ทำเนียบรัฐบาล 6 พ.ค.-นายกฯ ท้าล้มนายกฯ ได้ ก็ล้มไป เชื่อไม่มีอะไรดีกว่าเดิม ชี้พรรคเล็กวิ่งเดี๋ยวก็เหนื่อยเอง ขอสื่ออย่าให้ความสำคัญวงกินข้าว คุยพรรคเล็กได้ตลอด ย้ำไม่มีเลือกตั้งช่วงนี้
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการเปิดสมัยประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่ก่อนเปิดประชุมจำเป็นต้องนัดรับประทานอาหารกับพรรคร่วมรัฐบาลและพรรคเล็กหรือไม่ ว่า อย่าให้ความสำคัญกับเรื่องต้องกินข้าวถึงจะคุยกันรู้เรื่อง การพูดคุยสามารถทำได้หลายวิธี หลายทางอยู่แล้ว ทุกกลุ่มทุกฝ่ายมีแกนนำและหัวหน้าก็ต้องคุยกัน บางครั้งหลายอย่างที่มีความไม่เข้าใจ แต่ขณะนี้เข้าใจกันมากขึ้นแล้ว เข้าใจในตัวนายกรัฐมนตรี และนโยบายว่าทำงานอย่างไร ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาล พรรคเล็กเข้าใจนายกรัฐมนตรี
ส่วนกระแสข่าววางแผนล้มนายกรัฐมนตรีในสภา ฯ มีการหารือพรรคร่วมรัฐบาล ส.ส.หรือวิปรัฐบาลหรือไม่นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ถ้าจะล้มก็ล้มไป แต่เกรงว่าจะไม่มีอะไรดีกว่าเดิม
“เอาเถอะ ถ้าเขาจะล้ม ล้มได้ก็ล้มไป ล้มผมก็ไม่ต้องทำงานก็แค่นั้นเอง ถ้าล้มแล้วมีอะไรดีขึ้นมา ล้มได้ก็ล้มไป แต่ผมกลัวว่าจะไม่มีอะไรดีกว่าเดิม ซึ่งได้ถามพรรคร่วมรัฐบาลมาตลอด แต่ไม่เห็นมีใครจะล้มผมเลย เขาก็ยืนยันว่าจะอยู่ร่วมรัฐบาลกันต่อไป เพราะอยู่ในขั้นตอนที่กำลังจะเปลี่ยนแปลงประเทศไปในทางที่ดีขึ้น ทุกคนยินดีจะร่วมมือ อย่าเห็นแก่ประโยชน์เล็ก ๆ น้อยน้อยเลย ประเทศชาติสำคัญที่สุด สำคัญกว่าอย่างอื่น ช่วงนี้ขอร้องแล้วกัน” นายกรัฐมนตรี กล่าว
ส่วนกรณีดังกล่าวทำให้นายกรัฐมนตรีที่เป็นคนทำงานเสียสมาธิหรือไม่ นายกรัฐมนตรี ย้อนถามสื่อฯว่า หากเป็นคุณ จะเสียสมาธิหรือไม่ หากมีคนมาทักระหว่างกำลังทำงานอยู่ เสียสมาธิหรือไม่ คือให้ตนมีสมาธิแก้ปัญหาดีกว่า ไม่ต้องมาหงุดหงิดกับเรื่องที่ไม่เป็นเรื่อง เพราะฉะนั้นจะเห็นได้ว่าตนพยายามไม่ยุ่ง ไม่ตอบ ไม่พูดถึง เพราะเป็นปัญหาของคนบางคน บางพวก ก็ต้องดูส่วนใหญ่วิอย่างไร
เมื่อถามถึงกรณีที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีโทรศัพท์เคลียร์กับพรรคเล็กและนายพิเชษฐ์ สถิรชวาล ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคพลังประชารัฐแล้ว นายกรัฐมนตรีสบายใจขึ้นหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า สบายใจทุกวัน เพราะได้คุยด้วย เจอใครก็คุยหมดให้เข้าใจว่าสถานการณ์เป็นอย่างไร และควรเดินหน้าประเทศอย่างไร
“ถ้ามุ่งมั่นแต่การหาเสียงทางการเมืองอย่างเดียว ประเทศชาติเดินไปไม่ได้ ผมไม่อยากด้อยค่าใคร แต่ประชาชนต้องเรียนรู้ว่าจะอยู่กับการเมืองอย่างไร และเปรียบเทียบดูว่าจากที่ผ่านมาจนวันนี้แก้ปัญหาไปได้แล้วหากอยากกลับที่เก่าเวลาเดิมก็ตามใจ” นายกรัฐมนตรี กล่าว
ส่วนที่พรรคใหญ่มีความนิ่งแต่พบว่าพรรคเล็กวิ่งกันใหญ่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ก็วิ่งไปเดี๋ยวก็เหนื่อยเอง ยังไม่มีอะไร ได้คุยกันกับพล.อ.ประวิตรแล้ว เจอหน้าทุกคนก็คุยแล้วให้เข้าใจว่า กำลังทำอะไรอยู่ ขอให้เอาความต้องการและความเดือดร้อนของประชาชนมาเป็นที่ตั้ง มองตรงนั้นมากกว่า ส่วนเรื่องอื่นค่อยว่ากันทีหลังเรื่องเลือกตั้งยังไม่ใช่เวลานี้.-สำนักข่าวไทย