ศูนย์การค้าสยามพารากอน 4 ต.ค-นายกฯ เผย เตรียมพบออท.จีน ขอโทษหลังนทท.จีนเสียชีวิตจากเหตุยิงที่พารากอน พร้อมประสานกระทรวงดีอีเอส ทำระบบเตือนภัยทั้งระบบไม่ใช่แค่ SMS กำชับ ผบ.ตร.เข้มซื้ออาวุธปืนออนไลน์
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ถึงเหตุกราดยิงที่พารากอนเมื่อวานนี้ (4 ต.ค.) โดยกล่าวแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมระบุว่า เป็นเหตุการณ์ที่เราคาดไม่ถึง ขอส่งกำลังใจให้กับญาติผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บ และเชื่อว่าสยามพารากอนเองได้ทำสุดความสามารถในการป้องกันและดูแลสถานที่เกิดเหตุ จากนี้ต้องเดินหน้ากันต่อไป ซึ่งเมื่อคืนนี้หลังจากที่ได้พูดคุยกับผู้บริหารสยามพารากอนและผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติที่สยามพารากอน ถึงสถานการณ์และได้ไปเยี่ยมผู้บาดเจ็บต่อที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์และโรงพยาบาลตำรวจ โดยได้พูดคุยกับผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์สภากาชาดไทย และสั่งการให้ดูแลผู้บาดเจ็บอย่างเต็มที่
“รัฐบาลไทยแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และหลังเกิดเหตุผู้บริหารของศูนย์การค้าสยามพารากอน พยายามควบคุมเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างดีที่สุด หวังว่าเหตุการณ์ในลักษณะนี้จะไม่เกิดขึ้นอีก ยืนยันว่ารัฐบาลไทยให้ความสำคัญกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเกิดกับคนในชาติใดก็ตาม เพื่อให้นักท่องเที่ยวที่มาที่นี่มีความมั่นใจและไม่กังวลกับการมาไทย หลังเกิดเหตุได้โทรศัพท์ไปหาเอกอัครราชทูตจีน ประจำประเทศไทย เพื่อให้ความมั่นให้ว่า รัฐบาลจะดูแลผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และนักท่องเที่ยวจีนอย่างดีที่สุด ภายใน 1-2 วันนี้จะไปพบท่านทูตจีนด้วยตัวเองเพื่อรายงานและขอโทษอีกครั้ง” นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้บอกกับผู้อำนวยการโรงพยาบาลว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินี ทรงรับผู้บาดเจ็บไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์ฯ ทุกคนก็มีความปลาบปลื้มปิติ และระหว่างนั้นได้มีการต่อสายพูดคุยกับท่านทูตจีน เพื่อขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และให้ความมั่นใจว่ารัฐบาลไทยได้ทำทุกอย่างที่ดีที่สุด และรับผู้บาดเจ็บดูแลอย่างดีที่สุด
ส่วนจะสร้างความเชื่อมั่นกับนักท่องเที่ยวอย่างไรเนื่องจากประเทศไทยเพิ่งเปิดวีซ่าฟรีให้กับนักท่องเที่ยวจีน นายกรัฐมนตรี เชื่อว่า นักท่องเที่ยวเข้าใจว่าเป็นเหตุการณ์ที่สุดวิสัยจริง ๆ รัฐบาลไทยและเอกชนไทยประสานงานกันอย่างเต็มที่เพื่อดูแลและสร้างความมั่นใจให้นักท่องเที่ยวที่จะเข้ามา
ส่วนข้อเสนอเรื่องระบบเตือนภัย นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้ประสานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแล้ว ซึ่งไม่ใช่แค่ระบบเตือนภัยทาง SMS อย่างเดียว แต่เป็นระบบเตือนภัยทั้งหมด ให้กระจายข่าวเพื่อให้ทราบว่ามีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น คงไม่ใช่เหตุการณ์นี้เพียงเหตุการณ์เดียว
ส่วนที่มีคำถามถึงอาวุธที่ก่อเหตุ ซึ่งปัจจุบันสามารถหาซื้อง่ายโดยเฉพาะช่องทางออนไลน์ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เป็นอีกปัญหาหนึ่งที่ได้พูดคุยกับผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เรื่องการหาซื้อทางออนไลน์จะต้องรัดกุมขึ้น ป้องกันการที่เยาวชนจะเข้าถึงอาวุธอันตรายเหล่านี้ น้อมรับไปเป็นนโยบายหนึ่งที่จะต้องทำให้รัดกุมขึ้นให้เข้าถึงอาวุธปืนได้ยากขึ้น
ทั้งนี้นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันนี้สยามพารากอนได้ร่วมกับภาคเอกชนร่วมกันจัดพื้นที่แม้จะมีแค่ 4 พันตารางเมตร แต่เชื่อว่าเป็นกลไกสำคัญในการพัฒนาศักยภาพของเยาวชนไทยในทุกมิติ เพื่อก้าวไปในเวทีโลก และเสริมสร้างการแข่งขัน และหวังว่าฟันเฟืองเล็กๆนี้ จะเป็นตัวอย่างให้ภาคเอกชน ร่วมกันมีพื้นที่ให้เยาวชนได้แสดงออกอย่างเหมาะสม อย่างถูกต้อง และอย่างบูรณาการ.-สำนักข่าวไทย