมื่อวันที่ 7 พ.ค.2565 ที่ผ่านมา นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้มาพบพนักงานสอบสวน บก.ปอท. เพื่อแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีกับผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 3 ราย ได้ร่วมกันจัดทำสื่อโฆษณาที่มีเนื้อหาเป็นการดูหมิ่น ล้อเลียน ผู้ป่วยและผู้พิการ และมีเจตนาในการพาดพิง ดูหมิ่นสถาบัน ให้ได้รับความเสื่อมเสีย ซึ่งประชาชนทั่วไปที่พบเห็นสื่อโฆษณาดังกล่าวสามารถเข้าใจได้ว่าเป็นการล้อเลียน ดูหมิ่น ผู้กล่าวหาจึงมาร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีกับผู้ถูกกล่าวหาในความผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และ พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 14(3)
พนักงานสอบสวน บก.ปอท. ได้รับคำร้องทุกข์ไว้เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายแล้ว โดย พล.ต.ต.ศารุติ แขวงโสภา ผบก.ปอท. ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการสืบสวน สอบสวน รวบรวมพยานหลักฐานอย่างรอบครอบและให้ประสานข้อมูลกับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม อีกส่วนหนึ่งด้วย
นอกจากกรณีของนายศรีสุวรรณ ดังกล่าวแล้ว วันนี้ (8 พ.ค.2565) เวลา 11.00 น. ศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศ.ป.ป.ส.) โดยนายอานนท์ กลิ่นแก้ว ได้มาพบพนักงานสอบสวน บก.ปอท. เพื่อประสานข้อมูลเพื่อให้ บก.ปอท.ดำเนินคดีกับกลุ่มบุคคลเดียวกัน ตามพฤติการณ์ ข้อเท็จจริงเดียวกัน ในส่วนนี้ พนักงานสอบสวน บก.ปอท. จะได้ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
สุดท้าย บก.ปอท. ขอประชาสัมพันธ์ไปยังพี่น้องประชาชน รวมถึงบริษัท เอเจนซี่ที่ใช้สื่อสังคมออนไลน์ในการโฆษณาสินค้าหรือบริการ ควรคำนึงถึงจรรยาบรรณวิชาชีพโฆษณา ของสมาคมโฆษณาแห่งประเทศไทย อันได้แก่
- การโฆษณาทุกชิ้นต้องถูกกฎหมาย มีเกียรติ ซื่อสัตย์ และนำเสนอความจริง
- การโฆษณาไม่ควรมีความขัดแย้งกับศีลธรรมอันดีและระเบียบสังคม ในการสร้างสรรค์งานโฆษณา ควรกระทำด้วยการตระหนักถึงการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม และอยู่ภายใต้หลักของการแข่งขันที่ยุติธรรม ที่เป็นที่ยอมรับโดยทั่วไปในวงการธุรกิจ
- การโฆษณาต้องไม่ทำให้สาธารณชนเกิดความรู้สึกไม่มั่นใจในการโฆษณา
นอกจากนี้การนำลักษณะความพิการมาล้อเลียนในลักษณะไม่เหมาะสมก็เป็นสิ่งที่ไม่สมควรกระทำเป็นอย่างยิ่งด้วย.-สำนักข่าวไทย