เตือนประชาชนเฝ้าระวังมาลาเรียโนวไซ

ทำเนียบรัฐบาล 6 พ.ค.-นายกฯ ห่วงใยประชาชนช่วงฝน เสี่ยงโรคไข้มาลาเรียสายพันธุ์ “โนวไซ” แนะถ้ามีอาการป่วยหลังออกจากป่า ใกล้ชิดลิงเร่งพบหมอ


นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ห่วงใยพี่น้องประชาชนเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงมีฝนฟ้าคะนองหลายพื้นที่ และเป็นตัวแปรสำคัญการขยายพันธุ์ยุงซึ่งเป็นพาหะนำโรค โดยเฉพาะไข้มาลาเรียสายพันธุ์ “โนวไซ” (Plasmodium knowlesi) ที่เป็นเชื้อติดต่อจากลิงสู่คน โดยมียุงก้นปล่องที่มีแหล่งอาศัยตามป่าเขาเป็นพาหะ

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขรายงานสถิติระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2564 – 31 มีนาคม 2565 พบผู้ป่วยไข้มาลาเรียชนิดดังกล่าวแล้วกว่า 70 ราย โดยจำนวนสูงสุดในพื้นที่ภาคใต้ ได้แก่ ระนอง สงขลา และตราด เบื้องต้นแนะนำให้สังเกตอาการ หากมีไข้สูง ปวดศีรษะ หนาวสั่น หรือมีเหงื่อออกมากหลังกลับออกจากป่าหรืออยู่ใกล้ชิดลิง ให้รีบพบแพทย์ทันที เพื่อเจาะเลือดหาเชื้อมาลาเรียและแจ้งประวัติการเข้าป่า เพื่อรับการรักษาอย่างทันท่วงที เพื่อลดความเสี่ยงจากภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงและอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตได้


นายธนกร กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขรายงานผู้ป่วยด้วยเทคโนโลยีผ่านระบบมาลาเรียออนไลน์แจ้งเตือนประชาชน เพื่อเฝ้าระวังป้องกันและควบคุมเชื้อ ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดด้วยมาตรการ 1-3-7 คือ รายงานผู้ป่วยภายใน 1 วัน ติดตามสอบสวนการป่วย ภายใน 3 วัน และควบคุมกำจัดการแพร่เชื้อโรคไข้มาลาเรียอย่างมีประสิทธิภาพภายใน 7 วัน พร้อมทั้งประสานงานหน่วยงานระดับท้องถิ่นบูรณาการการทำงานในชุมชน ให้เกิดการควบคุมและป้องกันโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ

“นายกรัฐมนตรีติดตามสถานการณ์การระบาดของโรคไข้มาลาเรียสายพันธุ์โนวไซอย่างต่อเนื่อง เร่งสั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมหารือแนวทางการป้องกันและรักษาโรคเพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่ระบาด พร้อมกำชับทุกฝ่ายประชาสัมพันธ์และแจ้งเตือนประชาชนในทุกช่องทางเพื่อลดความเสี่ยง โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงที่อาศัยหรือทำงานอยู่ภายในป่า ชานป่า ในชุมชนติดภูเขา หรือเป็นผุ้ที่ทำงานใกล้ชิดกับลิง รวมถึงนักท่องเที่ยว ให้ป้องกันตนเองไม่ให้ยุงกัด ด้วยการสวมเสื้อผ้าให้มิดชิด ทายากันยุง และนอนในมุ้ง และตรวจสอบอาการของตนเองหลังกลับจากพื้นที่เสี่ยงอยู่เสมอ” โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง

“เอกภพ” เข้าพบ พนง.สอบสวน หลังถูกออกหมายจับ

“เอกภพ สายไหมต้องรอด” เข้าพบ พนง.สอบสวน หลังถูกออกหมายจับปมพยานเท็จดิไอคอน ยันบริสุทธิ์ใจ หากช่วยเหลือประชาชนแล้วโดนจับก็พร้อมรับ