กรุงเทพฯ 22 ธ.ค. – ซีไอเอ็มบีไทยคาดเศรษฐกิจไทยปี 2560 ขยายตัวร้อยละ 3.2 จากปัจจัยต่างประเทศเป็นหลัก ส่งออกติดลบต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 ชี้มาตรการรัฐทำได้แค่ประคับประคองเศรษฐกิจ
นายอมรเทพ จาวะลา ผู้อำนวยการอาวุโส สำนักวิจัยธนาคารซีไอเอ็มบีไทย เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยปี 2560 จะขยายตัวร้อยละ 3.2 จากเดิมคาดว่าขยายตัวร้อยละ 3.5 และลดลงจากปี 2559 ที่ร้อยละ 3.3 ขณะที่การส่งออกมีความเสี่ยงที่จะติดลบต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 หรือติดลบร้อยละ 0.6 จากเดิมคาดว่าจะไม่เติบโต ลดลงจากปี 2559 ติดลบร้อยละ 1.2 ซึ่งปัจจัยต่างประเทศเป็นปัจจัยหลักที่จะกระทบให้เศรษฐกิจไทยปีหน้าขยายตัวลดลง แม้ว่านโยบายของนายโดนัล ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีของสหรัฐ จะไม่มีมาตรการกีดกันการค้ากับไทยโดยตรง แต่สหรัฐจะกีดกันทางการค้ากับจีน ซึ่งอาจจะกระทบสินค้าส่งออกของไทยไปจีนและอาเซียน ประกอบกับเศรษฐกิจจีนมีแนวโน้มชะลอตัวลง แต่เชื่อว่าการส่งออกปีหน้าจะติดลบไม่รุนแรงมาก เพราะยังมีตลาดส่งออกจาก CLMV ช่วยประคับประคองไม่ให้การส่งออกไปยังอาเซียนติดลบมาก
นอกจากนี้ ยังมีความเสี่ยงค่าเงินบาทที่ปัจจุบันอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ จากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) แต่หากเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านเงินบาทไทยแข็งค่ากว่า ทำให้ไทยไม่ได้เปรียบทางการค้าและสูญเสียความสามารถในการแข่งขัน ขณะที่ปัจจัยในประเทศ ภาวะหนี้ครัวเรือนอยู่ในระดับสูงกดดันกำลังซื้อของผู้บริโภคโดยเฉพาะภาคการเกษตรให้อยู่ระดับต่ำ แม้ภาครัฐจะมีมาตรการระยะสั้น เพื่อช่วยเหลือเกษตร แต่คงช่วยชดเชยรายได้เพียงบางส่วนเท่านั้น โดยคาดว่าต้องใช้เวลาอีกสักพักกว่าที่รายได้จากภาคเกษตรจะฟื้นตัวตามผลผลิต จากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่น่าจะขยับขึ้นตามราคาน้ำมันในตลาดโลก ที่คาดว่าสูงขึ้นในปีหน้าอยู่ที่ 50-55 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล และน่าจะเป็นผลบวกต่อการส่งออกไทยเช่นกัน
สำหรับปัจจัยขับเคลื่อนเศรษฐกิจปี 2560 คือ การลงทุนภาครัฐในโครงสร้างพื้นฐานหลายโครงการที่กำลังก่อสร้างและคาดว่าทยอยประมูล เพื่อจะเริ่มก่อนก่อสร้างมากขึ้นจะช่วยผลักดันการลงทุนภาคเอกชน และความเชื่อมั่นของนักลงทุน หลังจากหลายโครงการภาครัฐล่าช้าในปีนี้ รวมทั้งรัฐบาลอาจหามาตรการอย่างอื่นมาช่วยประคับประคองไม่ให้เศรษฐกิจชะลอตัวลง ส่วนการท่องเที่ยวคาดว่าเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยได้อีกปี โดยรายได้จากการท่องเที่ยวคาดว่าจะเพิ่มขึ้นตามนักท่องเที่ยวต่างชาติ แม้ว่านักท่องเที่ยวจากจีนจะมีแนวโน้มเติบโตชะลอตัวลง แต่คาดว่ากลุ่มยุโรปโดยเฉพาะรัสเซียจะมีแนวโน้มเติบโตดีขึ้น
นอกจากนี้ ภาครัฐควรจะขับเคลื่อนกลุ่มเอสเอ็มอี ไปลงทุนในต่างประเทศในรูปแบบจับกลุ่มคลัสเตอร์ ซึ่งเป็นห่วงโซ่ประธานให้กับธุรกิจขนาดใหญ่และเข้าไปลงทุนอย่างเป็นพันธมิตร เชื่อว่าจะเป็นทางออกให้กับธุรกิจ รวมถึงสนับสนนุให้เอสเอ็มอีใช้เทคโนโลยีพัฒนาสินค้าเพื่อแข่งขันกับตลาดได้ ดังนั้น เศรษฐกิจไทยปี 2560 อาจจะเผชิญทั้งความสดใสและความท้าทายเปรียบเสมือนสายรุ้งที่มีสีทั้งด้านอึมครึมและด้านสดใสจากสีม่วงไปจนถึงสีแดง ซึ่งภาคเศรษฐกิจไทยจะต้องพร้อมรับมือให้ได้.-สำนักข่าวไทย