“แอนนา” เข้าตรวจ DNA พร้อมให้ปากคำเพิ่มคดีปริญญ์

สน.ลุมพินี 29 เม.ย.-“แอนนา” ภรรยาไฮโซลูกนัท และผู้เสียหายอีก 2 ราย คดีอดีตรองหัวหน้าพรรคการเมืองใหญ่ล่วงละเมิดทางเพศ เข้าตรวจ DNA เพื่อนำไปเปรียบเทียบกับพยานหลักฐาน พร้อมให้ปากคำเพิ่มเติม


ความคืบหน้าคดีอดีตรองหัวหน้าพรรคการเมือง “ปริญญ์ พานิชภักดิ์ ” วันนี้มีผู้เสียหาย 3 ราย เดินทางมาให้ปากคำเพิ่มเติมกับพนักงานสอบสวน สน.ลุมพินี ซึ่งมีทั้งผู้เสียหายรายที่เป็นเจ้าของคลิปเสียงที่ถูกเผยแพร่ก่อนหน้านี้ และอีกรายคือผู้เสียหายรายที่ถูกข่มขืนปี 2557 และแอนนา ภรรยาของนักเคลื่อนไหวทางการเมือง ซึ่งทั้ง 3 ราย เป็นผู้เสียหายที่ถูกนายปริญญ์ ล่วงละเมิดทางเพศ

ขณะที่หนึ่งในผู้เสียหาย อายุ 26 ปี เจ้าของธุรกิจ เจ้าของคลิปเสียง เปิดเผยว่า วันนี้ตำรวจเชิญมาเพื่อเก็บดีเอ็นเอ และจะนำไปเปรียบเทียบกับหลักฐานที่ในที่เดิดเหตุ และสอบปากคำเพิ่มเติม ซึ่งตนเองได้นำหลักฐานเข้ามามอบให้พนักงานสอบสวนเพิ่มเติมด้วย เป็นหลักฐานที่ยืนยันได้ว่า ตนเองมีการคุยโทรศัพท์กับผู้ต้องหาจริงๆ


แม้ว่าตนเองจะมาให้การในฐานะพยาน ไม่ประสงค์จะดำเนินคดี แต่ตำรวจยืนยันว่าเป็นคดีอาญา และมีความเห็นที่จะดำเนินคดีนั้น ตนมองว่า ตนเองไม่ได้ยึดติด เพราะตอนประสงค์ที่จะออกมาเป็นพยาน แต่ก็ได้ปรึกษาทนายความไว้แล้วว่า หากมีเหตุการณ์อะไรที่เราจะต้องร้องทุกข์เอง ก็อาจจะเปลี่ยนแปลงได้ และยินดีที่จะให้ความร่วมมือกับตำรวจ หากติดต่อเพื่อขอพยานหลักฐานเพิ่มเติม ซึ่งหากกระบวนการขึ้นสู่ชั้นศาลแล้ว ก็ยืนยันว่ายังคงจะยืนยันในคำให้การเดิม เพราะสิ่งที่พูดไปเป็นความจริงเพียงหนึ่งเดียว เป็นอย่างอื่นไม่ได้ และส่วนตัวไม่ได้ต้องการเรียกร้องหรือต้องการไกล่เกลี่ยอะไรมาตั้งแต่แรก เพราะต้องการออกมาเป็นพยานในคดีนี้ และยังไม่มีคนติดต่อมาเจรจาเพื่อขอให้ยอมความ รวมถึงทางผู้ต้องหาด้วย ตั้งแต่เกิดเรื่องก็ไม่ได้ติดต่อกลับมาหาตนเองอีกเช่นกัน และยังไม่มีการถูกข่มขู่คุกคาม ยังสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ

พร้อมยอมรับว่า ส่วนตัวมีความกังวลใจอยู่บ้าง เพราะไม่ทราบว่าคดีจะจบเมื่อไร ซึ่งกังวลว่าจะมีผลในระยะยาว แต่ก็เชื่อว่าความจริงก็คือความจริง ผู้เสียหายยังย้ำถึงพฤติการณ์ที่อดีตรองหัวหน้าพรรคได้กระทำกับตนเองด้วยว่า ไม่ต่างกับเหยื่อรายที่ออกมาก่อนหน้านี้ คือ มีการพูดคุยอ้างว่าติดต่องาน และชวนไปออฟฟิศเหมือนกับรายอื่นๆ แล้วมีการลวนลามและล่วงละเมิดทางเพศ ทั้งที่พยายามขัดขืนแล้ว ซึ่งหลังเกิดเหตุตนเองก็เสียใจ แต่เมื่อเป็นข่าวก็ตกใจยิ่งกว่าเพราะนึกว่าโดนคนเดียว

ทั้งนี้ ขอเป็นกำลังใจให้เหยื่อทุกคน และผู้หญิงทุกคน และตอนนี้ก็มีเพจผู้หญิงเราทำได้ ที่จะคอยดูแลสภาพจิตใจของเหยื่อ ซึ่งหากใครเจอเหตุการณ์ในลักษณะนี้แล้วไม่กล้าพูดคุยบอกใคร ก็สามารถมาแจ้งได้ที่เพจผู้หญิงเราทำได้


ภายหลังเข้าพบพนักงานสอบสวน แอนนา ภรรยาไฮโซลูกนัท เปิดเผยว่า วันนี้ตนมาให้รายละเอียดเพิ่มเติม และตรวจดีเอ็นเอเพื่อนำไปเทียบกับหลักฐานที่ตำรวจเก็บมาจากสถานที่เกิดเหตุ เข้าใจว่าตำรวจได้ทำตามกระบวนการแล้ว ส่วนกระแสของคดีที่เงียบไปนั้น ไม่เกี่ยวข้องกับกระบวนการยุติธรรมแต่อย่างใด ขณะนี้ตนกำลังทำโครงการที่จะสื่อว่าการกระทำลักษณะเกียวกับนายปริญญ์ เป็นเรื่องที่ไม่ควรเกิดขึ้น และผู้เสียหายไม่จำเป็นต้องอาย นับตั้งแต่เปิดเผยเรื่องราว ตนก็ไม่เคยรู้สึกอับอาย เพราะไม่ได้ทำอะไรผิด

ส่วนผู้เสียหายรายอื่นๆ ตนรู้ว่าชีวิตของแต่ละคนไม่เหมือนกัน การออกมาพูดและเปิดเผยว่า เป็นผู้เสียหายนั้นดีมากๆ ซึ่งการลบเหตุการณ์เช่นนี้ออกจากชีวิตของผู้เสียหายแต่ละคนก็มีวิธีแตกต่างกัน ตนก็ขอเป็นกำลังใจ ส่วนกระบวนการยุติธรรม ก็อยากเป็นตัวแทนในการสู้เพื่อผู้เสียหาย จากนี้จะเดินหน้ารณรงค์เกี่ยวกับการล่วงละเมิดทางเพศ และการใช้ความรุนแรงในครอบครัว อยากเปลี่ยนสังคมให้รู้ว่าคนที่อายต้องเป็นนายปริญญ์ ตอนที่ตนเปิดเผยตัวตนไม่ได้ต้องการแค่เพื่อให้ชนะคดี แต่ต้องการเปลี่ยนสังคม เพราะตนคิดว่าเรื่องลักษณะนี้ยังมีอยู่ โดยเฉพาะในองค์กรที่แตะต้องไม่ได้ ตนจึงต้องการเปลี่ยนสังคมให้มองว่าการล่วงละเมิดท่งเพศ และการคุกคามเป็นเรื่องที่ไม่ดี

ขณะที่ นายธนัตถ์ ธนากิจอำนวย หรือไฮโซลูกนัท กล่าวว่า ขณะนี้ภรรยาสภาพจิตใจดีกว่าตนเอง เหตุผลที่ภรรยาเลือกเปิดเผยตัวตนนั้นเป็นการต่อสู้เพื่อผู้อื่น เพื่อให้ผู้เสียหายรายอื่นสามารถสู้ในกระบวนการยุติธรรมได้อย่างสบายใจ และตนพร้อมจะสนับสนุน ไม่ต้องการแค่ออกมาเรียกร้องความเป็นธรรมให้ตนเองหรือเอาชนะคดี แต่ตั้งใจว่าจะไม่หยุดจนกว่าสังคมจะมีท่าทีต้อการล่วงละเมิดทางเพศเปลี่ยนไป โครงการเหล้านี้พวกตนตั้งใจจะให้ออกห่างจากการเมือง โดยการเลือกตั้งรอบหน้านั้น พวกตนอาจจะไม่ลงสมัคร แต่จะดำเนินการโครงการดังกล่าวก่อน อยากให้ติดตามประเด็นการล่วงละเมิดทางทางเพศทุกกรณี ถึงเวลาที่ผู้เสียหายต้องไม่เป็นเหยื่อของสังคมและรู้สึกอับอาย

ด้าน พล.ต.ต.ไตรรงค์ ผิวพรรณ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ระบุว่า ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ตำรวจทยอยเชิญผู้เสียหายมาให้ปากคำเพิ่มเติมในประเด็นที่คณะพนักงานสอบสวนมอบหมายให้ไปดำเนินการ อย่างผู้เสียหาย 3 รายนี้ ก็เป็นการเชิญมาให้ปากคำเพิ่มเติมในบางประเด็น และเก็บตัวอย่าง DNA ซึ่งในคดีกระทำอนาจารฯ จะเป็นการเก็บเพื่อนำไปเปรียบเทียบกับวัตถุพยานต่างๆ ซึ่งอาจจะทราบผลได้เร็วกว่า แต่ในส่วนคดีข่มขืนกระทำชำเรานั้น ต้องใช้เวลาอีกระยะในการส่งตรวจหาผลทางนิติวิทยาศาสตร์ แต่ยืนยันว่าทุกกระบวนการจะเสร็จสิ้นทันกำหนดผัดฝากขังไม่เกินผัดที่ 7 แน่นอน

ส่วนคดีที่เกิดขึ้นกับผู้เสียหายที่ตอนเกิดเหตุมีอายุแค่ 17 ปี ในพื้นที่ สน.ห้วยขวาง คดีดังกล่าวพนักงานสอบสวนนัดหมายให้ผู้ต้องหามารับทราบข้อกล่าวหาในวันที่ 5 พฤษภาคมเวลา 09.00 น. ซึ่งในวันดังกล่าว ตนเองจะไปดูการเข้ามอบตัวด้วย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ข่าวแนะนำ

อัญเชิญเรือพระที่นั่งกลับพิพิธภัณฑ์

หลังสร้างความตราตรึงให้กับชาวไทยและคนทั้งโลก กับความงดงามของขบวนพยุหยาตราทางชลมารค กองทัพเรือ และกรมศิลปากร เริ่มอัญเชิญเรือพระที่นั่ง และเรือพระราชพิธี กลับเข้าสู่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเรือพระราชพิธี ซึ่งแต่ละขั้นตอนต้องใช้ความละเอียด รอบคอบ เพราะเรือทุกลำถือเป็นสมบัติล้ำค่าของแผ่นดิน

ย้อนรอยเส้นทางชีวิต “บิ๊กโจ๊ก”

เป็นเวลากว่า 6 เดือนแล้วที่เส้นทางตำรวจของ “บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล ต้องยุติลง หลังถูกให้ออกจากราชการไว้ก่อน กรณีพัวพันเว็บพนันออนไลน์ จากนี้ชะตาชีวิต “บิ๊กโจ๊ก” ขึ้นอยู่กับ ป.ป.ช. ว่าจะได้กลับมาสวมชุดตำรวจอีกหรือไม่

“ปานเทพ” เปิดหลักฐานสัญญาชัด 71 ล้านเป็นชื่อ “มาดามอ้อย”

“อ.ปานเทพ” เปิดหลักฐานหนังสือสัญญาบอกชัด 71 ล้านบาท เป็นชื่อ “มาดามอ้อย” เปิด 3 รายชื่อให้เร่งตรวจสอบ หวั่นโยกย้ายทรัพย์สิน